ในขณะนี้ภายในห้องโดยสารมีอยู่ด้วยกันทั้งหมดเพียงแค่สามคน คนหนึ่งหมดสติ ส่วนอีกสองคนยังมีสติอยู่ มันทำให้บรรยากาศในห้องโดยสารค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นอึมครึมและอึดอัดอีกครั้ง
เอ่อ… เซี่ยเหล่ยบังคับตัวเองให้พูดขึ้นมาก่อนจะพูดต่อว่า ก่อนหน้านี้ผมขอโทษผม…ผมไม่ได้ควบคุมตัวเอง ผมขอโทษ
อันที่จริงแล้วมันคือหลงบิงต่างหากที่ไม่ได้ควบคุมตัวเองแต่เซี่ยเหล่ยก็ฉลาดที่เป็นคนพูดขอโทษก่อนเพราะมันจะช่วยทำให้สถานการณ์ของพวกเขาดีขึ้น
ถึงอย่างนั้นหลงบิงก็ไม่ยอมแพ้ เธอจ้องไปที่เซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดว่า คุณพูดแบบนี้ดูเหมือนว่าคุณกำลังจะบอกฉันว่ามันเป็นความผิดพลาด และคุณจะไม่ให้เกิดเริ่องแบบนี้อีกครั้งใช่มั้ย?
ผม… เซี่ยเหล่ยพูดอันที่จริงเขาอยากจะพูดต่อว่า ใช่ แต่ก็ต้องกลืนมันลงไปเพราะเห็นสายตาที่เจ็บปวดของหลงบิง
ในขณะที่เซี่ยเหล่ยพยายามที่จะหาคำพูดเพื่อทำให้หลงบิงใจเย็นและสงบลง แต่จู่ๆหลงบิงก็ขยับตัวเข้ามาใกล้เซี่ยเหล่ยมากขึ้นเริ่อยๆ
หลงบิง เรา…ฮึ่ม! เซี่ยเหล่ยตกใจและพูดไม่ออกทันทีที่จู่ๆเธอก็ขยับตัวเข้ามาใกล้
หลงบิงเป็นผู้หญิงที่พูดน้อยกว่าทำ เธอแตกต่างจากเจียงหยูยี่โดยสิ้นเชิง นอกจากนี้เวลาที่เธออยากจะทำอะไร เธอจะไม่พูดออกมาก่อน เธอเลือกที่จะทำมันเลย
เซี่ยเหล่ยรู้สึกได้ทันทีว่าเธอกำลังจะทำอะไร เขากำลังพยายามหลีกเลี่ยงด้วยวิธีที่ประณีประนอมโดยการขยับตัวหนีห่างออกไป
แต่ถึงอย่างไรก็ตามหลงบิงก็ยังคงขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ถอยออกไป เซี่ยเหล่ยพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมยกมือทั้งสองขึ้นมากันไว้ก่อนจะพูดต่อว่า คุณกำลังคิดจะทำอะไร?
หลงบิงไม่ได้ถอยออก นอกจากนี้เธอยังไม่สนใจมือของเซี่ยเหล่ยที่ยกขึ้นมากันเลยด้วย เธอยังคงขยับไปเรื่อยๆจนร่างของเธอแตะที่มือของเซี่ยเหล่ย
เซี่ยเหล่ยตื่นตระหนกทันที เขาผละตัวออกก่อนที่จะหลังจะไปชนกับประตู ซึ่งในตอนนี้เขาถอยไม่ได้อีกแล้ว
หลงบิงยังไม่ปล่อยเขา เธอค่อยๆขยับเข้าไปใกล้อีกเรื่อยๆ
จมูกของหลงบิงสัมผัสที่ใบหน้าของเซี่ยเหล่ยก่อนที่เธอจะพูดอย่างแผ่วเบาว่า จำได้ไหม…คุณเป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้นอนกับฉัน คุณติดหนี้ฉัน ดังนั้นอย่าพยายามสลัดฉันออก พูดจบก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อว่า อย่าคิดจะหนีอีก
ไม่สามารถบอกได้เลยว่าเซี่ยเหล่ยในตอนนี้จะกดดันและปวดหัวกับเรื่องนี้มากแค่ไหน! ถ้าตอนนั้นเซี่ยเหล่ยรู้ว่าผลจากภารกิจที่ทำด้วยกันในเยอรมนีจะส่งผลให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้ เขาจะไม่ยอมแสดงเป็นคู่รักกับเธอเด็ดขาด เขาจะเลือกเป็นพี่น้องกับเธอแทน
แต่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร จู่ๆหลงบิงก็หยุดตัวเองพร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงอันเนื่องมาจากความเขินอาย
เซี่ยเหล่ยถอนหายใจก่อนจะพูดว่า มันจะไม่ยุติธรรมสำหรับคุณนะ ผมแต่งงานแล้ว ผมไม่สามารถให้ในสิ่งที่คุณต้องการได้
หลงบิงจ้องไปที่เซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดขึ้นว่า คุณรู้อย่างนั้นเหรอว่าฉันต้องการอะไร? คุณพยายามนึกถึงความรู้สึกของเฉินตูเทียนหยินเพราะคุณไม่อยากทำผิดต่อเธอ คุณนึกถึงจิตใจของเธอ แต่คุณไม่นึกถึงจิตใจของฉันบ้างอย่างงั้นเหรอ ต่อไปในอนาคต…แม้ว่าซักวันหนึ่งเฉินตูเทียนหยินจะรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของฉัน มันก็อีกเรื่องหนึ่งถ้าเธออยู่เฉยๆและไม่มายุ่งเกี่ยวกับฉัน แต่กลับกันถ้าเธอมาหาเรื่องฉัน…ฉันจะจัดการพาเธอไปนอนในคุกแน่นอน
คำพูดของเธอทำให้เซี่ยเหล่ยพูดไม่ออก
เขารู้สึกเสียใจที่บอกเรื่องของเฉินตูเทียนหยินและกู๋เค่อเหวินกับหลงบิงรู้ เพราะตอนนี้มันกลายเป็นไพ่คิงที่อยู่ในมือของเธอ เธอสามารถใช้ไพ่ใบนี้เพื่อจบเกมได้ตลอดเวลา
ชั่วขณะหนึ่งของความคิด เขาก็นึกไปถึงพ่อของเขา…เซี่ยฉางห่าย ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างเขานึกขึ้นว่า ‘สงสัยจริงๆว่าพ่อรู้เรื่องชีวิตรักของเราหรือเปล่านะ เขาจะคิดยังไงกับมัน? แต่ก็ช่างเถอะ… ‘
ดูเหมือนเขาจะนึกถึงคำพูดของเซี่ยฉางห่ายที่เคยพูดกับเขาถึงเรื่องของเฉินตูเทียนหยินขึ้นมา
หลงบิงต่อยเซี่ยเหล่ยเบาๆก่อนจะพูดว่า พูดอะไรซักอย่าง อย่าเงียบอยู่แบบนี้
เซี่ยเหล่ยหัวเราะแห้งๆก่อนจะพูดว่า คำพูดของผมสำคัญด้วยงั้นเหรอ คำพูดของผมสามารถหยุดคุณได้งั้นเหรอ เอาจริงๆผมไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าอยู่ดีๆเมื่อกี้นี้ทำไมคุณถึงหยุดและดึงสติกลับมา
รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของหลงบิง เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า การที่ฉันหยุดมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะที่นี่มันค่อนข้างจะสกปรก ฉันไม่อยากให้ครั้งแรก…ครั้งที่มีค่าของฉันต้องอยู่ในสถานที่แบบนี้
เซี่ยเหล่ยรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินแบบนั้น เขาคิดว่า ‘บางทีมันอาจเป็นเพียงแค่ความต้องการเพียงชั่วครู่เท่านั้น เธออาจจะเปลี่ยนใจหลังจากที่เธอสงบและเวลาผ่านไป ‘
อย่างไรก็ตามหลงบิงจ้องไปที่เซี่ยเหล่ยด้วยสายตาที่คาดหวัง ก่อนที่เธอจะหยุดพูดและปิดตาดูเหมือนว่าเธอกำลังรออะไรบางอย่าง
เซี่ยเหล่ยเป็นคนที่มีประสบการณ์ในด้านนี้ เขารู้ว่าหลงบิงปิดตาและกำลังรอให้เขาเริ่มจูบเธอ
เขาลังเลมากแม้ว่าเขาต้องการจะพาตัวเองให้ก้าวเข้าไปหาหลงบิงแต่เมื่อนึกถึงใบหน้าของเฉินตูเทียนหยิน เขาก็ไม่สามารถพาตัวเองเข้าไปได้ เขารู้สึกโกรธตัวเองไม่น้อยกับสถานการณ์ในตอนนี้
แต่ทันใดนั้น จู่ๆ เครื่องยนต์ของเรือก็ดับลง เรือหยุดนิ่งอยู่กับที่มีเพียงแค่คลื่นเท่านั้นที่ผลักให้เรือขยับไปมา
ภายนอกห้องโดยสารมีเสียงฝีเท้ากำลังเคลื่อนที่เข้ามาจากท้างด้านซ้ายและขวา
หลงบิงได้ยินเสียงฝีเท้าพร้อมกับรู้สึกว่าเรือหยุดอยู่กับที่ เธอลืมตาขึ้นมาทันที เธอเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ชั้นยอดของสำนักงานลับ 101 ดังนั้นเมื่อเกิดสถาการณ์ที่แปลกประหลาดและไม่น่าไว้ใจ ไม่ว่าเธอจะอยู่ในอารมณ์ไหน เธอก็จะเข้าสู่โหมดการต่อสู้ทันที
หลงบิงได้ยินเสียงฝีเท้า เซี่ยเหล่ยก็ได้ยินเช่นกัน แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะเขากระตุกตาซ้ายเล็กน้อยพร้อมกับผนังของห้องโดยสารที่ค่อยๆเลือนหายไป
ภาพที่ประกฎต่อสายตาของเขาเป็นชายชาวญี่ปุ่นหกคนกำลังทยอยเดินเข้ามาที่ห้องโดยสารพร้อมปืนพกที่อยู่ในมือ ชายที่เป็นผู้นำกลุ่มทางซ้ายคือทาเคชิ โนบุ
เซี่ยเหล่ยหยุดใช้ความสามารถในการมองทะลุก่อนจะหยิบมีดล่าสัตว์ที่ซ่อนไว้ที่เอวของเขาออกมา
หลงบิงเห็นเซี่ยเหล่ยหยิบมีดที่ซ่อนไว้ออกมาก็ไม่รอช้าที่จะหยิบมีดล่าสัตว์ออกมาจากบู๊ตของเธอเช่นกัน
พวกเขาไม่ได้นำปืนติดตัวมาด้วยเนื่องจากพวกเขาต้องพักอาศัยอยู่ในเขตค่ายทหารของทหารรัสเซีย พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พกพาอาวุธ ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะส่งผลกระทบต่อพวกเขาอย่างรุนแรง
แม้ว่าหลงบิงจะมีประสบการณ์มากมาย นอกจากนี้ยังเคยเจอสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้มาแล้วด้วยแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า
เซี่ยเหล่ยจับมือของหลงบิงเบาๆก่อนจะกระซิบข้างหูว่า พวกเขามีทั้งหมดหกคน มาจากทางซ้ายสามคน ทางขวาสามคน คุณถอยไปก่อนแล้วยืนอยู่ด้านหลังผม ผมจะจัดการคนแรกและแย่งปืนมาจากเขา
หลงบิงชะงักไปครู่หนึ่ง ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยมันกระจายไปทั่วหัวใจของเธอ
ชายคนหนึ่งที่ดูแลผู้หญิงยามที่พบเจอกับอันตราย เซี่ยเหล่ยคือผู้ชายคนนั้น เขาอาสาไปยืนด้านหน้าของเธอโดยไม่ลังเล นอกจากนี้เขายังสามารถหาทางออกได้แม้ว่าสถานการณ์จะค่อนข้างลำบาก ผู้ชายที่มีความสามารถและอบอุ่นแบบนี้…เธอจะไม่รักเขาได้ยังไง?
เซี่ยเหล่ยผลักหลงบิงให้ไปอยู่ด้านหลังโดยไม่ได้รอให้เธอตัดสินใจ ก่อนจะขยับตัวเขายืนชิดกับผนังซึ่งติดกับข้างประตูเพื่อรอให้กะลาสีเรือเหล่านั้นเปิดประตูเข้ามา
ตัวล็อคถูกปลดออก เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูแง้มเพียงนิดเดียว จู่ๆกะลาสีเรือก็พุ่งตัวเข้ามาในห้องโดยสารทันที
เซี่ยเหล่ยไม่ได้ปล่อยให้จังหวะแรกสูญเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะทันทีที่กะลาสีพุ่งตัวเข้ามาการป้องกันตัวของเขาจะลดลง เซี่ยเหล่ยจึงจัดการจับมือขวาของกะลาสีคนแรกพร้อมกับใช้มีดล่าสัตว์ของเขาแทงไปที่หัวใจของเขา
กะลาสีคนแรกที่เข้ามาในห้องโดยสารตายคาที่ ร่างกายของเขาปิดทางเข้าออกของห้องโดยสารทำให้กะลาสีคนอื่นๆไม่สามารถเข้ามาได้
หลงบิงเองก็ไม่รอช้า เธอเอื้อมมือไปหยิบปืนมาจากมือของกะลาสีคนแรก หลังจากได้ปืนมาเธอก็ยิงออกไปหนึ่งนัดทันที กระสุนเฉี่ยวศพของกะลาสีคนแรกไป มันพุ่งตรงไปยังหัวของกะลาสีคนที่สอง เขาตายในทันทีเช่นกัน
เพียงแค่สามวินาที พวกเขาก็ฆ่ากะลาสีได้แล้วสองคน เซี่ยเหล่ยและหลงบิงทำหน้าที่กันได้สอดคล้องและเข้าขากันมาก แม้ว่าในเวลานั้นพวกเขาจะไม่เสียเวลาพูดกันเลยก็ตาม!
เฉินตูเทียนหยินและเซี่ยเหล่ยเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบในการใช้ชีวิตประจำวัน พวกเขาเหมาะสมกันทั้งฐานะและหน้าที่การงาน อย่างไรก็ตามในตัวตนอื่นอย่างเช่นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานลับ101 เซี่ยเหล่ยและหลงบิงถือเป็นนักฆ่าที่สมบูรณ์แบบในสนามรบเช่นกัน!