Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร – ตอนที่ 240

ตอนที่ 240

TXV – 240 แผนการฆาตกรรมที่สมบูรณ์แบบ !

จุดหมายปลายทางไม่ใช่สำนักงานเกตเตอร์ลิ่งแต่เป็นที่พักบนชายหาดแห่งหนึ่ง

การดาดเดาของเซี่ยเหล่ยก่อนหน้านี้ผิด กู๋เค่อหวู่สั่งให้คนไปจับตัวของหู่ฮั๋วและเซี่ยเหล่ยมาสิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นคดีอาชญากรรมที่ร้ายแรงมาก กู๋เค่อหวู่เป็นคนฉลาดเขาไม่พาตัวทั้งสองคนไปที่สำนักงานของเขาอย่างแน่นอนและที่พักบนหาดแห่งนี้ต้องไม่ใช่เขตปกครองที่เขาดูแลด้วย

เมื่อรถจอดเซี่ยเหล่ยมองไปรอบๆของที่พักถ้าด้านในของที่พักนี้มีคนและอาวุธอยู่มากมาย เขาคงส่งคนพวกนั้นมาเป็นกองกำลังเสริมของด่งหวู่และฉิงฉี๋แล้วแต่ที่พักมีเพียงเด็กผู้หญิงสวมใส่ชุดบิกินนี่รูปร่างสมส่วนและอายุยังน้อยอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น

เซี่ยเหล่ยคิดในใจว่า “ การลักพาตัวยิ่งมีคนรู้เห็นน้อยคงดีกว่าการที่มีคนรู้เห็นมาก ด่งหวู่และฉิงฉี๋สองคนน่าจะเพียงพอสำหรับคำสั่งนี้แต่ผู้หญิงคนนี้มาอยู่ที่นี้ได้อย่างไรล่ะ ?

เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว คนขับจึงบีบแตรรถเมื่อได้ยินเสียงแตรผู้หญิงคนนั้นใช้เอวและสะโพกของเธอเดินมาเปิดประตูและเดินมายังรถที่จอดอยู่

รถจอดบริเวณสวนด้านหน้าของที่พัก……

ด่งหวู่กับฉิงฉี๋นำตัวของเซี่ยเหล่ยและหู่ฮั๋วลงมาจากรถและนำตัวพวกเขาเข้าไปยังที่พัก

ภายในห้องประกอบไปด้วยเตียงและปลายเตียงมีกล้องถ่ายวีดีโอวางอยู่ กล้องถูกหันไปยังเตียงจากนั้นหู่ฮั๋วถูกวางตัวลงบนเตียงส่วนเซี่ยเหล่ยถูกโยนลงไปบนพื้น…..

ฉิงฉี๋เดินมายังกล้องที่ได้จัดวางเอาไว้และกดปุ่มเริ่มถ่ายพร้อมทั้งพูดว่า “เริ่ม ”

ผู้หญิงคนนั้นคุกเข่าลงระหว่างขาของหู่ฮั๋วเหมือนจะทำอะไรบางอย่าง

ด่งหวู่มองไปยังการกระทำนั้นและพูดพร้อมหัวเราะว่า “ท่านหวู่ ท่านต้องได้เห็นวีดีโอนี้ ”

“ท่านหวู่เป็นคนที่รอบคอบมากจริงๆ แผนนี้เขาสามารถใช้กระสุนเพียงนัดเดียวฆ่านกได้ถึงสองตัว ” ฉิงฉี๋กล่าว

ผู้หญิงคนนั้นขึ้นไปบนร่างของหู่ฮั๋ว เธออยู่บนร่างของหู่ฮั๋วราวกับว่าเธอกำลังขี่ม้าอยู่ …

ในตอนนี้หู่ฮั๋วไม่มีสติ เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขาได้

เพียงไม่กี่นาทีต่อมาผู้หญิงคนนั้นก็เสร็จงานของเธอ เธอลุกตัวออกจากร่างกายของหู่ฮั๋วและลงไปนอนด้านข้างของเขา ฉิงฉี๋หยิบกล้องออกมาจากขาตั้งกล้องและเดินไปยังเตียงอย่างช้าๆราวกับว่าเป็นผู้กำกับภาพยนตร์รักจากนั้นเขาขยายภาพเข้าไปใกล้ๆ

ถึงแม้ว่าตาของเซี่ยเหล่ยยังต้องแกล้งปิดอยู่แต่เขารับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง เขาเคยคิดว่าเขาจะได้พบกับกู๋เค่อหวู่หรือกู๋เค่อเหวินที่นี่ แต่กลับผิดคาด

“คุณทำดีมาก ออกไปได้แล้ว ” ฉิงฉี๋พูดกับผู้หญิงคนนั้น

เธอหยิบเสื้อผ้ามาใส่และออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

ฉิงฉี๋วางกล้องลงและหยิบมีดใส่ในมือของหู่ฮั๋ว

“คุณครับ…..ผมไม่ได้อยากจะฆ่าเขา ผมแค่ต้องการให้เขาทรมานเหมือนตายเท่านั้น ” ด่งหวู่พูดจาล้อเลียนพร้อมเดินไปทางเซี่ยเหล่ย

“เรื่องที่ท่านหวู่เป็นห่วงคือ ถ้าคุณทรมานเขาร่างกายเขาจะมีร่องรอยถูกทำร้าย มันจะโยงมาถึงเราได้เราควรใช้มีดฆ่าเขาให้ตายเพียงครั้งเดียวจะดีกว่า ” ฉิงฉี๋ตอบ

ในตอนนี้เซี่ยเหล่ยเข้าใจในสิ่งที่ฉิงฉี๋พูดหมดทุกอย่างแล้ว

แผนของกู๋เค่อหวู่ไม่ได้ต้องการจะฆ่าพวกเขาทั้งสองคนเท่านั้นแต่ต้องการสร้างรอยแผลในจิตใจด้วยนั่นคือการถ่ายวีดีโอของหู่ฮั๋วและผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ หลังจากนั้นก็นำมีดใส่ไว้ในมือของหู่ฮั๋วเพื่อให้มองว่าเขาเป็นคนฆ่าเซี่ยเหล่ยเมื่อเขาตื่นมาก็พบว่าได้ฆ่าคนไปแล้ว ด่งหวู่และฉิงฉี๋จะจัดการกับศพของเซี่ยเหล่ยและเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยด่งหวู่และฉิงฉี๋จะออกจากประเทศจีนโดยที่ตำรวจจะไม่มีหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้และเหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะไม่สามารถโยงไปถึงตระกูลกู๋ได้เช่นกัน!

ด่งหวู่พยุงตัวของเซี่ยเหล่ยขึ้นมาและพยายามช่วยให้เขาทรงตัวยืนขึ้น

ฉิงฉี๋ยกหู่ฮั๋วที่นอนอยู่บนเตียงขึ้นมาและประคองเอวของเขาไว้ข้างหนึ่งส่วนอีกข้างหนึ่งก็กำมือของหู่ฮั๋วที่มีมีดอยู่ด้านในเอาไว้ ด่งหวู่พาเซี่ยเหล่ยเดินไปหาหู่ฮั๋วอย่างช้าๆในขณะที่ปลายมีดชี้ไปที่หัวใจของเซี่ยเหล่ย

“เซี่ยเหล่ย หนีไป!” เมื่อพูดจบหู่ฮั๋วใช้มีดในมือของเขาแทงไปยังหัวใจของด่งหวู่ทันที

เวลานั้นเซี่ยเหล่ยรีบเด้งตัวออกมาจากแขนของด่งหวู่และใช้แขนขวาของเขาตีไปที่หลังของด่งหวู่ เซี่ยเหล่ยไม่รอให้ด่งหวู่ตั้งตัว เขาใช้แขนซ้ายตีไปที่หลังอีกครั้งจนด่งหวู่ล้มลงไปกับพื้นทันที

ด่งหวู่เปิดปากหายใจและมีอาการหายใจไม่ออก อาการทั้งหมดเกิดจากการโจมตีของเซี่ยเหล่ย ทุกอย่างในตอนนี้ไม่เป็นไปตามแผนของพวกเขาซะแล้ว……..

ฉิงฉี๋ตกใจมากทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่สามารถตั้งสติได้

เซี่ยเหล่ยจึงใช้เท้าเตะไปยังขาฉิงฉี๋

ฉิงฉี๋โดนเซี่ยเหล่ยเตะไปที่ขาจนล้มลงไปกับพื้น ในตอนนี้ขาของเขาไม่มีความรู้สึกราวกับเป็นอัมพาตถึงเขาจะอยู่ห่างจากเซี่ยเหล่ยไม่ไกลแต่ในมือของเขาก็มีมีดอยู่

เซี่ยเหล่ยรีบวิ่งเข้าไปหาฉิงฉี๋อย่างรวดเร็วโดยไม่รอให้ฉิงฉี๋ใช้มีดทำร้ายเขา เขาใช้กำปั้นต่อยไปยังหน้าอกของฉิงฉี๋

ปัง!

เสียงของหลังฉิงฉี๋กระแทกกับกำแพงอย่างแรงจากนั้นเขาล้มลงกับพื้น ขณะที่กำปั้นของเซี่ยเหล่ยต่อยไปยังหน้าอกของเขาอีกครั้ง เซี่ยเหล่ยใช้นิ้วโป้งของเขากดไปยังทางเดินหายใจของฉิงฉี๋ทำให้ฉิงฉี๋หายใจไม่ออกและได้รับความเจ็บปวดอย่างรุนแรง

เขาเตะมีดในมือของฉิงฉี๋ทิ้งและใช้เท้าเตะไปยังศีรษะของเขา ฉิงฉี๋ล้มกระแทกกับพื้นจากนั้นเขาสลบไปในที่สุด

เลือดของดงหวู่ไหลออกมาจากหน้าอกจนทั่วพื้นของห้อง…..

เซี่ยเหล่ยไม่เตะต้องสิ่งใดในห้องนอกจากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทร110 แต่เขากลับเปลี่ยนใจโทรหาเจียงหยูยี่แทน

เขาไม่รู้ว่าตอนนี้สามารถไว้ใจใครได้บ้างแต่อย่างไรก็ตามเจียงหยูยี่คือทางเลือกที่ดีที่สุด

“ฮัลโหล เจียงหยูยี่อยู่ในสายใช่ไหม คุณฟังผมให้ดีนะพาคนมาที่นี่เดี๋ยวนี้ ผมจะส่งที่อยู่ไปให้ ”

“คุณล้อเล่นอะไร?” เจียงหยูยี่ตอบกลับ “ฉันกำลังประชุมอยู่ไม่มีเวลามาเล่นกับคุณ คุณกลับบ้านไปนอนดีกว่ามั้ง ? ”

“ผมไม่ได้ล้อเล่นนี้เป็นเรื่องจริง ท่านนายกเทศมนตรีหู่ฆ่าคนตาย ! ”

“ ห๊ะ ?” เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจียงหยูยี่เงียบด้วยความตกใจและไม่พูดอะไรต่อ

เซี่ยเหล่ยไม่ได้อธิบายอะไรมากหลังจากพูดจบ เขาได้ส่งที่อยู่ให้กับเจียงหยูยี่และวางสายโทรศัพท์ไป

ทันใดนั้นก็มีเสียงคนกำลังเดินมาจากด้านนอกประตู

สายตาของเซี่ยเหล่ยมองไปยังต้นเสียง เขาเดินไปมองยังช่องว่างที่ประตูและพบว่าผู้หญิงคนเดิมกำลังเดินกลับเข้ามาในมือของเธอมีปืนพกขนาดเล็กและกำลังตรงเข้ามายังประตู

เธอยังคงอยู่ในชุดบีกินนี่ชุดเดิม จนบางครั้งก็สงสัยว่าเธอจะรู้สึกหนาวบ้างมั้ย ? แต่อย่างไรก็ตามในมือของเธอก็มีปืน !

เซี่ยเหล่ยได้ยินเสียงเท้าใกล้เข้ามา เขาจึงไปหลบอยู่หลังประตู

เมื่อเธอเดินมาถึงประตู เธอใช้มือจับลูกบิดและถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูจากนั้นเธอก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เซี่ยเหล่ยที่หลบอยู่หลังประตูได้เตะไปยังขาของเธอ เมื่อเธอล้มคุกเข่าลงไปเขาจึงมัดมือของเธอพร้อมทั้งใช้มีดแทงไปยังเส้นเลือดแดงบริเวณคอของเธอ

“อ๊ากกก ! ” เสียงของเธอดังด้วยความเจ็บปวดก่อนจะล้มลงไปนอนกับพื้น

เซี่ยเหล่ยเตะปืนในมือของเธอออกไป เขาสูดหายใจเข้าลึกๆและตั้งสติเพราะยังมีศัตรูอีกหนึ่งคนที่เขาต้องจัดการนั่นคือพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารนั่นเอง

เมื่อเขาตั้งสติได้จึงเปิดประตูเดินออกจากที่พักเมื่อได้ยินเสียงของเครื่องยนต์รถที่จอดรออยู่ด้านนอก เขาจึงเดินไปยังรถคันนั้นแต่ก่อนที่จะเดินถึงรถเขากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงรีบเดินกลับเข้ามาทันที

“อีกไม่นานกู๋เค่อหวู่ต้องรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแน่นอน ถ้าเขารู้เขาจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร?”

เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่ากู๋เค่อหวู่จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรแต่อย่างไรก็ตามเขาจะทำให้ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวกับการฆ่าด่งหวู่และฉิงฉี๋อย่างแน่นอน

เซี่ยเหล่ยวิ่งกลับเข้ามาในห้องและพบกับสี่คนที่นอนอยู่ เขามองผู้หญิงด้วยความรู้สึกผิด และมองไปยังหู่ฮั๋วที่อยู่ในอาการมึนจากการโดนวางยาส่วนอีกสองคนได้เสียชีวิตไปแล้ว ทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่ว

ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เซี่ยเหล่ยเดินไปตามเสียงของโทรศัพท์ปรากฏว่าเป็นเสียงที่มาจากโทรศัพท์ของฉิงฉี๋แต่หน้าจอกลับไม่แสดงหมายเลข เซี่ยเหล่ยลังเลก่อนจะกดปุ่มรับสาย เขาไม่ได้พูดอะไรส่วนคนในสายก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายเงียบใส่กันเป็นเวลาเกือบสิบวินาที…..

“ฮัลโหล นั่นกู๋เค่อหวู่ใช่ไหม?”

เซี่ยเหล่ยตอบด้วยน้ำเสียงตกใจว่า “กู๋ดิงชานหรอ?”

คนในสายไม่ได้ตอบกลับ

“พวกคุณเป็นหนี้แค้นผม แค้นนี้ต้องชำระ ” เซี่ยเหล่ยตอบ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อีกสายก็ตัดไปในทันที

ติดตามตอนต่อไป………….

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Status: Ongoing

เซี่ยเหล่ยสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็กเขาจึงต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อดิ้นรนเอาตัวรอดและสิ่งที่สำคัญเขาต้องเลี้ยงดูน้องสาวของเขา แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น

เขาประสบอุบัติเหตุในโรงงานซึ่งทำให้ตาของเขาบอดแต่หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลเขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าตาเขาไม่ได้บอดแต่มันมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา !!

ในตอนนี้เขากำลังจะใช้ความสามารถพิเศษที่เขาได้มาในทางชั่วร้ายเพื่อสร้างชีวิตของเขาและน้องสาวให้ดีขึ้นเหมือนคนอื่นๆ

เซี่ยเล๋ยจะประสบความสำเร็จในการทำสิ่งชั่วร้ายกับพลังที่เขาเพิ่งค้นพบหรือไม่ ?

ข้าจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของข้าเอง !!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท