มู่เจี้ยนเฟิงเป็นคนที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด นอกจากนี้เขายังสามารถมองหาวิธีที่จะรับมือหรือพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ในทุกสถานการณ์อีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้เย่คุนเทียบกับมู๋เจียนเฟิงไม่ได้เลย
ในขณะนี้เซี่ยเหล่ยเงียบอยู่ตลอดเวลาเพื่อรอดูท่าทีของพวกเขา
ทันใดนั้นมู๋เจียนเฟิงก็พูดขึ้นว่า อย่าพูดถึง 400,000,000 หรือ 200,000,000 ดอลลาร์สหรัฐเลยเลย แค่ 50,000,000 ดอลลาร์สหรัฐเลยก็เพียงพอแล้วสำหรับเงินชดเชย
เย่คุนพูดเสริมว่า ใช่แล้ว
เซี่ยเหล่ยหันไปมองหน้ามู๋เจียนเฟิงและเย่คุนก่อนที่จะหัวเราะพร้อมกับพูดว่า แค่ 50,000,000 ดอลลาร์สหรัฐเลยงั้นเหรอ? พวกคุณคิดอะไรกันอยู่ เงินแค่ 50,000,000 ดอลลาร์สหรัฐเลยสำหรับเจ้าชายแล้วคืออะไร? มันไม่พอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบริษัทยักใหญ่อย่างบริษัทดีเสริตส์กาเดี้ยนหรอกนะ
หยุดพล่ามได้แล้ว ว่ามาคุณต้องการเท่าไหร่กันแน่? เย่คุนที่หมดความอดทนพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
เซี่ยเหล่ยตอบกลับไปอย่างเรียบง่ายว่า เราเป็นคู่แข่งทางการค้ากันก็จริง แต่ผมมีทางออกให้กับพวกคุณสนใจจะฟังหน่อยมั้ย?
มู๋เจียนเฟิงและเย่คุนหันมาสบตากันทันที ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสับสนและไม่เชื่อใจพวกเขาแอบสงสัยว่าจู่ๆทำไมเซี่ยเหล่ยถึงเสนอทางออกให้กับพวกเขาแทนที่จะหาวิธีเหยียบย่ำให้จมดิน
แน่นอนว่าพวกเขาไม่เชื่อใจเซี่ยเหล่ย!
ไม่เชื่อผมงั้นหรอ? ไม่เป็นไร ผมจะอธิบายให้ฟังก่อนก็แล้วกัน เซี่ยเหล่ยพูดก่อนจะพูดต่อว่า เจ้าชายคาลิฟาไม่ได้ขาดแคลนเงิน สิ่งที่เขาขาดแคลนคืออาวุธ หนึ่งในนั้นคืออาวุธปืนขณะนี้ตะวันออกกลางอยู่ในสภาวะที่ค่อนข้างวุ่นวาย นั่นทำให้เจ้าชายคาลิฟาต้องการพัฒนากองทหารของเขาให้กลายเป็นกองทหารที่แข็งแกร่งที่สุด เขาเล็งเห็นถึงความสามารถและประโยชน์จากปืนไรเฟิลจู่โจม Gust ดังนั้นเขาจึงต้องการมันจำนวนมาก
แล้วมันเกี่ยวข้องกับพวกเรายังไง? มู๋เจียนเฟิงพูดอย่างเย็นชา
ถ้าดูผิวเผินมันก็ไม่เกี่ยวกับพวกคุณหรอกนะ เพียงแต่…พวกคุณสามารถทำประโยชน์ได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ เซี่ยเหล่ยพูด
คุณหมายความว่ายังไง? เย่คุนถาม
พวกคุณไม่ได้ดำเนินการดัดแปลงกับส่วนต่างๆของปืนไรเฟิลจู่โจมเฉิงหวู่ใช่มั้ย? ถ้าใช่พวกคุณก็เพียงแค่ขายชิ้นส่วนเหล่านั้นให้กับผมในราคาที่ต่ำ ด้วยเหตุนี้มันจึงช่วยให้พวกคุณไม่จำเป็นต้องเสียค่าชดเชยเลย นอกจากนี้บริษัทของพวกคุณยังสามารถผลิตชิ้นส่วนในล็อตถัดไปเพื่อชดเชยค่าเสียหายที่เหลือได้อีกด้วยโดยชิ้นส่วนหลังจากล็อตแรกนี้ ทางเราจะทำการซื้อในราคาปกติ ทีนี้พวกคุณเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าผมต้องการช่วยพวกคุณจริงๆ เซี่ยเหล่ยพูด
เมื่อเซี่ยเหล่ยพูดจบ มู๋เจียนเฟิงและเย่คุนก็หันมามองหน้ากันทันที
นี่คือแผนการที่ยอดเยี่ยมอย่างมากสำหรับการหาผลประโยชน์ในวงการธุรกิจ!
ถ้ารับเงินชดเชยมาเลย เงินนั่นก็จะไม่ต่างอะไรกับเงินสินบน เซี่ยเหล่ยไม่สามารถรับมันได้ดังนั้นเขาจึงไม่เลือกที่จะรับเงินแต่เลือกที่จะรับชิ้นส่วนในราคาที่ถูกจากพวกเขาแทน
ชิ้นส่วนที่จะได้รับนี้จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตให้กับโรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ยได้มากทีเดียว
นอกจากนี้ในอนาคต พวกเขาทั้งสองบริษัทก็สามารถขายชิ้นส่วนให้กับเซี่ยเหล่ยได้ในราคาปกติ ดังนั้นข้อเสนอนี้แม้ว่าจะเป็นการช่วยเซี่ยเหล่ยเอาไว้มาก แต่ก็ช่วยพวกเขาได้มากเช่นกัน มันจึงไม่มีเหตุผลให้พวกเขาต้องปฏิเสธเลย
เห้อ…เซี่ยเหล่ย คุณนี่มันเหลี่ยมจัดจริงๆ มู๋เจียนเฟิงพูดพร้อมยิ้มอย่างขมขื่นก่อนจะพูดต่อว่า เย่คุนกับผมตั้งใจจะขับไล่คุณออกจากวงการนี้ แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็สามารถเติบโตได้อย่างอิสระ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้คุณกำลังจะใช้พวกเราเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้กับโรงงานของคุณเอง ยอดเยี่ยมจริงๆ! นอกจากนี้…วิธีนี้จะทำให้คุณไม่ถูกมองว่ารับเงินสินบน แถมคนทั่วไปจะมองคุณว่าเป็นคนที่ช่วยเหลือรัฐบาลอีกด้วย สุดท้ายแล้วความดีความชอบทั้งหมดจะไปตกอยู่กับคุณ แล้วพวกเราหล่ะ…พวกเราจะได้อะไร?
ประโยชน์ที่พวกคุณจะได้รับก็คือทางออกของปัญหาที่พวกคุณกำลังประสบอยู่ไงหล่ะ มันไม่พอสำหรับพวกคุณในตอนนี้อย่างนั้นเหรอ? เซี่ยเหล่ยถาม
ก็ได้ แต่มีข้อแม้หนึ่งข้อ มู๋เจียนเฟิงพูดก่อนจะพูดต่อว่า คุณจะต้องไม่ทำการฟ้องบริษัทยุทโธปกรณ์ฮั่นในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์
ดวงตาของเย่คุนเป็นประกายขึ้นทันทีดูเหมือนเขาจะเห็นทางออกที่สว่างสไวทำให้เขารีบพูดขึ้นอย่างมีความหวังว่า ใช่…อาจารย์พูดถูก! คุณจะเอาแต่ผลประโยชน์ทั้งหมดอย่างเดียวไม่ได้ เย่คุนพูดด้วยความตื่นเต้น
เอ่อ… เซี่ยเหล่ยแสร้งทำเป็นลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่อย่างไรก็ตามเขามีแผนอยู่ในใจอยู่แล้ว
เซี่ยเหล่ย ในวงการนักธุรกิจ คุณต้องรู้จักประนีประนอมบ้างนะ ผมรู้ถึงความต้องการที่แท้จริงของคุณแล้ว ผมจะจ่ายเงินจำนวน 400,000,000 ให้กับคุณแทนก็ได้นะ มู๋เจียนเฟิงพูด
ก่อนหน้านี้ทั้งมู๋เจียนเฟิงและเย่คุนที่เคยวางแผนที่จะบดขยี้โรงงานผลิตอาวุธของเซี่ยเหล่ยให้ราบคาบแต่สุดท้ายพวกเขาก็ทำไม่สำเร็จแถมยังต้องมาสนับสนุนเขาเพื่อเอาตัวรอดอีกด้วยซ้ำ ชีวิตไม่อาจคาดเดาได้จริงๆ!
สิ่งที่คุณต้องการคือต้อนเราให้จนมุมใช่มั้ย? เอาหล่ะ…สมมติว่าคุณทำการฟ้องร้องเราในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ มันจะทำให้ทั้งผมและอาจารย์พ้นจากตำแหน่ง แต่ถึงอย่างนั้นก็จะมีคนใหม่มาแทนในตำแหน่งเราอยู่ดี คุณคิดว่าพวกเขาจะร่วมมือกับคุณงั้นเหรอ? แน่นอนว่าไม่ เพราะพวกเขาก็มีความต้องการไม่ต่างจากผม นั่นก็คือเขี่ยคุณให้ออกไปจากวงการนี้ยังไงหล่ะ เย่คุนพูด
อืม…ถ้าเราจะพูดถึงเรื่องนี้ ผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้พอดี เซี่ยเหล่ยพูดจบก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า ผมยังไม่ได้ส่งหลักฐานให้กับหลิงฮั่นเลย
เย่คุนและมู๋เจียนเฟิงหันมาสบตากันทันที ดวงตาของพวกเขาดูเป็นประกายอย่างมากเพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการที่จะหลีกเลี่ยงและแก้ปัญหาในตอนนี้นอกจากจะเป็นเรื่องค่าชดเชยของเจ้าชายคาลิฟาแล้ว ก็เป็นเรื่องการหลีกเลี่ยงการสืบสวนจากเจ้าหน้าที่ที่กำลังใกล้เข้ามา มันเป็นสิ่งที่พวกเขากำลังวิตกอยู่เช่นกัน
บอกเรามา…เซี่ยเหล่ย บอกเรามาว่าคุณต้องการอะไรอีก? มู๋เจียนเฟิงพูดก่อนจะพูดต่อว่า เรามีสิ่งที่คุณต้องการ ส่วนคุณก็มีสิ่งที่เราต้องการดังนั้นเราน่าจะตกลงกันได้แล้วนะ เพราะนี่เป็นการแลกเปลี่ยนที่เป็นประโยชน์ต่อเราทั้งคู่
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจก่อนจะพูดว่า เอาหล่ะ ผมตกลงที่จะไม่ฟ้องร้องพวกคุณรวมถึงจะไม่ยื่นหลักฐานในการสอบสวนอีกด้วยแต่อย่างไรก็ตามพวกเราจำเป็นจะต้องเซ็นสัญญากันโดยระบุข้อตกลงอย่างละเอียดเพราะผมไม่ไว้ใจพวกคุณ
มู๋เจียนเฟิงและย่คุนกระซิบกันเล็กน้อย
ผ่านไปไม่กี่วินาที มู๋เจียนเฟิงก็พูดขึ้นว่า ได้ ผมตกลง แต่คุณต้องมอบหลักฐานให้กับเราด้วย
แน่นอน…ไม่มีปัญหา ผมจะมอบหลักฐานให้กับคุณหลังจากที่เราเซ็นสัญญากันแล้ว เซี่ยเหล่ยตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะมอบหลักฐานให้กับพวกเขาแต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าเขาได้ทำทำสำเนาเอาไว้แล้วด้วยเพราะมันอาจจะมีประโยชน์ในอนาคต
โอเค เป็นอันว่าตกลง ผมขอตัวไปทำสัญญาก่อน มู๋เจียนเฟิงพูด
ไม่จำเป็น ผมได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เซี่ยเหล่ยพูดจบก็เปิดกระเป๋าเอกสารออกก่อนจะหยิบสัญญาหกฉบับออกมาตั้งด้านหน้าพวกเขา
มู๋เจียนเฟิงมองไปที่สัญญาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า คุณ…คุณคาดการณ์ไว้แล้วว่าพวกเราจะตกลงอย่างนั้นเหรอ? คุณถึงได้เตรียมทุกอย่างเอาไว้!
ประธานมู๋ คุณเป็นคนฉลาด คุณคิดว่าคุณจะมีทางเลือกอื่นนอกจากทำงานร่วมกับผมอย่างนั้นเหรอ? เอาหล่ะ…อ่านสัญญาให้เรียบร้อย ถ้าพวกคุณไม่มีขัดข้องอะไรก็จัดการเซ็นได้เลย
มู๋เจียนเฟิงและเย่คุนหยิบสัญญาขึ้นมาและเริ่มอ่าน …
สองชั่วโมงต่อมาทั้งสามคนเซ็นสัญญากันเรียบร้อย
เซี่ยเหล่ยจัดการเก็บสัญญาไว้ในกระเป๋าพร้อมกับหยิบ USB ขึ้นมาวางบนโต๊ะก่อนจะพูดว่า รับไป นี่คือหลักฐานที่คุณต้องการ
เย่คุนรีบคว้ามันทันทีราวกับกลัวว่าเซี่ยเหล่ยจะเอามันกลับไป เขามองดูที่ USB อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นด้วยความสงสัยว่า เซี่ยเหล่ย คุณคงไม่ได้ทำก็อปปี้เอาไว้ใช่มั้ย?
เซี่ยเหล่ยหัวเราะก่อนจะพูดขึ้นว่า คุณเห็นผมเป็นคนแบบนั้นงั้นเหรอ? ผมไม่ได้มีนิสัยแบบพวกคุณนะ พูดจบก็หยิบกระเป๋าเอกสารและเดินกลับออกไปทันที
แผนการของเขาลุล่วงไปด้วยดี และนี่เป็นผลลัพธ์ที่เขาต้องการ!
นี่เป็นแผนการที่ดีและได้ผลประโยชน์มากกว่าที่จะจัดการกับมู๋เจียนเฟิงและเย่คุนออกไปให้พ้นทาง
บ้าเอ๊ยยย! มู๋เจียนเฟิงพูดพร้อมกับตบโต๊ะหลังจากที่เซี่ยเหล่ยเดินจากห้องไป ก่อนจะพูดต่อว่า เขาเป็นเพียงแค่คนที่ขายของอยู่ริมถนนเมื่อสองปีก่อน แต่ตอนนี้เราต้องทำงานให้กับเขา บ้าที่สุด!
ผมเองก็ไม่อยากที่จะเลือกทางนี้เลย เย่คุนพูดพร้อมถอนหายใจก่อนจะพูดต่อว่า แต่เราจะทำอะไรได้หล่ะ เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
ทันใดนั้นจู่ๆเย่เสี่ยวฉีก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูพร้อมกับพูดอย่างระมัดระวังว่า ประธานเย่ ประธานมู๋ เซี่ยเหล่ยและเจ้าชายรวมถึงผู้ติดตามของเขากำลังจะกลับแล้ว
เย่คุนมองไปที่เธอก่อนจะพูดอย่างเย็นชา เย่เสี่ยวฉี ไปรายงานตัวที่แผนกการผลิตในวันพรุ่งนี้ บอกเขาว่าคนใหม่จะมาแทนที่คุณ….