Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร – 471 คืนก่อนสังเวียนสุดท้าย

471 คืนก่อนสังเวียนสุดท้าย

  เมื่อกลางคืนมาถึงฝนก็หยุดตก เกาะที่เปียกฝนนั้นทั้งเฉอะแฉะและหนาวเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนยอดเขาที่มีลมเย็นยะเยือกจากทางเหนือพัดผ่าน อากาศตอนนี้หนาวราวกับทุกอย่างแทบกลายเป็นน้ำแข็งแต่ในขณะเดียวกัน ใกล้ๆกับหินก้อนใหญ่บนยอดเขากลับอุ่นสบาย

  คนสองคนกำลังซุกตัวเข้าหากันในพื้นที่แคบๆ พวกเขามีเพิงกันฝนแบบพิเศษที่กันลมหนาวได้อย่างดี เบื้องล่างของภูเขานั้นมืดสนิทไม่มีแสงไฟอย่างในเมือง ไฮยีน่าและอันซูฮยอนต่างอดทนได้อย่างน่าเหลือเชื่อ พวกเขาไม่เคลื่อนไหวจนกว่าจะเช้าตามที่วางแผนไว้ ความเงียบนั้นอาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่าอันซูฮยอนและไฮยีน่าได้ถอนกำลังไปแล้ว

  แต่เซี่ยเหล่ยรู้ดีว่านี่คือความสงบก่อนพายุมาถึงเท่านั้นเอง

   เหล่ย ฉันอยาก…  เจียงหยูยี่พูดเบาๆใน‘รัง’ อันแสนอบอุ่น

  เซี่ยเหล่ยถามโดยไม่ละสายตาไปจากสถานการณ์ข้างล่าง  อยากอะไร? 

   อยากไปชิ้งฉ่อง  เจียงหยูยี่ตอบพร้อมหน้าแดงระเรื่อ

  เซี่ยเหล่ยเขินเล็กๆ เขาเหลือบตามองไปขวามือ  คลานไปทำธุระของคุณทางขวานะ เดี๋ยวผมคุ้มกันให้ เสร็จแล้วก็มาเปลี่ยนกัน 

   คุณก็อยากเหรอ? 

   อือ บางทีทุกคนก็อยากไปแหละ  เซี่ยเหล่ยตอบ

  เจียงหยูยี่หัวเราะคิกคัก  ขนาดไปชิ้งฉ่องยังต้องมีคนคุ้มกันเลย น่าสนใจจัง งั้นฉันไปก่อน ห้ามแอบดูล่ะ 

   ผมไม่ดูหรอก 

  เจียงหยูยี่มุ่ยหน้า  คุณเคยแอบดูตอนป.3นะ ตอนป.6ก็ด้วย ไม่ต้องพูดถึงตอนอนุบาลเลย คุณแอบมองตั้งหลายครั้ง 

  เซี่ยเหล่ยพูดอะไรไม่ออก  เจียงหยูยี่ค่อยๆขยับออกไปจากที่กันฝนอย่างระมัดระวัง เมื่อเลือกที่เหมาะๆได้แล้วก็รูดซิปกางเกงขาดวิ่นกับชั้นในที่เซี่ยเหล่ยให้ยืมลง เสียงน้ำที่ไหลผ่านอากาศเย็นเฉียบนั่นทำเอาในหัวของอีกคนเต็มไปด้วยภาพจินตนาการ

  เซี่ยเหล่ยโดนภาพในหัวกระตุ้นเขานิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้หันไปมอง เขาพยายามตื่นตัวและส่องสำรวจพื้นที่เบื้องล่างต่อไป

   อ๊ะ!  จู่ๆเจียงหยูยี่ก็ร้องออกมา ก่อนจะรีบเอามือปิดปากกลั้นเสียงตัวเองไว้

   เกิดอะไรขึ้น?  ปฏิกิริยาแรกของเซี่ยเหล่ยที่ควรเป็นคือหันไปมอง แต่เขาไม่

   ง งู!  เธอตอบกลับเสียงสั่นเครือ

  เซี่ยเหล่ยอยู่เฉยไม่ได้อีกต่อไป เขาหันกลับไปมองเธอตรงๆ มันเป็นงูจริงๆ ทั้งยังมีสีที่ดูน่ากลัวและหัวเป็นทรงสามเหลี่ยม ลักษณะทั้งหมดของมันบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นงูพิษ และตอนนี้มันก็อยู่ระหว่างขาของเจียงหยูยี่เสียด้วย งูตัวนั้นสามารถกัดเธอได้ทุกเมื่อที่มันต้องการ

  เจียงหยูยี่กลัวแทบเป็นแทบตาย ขาที่พยุงตัวอยู่เริ่มจะอ่อนแรงแล้ว

  เซี่ยเหล่ยเริ่มวิตก

   ทำ ทำไงดี?  เจียงหยูยี่กำลังจะร้องไห้ แค่แมลงสาบเธอก็กลัวแย่แล้ว ยิ่งเป็นงูยิ่งแล้วใหญ่

   ไม่ต้องกลัว อย่าขยับนะ  เซี่ยเหล่ยค่อยๆคลานออกมาจากที่กันฝนไปหาอีกคน ก่อนจะยื่นมือออกไปที่งูตรงระหว่างขาเธอ

  งูพิษ มือที่กำลังยื่นออกไป กับขาทั้งสองของเจียงหยูยี่… นี่ช่างเป็นภาพที่มองตรงๆไม่ได้จริงๆ

  งูตัวนั้นไม่รู้สึกถึงมือเซี่ยเหล่ยที่ใกล้เข้ามา แต่มันกำลังล็อคเป้าไปที่เจียงหยูยี่อยู่

  แล้วเซี่ยเหล่ยก็จับหมับเข้าที่งู มันจึงม้วนตัวเข้าหาข้อมือเขา จากนั้นก็โดนเซี่ยเหล่ยเขวี้ยงมันลงจากเขาไป

  เมื่ออันตรายถูกจับโยนไปแล้ว เจียงหยูยี่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่วินาทีต่อมาเธอก็ร้องออกมาเบาๆ  อ อย่ามองนะ! 

   เราตกลงกันไว้ว่าไงนะ?  เซี่ยเหล่ยพยายามทำเรื่องนี้ให้เหมือนธุรกิจที่สุด  นี่ตาผมแล้ว 

  เจียงหยูยี่ถึงกับพูดไม่ออก

  เธอกลับมายังที่กันฝนแล้วยืนคุ้มกันเซี่ยเหล่ย แต่แล้วก็แอบมองในวินาทีต่อมา ระหว่างเธอมองเขาทำธุระไปก็อดหัวเราะคิกคักทั้งที่หน้าแดงอยู่ด้วยไม่ได้

  เซี่ยเหล่ยยักไหล่ รู้สึกอึดอัดสุดๆ  ผมทำธุระไม่ได้นะ ถ้าคุณยังมองอยู่ 

  เจียงหยู่ยี่ฮึดฮัดเล็กน้อย  ที่มองคุณเนี่ย ฉันไม่ได้สนใจอะไรมากหรอกน่า 

   งั้นคุณจะมองทำไมล่ะ? 

   ฉัน…  ในที่สุดเจียงหยูยี่ก็หันกลับมา แต่เพียง 2 วินาทีเธอก็ยังแอบหันกลับไปมองอยู่ดี

  แต่ครั้งนี้เธอกวนใจเซี่ยเหล่ยไม่ได้อีกแล้ว

  เมื่อกลับมายังที่กันฝน เซี่ยเหล่ยก็รีบสำรวจพื้นที่ข้างล่างทันที ตอนนี้ในป่ายังคงเงียบสนิทและไม่มีอะไรดูผิดปกติ แม้ความมืดจะปกคลุมรอบด้านแต่สายตาเซี่ยเหล่ยยังคงเห็นชัดเจนราวกับเป็นกลางวัน เขาเห็นแม้กระทั่งงูที่เขาจับโยนเมื่อครู่กำลังเลื้อยไปทางป่า

   เหล่ย คุณคิดว่าพวกเขาจะเริ่มโจมตีพรุ่งนี้เช้าเหรอ?  เจียงหยูยี่กระซิบถาม ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดหูทำเอาเซี่ยเหล่ยจั๊กจี้

  เขาเริ่มกังวลขึ้นมาอย่างประหลาด  ใช่ ถ้าผมคิดถูก พวกเขาจะเริ่มเคลื่อนไหวพรุ่งนี้เช้า 

   เราจะตายมั้ย? 

   ไม่ อย่าพูดอะไรอย่างนั้นสิ ผมจะพาคุณออกไปที่นี่ให้ได้  เซี่ยเหล่ยกล่าว ที่เขาพูดได้อย่างมั่นใจนั่นก็เพราะว่าเขามาที่นี่เพื่อฆ่าไม่ใช่เพื่อถูกฆ่า   ก็สมมุติไง 

   ไม่มีสมมุติ 

   อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ  เจียงหยูยี่ค้าน

  เซี่ยเหล่ยมองเธอด้วยความหงุดหงิด  คุณพยายามจะสื่ออะไร? 

  แต่จู่ๆเจียงหยูยี่ก็กอดเขา ดูเหมือนกับว่าเธอจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ไหวอีกแล้ว  ฉันยังไม่อยากตาย แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ฉันอยาก… อยากเป็นผู้หญิงของคุณก่อนตาย เหล่ย คุณช่วยท- ทำให้ฉันเป็นของคุณตอนนี้เลยได้มั้ย 

  เซี่ยเหล่ยนิ่งอึ้ง

  แต่ก่อนที่เขาจะได้ตอบอะไร เจียงหยูยี่ก็ขยับเข้ามาใกล้แล้วจูบเขาลงบนริมฝีปากเสียก่อน ปฏิกิริยาแรกของเซี่ยเหล่ยคือไม่ตอบโต้อะไร เพราะตอนนี้ทั้งคู่กำลังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อันตราย แต่ถึงอย่างนั้นเจียงหยูยี่ก็ดึงสถานการณ์ไปหมดแล้ว ทั้งความรักใคร่ริมฝีปากอันแสนเซ็กซี่และทุกๆอย่างของเธอกำลังเย้ายวนให้เซี่ยเหล่ยตัดสินใจ

  หลังจากยกหนึ่งของความรักใคร่ เซี่ยเหล่ยก็เริ่มกลับมามีเหตุผล เขาพูดด้วยเสียงสั่นเครือ  หยูยี่ เราทำแบบนี้ไม่ได้นะ เรายังอยู่ในสถานการณ์อันตราย 

  เจียงหยูยี่ก็หอบเช่นกัน  คุณอยู่ข้างบนนี่ คุณจะมองไม่เห็นข้างล่างเชียวเหรอ? 

  เซี่ยเหล่ยถึงกับพูดอะไรไม่ออก คำพูดเธออาจสื่อถึงตำแหน่งของเราตอนนี้ก็ได้ อีกทั้งเซี่ยเหล่ยก็หาเหตุผลมาแย้งไม่ออกแล้วเช่นกัน นอกจากนั้น เขาไม่อยากปฏิเสธอีกต่อไปในเมื่ออะไรๆมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว

   เหล่ย ฉันรอวันนี้มากว่า 20 ปีแล้วนะ ท- ทำให้ฉันเป็นของคุณที  เจียงหยูยี่วาดแขนโอบรอบคอเซี่ยเหล่ยก่อนจะดึงตัวเขาลงมาหาเธอ

  แม้ลมแรงของคืนนั้นจะหยุดพัดไปแล้ว แต่ที่กันฝนบนเขาก็ยังคงสั่นไหวอยู่ ทั้งยังสั่นค่อนข้างเป็นจังหวะเสียด้วย  เจียงหยูยี่เคยหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไปในใจเซี่ยเหล่ยเมื่อหลายปีก่อน และในที่สุดมันก็ได้หยั่งรากลึกและเติบโตขึ้นมาแล้ว สิ่งนี้มีค่ามากพอๆกับชีวิตเธอเลยก็ว่าได้ แค่มีเซี่ยเหล่ยก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วในโลกนี้ ทั้งในใจและร่างกายของเธอต่างเต็มไปด้วยเซี่ยเหล่ย ในช่วงเวลานั้นเจียงหยูยี่กำลังมีความสุข เป็นความสุขที่ยิ่งกว่าสุขจริงๆ

  บางครั้งเราก็ตัดใครออกไปจากชีวิตไม่ได้และในเมื่อมันเป็นแบบนั้น เซี่ยเหล่ยก็จะยอมรับมันแทนผลักไสออกไป 

  ภายในป่า อันซูฮยอนจ้องมองไปยังหินก้อนใหญ่บนยอดเขาอย่างละเอียดด้วยกล้องส่องทางไกล พลางพูดกับไฮยีน่า  คุณไฮยีน่า ถ้าเขาไม่เคลื่อนไหวภายใน 24 ชั่วโมง คุณคิดว่าเขาจะป่วยจริงๆรึเปล่า? 

   ฝนตกทั้งวันแถมเขาก็ตากฝนตลอดเวลาด้วยแม้แต่ผมเองก็คงแข็งแรงต่อไปไม่น่าไหวเหมือนกัน ผมบอกได้เลยว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริงเขาต้องป่วยแน่ๆ เขาจะเป็นไข้แล้วก็สู้เราไม่ไหวแน่นอน 

  รอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นบนมุมปากของอันซูฮยอน  ผมก็คิดแบบนั้น ที่นี่ทั้งหนาวแถมฝนตกตลอดวัน ต่อให้เป็นคนที่ร่างกายทำจากเหล็กก็คงไม่รอด เราจะโจมตีทันทีที่เห็นแสงอาทิตย์ ฆ่าเขากับผู้หญิงคนนั้นซะ แล้วไปจากที่นองเลือดนี่กันเถอะ 

   เตรียมคนของคุณให้พร้อม เอาไม้มากองไว้ให้ดีแล้วค่อยจุดไฟตอนรุ่งสาง เฮลิคอปเตอร์ของคุณจะได้ใช้สู้ด้วย เราจะใช้จัดการมันจากด้านบนไงล่ะ 

   มันไม่ได้สร้างมาเพื่อการต่อสู้โดยเฉพาะนะ ทำไมถึงเอามันมาใช้ล่ะ?  อันซูฮยอนถาม

   แผนที่รัดกุมและการเตรียมตัวให้พร้อมสรรพคือการรับรองชัยชนะที่เราจะได้ ผมเองก็ควรไปเตรียมตัวด้วยเหมือนกัน รอคำสั่งจากผมพรุ่งนี้เช้า จุดไฟแล้วโจมตี 

  อันซูฮยอนพยักหน้ารับ  ไฮยีน่าเดินเข้าไปในป่าและหายตัวไปอย่างรวดเร็ว

  หลังจากที่เขาไปแล้ว อันซูฮยอนก็ให้คนเอาไม้ไปกองไว้ที่ชายป่าใกล้กับ  เส้นตาย  ไม้บางท่อนก็แห้งบางท่อนก็ชื้น น้ำมันสำหรับจุดไฟก็พร้อมแล้วเช่นกัน เมื่อถึงเวลาพวกเขาก็แค่ราดน้ำมันแล้วจุดไฟให้เกิดกลุ่มควันหนาเท่านั้น

  ด้านชายหาด เฮลิคอปเตอร์พร้อมแล้ว มือปืนสองคนและนักบินกำลังรอคำสั่งจากอันซูฮยอนเพื่อบินขึ้นและโจมตีเซี่ยเหล่ยจากด้านบน

  ฝ่ายศัตรูกำลังเตรียมตัวกันอย่างดี ธนูถูกขึงให้ตึง ลูกธนูเองก็ถูกเตรียมไว้พร้อมแก่การยิงแล้ว

  แต่ด้านบนเขานั้นเป็นคนละเรื่องเลย

  แม้การต่อสู้ระหว่างเซี่ยเหล่ยและเจียงหยูยี่จะจบลงแล้ว แต่ทั้งสองคนก็ยังคงอยู่แนบชิดกัน รู้สึกถึงความใกล้ชิดของกันและกันโดยยังไม่อยากแยกจากไปไหน  เซี่ยเหล่ยมองเห็นคนของอันซูฮยอนเอาไม้มาวางกองแล้วแต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงแค่มองเห็นไม้พวกนั้นเซี่ยเหล่ยก็รู้ได้ถึงแผนของทั้งสองคนทันที และเขาไม่แคร์เลย เมื่อคนพวกนั้นจุดไฟแล้ว ควันนั่นอาจจะกระทบการมองเห็นของเซี่ยเหล่ยอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก ยิ่งเขาอยู่บนที่ที่สูงกว่าด้วยแล้ว ผลกระทบก็ยิ่งน้อยกว่าพวกมือปืนที่ต้องวิ่งฝ่าควันออกมาเสียอีก!

  เซี่ยเหล่ยมีตัวเก็บเสียงบนปืน XL2500 ทั้งยังยิงเป้าหมายที่อยู่ในควันได้ ถ้าพวกเขาเดินกระจายตัวกันในกลุ่มควัน ก็จะยิ่งไม่มีใครเห็นศพที่ถูกยิงทีละคนได้เลย!

   เขาตกเป็นเหยื่อความฉลาดของตัวเอง บางครั้งคนเราก็ควรทำอะไรให้มันง่ายๆบ้างนะ  เซี่ยเหล่ยพึมพำ

   คุณพูดว่าอะไรนะ?  เจียงหยูยี่ถามด้วยเสียงอ่อนแรงราวกับไปวิ่งมาราธอนมา

   ไม่มีอะไร  เซี่ยเหล่ยตอบ เขามองเข้าไปในตาเธอความคุ้นเคยนั่นความอบอุ่นนั้น ก็พลันเพิ่มขนาดขึ้นมา

  เจียงหยูยี่เริ่มอาย  ย ยังมองไม่พออีกเหรอ? 

  เซี่ยเหล่ยหัวเราะ ก่อนจะนึกเรื่องน่ากังวลบางเรื่องได้  หยูยี่ เราไม่ได้ใช้ถุงยางนะ เราจะทำยังไงดีถ้าคุณท้อง? 

  ปัญหานี้คงไม่มากวนใจถ้ามีร้านสะดวกซื้อสักร้านไปเปิดขายบนยอดเขานั่น

  เจียงหยูยี่คิดอยู่ครู่หนึ่ง  งั้นฉันก็จะเลี้ยงเด็กคนนั้นเอาไว้ แล้วก็ให้ใช้นามสกุลเจียง เฉินตูเทียนหยินจะได้ไม่รู้เรื่องของเรา 

  เซี่ยเหล่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมาเงียบๆ

   เหล่ย ฉันอยากทำอีก 

  และตอนนี้เขาก็พูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว……

 

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Status: Ongoing

เซี่ยเหล่ยสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็กเขาจึงต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อดิ้นรนเอาตัวรอดและสิ่งที่สำคัญเขาต้องเลี้ยงดูน้องสาวของเขา แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น

เขาประสบอุบัติเหตุในโรงงานซึ่งทำให้ตาของเขาบอดแต่หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลเขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าตาเขาไม่ได้บอดแต่มันมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา !!

ในตอนนี้เขากำลังจะใช้ความสามารถพิเศษที่เขาได้มาในทางชั่วร้ายเพื่อสร้างชีวิตของเขาและน้องสาวให้ดีขึ้นเหมือนคนอื่นๆ

เซี่ยเล๋ยจะประสบความสำเร็จในการทำสิ่งชั่วร้ายกับพลังที่เขาเพิ่งค้นพบหรือไม่ ?

ข้าจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของข้าเอง !!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท