Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร – 480 เยี่ยมชม ?

480 เยี่ยมชม ?

  เมื่อเซี่ยเหล่ยกลับมาที่ออฟฟิศ อเลน่าที่รู้ว่าเขากลับมาแล้วก็ตรงดิ่งมาที่ออฟฟิศของเซี่ยเหล่ยทันที เธอเข้ามากอดและจูบที่แก้มของเขา

  เซี่ยเหล่ยไม่ได้ว่าอะไรเธอเพราะเขาคุ้นเคยกับนิสัยของการทักทายแบบชาวตะวันตกของเธอแล้ว เขาหันไปยิ้มพร้อมกับพูดว่า  คุณเป็นยังไงบ้าง… หืม! 

  แต่เซี่ยเหล่ยยังไม่ทันจะได้พูดจบ อเลน่าก็คว้าตัวของเซี่ยเหล่ยก่อนจะดึงเข้ามาจูบที่ริมฝีปาก แค่นั้นยังไม่พอเธอยังใช้ลิ้นของตัวเองล้วงไปในริมฝีปากของเซี่ยเหล่ย ลิ้นของเธอชอนไชไปในปากของเขาราวกับปลาที่กำลังว่ายอยู่ในน้ำตื้น

  ในตอนแรกเซี่ยเหล่ยคิดที่จะผลักเธอออกไปแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ เขาปล่อยให้เธอทำอย่างที่เธอต้องการ นั่นก็เพราะเธอต้องอยู่ตัวคนเดียวในประเทศจีน เธอไม่มีแม้แต่ญาติพี่น้องที่นี่ เธอจึงค่อนข้างที่จะเหงา

  อย่างไรก็ตามหลังจากสองนาทีผ่านไป อเลน่าก็ปล่อยตัวเซี่ยเหล่ย ใบหน้าของเธอในตอนนี้เป็นสีแดงกร่ำการหายใจของเธอหอบเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเธอแสร้งทำเป็นเศร้าเสียใจก่อนจะพูดว่า  โอ้ ขอโทษนะลูคัส ฉันลืมไปว่าคุณแต่งงานแล้ว 

   อะแฮ่ม  เซี่ยเหล่ยกระแอมก่อนจะพูดว่า  เอาหล่ะ เรามาพูดถึงแผนการผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม Gust กันดีกว่า 

   โอเค ฉันได้ทำการเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นรวมไปถึงตัวอย่างของคุณด้วย  อเลน่าพูดพร้อมกับหันไปที่โต๊ะทำงานของเซี่ยเหล่ย บนโต๊ะมีกล่องพลาสติกวางเอาไว้อยู่

  อเลน่าเดินไปเปิดกล่องพลาสติกพร้อมกับหยิบตัวต้นแบบปืนไรเฟิลจู่โจม Gust ขึ้นมา

  อย่างไรก็ตามบนโต๊ะทำงานนอกจากปืนไรเฟิลแล้วยังมีหนังสือบางอย่างวางเอาไว้อยู่ด้วย

  ไม่จำเป็นต้องทดสอบปืนไรเฟิลจู่โจมตัวต้นแบบกระบอกนี้เพราะมันถูกสร้างขึ้นโดยเซี่ยเหล่ยและเขาได้ใช้มันในการต่อสู้จริงมาแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องการสำหรับการแสดงในงานนิทรรศการแสดงอาวุธท้องถิ่นคือแผนการจัดแสดงที่น่าสนใจ

   ดูตามแผนของฉัน มันเป็นภาษาเยอรมันแต่คุณควรจะอ่านมันซักหน่อย  อเลน่าพูดก่อนจะส่งหนังสือให้กับเซี่ยเหล่ย

  เซี่ยเหล่ยเปิดมันพร้อมกับอ่าน แผนการที่อเลน่าเขียนเอาไว้นั้นมีรายละเอียดที่ละเอียดมากทีเดียว มันครอบคลุมตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุ เครื่องจักร รวมไปถึงกำหนดวิธีการที่บุคลากรจำเป็นต้องเรียนรู้และใช้ในขั้นตอนการผลิตทุกขั้นตอน เธอได้คำนึงถึงทุกสิ่งที่สามารถจะบอกเล่าได้ตามความเหมาะสม มันแสดงให้เห็นว่าเธอได้ใช้ความพยายามไปกับแผนการนี้อย่างมาก

   มันเยี่ยมมากจริงๆ คุณต้องใช้เวลาในการเขียนมันไปเท่าไหร่กันเนี่ย  เซี่ยเหล่ยพูดชื่นชม

  อเลน่ายิ้มก่อนจะพูดว่า  ฉันเริ่มต้นทำตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราพูดถึงแผนการผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม ฉันใช้เวลาทั้งหมดโดยรวมแล้วประมาณหนึ่งเดือน มันทำให้ฉันเหนื่อยมากจริงๆ ดังนั้นคุณจะชดเชยความพยายามนี้ให้ฉันยังไงบ้างหล่ะ? 

  ประโยคของเธอดูเหมือนจะมีความหมายอื่นแอบแฝงอยู่ แม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะเข้าใจแต่ก็ไม่ได้ให้ในสิ่งที่เธอต้องการ

   อ้อใช่ ของเล่นที่ฉันขอให้คุณหามาให้ฉันหล่ะ ได้มาหรือยัง?  จู่ๆอเลน่าก็เปลี่ยนเรื่อง

  เซี่ยเหล่ยชะงักพร้อมกับหันไปหาเธอก่อนจะพูดอย่างประหลาดใจขึ้นว่า  นี่คุณพูดจริงจังอย่างนั้นเหรอ? 

  อเลน่ากางแขนทั้งสองข้างออกก่อนจะพูดอย่างผิดหวังว่า  ฉันจริงจังนะลูคัส ฉันไม่ได้ล้อเล่น เรื่องแค่นี้เองคุณจะช่วยฉันหน่อยไม่ได้อย่างนั้นเหรอ? 

  เซี่ยเหล่ยหัวเราะเจื่อนๆก่อนจะพูดว่า  อเลน่า ผู้ชายอย่างผมจะไปซื้อของแบบนั้นได้ยังไงหล่ะ…มันน่าอายเกินไป เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ฉันจะขอช่วยฉิงเสวียงไปซื้อให้ก็แล้วกัน เธอเองก็เป็นเหมือนกับพี่สาวของคุณนี่ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร เอาหล่ะ…ตอนนี้เรามาพูดถึงแผนการผลิตกันต่อดีกว่าไหม? ผมได้ยินข่าวที่น่าสนใจมา เราต้อง….  

  ก่อนที่เซี่ยเหล่ยจะพูดจบอเลน่าพูดแทรกทันทีว่า  ฉันไม่ต้องการให้ฉิงเสวียงซื้อของเล่นให้กับฉัน ฉันต้องการให้คุณซื้อให้เพราะถ้าคุณซื้อให้ฉันมันจะมาจากการเลือกของคุณ แต่เอาเถอะถ้าคุณจะไม่ซื้อให้ฉัน คุณก็ต้องมีอะไรกับฉันแทน 

  เซี่ยเหล่ยพูดอะไรไม่ออกทันที

  ทันใดนั้นอเลน่าก็เดินเข้าไปหาเซี่ยเหล่ยพร้อมกับดวงตาที่แสดงความต้องการอย่างชัดเจน เธอมองไปที่เซี่ยเหล่ยเหมือนกับว่าเซี่ยเหล่ยเป็นเค้กช็อกโอกแลตชิ้นหนึ่งที่อร่อยและเป็นที่โปรดปรานของเธอ

  ก่อนหน้านี้เซี่ยเหล่ยได้คุยกับเธอเรื่องการหมั้นของเขากับเฉินตูเทียนหยินให้เธอเข้าใจและยอมรับเรียบร้อยแล้ว แต่ดูเหมือนว่าในเวลานี้เธอจะไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้ว

  อเลน่าเดินเข้าใกล้กับเซี่ยเหล่ยมากขึ้นเรื่อยๆจนหน้าอกของทั้งคู่ชนกัน ทั้งคู่อยู่ใกล้กันมาก

  เซี่ยเหล่ยผละตัวออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดอย่างงุ่มง่ามว่า  อเลน่า เรามาพูดถึงแผนการผลิตกันดีกว่านะ นิทรรศการอาวุธที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้มีความสำคัญต่อโรงงานผลิตอาวุธของเราอย่างมาก เพราะถ้าเราประสบความสำเร็จในงานนี้ เราจะได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่จากทั่วทั้งโลก 

   คุณอ่านแผนที่ฉันเขียนไปแล้ว สิ่งที่เหลือที่เราต้องทำคือการจัดการกับพนักงาน เราต้องกำชับพวกเขาให้ทำตามแผนที่วางไว้ ฉันได้ทำทุกอย่างที่เราควรจะทำไปแล้วดังนั้นคุณต้องการจะพูดเรื่องอะไรอีกงั้นเหรอ?  อเลน่าพูดพร้อมขยับเข้าไปใกล้อีกครั้ง

  เซี่ยเหล่ยปวดหัวและไม่รู้ว่าจะจัดการกับเธอย่างไรดี เขาเอาแต่คิดว่าทำไมเธอถึงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด ทำไมเธอถึงไม่ยอมจบความสัมพันธ์กับเขาเสียที

  คนที่ปวดหัวกับเรื่องผู้หญิงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเซี่ยเหล่ย

  จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ด้านนอกประตูออฟฟิศ

   มีคนกำลังมา!  เซี่ยเหล่ยรีบพูดก่อนจะเดินถอยออกมาให้ห่างจากอเลน่า

  อเลน่าไม่ได้เดินเข้าไปหาเซี่ยเหล่ยอีกครั้ง เธอมองไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

  เป็นลู่เชิงที่ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูออฟฟิศของเซี่ยเหล่ย เขาเข้ามาพร้อมกับพูดว่า  ผู้อำนวยการเซี่ย ที่หน้าประตูตอนนี้มีผู้อ้างตัวว่าจะเข้าเยี่ยมชมโรงงานของเรา ผมได้กันพวกเขาเอาไว้ก่อน แต่น่าจะได้แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น ผมอยากให้คุณไปดูที่นั่นหน่อย 

   เยี่ยมชมงั้นเหรอ?  เซี่ยเหล่ยพูดก่อนจะถามด้วยความสงสัยว่า  พวกเขาเป็นใคร? 

   ส่วนใหญ่เป็นทหาร แต่ก็มีบางคนที่แต่งตัวด้วยชุดลำลอง พวกเขาดูเหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่อะไรซักอย่าง  ลู่เชิงพูดก่อนจะพูดเสริมอีกนิดว่า  อ้อใช่แล้ว ชายชราที่เป็นแกนนำที่ก่อปัญหาครั้งก่อนก็รวมอยู่ในกลุ่มด้วยเช่นกัน 

  ชายชราที่ลู่เชิงพูดถึงนี้คือมู๋เจียนเฟิง เขาคือหัวหน้าของกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีน เซี่ยเหล่ยเริ่มจะเข้าใจสถานการณ์ทันทีเขาจึงพูดขึ้นว่า  เอาหล่ะ เราไปดูกันหน่อยดีกว่า ส่วนอเลน่า…คุณน่าจะกลับไปพักที่วิลล่าซักหน่อยนะ 

   ทำไมหล่ะ?  อเลน่าพูดเพราะเธอไม่ได้ต้องการที่จะกลับไปพัก เธอต้องการที่จะอยู่กับเซี่ยเหล่ย

   คนเหล่านั้นไม่ใช่กลุ่มคนที่ดีหรอกนะ ด้วยสถานะของคุณที่ไม่ควรจะเจอใครอยู่แล้วด้วยยิ่งเป็นพวกคนกลุ่มนั้นยิ่งต้องหลีกเลี่ยงเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นกลับไปพักผ่อนซะ  เซี่ยเหล่ยอธิบาย

   ถ้าอย่างนั้นอย่าลืมซื้อของเล่นให้กับฉันด้วยหล่ะ  อเลน่าพูดทิ้งท้าย

  เซี่ยเหล่ยรู้สึกอายเล็กน้อยแต่อย่างไรเขาก็พยักหน้าให้กับเธอ

  ใบหน้าของลู่เชิงแสดงออกถึงความสงสัยอย่างชัดเจน เขาถามเซี่ยเหล่ยทันทีว่า  ผู้อำนวยการเซี่ย เซี่ยเหม่ยก็โตแล้วนี่ ทำไมเธอยังต้องการของเล่นอีกหล่ะ? 

  ภาพของเล่นของผู้ใหญ่ผุดขึ้นมาในหัวของเซี่ยเหล่ยทันที มันเป็นภาพที่แปลกและน่าอาย อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยสลัดความคิดนั้นก่อนที่จะพูดขึ้นว่า  เธอก็แค่ต้องการย้อนวัยเท่านั้นแหละ ผมเองก็ชอบของเล่นนะ อย่างพวกหุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์อะไรจำพวกนี้ คุณต้องการมันบ้างมั้ยหล่ะ ผมจะได้ซื้อมาเผื่อคุณด้วยหนึ่งตัว 

   ผมเหรอ? ไม่ดีกว่า  ลู่เชิงพูดพร้อมกับส่ายหน้า

  พูดจบพวกเขาก็เดินไปที่หน้าประตูโรงงานทันที

  ทันทีที่ถึงประตูหน้าของโรงงาน เซี่ยเหล่ยก็เห็นชายสวมเครื่องแบบทหารหลายคน และมีอีกหลายคนที่สวมชุดลำลอง ด้านหลังของเขามีรถทหารจอดอยู่อีกด้วย โดยรวมแล้วพวกเขามากันเยอะจริงๆ

  เซี่ยเหล่ยเห็นมู่เจียนเฟิงใส่ชุดทหารอยู่ในกลุ่มของคนเหล่านั้นด้วย เขาสูงและผอมจึงทำให้เห็นได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังมีเย่คุนจากบริษัทฮั่นอีกด้วย เขาสวมชุดลำลองและยืนอยู่กับกลุ่มคนที่สวมชุดลำลอง

  ‘เราเพิ่งได้รับข่าวการจัดนิทรรศการอาวุธท้องถิ่น การที่มู๋เจียนเฟิงและเย่คุนมาที่นี่ในวันนี้ พวกเขาต้องการมาสอดแนมสินะ?’ เซี่ยเหล่ยคิดในใจ

  มีความเป็นไปได้สูง!

  แม้ว่าโรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ยในตอนนี้จะยังเป็นเพียงโรงงานขนาดเล็กเมื่อเทียบกับกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนและบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่น แต่มันก็สามารถคุกคามและทำให้พวกเขาหวั่นเกรงได้มากทีเดียว ดังนั้นแม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะไม่ได้เชิญให้พวกเขามา แต่พวกเขาก็จะหาทางมาด้วยตัวเองเพื่อสอดแนมอยู่แล้ว ไม่วันใดก็วันหนึ่งซึ่งมันก็คือวันนี้!

   โอ้ นี่ประธานมู๋เจียนเฟิงแห่งกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนและประธานเย่คุนแห่งบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นไม่ใช่หรอ? ลมอะไรหอบพวกคุณมาที่โรงงานผลิตอาวุธของผมกันหล่ะ  เซี่ยเหล่ยพูดด้วยรอยยิ้มแต่น้ำเสียงแอบแฝงความแดกดัน

  มีทหารอีกหลายนายยืนอยู่นอกประตูทางเข้า เซี่ยเหล่ยเลือกที่จะไม่ทักทายทหารเหล่านั้นเพราะรู้ว่าพวกเขาเป็นเพียงผู้ติดตามของมู๋เจียนเฟิงและเย่คุน

   ผู้อำนวยการเซี่ย นี่มันอะไรกัน  มู๋เจียนเฟิงพูด ก่อนจะพูดต่ออีกว่า  เรามาเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาวุธของคุณ แต่คนของคุณกลับไม่ให้เราเข้าไป 

   พวกคุณทั้งหมดมาเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาวุธของผมอย่างนั้นเหรอ?  เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้วพร้อมกับทวนคำพูดของมู๋เจียนเฟิงก่อนจะพูดต่อว่า  ประธานมู๋ ผมไม่ได้เชิญคุณมานี่….หืม… ผมจำเป็นต้องต้อนรับคุณด้วยงั้นเหรอ? 

  มู๋เจียนเฟิงไม่ได้มีท่าทางตกใจกับคำพูดของเซี่ยเหล่ยแต่อย่างใด

  ทั้งสองฝ่ายแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ใช่เพื่อนที่ดีต่อกัน สถานะของพวกเขาคือคู่แข่งและคู่ต่อสู้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมู๋เจียนเฟิงถึงไม่ตกใจกับคำพูดของเซี่ยเหล่ยซักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามเขาหยิบเอกสารบางอย่างขึ้นมาก่อนจะแสดงต่อหน้าของเซี่ยเหล่ยพร้อมกับพูดขึ้นว่า  เอกสารนี้ออกโดยแผนกอุปกรณ์(Equipment Department) คุณกำลังผลิตอาวุธโดยรับเงินสนับสนุนจากและรับเงินจากแผนกอุปกรณ์ ในฐานะที่ผมเป็นส่วนหนึ่งของแผนกอุปกรณ์ผมจึงมีสิทธิที่จะเยี่ยมชมที่นี่ 

   โอเค ผมเข้าใจแล้ว เชิญพวกคุณเข้ามาได้  เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมหันไปมองลู่เชิงเพื่อให้เขาจัดการเปิดเส้นทาง

  อย่างไรก็ตามหลังจากที่ลู่เชิงสั่งการให้เปิดทาง เซี่ยเหล่ยก็เดินเข้าไปหาเขาพร้อมกับกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูของลู่เชิง ส่วนลู่เชิงก็พยักหน้าพร้อมกับวิ่งไปที่ออฟฟิศทันที

  ลู่เชิงและลูกน้องของเขาเรีบวิ่งเข้าไปที่ออฟฟิศของเซี่ยเหล่ย ก่อนที่จะจัดการเก็บกวาดเอกสารต่างๆที่วางไว้บนโต๊ะออกไป เพราะเซี่ยเหล่ยไม่ต้องการให้มู๋เจียนเฟิงและเย่คุนเห็นเอกสารเหล่านั้น

  อย่างไรก็ตามมู่เจียนเฟิงและเย่คุนได้หันมาสบตากันหนึ่งครั้งหลังจากที่เห็นว่าลู่เชิงกระซิบกับเซี่ยเหล่ยและวิ่งออกไป

  เซี่ยเหล่ยเดินนำพวกเขาทั้งหมดพร้อมกับพูดว่า  ผมจะเป็นไกด์ให้กับพวกคุณเอง ก่อนอื่นผมต้องขอต้อนรับผู้บริหารทุกท่านเข้าสู่โรงงานผลิตอาวุธที่ต่ำต้อยของผม ผมขอเป็นตัวแทนแทนพนักงานทั้งหมดต้อนรับทุกๆท่าน 

  ไม่มีใครตอบสนองคำพูดของเซี่ยเหล่ยแม้แต่คนเดียว พวกเขาล้วนแต่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับมองไปที่เซี่ยเหล่ย

  เซี่ยเหล่ยแสร้งทำเป็นไม่เห็นก่อนที่จะพูดต่อว่า  เป็นเรื่องดีที่พวกคุณทุกคนมาเยี่ยมโรงงานผลิตอาวุธของผม แต่ถึงอย่างนั้นผมจะขอบอกก่อนเลยว่าที่นี่ก็มีกฎระเบียบที่ต้องรักษาและปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ยกตัวอย่างเช่นจะไม่มีการถ่ายรูปไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม ห้ามคุยหรือสอบถามกับพนักงานของโรงงานเพราะมันจะส่งผลกระทบต่อเวลาการทำงานและสมาธิของพวกเขา อ้อใช่แล้ว…ก่อนอื่นผมจะพาพวกคุณไปยังโรงอาหารของเราก่อน โรงอาหารของเราสะอาดและถูกหลักอนามัยมาก กระเบื้องที่นั่นสะอาดจนสามารถสะท้อนภาพของคุณได้เลยหล่ะ ถ้าไม่เชื่อก็สามารถไปดูได้นะ    พวกเขาต่างมองหน้าซึ่งกันและกันด้วยใบหน้าที่เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจและกำลังโกรธ

  อย่างไรก็ตามพวกเขาเดินตามเซี่ยเหล่ยไปเรื่อยๆ

   หลังจากไปโรงอาหาร ผมจะพาทุกคนไปที่หอพักของพนักงานแต่จะไม่สามารถเข้าเยี่ยมชมหอพักของพนักงานหญิงได้แต่ถ้าพวกคุณต้องการผมยินดีที่จะทำลายกฎระเบียบข้อนี้ให้  เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมหัวเราะก่อนจะพูดต่อว่า  ผมจะบอกพวกคุณทุกคนไว้ก่อนเลยว่าพนักงานหญิงของโรงงานผลิตอาวุธของผมทั้งยังเด็กและสวยมากอีกด้วย พวกคุณจะต้อง…  

  มู่เจียนเฟิงทนฟังไม่ได้ เขาจึงหยุดเดินขณะเดียวกันทุกคนที่ตามหลังเขาก็หยุดเดินเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยสายตาที่ไม่พอใจ

  เซี่ยเหล่ยเองก็หยุดเดินพร้อมกับหันไปพูดกับพวกเขาว่า  ทำไมถึงหยุดเดินกันหล่ะ โรงอาหารของเราอยู่ข้างหน้านี้เอง อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น 

  มู่เจียนเฟิงพูดอย่างไม่พอใจไปว่า   เซี่ยเหล่ย! คุณจะพาพวกเราไปดูสถานที่พวกนั้นทำไม? คุณคิดว่าพวกเรามาเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาวุธของคุณเพราะต้องการจะดูความเรียบร้อยของโรงอาหารและหอพักอย่างนั้นเหรอ? 

  เซี่ยเหล่ยถามกลับทันทีว่า  งั้นพวกคุณต้องการจะเยี่ยมชมที่ไหนกันหล่ะ? 

   ส่วนของสายการผลิตและคลังสินค้า!  มู๋เจียนเฟิงพูดเน้นสองสถานที่นี้

  เย่คุนเองก็พูดเสริมว่า  รวมถึงแผนกวิจัยและพัฒนาด้วย 

   ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนี่ เอกสารที่คุณนำมานั้นไม่ได้ระบุไว้ซักหน่อยที่ว่าคุณจะเข้าเยี่ยมชมที่ไหนบ้าง ดังนั้นผมจึงจัดการทุกๆอย่างให้ยังไงหล่ะ มันไม่ได้มีอะไรผิดเลยนี่ ผมก็ให้คุณเข้าเยี่ยมชมตามความเหมาะสมที่ผมคิดเอาไว้ก็เท่านั้นเอง…..  เซี่ยเหล่ยตอบ

 

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Tranxending Vision – เนตรเนรมิตร

Status: Ongoing

เซี่ยเหล่ยสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็กเขาจึงต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อดิ้นรนเอาตัวรอดและสิ่งที่สำคัญเขาต้องเลี้ยงดูน้องสาวของเขา แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น

เขาประสบอุบัติเหตุในโรงงานซึ่งทำให้ตาของเขาบอดแต่หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลเขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าตาเขาไม่ได้บอดแต่มันมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา !!

ในตอนนี้เขากำลังจะใช้ความสามารถพิเศษที่เขาได้มาในทางชั่วร้ายเพื่อสร้างชีวิตของเขาและน้องสาวให้ดีขึ้นเหมือนคนอื่นๆ

เซี่ยเล๋ยจะประสบความสำเร็จในการทำสิ่งชั่วร้ายกับพลังที่เขาเพิ่งค้นพบหรือไม่ ?

ข้าจะเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของข้าเอง !!!!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท