บทที่489
ผู้แปล : N.
ทั้งสามคนต่างก็พูดว่าไม่มีวิธีแก้ปัญหานี้และทางลูชินเองก็ดีว่าเรื่องพวกนี้ไม่สามารถโทษพวกเขาได้ เพราะปัจจุบันก็ยังไม่มีวิธีรักษาโรคมะเร็งที่ได้ผลจริงอย่างที่ทั้งสามพูดออกมา
ก่อนหน้านี้ลูชินเองก็ได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางพันธุกรรมให้กับคนรอบตัวของเขา ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ซู่จิง ซูเสียว หรือแม้กระทั้งซู่เสี่ยว เขาต่างก็ให้คนเหล่านี้ดื่มสารปรับแต่งพันธุกรรมแบบเจือจางโดยที่ไม่รู้ตัว
ส่วนผลลัพธ์ที่แสดงออกมานั้นก็เป็นไปในทางที่ดีเป็นอย่างมาก เช่น โรคเก่าๆของพ่อแม่ของเขาได้รับการปรับปรุงจนมันหายไป ซึ่งพวกท่านต่างก็คิดว่าเป็นเพราะสภาพความเป็นอยู่ของพวกท่านนั้นดีขึ้น มันจึงทำให้โรคเก่าต่างๆของพวกเขาหายไป
ในส่วนของซูหยานนั้นแตกต่างออกไป เพราะการเกิดขึ้นของเซลล์มะเร็ง มันจึงทำให้การทำงานของเซลล์นั้นเหมือนกับเซลล์ของคนแปดสิบปี
ดังนั้นวิธีการของลูชินก่อนหน้านี้จึงไม่สามารถใช้ได้ และเขาก็กลัวว่าวิธีของเขาอาจจะทำให้อาการของคุณลุงหนักขึ้นไปอีก
ในกลุ่มแชทเทคโนโลยีสีดำ ลูชินได้เข้ามาขอความช่วยเหลือจากกลุ่มเพื่อนๆของเขาอีกครั้ง
“เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปทั่วแล้ว ฉันต้องขอโทษเจ้าของกลุ่มด้วยที่ไม่สามารถช่วยอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้” โทนี่ได้เป็นคนแรกที่พูดออกมา “แต่ถ้าเจ้าของกลุ่มต้องการจริงๆละก็ ฉันเองก็ยังสามารถช่วยอะไรได้นิดหน่อย แต่มันอาจจะไม่เห็นผลมากนัก “
“ฉันเองก็ไม่มีวิธีรักษาโรคมะเร็งเหมือนกัน” บรูซเวย์นเองก็ได้พูดออกมาตามตรงว่าเขานั้นไม่สามารถช่วยได้
เมื่อเห็นแบบนี้ ลูชินก็ได้คิดขึ้นได้ว่าบริษัทอัมเบลล่านั้นเชี่ยวชาญในด้านพันธุศาสตร์และชีวเวชศาสตร์ ไม่แน่ว่าราชินีแดงอาจจะช่วยเขาได้: “@ ราชินีแดง เธอมีวิธีรักษาไหม?”
ราชินีแดง: “(อิโมติคอนถอนหายใจ: ทำอะไรไม่ถูก) ถ้าเจ้าของกลุ่มตั้งใจจะทำให้เขากลับมาเป็นแบบมนุษย์ปกติแล้วละก็ ฉันต้องพูดตามตรงว่าฉันเองก็ไม่สามารถช่วยได้”
“ ทำไม? ยายีนตัวเดิมที่ฉันได้ก่อนหน้านี้ใช้ไม่ได้เหรอ?” ลูชินได้ถามออกมา
“ฉันต้องบอกเจ้าของกลุ่มว่ายายีนชีวภาพเป็นความลับของพระเจ้า และแม้แต่ในบริษัทอัมเบลล่าเองก็มีคนรู้เรื่องนี้ไม่มากนัก นอกจากลูกสาวของคุณหมอที่เป็นคนก่อตั้งบริษัทแล้วก็ไม่มีใครรู้มัน แต่ฉันต้องบอกก่อนว่าที่คุณหมอทำยายีนตัวนี้ขึ้นเป็นเพราะอาการป่วยของลูกสาวของเขา ซึ่งแค่อาการของโรคเองก็แตกต่างกันแล้ว ดังนั้นฉันคิดว่ามันอาจจะไม่สามารถใช้รักษาอาการโรคมะเร็งได้… “
Mr.L: “เธอไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆเหรอ?”
ราชินีแดง : (อิโมติคอนถอนหายใจ : มันก็พอจะมีอยู่!)
: “@Mr.L ถ้าคุณต้องการให้เขามีชีวิตอยู่จริงๆ คุณก็สามารถฉีดเขาด้วยไวรัสทีและสารยับยั้งไปพร้อมๆกันได้ ด้วยวิธีนี้มันจะทำให้เซลล์มะเร็งและไวรัสชีวทีอยู่ในความสมดุลเป็นระยะหนึ่ง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาจะสามารถมีที่ชีวิตอยู่ถึง 120 ปี! “
“ไม่เอาวิธีนี้!” ลูชินได้ตอบปฏิเสธออกมาอย่างเด็ดขาด และเขาก็ไม่โง่พอที่จะใช้ไวรัสทีที่บริษัทอัมเบลล่าเป็นผู้ผลิตอย่างเด็ดขาด ขนาดพวกเขาที่เป็นถึงผู้มีอำนาจมากในการควบคุมกองกำลังทางเศรษฐกิจและการทหารทั่วโลก พวกเขาก็ยังไม่สามารถป้องกันการแพร่กระจายไวรัสได้เลย แล้วถ้าเกิดผลลัพธ์มันเกิดต่างไปจากที่ราชินีแดงพูดขึ้นมา โลกของเขาจะไม่เป็นเหมือนของเธอหรือไง?
ราชินีแดง: “(อิโมติคอน: เจ้านาย! ฉันสามารถช่วยคุณได้เท่านี้จริงๆ)”
ลูชินได้คิดเกี่ยวกับมันอีกครั้ง และถามขึ้นว่า : “เธอสามารถใช้เทคโนโลยีการโคลนนิ่งเพื่อช่วยเขาได้ไหม? อย่างแทนที่อวัยวะที่ตายแล้วของเขาอะไรแบบนี้?”
ราชินีแดง: “เป็นไปไม่ได้! ตอนนี้เซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปหมดแล้ว เว้นแต่ว่าเขาจะแทนที่ร่างกายของเขาทั้งหมด ถ้าใช้วิธีนี้ก็เขาต้องทำการโคลนร่างกายทั้งหมด ก่อนที่จะแทนที่ด้วยสมองเดิมของเขา ซึ่งวิธีนี้เพิ่งถูกคิดค้นขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้เอง และมีเพียงดร. ไอแซ็ก เท่านั้นที่รู้กระบวนการทั้งหมด แต่ถ้าเจ้าของกลุ่มต้องการ ฉันเองก็พอจะทำให้ได้ “
“แต่ฉันต้องบอกก่อนว่าวิธีนี้มันก็อาจจะไม่ได้ผล และถ้าเป็นอย่างนั้นสู้ปล่อยให้เขาตายไปอย่างปกติยังจะดีซะกว่า (อิโมติคอนของหน้ากาก: ฉันเป็นคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีอารมณ์)”
ลูชินที่ได้ฟังไปแบบนั้นก็ได้นิ่งเงียบเอาไว้ และชิบะคัตสึฮิโกะก็ได้ออกมาพูดว่า “การตายของร่างกายเป็นการปลดปล่อยเราจากโลกแห่งความจริงที่น่าเบื่อ หยาบคาย และโหดร้าย ทำไมเจ้าของกลุ่มถึงไม่ทำให้เขาเป็นโปรแกรมและใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริงแทนละ?”
ข้อเสนอนี้ได้ถูกปฏิเสธโดยลูชินแทบจะทันที เพราะนี้ไม่ใช้จุดประสงค์หลักของเขา
“ มีวิธีอื่นอีกไหม?” ลูชินได้ทดลองถามกลับไปอีกครั้ง
ก็ยังคงเป็นราชินีแดงที่ตอบกลับว่า : “ฉันสามารถให้ยาระงับเซลล์มะเร็งแก่เจ้าของกลุ่มได้ ซึ่งวิธีนี้น่าจะทำให้อยู่ได้อีกไม่กี่ปี แต่เขาจะอยู่อย่างเจ็บปวด คุณต้องการไหม? “
สกายเน็ต: “มนุษย์บอบบางเสมอ!”
ออพติมัส: “การเกิดและความตายนี่เป็นสภาวะปกติของชีวิตอินทรีย์”
วิกเตอร์เองก็ได้พูดขึ้นว่า : “มีหลายคนตายในทวีปของข้า เช่นเดียวกับการดำรงอยู่ของยุคโบราณ ขนาดพวกที่ถูกเลือกว่าพระเจ้าก็ยังต้องถึงการดับสูญ “
“แม้ว่าข้าจะไม่มีพลังแบบเทพเจ้า แต่ข้าก็สามารถใช้เทคโนโลยีเวทย์มนตร์ทำการปรับแต่งร่างกายให้พวกเขานั้นสามารถมีชีวิตขึ้นมาได้ในรูปแบบกึ่งหุ่นยนต์และครึ่งมนุษย์”
“และการทดลองแบบนี้ก็ประสบความสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย โดยที่ทหารคนหนึ่งชื่อเออร์การ์ตได้รับการฟื้นคืนชีพมาด้วยวิธีนี้!”
ลูชินทำได้เพียงขอบคุณวิกเตอร์ที่มีน้ำใจช่วยเขา แต่เขาคิดว่าวิธีนี้มันอาจจะเป็นอะไรที่น่าตกใจเกินไป
นอกจากนี้ ในโลกของเขานั้นยังมีข้อจำกัดในทุกด้านของเทคโนโลยีการแพทย์เป็นอย่างมาก มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะนำวิธีของเพื่อนๆในกลุ่มมาปรับใช้
เมื่อลูชินเริ่มหมดหวังไปแล้ว ผู้สร้างลุคก็ได้พูดขึ้นว่า: จากข้อมูลของเจ้าของกลุ่ม สิ่งที่เรียกว่าเซลล์มะเร็งนั้นไม่ใช่เซลล์ที่เป็นโรคแต่อย่างใด แต่มันเป็นสิ่งที่คล้ายกับเซลล์ปกติ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ยาและวิธีการทั่วไปในการรักษามัน หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ นี้เป็นการกลายพันธ์ทางพันธุกรรมแบบหนึ่ง “
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็รีบถามออกมาว่า “@ผู้สร้างลุค คุณมีวิธีใช้ไหม?”
“ ใช่! แต่ฉันต้องการข้อมูลทางพันธุกรรมของเขามากกว่านี้ เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น จากนั้นฉันจะเริ่มทำการแก้ไขมันทันที” คำพูดของผู้สร้างลุคนั้นได้ยืนยันว่าเขามีความสามารถที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้อย่างเต็มที่ เขาเกือบลืมไปแล้วว่าในสาขาชีวะวิทยานั้น ผู้สร้างลุคเป็นคนที่เก่งที่สุดในกลุ่ม
เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยถูกเรียกว่าผู้สร้างทุกสิ่งบนโลกของเฮบบรอน! ในแง่ของคนธรรมดา เขาเปรียบได้เป็นพระเจ้าที่มีอำนาจทุกอย่าง! !
อย่างสิ่งมีชีวิตที่เป็น “ฝันร้าย” ต่อทุกคนในโลกของผู้สร้างลุคเอง เขาก็เป็นผู้สร้างมันขึ้นมา นี้แสดงใหเห็นว่าเขานั้นได้เขาใกล้อาณาจักรของพระเจ้าและวิทยาศาสตร์ต้องห้ามมากขนาดไหน
ซึ่งมันแตกต่างจากเทคโนโลยียีนที่ราชินีแดงเชียวชาญเป็นอย่างมาก โดยที่แนวทางของเธอนั้นจะเป็นการชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์หรือเพื่อเสริมสร้างยีนเล็กน้อยเพื่อสร้างชีวิตที่แท้จริง ซึ่งวิธีนี้มันเป็นทางเดินอีกยาวไกลกว่าจะมาถึงจุดของผู้สร้างลุค
ราชินีแดงได้ส่งอิโมติคอนออกมาทันที: “(อิโมติคอนกอดต้นขาใหญ่ๆ!)”
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า “โอเค! ฉันคงต้องรบกวนคุณแล้ว! เดียวฉันจะรีบส่งตัวอย่างไปให้คุณทันที”
ผู้สร้างลุคได้พูดเตือนขึ้นอีกครั้งว่าว่า: “ในตอนนี้ฉันยังไม่ได้เกิดใหม่อย่างแท้จริง มันจึงทำอะไรไม่ค่อยสะดวก ดังนั้นมันอาจจะต้องใช้เวลาในการศึกษาระยะหนึ่งเพื่อหาทางแก้ไขพันธุกรรมผู้ป่วย จะเป็นการดีที่สุดถ้าเจ้าของกลุ่มสามารถระงับเซลล์มะเร็งเอาไว้ก่อน”
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้ถามออกมาว่า: “แล้วฉันควรทำยังไงดี?”