Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร – ตอนที่ 220

ตอนที่ 220

TXV – 220 ลูกสาวหรือลูกชาย ?

ลมหนาวยามค่ำคืนพัดมาสัมผัสใบหน้า ภาพวิวของเมืองตอนกลางคืนดูมัวๆไม่ชัดเจนนักแม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะเกิดที่นี่แต่เขาก็ไม่รู้สึกคุ้นชินอยู่ดีและยังมีหนทางอีกยาวไกลให้เดินไปต่อ

บนดาดฟ้า หลงบิงทอดสายตามองไกลออกไป พลางคิดอะไรบางอย่างในใจเงียบๆ “รู้อะไรมั้ย? ตอนที่ฉันมั่นใจว่ามีสายลับจากอเมริกาอยู่ใกล้ๆคุณ ตอนนั้นฉันคิดว่าเป็นเธอ”

“ใครเหรอ?” เซี่ยเหล่ยถามอย่างช่วยไม่ได้

หลงบิงตอบ “คุณรู้ว่าฉันพูดถึงใคร หลางซือเหยาไง”

เซี่ยเหล่ยนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมา “ล้อเล่นรึเปล่า? เธอจะเป็นสายลับจากอเมริกาได้ยังไง? เธอเป็นแฟนผม เธอไม่ทำอะไรให้ผมเจ็บปวดแน่นอน”

หลงบิงพูดต่อด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “คุณช่วยเฉินตูเทียนหยินแก้ปัญหามาแล้ว ฉันรู้ ปู่กับลุงของเธอตั้งใจจะทำร้ายเธอ นี่ขนาดสายเลือดเดียวกันยังทำกันได้ลง แล้วคุณคิดว่าหลางซือเหยาจะทำอะไรคุณไม่ได้จริงๆเหรอ? มนุษย์น่ะเป็นสัตว์ที่ซับซ้อนที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้หรอก”

เซี่ยเหล่ยส่ายหน้า “อย่าพูดแบบนั้นอีกนะ ผมไม่เชื่อว่าเป็นเธอ”

หลงบิงกล่าว “ฉันเข้าใจความรู้สึกคุณนะ แต่โชคดีที่การตรวจสอบของเราในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาลบความน่าสงสัยของเธอไปหมดแล้วล่ะ หรือพูดง่ายๆก็คือ ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้กับคุณอีก”

เซี่ยเหล่ยถอนหายใจออกมายาวๆด้วยความโล่ง “มีคนอื่นที่สงสัยแทนแล้วเหรอ?”

“เปล่า เราติดตามเอเย่นต์เยอรมันสองคนนั้นแล้วดักฟังสายพวกเขา ไม่ได้อะไรเพิ่มเลย แต่ก็ยังอันตรายอยู่ดี คุณต้องระวังตัวด้วยนะ”

“ผมจะระวังนะ คุณก็ด้วยล่ะ”

หลงบิงยกมุมปากเล็กน้อยราวกับว่ากำลังยิ้มอยู่ “เรื่องสุดท้ายแล้ว คุณขอให้หลางซือเหยาเอาโน้ตไปให้อเลน่านั่นหมายความว่าคุณอยากช่วยเธอ? วางแผนไว้แบบนั้นจริงเหรอ?”

เซี่ยเหล่ยมองคนถามด้วยความแปลกใจ “คุณรู้ได้ไงว่าผมส่งกระดาษไปอีกอย่าง คุณรู้ข้อความในโน้ตนั่นได้ไง?”

หลงบิงตอบเสียงเรียบ “ฉันติดกล้องไว้ในห้องน้ำหญิง”

เซี่ยเหล่ย “……”

“บอกหน่อย คุณคิดจะช่วยเธอจริงๆเหรอ?”

เซี่ยเหล่ยเงียบไปครู่หนึ่ง “ใช่ ผมตั้งใจจะช่วยเธอ เธอเป็นผู้บริสุทธิ์ถ้าไม่ใช่เพราะผม เธอคงไม่ต้องมาแบกรับปัญหาใหญ่ขนาดนี้”

“คุณคิดจะช่วยเธอยังไง?” หลงบิงมองเซี่ยเหล่ย

เซี่ยเหล่ยยิ้มแห้ง “ถ้าเอเย่นต์เยอรมันสองคนนั้นพลาด พวกเขาต้องพาอเลน่ากลับเยอรมนีไปด้วยแน่ๆ เธออาจจะติดคุกตลอดชีวิตเลยก็ได้ เรื่องนี้มันวุ่นวายจนผมคิดอะไรไม่ออกเลย”

หลงบิงลูบมือตัวเองแล้วเดินเข้าหาเซี่ยเหล่ย

เซี่ยเหล่ยลุ้นนิดหน่อย เขาเดินไปข้างๆหลงบิงบ้าง

หลงบิงเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้หูเซี่ยเหล่ยก่อนจะกระซิบเบาๆ “ถ้าอเลน่าติดต่อคุณมาเมื่อไหร่……”

เพียงได้ยินเซี่ยเหล่ยก็ยิ้มออกมา “จริงสิ ผมมีคุณอยู่นี่นา ทำไมผมลืมนึกถึงทางออกดีๆแบบนี้ไปได้นะ?”

หลงบิงพูดต่อ “ในใจคุณมีแต่หลางซือเหยา เคยคิดเรื่องอื่นด้วยเหรอ? เอาล่ะ กลับมาเรื่องเดิมถ้าคุณอยู่กับฉันนานๆอเลน่าคงต้องหึงคุณอีกรอบแน่ๆ”

เซี่ยเหล่ยยิ้ม “จริงๆเธอเป็นคนใจกว้างมากเลยนะ ที่พูดแบบนี้คุณหึงเองรึเปล่า?”

หลงบิงโบกมือในขณะที่เธอเดินตรงไปยังบันได จากนั้นเธอหยุดยืนแล้วหันกลับมาพูดต่อ “สิ่งที่ฉันต้องการมีแค่เรื่องที่อยากรู้เท่านั้นแหละ”

เซี่ยเหล่ยกล่าว “ให้เวลาผมสองวันนะ แค่สองวันแล้วผมจะคาบข่าวมาให้คุณแน่นอน”

หลงบิงมักจะมาพูดจนจบแล้วก็ไป เธอเป็นแบบนี้เสมอไม่เคยเปลี่ยน

เมื่อเซี่ยเหล่ยเดินลงบันไดมาแล้ว ในใจเขายังคงครุ่นคิดถึงสิ่งที่หลงบิงพูด ‘มนุษย์น่ะเป็นสัตว์ที่ซับซ้อนที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้หรอก’ ประโยคนี้ทำให้เขานึกถึงหลางซือเหยาก่อนจะนึกไปถึงพ่อของเขาเอง

“ถ้าผู้ชายคนนั้นคือพ่อของเรา เขาคงไม่ได้มาเจอเราเพราะเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วหรอกนะ? หรืออาจจะเพราะมีเรื่องจำเป็นอะไรก็ได้แต่เรื่องแบบไหนกันที่ต้องถึงขั้นทิ้งเรากับน้องไปแบบนี้?” เซี่ยเหล่ยคิดด้วยความรู้สึกเจ็บปวดในใจ

ทำไมพ่อถึงทำแบบนี้ ทำไมถึงทิ้งลูกทั้งสองคนไป?

ถ้าหลงบิงยังไม่เลิกสงสัยหลางซือเหยาและถ้าเธอเป็นสายลับจากอเมริกาจริงๆขึ้นมา เธอจะทำร้ายเซี่ยเหล่ยด้วยความจำเป็นที่เลี่ยงไม่ได้แล้วทิ้งเขาไปด้วยมั้ย?

คำถามนี้ผุดขึ้นมาในความคิดเซี่ยเหล่ยเอาดื้อๆ แต่เขารู้สึกไม่กล้าคิดอะไรไปมากกว่านี้

เมื่อเขาเดินมาจนถึงทางออกประตูก็เปิดโดยอัตโนมัติ หลางซือเหยาหันมาพร้อมรอยยิ้มซุกซนจากทางประตูนั้น

“ฉันเห็นเธอเพิ่งออกไปด้วยล่ะ แต่ไม่กล้าทัก” หลางซือเหยากล่าว

เซี่ยเหล่ยลบกลุ่มความคิดที่ตีกันวุ่นวายในหัวออกไปก่อนจะยิ้ม “เธอไม่ใช่เสือสักหน่อย จะกลัวเธอทำไมล่ะ?”

หลางซือเหยาดึงตัวเซี่ยเหล่ยมายังประตูกอดเอวเขาเอาไว้ “ลืมแล้วเหรอ? ตอนที่เธอยิงคนสามคนที่ไซต์ก่อนสร้างของบริษัทเรา เธอไม่แม้แต่จะขยับคิ้วเลยนะ ใครกันจะไม่กลัวคนแบบเธอ?”

เซี่ยเหล่ยตบเอวเธอเบาๆ “แต่คุณก็มีวิชาศิลปะป้องกันตัวนี่นา ไม่มีกึ๋นหน่อยรึไง?”

หลางซือเหยาก้าวขาไปยังประตูพลางเอนตัวพิงในอ้อมแขนเซี่ยเหล่ย “ฉันก็เคยกล้ามากๆนะ แต่พอมาอยู่กับคุณก็ไม่ค่อยกล้าแล้วล่ะ เพราะงั้นคุณต้องปกป้องฉันนะ ตลอดชีวิตเลย”

คำพูดหวานๆปัดเป่าเรื่องแย่ๆในใจเซี่ยเหล่ยไปจนหมด ทั้งหัวใจและช่องท้องเขาร้อนวูบวาบ เขาหยุดเดินเพื่ออุ้มหลางซือเหยาขึ้นมาแล้วเดินต่อไปที่ห้องของเธอ

คืนนี้หลางเฉิงชุนคงอยู่ที่ห้องฝึกทั้งคืน บ้านทั้งหลังจึงกลายเป็นโลกใบเล็กของทั้งสองคน เปิดโอกาสให้เขาและเธอจะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำตามใจ

ตลอดช่วงของจูบเร่าร้อน เสื้อผ้าของทั้งสองคนค่อยๆร่วงลงพื้นทีละชิ้นๆ

“คุณเขียนอะไรในกระดาษที่ให้อเลน่าเหรอ?” ช่วงจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มหลางซือเหยาก็ถามขึ้นพลางกันเซี่ยเหล่ยออกจากตัวเองไปด้วย

เซี่ยเหล่ยยิ้มเหยเก “แค่บอกให้เธอติดต่อผมแบบไม่มีเครื่องดักฟังน่ะ หลังจากนั้นผมจะช่วยเธอแล้ว คุณคิดว่าผมจะเขียนอะไรไปเหรอ?”

“คุณกังวลเรื่องคนที่ขอให้คุณช่วยเกินไปแล้วนะ” หลางซือเหยากล่าว “อยากให้ฉันช่วยมั้ย?”

“ไม่จำเป็นหรอก หลงบิงจะช่วยผมเอง” จริงๆแล้วเซี่ยเหล่ยก็กังวลมากพอสมควรนี่เขากลายเป็นคนปัญหาเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

หลางซือเหยาหัวเราะคิกคัก เธอคลายกอดออก ก่อนจะวางถุงยางลงในมือเซี่ยเหล่ยพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น “นี่ของคุณ ต้องให้ฉันช่วยใส่มั้ย?”

“ไม่ใช้ได้มั้ย?”

“ไม่ได้ เรายังไม่แต่งงานกันนะถ้าเกิดฉันท้องขึ้นมาจะทำไงล่ะ?” หลางซือเหยาพูดพลางหน้าแดงระเรื่อ

“งั้นใส่ให้หน่อยสิ” เซี่ยเหล่ยยกยิ้มราวกับเด็กน้อยที่มีพลังล้นเหลือ

“คนบ้า……” หลางซือเหยางับใบหูเซี่ยเหล่ยเบาๆ “ใส่นะ รอแป๊บเดียว”

เซี่ยเหล่ยยิ้มออกมา เขาแทบจะรอใส่มันเข้าไปไม่ไหวแล้ว……

หลังจากอารมณ์ลุ่มหลงลดความเร่าร้อนลงบ้างส่วนที่เหลือคือความพึงพอใจ ความสุข และความเงียบที่อธิบายไม่ถูกของทั้งสองเป็นความรู้สึกที่สบายใจจริงๆ

“เดี๋ยวฉันเอามันไปเอง รออยู่นี่แหละ อย่าแอบมองล่ะ คุณหมูน้อยจอมขี้เกียจ” หลางซือเหยาค่อยๆพาตัวเองลงมาจากร่างกายเซี่ยเหล่ย

เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและนุ่มนวล “คุณคอยจัดการทุกครั้งเลย ครั้งนี้เดี๋ยวผมทำเองดีกว่า ผมควรทำบ้าง”

“คุณเหนื่อยแล้ว พักเถอะ ฉันไปเอง ห้ามดื้อ ห้ามเถียงด้วย” หลางซือเหยาใส่สลิปเปอร์แล้วเดินออกมาจากเตียงอุ่นโดยไม่ลืมเจ้าสิ่งลามกที่ต้องเอาไปจัดการในห้องน้ำด้วย

เซี่ยเหล่ยมองแผ่นหลังเล็กที่สวยงามของเธอและรู้สึกมีความสุขในใจ “เธอใจดีจัง รออีกสักพักให้น้องเสวียกลับมาก่อน เราจะได้ไปคุยกับเธอเรื่องขอหลางซือเหยาแต่งงาน น้องเสวียจะชอบพี่สะใภ้คนนี้มั้ยนะ?”

ภายในห้องน้ำหลางซือเหยาใส่สิ่งที่ถือมาลงในกล่องพลาสติกจากนั้นเธอก็ใส่กล่องพลาสติกลงในกล่องเครื่องสำอางอีกชั้น หลางซือเหยามองต่อไปที่ตู้เสื้อผ้าซึ่งอยู่ห่างจากห้องน้ำไปไม่มากนัก……..

เซี่ยเหล่ยเลิกผ้าห่มขึ้นและพูดอย่างเป็นห่วง “มานี่เร็ว เดี๋ยวก็เป็นไข้หรอก”

หลางซือเหยาเดินกลับไปที่เตียงอย่างที่เขาบอกพร้อมสองมือกอดแขนเซี่ยเหล่ยแน่น “ที่รัก ในอนาคต คุณอยากมีลูกสาวหรือลูกชายล่ะ?”

เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ลูกชายก็ดี ลูกสาวก็ดี งั้นอยากมีทั้งลูกสาวกับลูกชายเลยแล้วกัน”

“อยากมีสองคนเลยเหรอ?”

“ใช่ เด็กๆน่ะดีจะตายไป ไม่อยากมีเหรอ?”

“ก็คิดๆแล้วมันคงจะเจ็บน่าดูเลย เจ็บครั้งแรกไม่พอ มีเจ็บครั้งที่สองอีก คุณไม่ใช่คนอุ้มท้อง คุณก็อยากได้ลูกน่ะสิ” หลางซือเหยาเบะปาก

“ไม่ใช่ว่าคุณกำลังจะมีลูกเหรอ?”

“คุณก็พูดง่ายไป มันทำได้ง่ายขนาดนั้นที่ไหนล่ะต้องตั้งท้องสองครั้งแถมยังเป็นชายกับหญิงอีก คุณจะทำยังไงไหนทำให้ดูหน่อยสิ?”

เซี่ยเหล่ยพลิกตัวขึ้นคร่อมเธออีกรอบพูดพร้อมยิ้มกริ่ม “ได้สิ เดี๋ยวจะทำให้ดู”

“นี่คุณยังอยากทำอีกเหรอ? ให้กินเท่าไหร่ก็ไม่เคยอิ่มเลยนะแมวน้อย” หลางซือเหยาเริ่มหน้าขึ้นสี

เซี่ยเหล่ยดึงผ้าห่มขึ้นคลุมพร้อมขึ้นสวรรค์กันอีกครั้ง……………

เช้าวันต่อมาอเลน่าก็โทรมาหาเซี่ยเหล่ยเป็นเบอร์แปลก ทั้งยังเป็นโทรศัพท์ที่ใช้ในประเทศจีนอีกด้วย

“ฉันมีเวลาคุยไม่มาก พวกเขาบอกว่าฉันไม่มีประโยชน์อีกแล้ว พวกเขาให้ฉันกลับอเมริกาเพื่อสอบสวนอีกแค่ชั่วโมงเดียวพวกเขาก็จะส่งฉันไปที่สนามบินแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงแรมที่คุณเคยมา ช่วยด้วยฉัน ลูคัส” อเลน่าพูดอย่างรีบร้อนน้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความกังวล

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เดี๋ยวผมไป ถ้าผมบอกให้คุณทำอะไร คุณก็ทำตามนะเชื่อผมสิทุกอย่างจะไม่เป็นไร” เซี่ยเหล่ยพยายามปลอบเธอ

“ฉันเชื่อคุณ ฉันจะรอ” อเลน่าตอบรับก่อนจะวางสาย

เซี่ยเหล่ยเก็บโทรศัพท์แล้วเดินออกนอกประตูไป “ซือเหยา อเลน่าโทรมา ผมต้องไปแล้ว”

หลางซือเหยาเดินออกมาจากห้องครัว “กินมื้อเช้าก่อนสิ”

เซี่ยเหล่ยตอบ “ไม่ล่ะ ผมไม่มีเวลาแล้ว เดี๋ยวผมจะติดต่อหลงบิงระหว่างทางมีเธออยู่ด้วยทั้งคน คุณไม่ต้องกังวลไปนะ”

“จะไม่กังวลได้ไงล่ะ?” หลางซือเหยาจ้องเซี่ยเหล่ย “ระวังตัวด้วยนะ”

เขาพยักหน้ารับ แล้วรีบออกไปทันที

หลางซือเหยาถอดผ้ากันเปื้อนออกเพื่อเดินกลับเข้าห้องตัวเองบ้าง เธอใช้เวลาสักพักก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำต่อ กล่องที่คุ้นเคยวางนิ่งอยู่บนชั้นกระจกตรงอ่างล้างหน้า เธอหยิบกล่องนั่นขึ้นมาแล้วเปิดมันออก ทันทีที่เปิดก็มีควันสีขาวพวยพุ่งออกมา สิ่งลามกเมื่อคืนถูกแช่แข็งเป็นก้อนน้ำแข็งเล็กๆ ในระหว่างที่มองมันอยู่หลางซือเหยาก็พลางคิดถึงเซี่ยเหล่ยเงียบๆ พร้อมกับมุมปากเธอที่ยกยิ้มขึ้นมา……

ติดตามตอนต่อไป…………….

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Status: Ongoing

เซี่ยเหล่ยสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็กเขาจึงต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อดิ้นรนเอาตัวรอดและสิ่งที่สำคัญเขาต้องเลี้ยงดูน้องสาวของเขา แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น

เขาประสบอุบัติเหตุในโรงงานซึ่งทำให้ตาของเขาบอดแต่หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลเขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าตาเขาไม่ได้บอดแต่มันมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา !!

ในตอนนี้เขากำลังจะใช้ความสามารถพิเศษที่เขาได้มาในทางชั่วร้ายเพื่อสร้างชีวิตของเขาและน้องสาวให้ดีขึ้นเหมือนคนอื่นๆ

เซี่ยเล๋ยจะประสบความสำเร็จในการทำสิ่งชั่วร้ายกับพลังที่เขาเพิ่งค้นพบหรือไม่ ?

ข้าจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของข้าเอง !!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท