I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี – ตอนที่ 231

ตอนที่ 231

ตอนที่ 231 นายต้องขอฉันแต่งงาน

ในขณะที่เอริคกําลังนอนพิงหัวเตียงมองหญิงสาวที่เปลือยกายเหมือนกับนางเงือกเดินเข้าห้องน้ําไป เขาทําท่าทางจะตามหญิงสาวเข้าไปอาบน้ําพร้อมกับทํากิจกรรมอื่นๆในตอนเช้า แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทําอะไร เอลิซาเบธก็นุ่งผ้าเช็ดตัวอย่างแน่นหนาเดินออกมาจากห้องน้ําแล้ว

“ เอริค ฉันมาคิดๆดูแล้วนะ ถึงแม้ว่าฉันจะรู้จักนายได้เพียงไม่นาน แต่ฉันรู้สึกว่านายก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลยนะ” เอลิซาเบธใช้มือบิดคอเสื้อคลุมอาบน้ําด้วยความกังวลใจ ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย สายตากลมโตสวยคู่นั้นของหญิงสาวกลับจ้องมองไปที่เอริคด้วยสายตากังวล

เมื่อได้ยินเอลิซาเบธพูดอย่างนี้ เอริคเองก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน ซึ่งหญิงสาวไม่รอให้อีกฝ่ายตอบกลับอย่างใดหล่อนรวบรวมกําลังก่อนจะตะโกนพูดออกไปว่า

“ถ้าเราต้องนอนด้วยกันบนเตียงเหมือนเมื่อคืนอีก ฉันจะไม่เป็นผู้หญิงใจง่ายแบบนั้นอีก ดังนั้น ดังนั้น…”

เอลิซาเบธมีความลังเลใจก่อนตัดสินใจพูดออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคําว่า ” ดังนั้น นายต้องขอฉันแต่งงาน! ”

เมื่อหญิงสาวพูดคํานั้นออกไป พลังที่รวบรวมเมื่อสักครู่ก็หมดลง ร่างกายก็ดูหดลงทันทีเช่นกัน แต่สายตาของหญิงสาวยังจ้องเขม็งไปที่เอริคด้วยความคาดหวังกับคําตอบของอีกฝ่าย

เอริคนอนแข็งทืออยู่บนเตียงไปชั่วขณะ ก่อนจะขยับตัวแล้วพ่นคําพูดออกมาว่า ” what-the….fuck !”

หลังจากนั้น….

….

ณ คอนโดของจูเลีย เอลิซาเบธนั่งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าหมองอยู่บนโซฟา

จูเลียนั่งฟังหญิงสาวระบายความข่มขึ้นในใจอย่างตั้งใจ แต่เมื่อเอลิซาเบธเล่าถึงเรื่องที่ตัวเองถูกบังคับให้แต่งงานกับเอริคหล่อนก็นิ่งไปทันที จูเลียที่กําลังนั่งฟังจึงถามขึ้นว่า “ หยุดพูดทําไมแล้วยังไงต่อละ? ”

เอลิซาเบธส่ายหน้าแล้วดึงสายเสื้อคลุมอาบน้ําที่ยังอยู่บนตัวออก ก่อนจะพูดย้ําๆอึ้งๆว่า ” หลังจากนั้น เขา…เขาก็วิ่งหนีไป ”

จูเลียไม่เข้าใจที่หญิงสาวพูด จึงถามออกไปทันทีว่า “ วิ่งหนีทําไม ? “

เอลิซาเบธยกมือซ้ายโบกไปมาก่อนพูดกลับไปว่า ” เขาหยิบเสื้อสองสามชิ้นแล้วเปิดประตูออกไปทันที พอฉันได้สติก็รีบวิ่งตามเขาลงไปข้างล่างแต่เมื่อลงไปถึงก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาแล้ว ”

เมื่อพูดจบ สองสาวมองตากัน เอลิซาเบธกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความกังวลใจราวกับไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทําอย่างไร

จูเลียตบแก้มเพื่อเรียกสติตัวเอง ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

” ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอริคนี่เป็นคนที่น่ารังเกียจมากจริงๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขี้ขลาดจนต้องวิ่งหนีไป ฮ่า ฮ่า”

” เฮ้ อย่าหัวเราะสิ” เอลิซาเบธหน้าแดงขั้นมาทันทีก่อนที่หล่อนจะคว้าหมอนที่อยู่บนโซฟาตีไปที่จูเลีย ” ทําไมพี่ยังหัวเราะบนความทุกข์ของคนอื่นได้อ่ะ เฮ้ ยังหัวเราะอีก ถ้าขืนพี่ยังหัวเราะอีกนะเราขาดกัน”

จูเลียพยายามหายใจลึกๆก่อนจะสงบลง แล้วหล่อนก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นได้ “ แล้วที่โทรหาฉันเมื่อเช้าที่บอกว่าออกจากบ้านของเอริคแล้วก็โกหกฉันนะสิ ”

“ ฉัน ฉันไม่อยากบอกพี่ แต่เรื่องนี้ไอ้หยา พี่คงไม่อยากรู้รายละเอียดหรอกใช่ไหม ? ”

จูเลียมองเอลิซาเบธแล้วจึงรีบพูดปลอบใจทันทีว่า “ โอเค โอเค ฉันไม่ถามละ แล้วหลังจากนั้นละ? ”

“อะไรคือหลังจากนั้น? “

” แล้วเธอไม่คิดจะหยิบของมีค่าของชายคนนั้นออกมาเพื่อแก้เค้นอะไรบ้างเหรอ เช่นนาฬิกาข้อมืออะไรแบบนี้อะ ?” จูเลียรู้สึกว่าเด็กสาวที่ดูน่ารักแบบนี้ไม่สมควรที่เอริคจะทําแบบนั้นกับหล่อนฝ่ายเดียว มันต้องทําอะไรสักอย่างบ้าง

” ฉันไม่ไร้เดียงสาแบบนั้น! “ เอลิซาเบธโต้กลับทันที แต่เมื่อเผชิญหน้ากับของจูเลีย เอลิซาเบธก็ก้มหน้าลงทันทีแล้วพูดอย่างยอมรับว่า ” โอเค ตอนแรกฉันก็โกรธนะ ถ้าเขาไม่อยากแต่งก็น่าพูดออกมาให้ชัดเจนสิ นี่เล่นไม่พูดอะไรสักคําแล้ววิ่งหนีออกไปแบบนั้นมันหมายความว่ายังไงละ ฉันโกรธมากเกือบจะจุดไฟเผาบ้านของเขาแล้ว “

จูเลียกล่าวขึ้นด้วยความตกใจว่า ” อย่างนี้มันเกินไปหรือเปล่า? ”

เอลิซาเบธไม่สนใจสีหน้าที่ตกใจของจูเลียหล่อนจึงพูดต่อว่า ” ฉันไปเจอน้ํามันเบนซินที่อยู่ในห้องเก็บของตรงห้องรับแขกของบ้านเขาพอดี แต่น่าเสียดายที่ฉันหาที่จุดไฟไม่เจอ ไม่งั้นคงมอดไหม้ทั้งหลังละ ฉันเลยสงบสติอารมณ์แล้วตรงมาที่นี่ทันที ”

ถึงแม้ว่าเอลิซาเบธจะไม่ได้จุดไฟ แต่เมื่อหล่อนได้ยินสิ่งที่เอลิซาเบธเล่าก็ทําให้กลัวไม่น้อย

ถ้าพูดจริงๆ จูเลียเองก็มีความรู้สึกคับแค้นใจเอริคไม่ใช่น้อย หล่อนเคยคิดอยากจะสั่งสอนให้เอริคจําไว้เป็นบทเรียนสักครั้งเหมือนกัน แต่ในความคิดหล่อนไม่ได้มีจิตใจอํามหิตขนาดจุดไฟเผาบ้านเหมือนกับเอลิซาเบธ

เมื่อเอลิซาเบธเห็นท่าทางที่กลัวอยู่ไม่น้อยก็ยิ้มออกมาทันที ” แล้วตอนนี้จะทํายังไงละ?”

จูเลียคิดสักพักก่อนพูดขึ้นว่า ” งั้นใช้โอกาสตอนนี้พูดกับเขาเรื่องบทหนังสิ เขาไม่มีทางปฏิเสธได้แน่นอน ”

” ถ้าทําอย่างนี้ ฉันจะดูเป็นคนยังไงละ ”

จูเลียรู้ว่าหญิงสาวที่มีความหยิ่งยโสในตัวเองตรงหน้าต้องไม่เห็นด้วยแน่นอน แล้วพูดว่า ” ในเมื่อเรื่องมันยังไม่เกิดขึ้น อยากจะทําอะไรก็ทําได้เลย”

” แต่ฉันไม่รู้ว่าจะทําหน้ายังไงเมื่อเจอคนน่ารังเกียจคนนั้นอีก ”

“ งั้นก็ไม่ต้องไปบ้านเขาแล้ว แบบนี้ก็ไม่ต้องเจอเขาแล้ว ในตอนที่ฉัน…แค่ก แค่ก เธอยังไม่ยื่นใบอนุญาตของบริษัทหนังของเราให้เขาแล้วใช่ไหม พวกเราเสียเงินกว่าหนึ่งถึงสองล้านเพื่อสร้างหนังทุนต่ําเล่นๆอย่างนั้นเหรอ? ”

“ ถ้าจะทําก็ต้องทําให้ดีที่สุด ฉันไม่ได้ทําเล่นๆนะ! “ เอลิซาเบธพูดออกมาด้วยความไม่พอใจหญิงสาวทั้งสองปรึกษาหารือกัน อยู่ๆดรูว์สะพายกระเป๋าสีชมพูก็เปิดประตูด้านหลังเข้ามา และ เมื่อเห็นหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโซฟาหล่อนก็ยกมือกล่าวทักทายทันที ” สวัสดีตอนเช้า เอ๊ะ ลิซ ทําไมเธอนุ่งผ้าเช็ดตัวแบบนั้นออกมาละ? ”

” ฉันเพิ่งอาบน้ําเสร็จ ” เอลิซาเบธตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบๆ หญิงสาวมีพรสวรรค์ด้านการโกหกเชียวนะ

” อื้อ “ เด็กสาวตอบเพียงสั้นๆโดยไม่พยักหน้าหรือพูดอะไรต่ออีก ความตั้งใจของหล่อนไม่ได้อยู่ตรงนี้ ไม่เช่นนั้นหล่อนคงซักใช้ถามต่อแล้ว หล่อนจําผ้าเช็ดตัวผืนนี้ได้ เพราะหล่อนเป็นคนดูแลจัดการของใช้ทุกอย่างในบ้านของเอริค

เมื่อนั่งลงบนโซฟาแล้ว ดรูว์ก็เปิดกระเป๋าเล็กๆของหล่อนก่อนจะหยิบบทหนังชุดหนึ่งยื่นให้จูเลียและเอลิซาเบธ “ พวกเธอดูก่อน บทหนังนี่เป็นยังไง”

หญิงสาวทั้งสองรับมาบทหนังนั้นมาดูด้วยกัน ก่อนที่จูเลียจะถามขึ้นว่า “หนังเรื่อง The Silence of the Lambs หมายความว่าไง ? ”

” เหมือนฉันเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน เหมือนกับนิยายเล่มหนึ่ง” เอลิซาเบธพูดออกมา เพราะบทหนังนี้มีเพียงชุดเดียวพวกหล่อนจึงต้องอ่านด้วยกัน

ขณะที่จูเลียและเอลิซาเบธกําลังอ่านบทหนังนั้นอยู่ ดรูว์ก็ลุกขึ้นไปหยิบน้ําผลไม้ก่อนจะกลับมานั่งลงที่โซฟาตามเดิม แล้วพูดขึ้นว่า “บทหนังเรื่องนี้เป็นบทที่ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันของแฮร์ริสโทมัส เมื่อปีที่แล้วนักแสดงชายที่แสดงหนัง Mississippi Burning อย่าง จีน แฮกแมนได้เสนอบทหนังเรื่องนี้ เพราะเขาอยากเป็นคนถ่ายหนังเรื่องนี้เอง แต่น่าเสียดายที่ชายคนนั้นมีอาการทางจิตอย่างหนักในขณะที่แสดงหนังเรื่อง Mississippi Burning จิตแพทย์จึงแนะนําไม่ เขาแสดงหนังที่เกี่ยวกับความรุนแรงแบบนี้อีก ดังนั้นเขาจึงขายบทหนังเรื่องนี้ และฉันก็ซื้อพอดี เพราะรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้น่าจะตื่นเต้นและมันก็ไม่แพงมากด้วยเลยซื้อมา ”

จูเลียที่เพิ่งอ่านได้เพียงครั้งเดียวจึงเงยหน้าขึ้นก่อนพูดขึ้นว่า “ ดรูว์ บทหนังนี้นักแสดงเป็นผู้หญิงนิ เธอคงไม่คิดที่จะ…”

” หึ หึ จูเลีย เธอไม่อยากเป็นนักแสดงตีบทแตกอีกครั้งเหรอ ตัวละครที่ชื่อว่าบลิงค์ในหนังเรื่องนี้เป็นคนที่ค่อนข้างซับซ้อนมากเธออาจจะได้ฝึกทักษะการแสดงของเธอด้วยนะ ”

จูเลียส่ายหน้าทันที หล่อนรู้สึกว่าตัวละครที่ชื่อว่าเชลบีในหนังเรื่อง Steel Magnolias ก็เป็นบทที่ท้าทายและได้ฝึกทักษะเหมือนกัน ” ไม่เอาหรอก ขนาดฉันอ่านได้เพียงแค่ส่วนหนึ่งยังรู้สึกว่าน่าขนหัวลุกเลย ถ้าเกิดเล่นจบเรื่องนี้ ฉันคงมีอาการทางจิตแน่ๆ ”

เมื่อพูดถึงประโยคสุดท้าย หญิงสาวก็คิดอะไรขึ้นมาได้ หล่อนหน้าแดงและก้มหน้าปิดบังสีหน้านั้นลงทันที

ขณะนั้น เอลิซาเบธที่อ่านบนหนังนั้นผ่านๆก็เงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ดรูว์ ฉันก็ไม่เอาเหมือนกัน หนังสยองขวัญเรื่องนี้ต้องถูกจัดอันดับอย่างแน่นอน บางทีหลังจากที่ถ่ายหนังเรื่องนี้อาจจะมีข้อถกเถียงไม่ดีเกิดขึ้น แล้วถ้าเป็นอย่างนี้อาจมีผลต่อบริษัทหนัง TG ที่เพิ่งเปิดใหม่ของพวกเราก็ได้นะ “

” แต่ฉันคิดตรงข้ามกับเธอนะ ลิซ “ เมื่อเด็กสาวฟังเอลิซาเบธพูดจบก็พูดโต้แย้งกลับไปว่า “ ก็เพราะว่าบริษัทหนัง TG ของพวกเราเป็นบริษัทที่เพิ่งเปิดใหม่นี่แหละ ดังนั้นฉันจึงรู้สึกว่า เราน่าจะลองทําหนังแปลกใหม่ดูสักเรื่อง แบบนี้ก็น่าจะไม่ทําให้คนอื่นคิดว่าเราเปิดบริษัทหนังเล่นๆอีกก็ได้นะ ”

เมื่อฟังที่เด็กสาวพูด เอลิซาเบธและจูเลียมองตากัน จูเลียกลืนน้ําลายลงคอก่อนพูดว่า “ฉันจะไม่แสดง! ผู้จัดการส่วนตัวของฉันก็ต้องไม่เห็นด้วยแน่ๆ ลักษณะแบบฉันเหมาะที่จะเล่นหนังโรแมนติกมากกว่า ”

” ได้ยินมาว่าผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้คาดหวังให้โจดี ฟอสเตอร์มารับบทบลิงค์ด้วยนะ จูเลีย เธอไม่อยากลองฝีมือกับให้โจดี ฟอสเตอร์หน่อยเหรอ? ”

” ลองฝีมืออะไรละ? ” จูเลียกระพริบตาก่อนะจะหันไปพูดด้วยความภูมิใจเล็กน้อยว่า ” ถ้ามันมากกว่าค่าตอบแทนในการแสดงละ ถึงแม้โจดี้จะได้รับรางวัลออสก้าก็ตาม แต่เมื่อหล่อนออกไปรับงานเอง ถึงแม้ว่าหนังทุกเรื่องที่หล่อนแสดงจะทํารายได้ให้กับบ็อกออฟฟิศก็ตาม แต่ไม่มีเรื่องไหนที่สูงกว่าเรื่อง Pretty Woman ของฉันแน่นอน”

” แต่ว่า ในฐานะที่เธอเป็นนักแสดงคนหนึ่ง เธอไม่อยากได้รางวัลออสก้าเหรอ? ”

“ ไม่อยาก” จูเลียเชิดหน้าขึ้น แม้ว่าหญิงสาวเพิ่งมีชื่อเสียงได้เพียงไม่นาน แต่เพราะเหตุนี้หล่อนจึงไม่ได้คิดถึงเรื่องการรับรางวัลออสก้าแต่อย่างใด ดังนั้นในเวลานี้หล่อนจึงกล้าพูดปฏิเสธออกมาอย่างชัดเจน

ถึงแม้ดรูว์จะมีอายุอ่อนกว่าครึ่งรอบกับจูเลียก็ตาม แต่ประสบการณ์ของเด็กสาวในฮอลลีวูดก็มากกว่าหญิงสาวกว่าหลายเท่า เมื่อได้ยินที่หญิงสาวพูดแบบนี้ หล่อนจึงแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา ” ถ้าเอริคได้ยินเรื่องที่เธอพูดเมื่อกี้ ก็คงเสียมากที่เลือกเธอไปแสดงหนังเรื่อง Pretty Woman แน่นอน เธอทําให้เอริค…ของฉันผิดหวังมากจริงๆ”

“ฉันมีสิทธิ์อะไรไปทําให้คนน่ารังเกียจแบบนั้นผิดหวังละ” จูเลียพึมพําออกมาเบาๆ

ดรูว์จึงพูดต่อว่า ” เธอกล้าพูดประโยคที่เพิ่งพูดเมื่อสักครู่ต่อหน้าเขาไหมละ “

จูเลียเมินหน้าหนีไปอีกทางทันที เพราะไม่อยากทะเลาะกับเด็กที่อายุน้อยกว่าหล่อนคนนี้

I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี

I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี

Status: Ongoing

ผู้กำกับหนังได้กลับมาเกิดในปี 1988 ที่ฮอลลีวูดในฐานะเด็กชายชาวตะวันตกวัย 18 ปีที่ชื่อ เอริควิลเลียม จากนั้นเขาก็เริ่มเขียนบนทหนัง เพลงและรายการทีวีขึ้น แล้วกลายเป็นผู้กำกับที่เก่งในทุกด้านของวงการบันเทิง ชนะใจของดาราสาวทุกคนและเข้าสู่เส้นทางตำนานผู้กำกับแห่งฮอลลีวูด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท