TXV – 255 ของปลอม ?
ความสามารถในการเรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆของเซี่ยเหล่ยนั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก เพราะหลังจากเต้นไปจฟนจบแล้วหนึ่งรอบ เซี่ยเหล่ยก็เต้นได้โดยไม่เหยียบเท้าเฉินตูเทียนหยินอีกเลย
หลังจากเพลงที่สอง เฉินตูเทียนหยินยังคงกอดเอวและมองไปที่เซี่ยเหล่ย จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณเรียนรู้ได้รวดเร็วมาก ฉะนั้นมาลองดูกันอีกครั้งหนึ่ง”
เซี่ยเหล่ยเองก็ไม่ปฏิเสธเขายิ้มขึ้นก่อนพูดว่า “โอเค ได้เลย”
จู่ๆในขณะนี้ก็มีกลุ่มของตำรวจกลุ่มหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาภายในห้องโถงจึงทำให้บรรดาผู้คนที่อยู่ในห้องโถงมึนงงและเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย
โดยผู้ที่นำกำลังเข้ามาก็คือซู่หลาง
เซี่ยเหล่ยค่อนข้างที่จะแปลกใจแล้วก็พูดขึ้นว่า “นั่นเขาถูกพักงานอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
เฉินตูเทียนหยินขมวดคิ้วจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “อย่าลืมว่าลุงของเขาเป็นหัวหน้าตำรวจ การพักงานไม่ได้หมายความว่าจะถูกไล่ออกเพราะไม่นานเขาก็จะรับตำแหน่งคืนดังเดิม”
“งั้นจะทำอย่างไรกับเงินนี้หล่ะ?” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้น
“ฉันจะให้หมิงเหม่ยจัดการ จะได้ไม่เป็นปัญหา” เฉินตูเทียนหยินพูดขึ้น
เซี่ยเหล่ยยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “อืมม…งั้นเรามาเต้นกันต่อเถอะ “
“อืม” เฉินตูเทียนหยินพูดขึ้นในขณะที่ยังคงกอดเองเซี่ยเหล่ยอยู่ที่ลานเต้นและยังคงเต้นเบาๆไปด้วย
ในลานเต้นตอนนี้เหลือเพียงแค่เซี่ยเหล่ยและเฉินตูเทียนหยินเท่านั้น ด้วยรูปร่างที่สูงและมีน้ำมีนวลของเฉินตูเทียนหยิน และลักษณะใบหน้าที่ดูดีของเซี่ยเหล่ย ทำให้ทั้งคู่ตอนนี้กลายเป็นจุดสนใจและกลายเป็นที่อิจฉาของคนบางคนเช่นกัน
“ให้นักดนตรีหยุดเล่นเดี๋ยวนี้!” ซู่หลางพูดพร้อมเดินไปที่ลานเต้น
นักดนตรีหยุดเล่นเพลงทันทีภายใต้การคำสั่งของตำรวจ แต่เฉินตูเทียนหยินไม่ได้รับผลกระทบจากการที่นักดนตรีหยุดเล่นแม้แต่น้อย เธอยังคงจ้องมองไปที่เซี่ยเหล่ย กอดเอวเซี่ยเหล่ยและเต้นเบาๆไปพร้อมกับเขา ราวกับว่าในโลกของเธอตอนนี้มีแต่เซี่ยเหล่ยอยู่ตรงหน้าแค่คนเดียวเท่านั้น
แม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเริ่มผิดปกติไปแล้วแต่ดูเหมือนว่าเฉินตูเทียนหยินจะยังไม่ต้องการให้การเต้นหยุดลงในตอนนี้
“หยุดเดี๋ยวนี้” ซู่หลางพูดขึ้นเสียงดัง
เฉินตูเทียนหยินยังคงไม่หยุดเต้นกับเซี่ยเหล่ย
“ผมบอกให้หยุด!” สุดท้ายซู่หลางก็ตะโกนขึ้น
เมื่อได้ยินดังนั้นเฉินตูเทียนหยินก็หยุดเต้นลง เธอมองไปที่ซู่หลางจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณต้องการจะทำอะไร?”
“คุณเทียนหยิน” ซู่หลางหันหน้าไปทางเทียนหยินแล้วพูดขึ้นอย่างสุภาพว่า “เราได้รับแจ้งมาว่ามีคนมาชุมนุมกันมากมายที่นี่และมีการเดิมพันการพนันที่มีมูลค่ามหาศาลเกิดขึ้น เราจึงมาตรวจสอบ “
“บรรดาแขกในงานเล่นการพนันงั้นเหรอ?” เฉินตูเทียนหยินหัวเราะด้วยความโกรธจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “หรือคุณว่าฉันงั้นเหรอ? สารวัตรซู่ คุณควรจะคิดให้ดีก่อนพูดนะ “
“คุณเทียนหยิน ผมไม่ได้หมายถึงคุณแต่เป็นเขาต่างหาก” ซู่หลางชี้ไปที่เซี่ยเหล่ย จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เซี่ยเหล่ยยคุณถูกจับกุมในข้อหาเล่นการพนัน ส่งเงินพนันของคุณทั้งหมดมาเดี๋ยวนี้”
เซี่ยเหล่ยยิ้มแล้วพูดว่า “สารวัตซู่ผมดีใจที่คุณกลับมาทำงานได้อย่างรวดเร็วนะ” จากนั้นเซี่ยเหล่ยก็เดินเข้าไปหาเขา
” หยุดอยู่ตรงนั้น แล้วอย่าเฉไฉ!” ซู่หลางพูดขึ้นและพูดอย่างจริงจังต่อว่า “เงินเดิมพันในการเล่นการพนันของคุณอยู่ที่ไหน?”
เซี่ยเหล่ยยังคงพูดแบบสบายๆไปว่า “สารวัตรซู่ ผมจะไปมีได้อย่างไรกันหล่ะ “จากนั้นเซี่ยเหล่ยก็หยิบเหรียญจากกระเป๋าจำนวนหนึ่งแล้วส่งให้กับซู่หลาง
“เหลวไหล” ซู่หลางพูดด้วยความโกรธจากนั้นก็โยนเหรียญทิ้งลงที่พื้น
เซี่ยเหล่ยยักไหล่ จากนั้นก็เดินกลับไปยืนอยู่ข้างเฉินตูเทียนหยิน
เฉินตูเทียนหยินในขณะนี้เธอรู้สึกโกรธมาก เธอชี้ไปที่ประตูพร้อมพูดขึ้นว่า “ซู่หลาง คุณออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!”
ซู่หลางไม่ได้ขยับตัวไปไหน จากนั้นก็พูดอย่างจริงจังไปว่า ” คุณเทียนหยิน ใจเย็นก่อนครับ ผมเพิ่งกลับมาทำหน้าที่อย่างเป็นทางการและผมก็เอาหมายค้นมาด้วย ดังนั้นผมมีสิทธืที่จะค้นโรงแรมแห่งนี้”
ซู่หลางไม่รอคำตอบใดๆจากเฉินตูเทียนหยิน เขาได้สั่งลูกน้องทันทีว่า “ไปค้นให้ทั่ว! “
เมื่อตำรวจที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของซู่หลางได้ยินก็ตอบรับอย่างพร้อมกัน จากนั้นก็ได้เริ่มแยกย้ายกันไปค้นหาตามที่ต่างๆ รวมถึงห้องพักแต่ละห้องด้วยเช่นกัน โดยการค้นหาในครั้งนี้ตำรวจได้พาสุนัขดมกลิ่นมาด้วยเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา
เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะเขาไม่คิดว่าซู่หลางจะนำสุนัขดมกลิ่นของตำรวจมาช่วยค้นหาด้วย สุนัขตำรวจดมกลิ่นพวกนี้ได้รับการฝึกอบรมมาเป็นพิเศษเพื่อที่จะให้มีประสาทสัมผัสที่ไวต่อกลิ่นของเงินดังนั้นถ้าหากว่าฟู่หมิงเหม่ยจัดการกับเงินไม่ทันก็จะทำให้ตำรวจเจอเงินพวกนั้นอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนว่าซู่หลางจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของเซี่ยเหล่ย จากนั้นเขาก็พูดอย่างเยาะเย้ยไปว่า “เซี่ยเหล่ย คุณไม่สามารถที่จะซ่อนเงินได้หรอก ผมจะบอกคุณไว้เลย ตอนนี้ที่โรงแรมแห่งนี้มีตำรวจอยู่ทุกที่ คุณไม่มีทางที่จะซ่อนได้อย่างแน่นอน “
ในขณะนี้กู๋ดิงชานและเฮ่อจายหยิงกำลังเดินมาพร้อมกับสองพี่น้องกู๋เค่อหวู่และกู๋เค่อเหวิน
“สารวัตรซู่ ผมขอสารภาพ” กู๋ดิงชานพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มจากนั้นก็พูดต่อว่า “มีเฉพาะบางคนเท่านั้นที่เล่นการพนันและเดิมพัน ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นและผมเองก็ยังเสียเงินให้กับเซี่ยเหล่ยไปราวๆ 10 ล้านยูโร “
เฮ่อจายหยิงยังพูดด้วยเช่นกันว่า “ผมเองก็ขอสารภาพ ผมเสียเงินให้เซี่ยเหล่ยไป 10 ล้าน “
ซู่หลางมองไปที่เซี่ยเหล่ยจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เพียงแค่พยานบุคคลถือว่ายังไม่น่าเชื่อถือพอ แต่ยังไงก็ตามผมคิดว่าคงใช้เวลาไม่นานก็จะเจอหลักฐานชิ้นใหญ่อย่างแน่นอน”
ในขณะนี้เซี่ยเหล่ยไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเงียบ
จังหวะนี้กู๋เค่อเหวินก็พูดขึ้นว่า “บางคนคิดว่าจะร่ำรวยในชั่วข้ามคืนด้วยการชนะพนันด้วยเงินเดิมพัน 1 พันล้าน มันไม่มีเหตุผลเลยว่ามั้ย? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ฮ่าฮ่า… “
กู๋เค่อหวู่พูดขึ้นต่อว่า “อย่าพูดแบบนี้เลยกู๋เค่อเหวิน เดี๋ยวจะทำให้เซี่ยเหล่ยไม่พอใจเอาได้”
“อืม…ฉันจะไม่พูดแล้วล่ะ คุณเป็นคนที่ดีและอบอุ่นจริงๆ” ในขณะที่กู๋เค่อเหวินพูดนั้น เธอก็ได้มองและพูดออกไปทางที่เฉินตูเทียนหยินอยู่เพื่อจงใจให้เธอได้ยิน
การพูดคุยของสองพี่น้องตระกูลกู๋นั้น ทำให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที….
ซู่หลางพูดขึ้นอีกครั้งว่า “เซี่ยเหล่ย อย่าให้ต้องเสียเวลาเลย คุณบอกมาดีกว่าว่าคุณเอาเงินไปซ่อนไว้ที่ไหน?”
“เงินอะไรหล่ะ?” ในที่สุดเซี่ยเหล่ยก็พูดขึ้น
“เงินผิดกฏหมายยังไงหล่ะ!” ซู่หลางพูด
“แค่คุณบอกว่าผิดกฏหมายมันก็ผิดกฏหมายอย่างงั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นมีใครเห็นเงินที่ผมชนะมั้ยหล่ะ? “เซี่ยเหล่ยพูดอย่างเยาะเย้ย” อืม…เป็นความจริงที่ผมเล่นการพนันและชนะได้เงินจริงแต่พวกเขาสองคนได้ใช้เงินปลอมๆมาเดิมพันกับผม เอางี้ ถ้าคุณหาเงินนั้นเจอ ผมจะให้คุณทั้งหมดเลย “
“คุณ …… ” ซู่หลางพูดขึ้นด้วยอารมณ์โกรธ
เฮ่อจายหยิงพูดว่า “เซี่ยเหล่ย คุณก็พูดเกินไป พวกเราเสียเงินไปจริงแล้วคุณมากล่าวหาพวกผมว่าใช้เงินปลอมในการเล่นพนันอย่างนี้ ต้องการที่จะทำอะไรกันแน่? “
“คุณบอกว่าจะใช้เงินจริงแต่ก็ไม่ใช่ ผมไม่ได้เห็นเงินจริงแม้แต่น้อย ผมถูกหลอก” เซี่ยเหล่ยพูดขึ้น
ในตอนนี้ฟู่หมิงเหม่ยได้เดินเข้ามาข้างเฉินตูเทียนหยินจากนั้นก็กระซิบข้างหูของเธอ เมื่อเฉินตูเทียนหยินได้ฟังแล้วก็พยักหน้าจากนั้นฟู่หมิงเหม่ยก็ได้เดินออกไป
เซี่ยเหล่ยมองไปที่เฉินตูเทียนหยิน ด้านเฉินตูเทียนหยินที่เห็นเซี่ยเหล่ยมองมาก็ได้ยิ้มเล็กน้อยให้กับเขาด้วยร้อยยิ้มนี้ทำให้เซี่ยเหล่ยสบายใจขึ้นและหายใจได้อย่างไม่อึดอัด
“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร?” ซู่หลางถามออกไปอย่างหยาบคาย
เฉินตูเทียนหยินเหลือบมองไปที่ซู่หลางจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณคิดว่าคุณเป็นใคร? ฉันจำเป็นจะต้องตอบอย่างนั้นเหรอ? “
ในขณะนี้ตำรวจคนหนึ่งได้รีบวิ่งเข้าแล้วก็พูดขึ้นว่า “เจอเงินแล้ว!”
“ฮ่า ๆ ๆ !” ซู่หลางหัวเราะเสียงดัง
“เงินอยู่ที่ไหน?” ซู่หลางพูดอย่างหมดความอดทนและพูดต่อว่า “พาผมไปดูเดี๋ยวนี้!” จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่เซี่ยเหล่ยแล้วพูดอีกว่า “คุณ…ตามผมมา”
เซี่ยเหล่ยทำตามคำสั่งของเขาโดยไม่ขัดขืนจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “อืม…ขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยสารวัตซู่“
“หุบปาก แล้วเดินไปซะ” ซู่หลางพูดขึ้นและได้ผลักเซี่ยเหล่ยให้เดินไปพร้อมกันด้วย
เซี่ยเหล่ยไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เขาเดินไปพร้อมกับตำรวจเมื่อไปถึงหน้าประตูทางเข้าห้องพักและเปิดเข้าไปก็จะพบกับกองเงินยูโรกองอยู่บนพื้นอย่างมากมาย
ตำรวจที่ทำหน้าที่ในการควบคุมสุนัขดมกลิ่นได้แสดงออกอย่างแปลกๆ แล้วก็พูดขึ้นมาว่า “สารวิตซู่ …… เงินพวกนี้…… “
“เงินพวกนี้ทำไม?” ซู่หลางพูดขึ้น
ตำรวจควบคุมสุนัขดมกลิ่นยังไม่ทันได้พูดอธิบายอะไร แต่ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นแล้วเพราะตอนนี้ ซู่หลางได้หยิบมันขึ้นมาดูแล้วพบว่ามีเพียงแค่ด้านบนสุดเท่านั้นที่เป็นเงินจริง นอกจากนั้นเป็นของปลอมทั้งหมด
กู๋ดิงชานและเฮ่อจายหยิงที่เดินตามมาด้วย จู่ๆใบหน้าพวกเขาของพวกเขาซีดเผือดราวกับซากศพ
ซู่หลางได้หยิบเงินปลอมขึ้นมาจากพื้นใส่ในมือของตำรวจคนนั้นก่อนพูดขึ้นด้วยความโกรธว่า “คุณยังไม่ได้บอกว่าหาเงินเจอได้อย่างไร? บอกผมมาว่าเกิดอะไรขึ้น? “
ตำรวจคนนั้นพูดอย่างกังวลไปว่า “ตอนผมเจอผมรีบวิ่งไปบอกทันทีโดยยังไม่ได้ตรอจสอบให้ดีเสียก่อน”
“โง่!” ซู่หลางพูดด้วยความโกรธ
เซี่ยเหล่ยชี้ไปที่เฮ่อจายหยิงแล้วพูดอย่างรวดเร็วว่า “คุณโกหกและหลอกลวงผม”
เฮ่อจายหยิงพูดด้วยความโกรธไปว่า “คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน เงินที่ผมให้คุณเป็นเงินยูโรของจริง!”
เซี้ยเหล่ยชี้ไปที่เฮ่อจายหยิงแล้วพูดว่า “เงินยูโรเป็นแบบนี้อย่างนั้นเหรอ”
“คุณ…คุณ …… ” เฮ่อจายหยิง พูดอย่างตะกุกตะกักเพราะไม่รู้ว่าจะเถียงอย่างไรดี
กุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาตอนนี้ก็คือเงินจริง ถ้าเราพบเงินจริงปัญหาทุกอย่างก็จะถูกคลี่คลาย แต่ก็เป็นเรื่องยากมากแม้ว่าจะใช้สุนัขดมกลิ่นในการตามหาก็ยังไม่สามารถค้นหาได้
“พาเขากลับไปสอบสวน!” ซู่หลางที่กำลังโกรธและหงุดหงิดสั่งขึ้นอย่างกระทันหัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมที่จะทำการควบคุมตัวของเซี่ยเหล่ย
เฉินตูเทียนหยินได้เดินไปอยู่ด้านหน้าของเซี่ยเหล่ย จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยความโกรธว่า “ซู่หลาง….นี่มันจะมากเกินไปแล้ว คุณไม่มีเหตุผลหรือหลักฐานใดๆทั้งนั้น! แต่กลับจะควบคุมตัวเขา ถ้าเป็นแบบนี้…ฉันสัญญาเลยว่าฉันจะทำให้คุณออกจากงานให้ได้”
จู่ๆซู่หลางก็มีท่าทางตกใจ
“เทียนหยิน คุณกำลังขู่เขางั้นเหรอ?” กู๋ดิงชานพูดอย่างเงียบๆ จากนั้นก็พูดต่อว่า”สารวัตรซู่เขากก็ทำไปตามหน้าที่ เขาสามารถทำการสอบสวนได้หากว่าคนๆนั้นต้องสงสัยว่าทำผิดกฏหมาย”
นี่เป็นการพูดที่แสดงให้เห็นได้ว่าซู่หลางสามารถที่จะควบคุมตัวของเซี่ยเหล่ยเพื่อนำไปสอบสวนได้อย่างถูกต้อง !
“พากลับไปสอบสวนเดี๋ยวนี้!” ซู่หลางออกคำสั่งอีกครั้ง
“เดี๋ยวก่อน!” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างกระทันหันและพูดต่อว่า “ผู้ชายคนนี้ต้องไปกับฉัน”
ติดตามตอนต่อไป…………….