เจียงหยูยี่ลงมาจากก้อนหิน สิ่งที่เธอเห็นในขณะนี้คือสมรภูมิรบที่ว่างเปล่าไม่มีศพและอาวุธเลยแม้แต่น้อย เรื่องเหลือเชื่อแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่านี่อาจจะเป็นความฝันมากกว่าความจริง
เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ฉลาดแต่เธอก็ไม่ใช่คนโง่ เธอรู้ว่าเซี่ยเหล่ยจัดการทำความสะอาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
หยูยี่ เซี่ยเหล่ยตะโกนเรียกชื่อเธอก่อนจะพูดต่อว่า ผมอยากให้คุณ…
เซี่ยเหล่ยยังไม่ทันจะพูดจบประโยคเจียงหยูยี่ก็วิ่งโผเข้าไปกอดเขาก่อนจะพูดข้างหูของเขาว่า เหล่ย ไม่ต้องกังวลเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรา ฉันเองก็ถือว่าเป็นผู้หญิงของคุณเช่นกัน ดังนั้นถ้าอยากจะพูดอะไรก็พูดมาเลยตรงๆ
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจหนึ่งครั้งก่อนจะพูดขึ้นว่า หยูยี่ นี่ถือเป็นกรณีพิเศษ ผมอยากให้คุณเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับและจะมีเพียงแค่เราสองคนเท่านั้นที่รู้ คุณห้ามบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด ผมรู้ว่าคุณเป็นหัวหน้าตำรวจและสิ่งที่ผมกำลังขอนี่จะทำให้คุณต้องลำบาก แต่ผม…
เจียงหยูยี่พูดแทรกขึ้นทันทีว่า หัวหน้าตำรวจคนนี้จะช่วยคุณเอง ฉันบอกคุณไปแล้วนี่ว่าฉันเป็นผู้หญิงของคุณ ทำไมฉันจะไม่ช่วยคุณหล่ะ? หากคุณไม่ต้องการให้ฉันบอกใคร ฉันก็จะไม่มีวันพูดเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนจะพูดว่า ขอบคุณมาก หยูยี่
เจียงหยูยี่พูดต่อทันทีว่า คุณขอบคุณฉันงั้นเหรอ? นี่แนะ! พูดจบเธอก็ยกมือขึ้นตีก้นของเซี่ยเหล่ยหนึ่งครั้งก่อนจะวิ่งหนีไป
เซี่ยเหล่ยเองก็วิ่งตามไล่จับเธอทันที พวกเขาทำตัวเหมือนเด็กแม้ว่าตอนนี้จะยังอยู่ในป่าก็ตาม
พวกเขาวิ่งไปมาเรื่อยๆจนในที่สุดก็ล้มกลิ้งไปด้วยกันบนผืนหญ้า หลังจากผ่านการต่อสู้ที่อันตรายถึงชีวิตมาได้ ในเวลานี้ก็เป็นเหมือนกับเวลาพักผ่อนและสนุกกับชีวิต
ก่อนที่พวกเขาจะออกจากเกาะ เซี่ยเหล่ยได้ทำลายเรือสปีดโบ๊ททั้งหมดที่ไม่จำเป็นและเหลือไว้เพียงลำเดียวสำหรับใช้เดินทางกลับไปเมืองห่ายจู
เมื่อกลับไปถึงเมืองห่ายจู เซี่ยเหล่ยก็จัดการทำลายเรือลำที่ใช้เดินทางกลับมาด้วยเช่นกันเพื่อทำลายหลักฐาน ในขณะที่กำลังเดินขึ้นฝั่ง เขาได้หันไปพูดกับเจียงหยูยี่ว่า หยูยี่ บอกกับทางการว่าคุณทำเรือสปีดโบ้ทหายไปและจะจ่ายค่าเสียหายคืนให้ นอกจากนี้ก็ไม่ต้องรายงานอะไรพวกเขาเพิ่มเติม เรื่องค่าเสียหายผมจะจัดการให้เอง
เจียงหยูยี่พยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนจะพูดว่า ไม่มีปัญหา .ฉันจะทำตามที่คุณบอก
โดยปกติแล้วเจียงหยูยี่จะเป็นคนหัวดื้อและไม่ชอบทำตามคำสั่งของใครโดยเฉพาะกับเซี่ยเหล่ย มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็กแต่สถานการณ์ในตอนนี้มันต่างกัน เจียงหยูยี่ถือว่าตัวเองเป็นผู้หญิงของเซี่ยเหล่ยดังนั้นเธอจึงเชื่อฟังคำพูดของเขาทุกอย่างดูเหมือนถ้าย้อนกลับไป การที่เธอดื้อกับเซี่ยเหล่ยในอดีตนั้นอาจจะเป็นการเรียกร้องความสนใจของเธอก็เป็นได้
ขณะนี้ก็เป็นช่วงเวลาตอนเย็นของวัน ทั้งเซี่ยเหล่ยและเจียงหยูยี่เดินทางไปที่บ้านของเธอ ที่นั่นมีเจียงชู่ชิงและหยางหยุ๋นรอต้อนรับพวกเขาอยู่ อาหารถูกเตรียมไว้พร้อมเรียบร้อยแล้วเพราะเจียงหยูยี่โทรกลับมาบอกที่บ้านก่อนแล้วในขณะที่อยู่ชายฝั่ง
เจียงชู่ชิงเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดมาเมื่อไม่นานนี้ ดังนั้นสภาพร่างกายของเขาจึงไม่เหมาะสมที่จะรับแอลกอฮอล์เข้าไปในร่างกาย แต่อย่างไรก็ตามเขาคิดว่าเมื่อเซี่ยเหล่ยมาทั้งทีจะไม่ดื่มเลยได้ยังไง
อย่าดื่มมากเกินไป มันไม่ดีต่อสุขภาพของคุณนะ หยางหยุ๋นพูดเตือนด้วยความเป็นห่วง เจียงชู่ชิงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า ไม่ใช่ว่าเซี่ยเหล่ยจะมาที่นี่ทุกวันซะหน่อย ดังนั้นเมื่อเขามาแล้วก็ต้องดื่มกับเขาหน่อยสิ
ฉันจะโกรธคุณจริงๆด้วย ถ้าคุณทำให้พ่อฉันเมา เจียงหยูยี่หันมาพูดกับเซี่ยเหล่ยด้วยท่าทางออดอ้อน
ด้วยคำพูดและท่าทางของเจียงหยูยี่ทำให้หยางหยุ๋นหยุดรับประทานอาหารทันที เธอแอบมองไปที่เซี่ยเหล่ยและเจียงหยูยี่อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า เหล่ย ฉันได้ยินว่าคุณหมั้นกับเฉินตูเทียนหยินแล้วใช่มั้ย?
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปว่า เอ่อ…ใช่แล้ว
หยางหยุ๋นถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า ป้าเคยได้ยินว่าเธอเป็นผู้หญิงที่รวยที่สุดในประเทศจีน เธอเป็นคนที่เหมาะสมกับคุณจริงๆ
หยางหยุ๋นเห็นเซี่ยเหล่ยมาตั้งแต่เด็กจนโต เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเขากลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไปแล้วแต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนเธอจะไม่ได้ดีใจซักเท่าไหร่กับการที่เขาจะแต่งงานกับเฉินตูเทียนหยิน
แต่ป้าหยาง ผมไม่ได้แต่งงานกับเทียนหยินเพื่อเงินหรอกนะ นอกจากนี้ผมยังทำสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของเธออีกด้วย บริษัทของเราก็จะแยกกันบริหาร เซี่ยเหล่ยพูดเสริม
งั้นเหรอ? ว่าแต่ตัวเฉินตูเทียนหยินเอง เธอเข้าใจแน่ใช่มั้ยว่าไม่ได้แต่งงานกับเธอเพื่อเงิน? หยางหยุ๋นถามเชิงแซะ
จากคำพูดและท่าทางของหยางหยุ๋นก็ทำให้เซี่ยเหล่ยพอจะเดาถึงเจตนาและความคิดของเธอได้ เขาจึงเลือกที่จะไม่ตอบอะไรอีกเลยหลังจากนั้น เขาทำแค่เพียงรับฟังพร้อมกับพยักหน้าเป็นบางครั้งเท่านั้นเพราะมันจะเป็นการดีกว่าถ้าไม่ไปต่อความยาวสาวความยืดกับเธอ
อย่างไรก็ตามเจียงหยูยี่ที่รู้สึกว่าหยางหยุ๋นทำไม่ถูกต้องเธอจึงพูดขึ้นว่า แม่พอได้แล้ว เราไม่ควรเข้าไปยุ่งอะไรมากกว่านี้นะ
หยางหยุ๋นหยุดพูดพร้อมกับหันกลับไปรับประทานอาหารต่อ อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาอีกเลยจนทุกคนรับประทานอาหารกันเสร็จ
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย เซี่ยเหล่ยก็ขอตัวไปพักผ่อน
ฉันจะพาคุณไปนะ เจียงหยูยี่หันไปพูดกับพ่อและแม่ก่อนจะเดินตามเซี่ยเหล่ยไป
หยางหยุ๋นและเจียงชู่ชิงเข้าใจว่าเธอจะไปส่งแค่หน้าห้องและเดินกลับมา แต่พวกเขาก็เข้าใจผิด ตอนนี้เธอหายไปนานกว่าสิบนาทีแล้ว
เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่านะที่รัก? หยางหยุ๋นถามด้วยความสงสัยและเป็นห่วง
เจียงชู่ชิงแสดงท่าทางสับสนก่อนจะถามออกไปด้วยความไม่แน่ใจว่า คุณหมายถึงอะไรงั้นเหรอที่ว่า ‘เกิดอะไรขึ้น’
ห้องของเซี่ยเหล่ยก็อยู่ชั้นสองนี่เองทำไมหยูยี่ถึงไม่ลงมาซักทีหล่ะนี่ก็เกือบยี่สิบนาทีแล้วนะ หยางหยุ๋นพูด ทำไมต้องกังวลกับเรื่องนี้ด้วยหล่ะ? ลูกของเราก็ชอบเซี่ยเหล่ยมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันจะมีอะไรไม่ดีงั้นเหรอถ้าพวกเขาจะอยู่คุยกันเป็นเวลานาน? หยุดเข้าไปยุ่งกับพวกเขาได้แล้ว พวกเขาโตแล้วนะ เจียงชู่ชิงพูด
หยางหยุ๋นถลึงตาใส่ก่อนจะพูดว่า คุณไม่รู้สึกอะไรเลยงั้นเหรอ? เขาเองก็น่าจะรู้ว่าหยูยี่ชอบเขาแต่เขากำลังจะไปแต่งงานกับคนอื่น ลูกของเราจะรู้สึกยังไงหล่ะ เธออกหักหน่ะสิ!
เราอย่าพูดเรื่องนี้กันดีกว่า เขาเองก็ตัดสินใจและทำหน้าที่ของเขาได้ดีแล้ว ผมรู้ว่าการที่เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นมันทำให้คุณไม่พอใจแต่คุณก็ไม่สามารถห้ามเขาได้หรอกนะเพราะนั่นมันชีวิตของเขา เจียงชู่ชิงพูด
เอาหล่ะ ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้กับคุณแล้ว ฉันจะออกไปดูเจียงหยูยี่ซักหน่อยว่าทำไมถึงยังไม่กลับเข้ามา ฉันเห็นความพยายามทำตัวเรียกร้องความสนใจโดยการออดอ้อนของเธอก่อนหน้านี้ก็กลัวว่าตอนนี้เธอจะแอบไปร้องไห้คนเดียวอยู่ที่ไหนหรือเปล่าหน่ะสิ หยางลานพูดจบก็เดินออกไปทันที
ยังไงถ้าเธอร้องไห้อยู่ก็ปลอบเธอหน่อยก็แล้วกัน บอกเธอไปว่าไม่ว่ายังไงเดี๋ยวเรื่องนี้ก็ผ่านไป ให้เธออดทนไว้ เจียงชูชิงพูด
หยางหยุ๋นเดินออกจากห้องรับประทานอาหารพร้อมเดินขึ้นไปที่ชั้นสองและหยุดอยู่หน้าประตูห้องของเซี่ยเหล่ยตอนแรกเธอต้องการจะเคาะประตูห้องแต่ก็ไม่ได้ทำเพราะได้ยินเสียงแปลกๆมากจากภายในห้อง เธอจึงหยุดและแอบฟังอยู่ครู่หนึ่ง
เธอได้ยินเสียงของเจียงหยูยี่ บางครั้งก็เป็นเสียงของเธอที่ฟังดูกำลังเจ็บปวด แต่ก็เป็นเสียงที่ดูมีความสุขในเวลาเดียวกัน ระหว่างนั้นก็มีบทสนทนาด้วย บางครั้งก็เป็นคำพูดเยินยอ บางครั้งก็เป็นคำพูดเชิงขอความเมตตา
หยางหยุ๋นเป็นผู้หญิงฉลาดและเธอรู้ว่ากิจกรรมที่ลูกสาวของเธอกำลังทำอยู่นั้นคืออะไร ใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนจะอดพูดกับตัวเองไม่ได้ว่า สาวน้อย! ตอนแรกแม่ก็เป็นห่วงว่าจะไปแอบร้องไห้คนเดียวอยู่ที่ไหน แต่ที่ไหนได้กลับมาทำเรื่องอย่างว่ากับเซี่ยเหล่ยที่ห้องของเขา!
เสียงของเซี่ยเหล่ยพูดขึ้นว่า หยูยี่ ป้าจะโกรธผมไหมถ้าเธอรู้เรื่องนี้เข้า?
ไม่ต้องสนใจหรอก…. อ่าห์… เสียงของเจียงหยูยี่พูดก่อนจะพูดต่อว่า ฉันจะมีลูกชายให้เธอด้วยนะ ถ้าเธอต้องการหลานชาย
ชู่ว เบาๆสิเดี๋ยวคนอื่นก็ได้ยินหรอก เซี่ยเหล่ยพูดด้วยความประหม่า
หึ…กลัวอะไร! ไม่มีใครมาแอบฟังเราหรอกนะ อืมห์… เจียงหยูยี่พูดด้วยน้ำเสียงที่กระเส่า
หยางหยุ๋นที่ยืนอยู่ข้างนอกประตูได้กระทีบเท้าเบาๆก่อนจะพูดอย่างโมโหกับตัวเองว่า นั่นลูกกำลังทำผิดศีลอยู่นะ! นอกจากนี้ยังต้องการมีหลานให้แม่อีกด้วยงั้นเหรอ ไม่มีทาง!
แม้ว่าหยางหยุ๋นจะพูดไปแบบนั้นแต่เมื่อพูดจบเธอก็ยิ้มออกมา
ดูเหมือนการที่เธอยิ้มออกมาแสดงว่าเธอคงจะไม่ได้โกรธจริงๆ เธอพอจะเข้าใจว่าทำไมเจียงหยูยี่และเซี่ยเหล่ยถึงลงเอยในสภาพแบบนี้ อย่างไรก็ตามเธอไม่ว่าอะไรถ้านี่เป็นสิ่งที่เจียงหยูยี่เลือกและเต็มใจที่จะยอมรับ
เสียงจากภายในห้องยังคงดังอยู่ตลอดเวลาและยิ่งเวลาผ่านไปคำพูดของเจียงหยูยี่ก็เริ่มฟังไม่เป็นคำพูดมากขึ้นเรื่อยๆ หยางหยุ๋นที่รู้สึกอายเกินกว่าจะฟังต่อไป เธอจึงเดินกลับลงไปเงียบๆคนเดียว
ไม่นานหลังจากหยางหยุ๋นเดินกลับไปเสียงของเจียงหยูยี่ก็เงียบ เธอนอนอยู่ภายในอ้อมกอดของเซี่ยเหล่ยและพูดหยอกล้อกับเขาหลังจากที่เพิ่งมีความสุขกันมา
หยูยี่ ผมจะกลับวันพรุ่งนี้ เซี่ยเหล่ยพูดเบาๆ
คุณอยู่ต่ออีกซักสองสามวันไม่ได้งั้นเหรอ? เจียงหยูยี่พูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเศร้าพร้อมกับใช้นิ้ววนไปที่หน้าอกของเขา
ผมก็อยากที่จะอยู่ต่ออีกหน่อยแต่งานกำลังรอผมอยู่ ผมต้องรีบกลับไปจัดการ เซี่ยเหล่ยพูด
งานที่เซี่ยเหล่ยพูดถึงคือแผนการผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม Gust และการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับอัลลอยโบราณ
อืม… ฉันไม่อยากแยกจากคุณเลยแต่ฉันก็เข้าใจนะว่าคุณรักและทุ่มเทให้กับการทำงานมากแค่ไหน เจียงหยูยี่พูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าก่อนที่จะถามว่า ถ้างั้นคุณจะกลับมาเมื่อไหร่?
ห่ายจูคือบ้านของผม ผมจะกลับมาบ่อยๆแน่นอน เซี่ยเหล่ยตอบ
เจียงหยูยี่ยิ้มก่อนจะพูดว่า คุณต้องจำไว้ว่าที่เมืองห่ายจูมีผู้หญิงคนหนึ่งที่รักและรอคุณอยู่เสมอ ฉันต้องการให้คุณแวะมาหาฉันบ้างในบางครั้งที่มีโอกาส ฉันต้องการแค่นั้นจริงๆ
เข้าใจแล้ว เซี่ยเหล่ยพูด
ในความเป็นจริงหากเขาเลือกที่จะจงรักภักดีต่อเฉินตูเทียนหยินโดยไม่แอบมีผู้หญิงคนอื่นเลย นั่นก็จะเท่ากับว่าเขาทำร้ายเจียงหยูยี่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าเขายอมรับให้เจียงหยูยี่เข้ามาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งในชีวิตของเขา นั่นก็จะเป็นการทำผิดต่อเฉินตูเทียนหยิน เขาเองก็รู้สึกไม่สบายใจที่ปล่อยให้เรื่องมันเป็นแบบนี้เพราะถ้าเฉินตูเทียนหยินรู้เรื่องนี้เขา เธอจะต้องเสียใจอย่างมากแน่นอน
แต่เรื่องนี้ก็ไม่สามารถแก้ไขได้
เขาจึงได้แต่ปล่อยให้เหตุการณ์ทุกอย่างมันดำเนินต่อไป…..