เมื่อเซี่ยเหล่ยกลับมาที่ออฟฟิศ อเลน่าที่รู้ว่าเขากลับมาแล้วก็ตรงดิ่งมาที่ออฟฟิศของเซี่ยเหล่ยทันที เธอเข้ามากอดและจูบที่แก้มของเขา
เซี่ยเหล่ยไม่ได้ว่าอะไรเธอเพราะเขาคุ้นเคยกับนิสัยของการทักทายแบบชาวตะวันตกของเธอแล้ว เขาหันไปยิ้มพร้อมกับพูดว่า คุณเป็นยังไงบ้าง… หืม!
แต่เซี่ยเหล่ยยังไม่ทันจะได้พูดจบ อเลน่าก็คว้าตัวของเซี่ยเหล่ยก่อนจะดึงเข้ามาจูบที่ริมฝีปาก แค่นั้นยังไม่พอเธอยังใช้ลิ้นของตัวเองล้วงไปในริมฝีปากของเซี่ยเหล่ย ลิ้นของเธอชอนไชไปในปากของเขาราวกับปลาที่กำลังว่ายอยู่ในน้ำตื้น
ในตอนแรกเซี่ยเหล่ยคิดที่จะผลักเธอออกไปแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ เขาปล่อยให้เธอทำอย่างที่เธอต้องการ นั่นก็เพราะเธอต้องอยู่ตัวคนเดียวในประเทศจีน เธอไม่มีแม้แต่ญาติพี่น้องที่นี่ เธอจึงค่อนข้างที่จะเหงา
อย่างไรก็ตามหลังจากสองนาทีผ่านไป อเลน่าก็ปล่อยตัวเซี่ยเหล่ย ใบหน้าของเธอในตอนนี้เป็นสีแดงกร่ำการหายใจของเธอหอบเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเธอแสร้งทำเป็นเศร้าเสียใจก่อนจะพูดว่า โอ้ ขอโทษนะลูคัส ฉันลืมไปว่าคุณแต่งงานแล้ว
อะแฮ่ม เซี่ยเหล่ยกระแอมก่อนจะพูดว่า เอาหล่ะ เรามาพูดถึงแผนการผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม Gust กันดีกว่า
โอเค ฉันได้ทำการเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นรวมไปถึงตัวอย่างของคุณด้วย อเลน่าพูดพร้อมกับหันไปที่โต๊ะทำงานของเซี่ยเหล่ย บนโต๊ะมีกล่องพลาสติกวางเอาไว้อยู่
อเลน่าเดินไปเปิดกล่องพลาสติกพร้อมกับหยิบตัวต้นแบบปืนไรเฟิลจู่โจม Gust ขึ้นมา
อย่างไรก็ตามบนโต๊ะทำงานนอกจากปืนไรเฟิลแล้วยังมีหนังสือบางอย่างวางเอาไว้อยู่ด้วย
ไม่จำเป็นต้องทดสอบปืนไรเฟิลจู่โจมตัวต้นแบบกระบอกนี้เพราะมันถูกสร้างขึ้นโดยเซี่ยเหล่ยและเขาได้ใช้มันในการต่อสู้จริงมาแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องการสำหรับการแสดงในงานนิทรรศการแสดงอาวุธท้องถิ่นคือแผนการจัดแสดงที่น่าสนใจ
ดูตามแผนของฉัน มันเป็นภาษาเยอรมันแต่คุณควรจะอ่านมันซักหน่อย อเลน่าพูดก่อนจะส่งหนังสือให้กับเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยเปิดมันพร้อมกับอ่าน แผนการที่อเลน่าเขียนเอาไว้นั้นมีรายละเอียดที่ละเอียดมากทีเดียว มันครอบคลุมตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุ เครื่องจักร รวมไปถึงกำหนดวิธีการที่บุคลากรจำเป็นต้องเรียนรู้และใช้ในขั้นตอนการผลิตทุกขั้นตอน เธอได้คำนึงถึงทุกสิ่งที่สามารถจะบอกเล่าได้ตามความเหมาะสม มันแสดงให้เห็นว่าเธอได้ใช้ความพยายามไปกับแผนการนี้อย่างมาก
มันเยี่ยมมากจริงๆ คุณต้องใช้เวลาในการเขียนมันไปเท่าไหร่กันเนี่ย เซี่ยเหล่ยพูดชื่นชม
อเลน่ายิ้มก่อนจะพูดว่า ฉันเริ่มต้นทำตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราพูดถึงแผนการผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม ฉันใช้เวลาทั้งหมดโดยรวมแล้วประมาณหนึ่งเดือน มันทำให้ฉันเหนื่อยมากจริงๆ ดังนั้นคุณจะชดเชยความพยายามนี้ให้ฉันยังไงบ้างหล่ะ?
ประโยคของเธอดูเหมือนจะมีความหมายอื่นแอบแฝงอยู่ แม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะเข้าใจแต่ก็ไม่ได้ให้ในสิ่งที่เธอต้องการ
อ้อใช่ ของเล่นที่ฉันขอให้คุณหามาให้ฉันหล่ะ ได้มาหรือยัง? จู่ๆอเลน่าก็เปลี่ยนเรื่อง
เซี่ยเหล่ยชะงักพร้อมกับหันไปหาเธอก่อนจะพูดอย่างประหลาดใจขึ้นว่า นี่คุณพูดจริงจังอย่างนั้นเหรอ?
อเลน่ากางแขนทั้งสองข้างออกก่อนจะพูดอย่างผิดหวังว่า ฉันจริงจังนะลูคัส ฉันไม่ได้ล้อเล่น เรื่องแค่นี้เองคุณจะช่วยฉันหน่อยไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?
เซี่ยเหล่ยหัวเราะเจื่อนๆก่อนจะพูดว่า อเลน่า ผู้ชายอย่างผมจะไปซื้อของแบบนั้นได้ยังไงหล่ะ…มันน่าอายเกินไป เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ฉันจะขอช่วยฉิงเสวียงไปซื้อให้ก็แล้วกัน เธอเองก็เป็นเหมือนกับพี่สาวของคุณนี่ ดังนั้นไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร เอาหล่ะ…ตอนนี้เรามาพูดถึงแผนการผลิตกันต่อดีกว่าไหม? ผมได้ยินข่าวที่น่าสนใจมา เราต้อง….
ก่อนที่เซี่ยเหล่ยจะพูดจบอเลน่าพูดแทรกทันทีว่า ฉันไม่ต้องการให้ฉิงเสวียงซื้อของเล่นให้กับฉัน ฉันต้องการให้คุณซื้อให้เพราะถ้าคุณซื้อให้ฉันมันจะมาจากการเลือกของคุณ แต่เอาเถอะถ้าคุณจะไม่ซื้อให้ฉัน คุณก็ต้องมีอะไรกับฉันแทน
เซี่ยเหล่ยพูดอะไรไม่ออกทันที
ทันใดนั้นอเลน่าก็เดินเข้าไปหาเซี่ยเหล่ยพร้อมกับดวงตาที่แสดงความต้องการอย่างชัดเจน เธอมองไปที่เซี่ยเหล่ยเหมือนกับว่าเซี่ยเหล่ยเป็นเค้กช็อกโอกแลตชิ้นหนึ่งที่อร่อยและเป็นที่โปรดปรานของเธอ
ก่อนหน้านี้เซี่ยเหล่ยได้คุยกับเธอเรื่องการหมั้นของเขากับเฉินตูเทียนหยินให้เธอเข้าใจและยอมรับเรียบร้อยแล้ว แต่ดูเหมือนว่าในเวลานี้เธอจะไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้ว
อเลน่าเดินเข้าใกล้กับเซี่ยเหล่ยมากขึ้นเรื่อยๆจนหน้าอกของทั้งคู่ชนกัน ทั้งคู่อยู่ใกล้กันมาก
เซี่ยเหล่ยผละตัวออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดอย่างงุ่มง่ามว่า อเลน่า เรามาพูดถึงแผนการผลิตกันดีกว่านะ นิทรรศการอาวุธที่จะจัดขึ้นในเร็วๆนี้มีความสำคัญต่อโรงงานผลิตอาวุธของเราอย่างมาก เพราะถ้าเราประสบความสำเร็จในงานนี้ เราจะได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่จากทั่วทั้งโลก
คุณอ่านแผนที่ฉันเขียนไปแล้ว สิ่งที่เหลือที่เราต้องทำคือการจัดการกับพนักงาน เราต้องกำชับพวกเขาให้ทำตามแผนที่วางไว้ ฉันได้ทำทุกอย่างที่เราควรจะทำไปแล้วดังนั้นคุณต้องการจะพูดเรื่องอะไรอีกงั้นเหรอ? อเลน่าพูดพร้อมขยับเข้าไปใกล้อีกครั้ง
เซี่ยเหล่ยปวดหัวและไม่รู้ว่าจะจัดการกับเธอย่างไรดี เขาเอาแต่คิดว่าทำไมเธอถึงไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด ทำไมเธอถึงไม่ยอมจบความสัมพันธ์กับเขาเสียที
คนที่ปวดหัวกับเรื่องผู้หญิงมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเซี่ยเหล่ย
จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ด้านนอกประตูออฟฟิศ
มีคนกำลังมา! เซี่ยเหล่ยรีบพูดก่อนจะเดินถอยออกมาให้ห่างจากอเลน่า
อเลน่าไม่ได้เดินเข้าไปหาเซี่ยเหล่ยอีกครั้ง เธอมองไปที่เซี่ยเหล่ยอย่างไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
เป็นลู่เชิงที่ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูออฟฟิศของเซี่ยเหล่ย เขาเข้ามาพร้อมกับพูดว่า ผู้อำนวยการเซี่ย ที่หน้าประตูตอนนี้มีผู้อ้างตัวว่าจะเข้าเยี่ยมชมโรงงานของเรา ผมได้กันพวกเขาเอาไว้ก่อน แต่น่าจะได้แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น ผมอยากให้คุณไปดูที่นั่นหน่อย
เยี่ยมชมงั้นเหรอ? เซี่ยเหล่ยพูดก่อนจะถามด้วยความสงสัยว่า พวกเขาเป็นใคร?
ส่วนใหญ่เป็นทหาร แต่ก็มีบางคนที่แต่งตัวด้วยชุดลำลอง พวกเขาดูเหมือนจะเป็นเจ้าหน้าที่อะไรซักอย่าง ลู่เชิงพูดก่อนจะพูดเสริมอีกนิดว่า อ้อใช่แล้ว ชายชราที่เป็นแกนนำที่ก่อปัญหาครั้งก่อนก็รวมอยู่ในกลุ่มด้วยเช่นกัน
ชายชราที่ลู่เชิงพูดถึงนี้คือมู๋เจียนเฟิง เขาคือหัวหน้าของกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีน เซี่ยเหล่ยเริ่มจะเข้าใจสถานการณ์ทันทีเขาจึงพูดขึ้นว่า เอาหล่ะ เราไปดูกันหน่อยดีกว่า ส่วนอเลน่า…คุณน่าจะกลับไปพักที่วิลล่าซักหน่อยนะ
ทำไมหล่ะ? อเลน่าพูดเพราะเธอไม่ได้ต้องการที่จะกลับไปพัก เธอต้องการที่จะอยู่กับเซี่ยเหล่ย
คนเหล่านั้นไม่ใช่กลุ่มคนที่ดีหรอกนะ ด้วยสถานะของคุณที่ไม่ควรจะเจอใครอยู่แล้วด้วยยิ่งเป็นพวกคนกลุ่มนั้นยิ่งต้องหลีกเลี่ยงเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นกลับไปพักผ่อนซะ เซี่ยเหล่ยอธิบาย
ถ้าอย่างนั้นอย่าลืมซื้อของเล่นให้กับฉันด้วยหล่ะ อเลน่าพูดทิ้งท้าย
เซี่ยเหล่ยรู้สึกอายเล็กน้อยแต่อย่างไรเขาก็พยักหน้าให้กับเธอ
ใบหน้าของลู่เชิงแสดงออกถึงความสงสัยอย่างชัดเจน เขาถามเซี่ยเหล่ยทันทีว่า ผู้อำนวยการเซี่ย เซี่ยเหม่ยก็โตแล้วนี่ ทำไมเธอยังต้องการของเล่นอีกหล่ะ?
ภาพของเล่นของผู้ใหญ่ผุดขึ้นมาในหัวของเซี่ยเหล่ยทันที มันเป็นภาพที่แปลกและน่าอาย อย่างไรก็ตามเซี่ยเหล่ยสลัดความคิดนั้นก่อนที่จะพูดขึ้นว่า เธอก็แค่ต้องการย้อนวัยเท่านั้นแหละ ผมเองก็ชอบของเล่นนะ อย่างพวกหุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์อะไรจำพวกนี้ คุณต้องการมันบ้างมั้ยหล่ะ ผมจะได้ซื้อมาเผื่อคุณด้วยหนึ่งตัว
ผมเหรอ? ไม่ดีกว่า ลู่เชิงพูดพร้อมกับส่ายหน้า
พูดจบพวกเขาก็เดินไปที่หน้าประตูโรงงานทันที
ทันทีที่ถึงประตูหน้าของโรงงาน เซี่ยเหล่ยก็เห็นชายสวมเครื่องแบบทหารหลายคน และมีอีกหลายคนที่สวมชุดลำลอง ด้านหลังของเขามีรถทหารจอดอยู่อีกด้วย โดยรวมแล้วพวกเขามากันเยอะจริงๆ
เซี่ยเหล่ยเห็นมู่เจียนเฟิงใส่ชุดทหารอยู่ในกลุ่มของคนเหล่านั้นด้วย เขาสูงและผอมจึงทำให้เห็นได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังมีเย่คุนจากบริษัทฮั่นอีกด้วย เขาสวมชุดลำลองและยืนอยู่กับกลุ่มคนที่สวมชุดลำลอง
‘เราเพิ่งได้รับข่าวการจัดนิทรรศการอาวุธท้องถิ่น การที่มู๋เจียนเฟิงและเย่คุนมาที่นี่ในวันนี้ พวกเขาต้องการมาสอดแนมสินะ?’ เซี่ยเหล่ยคิดในใจ
มีความเป็นไปได้สูง!
แม้ว่าโรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ยในตอนนี้จะยังเป็นเพียงโรงงานขนาดเล็กเมื่อเทียบกับกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนและบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่น แต่มันก็สามารถคุกคามและทำให้พวกเขาหวั่นเกรงได้มากทีเดียว ดังนั้นแม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะไม่ได้เชิญให้พวกเขามา แต่พวกเขาก็จะหาทางมาด้วยตัวเองเพื่อสอดแนมอยู่แล้ว ไม่วันใดก็วันหนึ่งซึ่งมันก็คือวันนี้!
โอ้ นี่ประธานมู๋เจียนเฟิงแห่งกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมจีนและประธานเย่คุนแห่งบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นไม่ใช่หรอ? ลมอะไรหอบพวกคุณมาที่โรงงานผลิตอาวุธของผมกันหล่ะ เซี่ยเหล่ยพูดด้วยรอยยิ้มแต่น้ำเสียงแอบแฝงความแดกดัน
มีทหารอีกหลายนายยืนอยู่นอกประตูทางเข้า เซี่ยเหล่ยเลือกที่จะไม่ทักทายทหารเหล่านั้นเพราะรู้ว่าพวกเขาเป็นเพียงผู้ติดตามของมู๋เจียนเฟิงและเย่คุน
ผู้อำนวยการเซี่ย นี่มันอะไรกัน มู๋เจียนเฟิงพูด ก่อนจะพูดต่ออีกว่า เรามาเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาวุธของคุณ แต่คนของคุณกลับไม่ให้เราเข้าไป
พวกคุณทั้งหมดมาเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาวุธของผมอย่างนั้นเหรอ? เซี่ยเหล่ยขมวดคิ้วพร้อมกับทวนคำพูดของมู๋เจียนเฟิงก่อนจะพูดต่อว่า ประธานมู๋ ผมไม่ได้เชิญคุณมานี่….หืม… ผมจำเป็นต้องต้อนรับคุณด้วยงั้นเหรอ?
มู๋เจียนเฟิงไม่ได้มีท่าทางตกใจกับคำพูดของเซี่ยเหล่ยแต่อย่างใด
ทั้งสองฝ่ายแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ใช่เพื่อนที่ดีต่อกัน สถานะของพวกเขาคือคู่แข่งและคู่ต่อสู้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมมู๋เจียนเฟิงถึงไม่ตกใจกับคำพูดของเซี่ยเหล่ยซักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามเขาหยิบเอกสารบางอย่างขึ้นมาก่อนจะแสดงต่อหน้าของเซี่ยเหล่ยพร้อมกับพูดขึ้นว่า เอกสารนี้ออกโดยแผนกอุปกรณ์(Equipment Department) คุณกำลังผลิตอาวุธโดยรับเงินสนับสนุนจากและรับเงินจากแผนกอุปกรณ์ ในฐานะที่ผมเป็นส่วนหนึ่งของแผนกอุปกรณ์ผมจึงมีสิทธิที่จะเยี่ยมชมที่นี่
โอเค ผมเข้าใจแล้ว เชิญพวกคุณเข้ามาได้ เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมหันไปมองลู่เชิงเพื่อให้เขาจัดการเปิดเส้นทาง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ลู่เชิงสั่งการให้เปิดทาง เซี่ยเหล่ยก็เดินเข้าไปหาเขาพร้อมกับกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูของลู่เชิง ส่วนลู่เชิงก็พยักหน้าพร้อมกับวิ่งไปที่ออฟฟิศทันที
ลู่เชิงและลูกน้องของเขาเรีบวิ่งเข้าไปที่ออฟฟิศของเซี่ยเหล่ย ก่อนที่จะจัดการเก็บกวาดเอกสารต่างๆที่วางไว้บนโต๊ะออกไป เพราะเซี่ยเหล่ยไม่ต้องการให้มู๋เจียนเฟิงและเย่คุนเห็นเอกสารเหล่านั้น
อย่างไรก็ตามมู่เจียนเฟิงและเย่คุนได้หันมาสบตากันหนึ่งครั้งหลังจากที่เห็นว่าลู่เชิงกระซิบกับเซี่ยเหล่ยและวิ่งออกไป
เซี่ยเหล่ยเดินนำพวกเขาทั้งหมดพร้อมกับพูดว่า ผมจะเป็นไกด์ให้กับพวกคุณเอง ก่อนอื่นผมต้องขอต้อนรับผู้บริหารทุกท่านเข้าสู่โรงงานผลิตอาวุธที่ต่ำต้อยของผม ผมขอเป็นตัวแทนแทนพนักงานทั้งหมดต้อนรับทุกๆท่าน
ไม่มีใครตอบสนองคำพูดของเซี่ยเหล่ยแม้แต่คนเดียว พวกเขาล้วนแต่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับมองไปที่เซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยแสร้งทำเป็นไม่เห็นก่อนที่จะพูดต่อว่า เป็นเรื่องดีที่พวกคุณทุกคนมาเยี่ยมโรงงานผลิตอาวุธของผม แต่ถึงอย่างนั้นผมจะขอบอกก่อนเลยว่าที่นี่ก็มีกฎระเบียบที่ต้องรักษาและปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ยกตัวอย่างเช่นจะไม่มีการถ่ายรูปไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม ห้ามคุยหรือสอบถามกับพนักงานของโรงงานเพราะมันจะส่งผลกระทบต่อเวลาการทำงานและสมาธิของพวกเขา อ้อใช่แล้ว…ก่อนอื่นผมจะพาพวกคุณไปยังโรงอาหารของเราก่อน โรงอาหารของเราสะอาดและถูกหลักอนามัยมาก กระเบื้องที่นั่นสะอาดจนสามารถสะท้อนภาพของคุณได้เลยหล่ะ ถ้าไม่เชื่อก็สามารถไปดูได้นะ พวกเขาต่างมองหน้าซึ่งกันและกันด้วยใบหน้าที่เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจและกำลังโกรธ
อย่างไรก็ตามพวกเขาเดินตามเซี่ยเหล่ยไปเรื่อยๆ
หลังจากไปโรงอาหาร ผมจะพาทุกคนไปที่หอพักของพนักงานแต่จะไม่สามารถเข้าเยี่ยมชมหอพักของพนักงานหญิงได้แต่ถ้าพวกคุณต้องการผมยินดีที่จะทำลายกฎระเบียบข้อนี้ให้ เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมหัวเราะก่อนจะพูดต่อว่า ผมจะบอกพวกคุณทุกคนไว้ก่อนเลยว่าพนักงานหญิงของโรงงานผลิตอาวุธของผมทั้งยังเด็กและสวยมากอีกด้วย พวกคุณจะต้อง…
มู่เจียนเฟิงทนฟังไม่ได้ เขาจึงหยุดเดินขณะเดียวกันทุกคนที่ตามหลังเขาก็หยุดเดินเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างมองไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
เซี่ยเหล่ยเองก็หยุดเดินพร้อมกับหันไปพูดกับพวกเขาว่า ทำไมถึงหยุดเดินกันหล่ะ โรงอาหารของเราอยู่ข้างหน้านี้เอง อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น
มู่เจียนเฟิงพูดอย่างไม่พอใจไปว่า เซี่ยเหล่ย! คุณจะพาพวกเราไปดูสถานที่พวกนั้นทำไม? คุณคิดว่าพวกเรามาเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาวุธของคุณเพราะต้องการจะดูความเรียบร้อยของโรงอาหารและหอพักอย่างนั้นเหรอ?
เซี่ยเหล่ยถามกลับทันทีว่า งั้นพวกคุณต้องการจะเยี่ยมชมที่ไหนกันหล่ะ?
ส่วนของสายการผลิตและคลังสินค้า! มู๋เจียนเฟิงพูดเน้นสองสถานที่นี้
เย่คุนเองก็พูดเสริมว่า รวมถึงแผนกวิจัยและพัฒนาด้วย
ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนี่ เอกสารที่คุณนำมานั้นไม่ได้ระบุไว้ซักหน่อยที่ว่าคุณจะเข้าเยี่ยมชมที่ไหนบ้าง ดังนั้นผมจึงจัดการทุกๆอย่างให้ยังไงหล่ะ มันไม่ได้มีอะไรผิดเลยนี่ ผมก็ให้คุณเข้าเยี่ยมชมตามความเหมาะสมที่ผมคิดเอาไว้ก็เท่านั้นเอง….. เซี่ยเหล่ยตอบ