หนึ่งวันต่อมา ณ เกาะอิชเช่อรัม
ในเวลาค่ำเครื่องบินสอดแนม Ilyushin 38 สีเงินได้ร่อนลงบนรันเวย์เป็นที่เรียบร้อย ประตูห้องโดยสารเปิดออก เซี่ยเหล่ยและหลงบิงก้าวออกจากห้องโดยสาร ขณะเดียวกันก็มีทหารรัสเซียกลุ่มหนึ่งยืนมองพวกเขาด้วยความสงสัย พวกเขาพยายามคาดเดาว่าชาวจีนทั้งสองคนนี้มาทำอะไรที่นี่กันแน่
การมาของเซี่ยเหล่ยและหลงบิงในครั้งนี้เป็นการเดินทางมาอย่างไม่เป็นทางการ ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องนี้กันซักเท่าไหร่ มันก็ไม่แปลกที่ทหารรัสเซียจะมองพวกเขาด้วยสายตาที่สงสัยแบบนั้น
พวกเขาก็ใช้เวลาอยู่ไม่นานในการจัดการเรื่องเอกสารและเก็บสัมภาระให้เข้าที่ หลังจากนั้นพวกเขาก็กลับไปยังลานบินเพื่อขึ้น Ilyushin 38 อีกครั้ง พวกเขาเตรียมตัวพร้อมแล้วสำหรับการสำรวจพื้นที่ Ilyushin 38 เทคออฟขึ้นบินวนโดยมีเป้าหมายในการวนรอบประเทศญี่ปุ่น
ขณะที่บิน เซี่ยเหล่ยคอยสังเกตเข็มทิศอยู่ตลอดเวลาเพื่อดูปฏิกิริยาของมัน อย่างไรก็ตามแล้วแม้ว่าเครื่องบินจะบินโดยทั่วแล้ว แต่เขาก็ไม่พบอะไรที่ผิดสังเกตจากแผ่นดินของประเทศญี่ปุ่นเลย ดูเหมือนมันถูกซ่อนอยู่ที่ไหนซักแห่งบนเกาะเคียวจู
ด้วยการค้นพบนี้ทำให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้มากเมื่อเทียบกับข้อมูลที่เขาได้มา
หมู่เกาะเคียวจูเคยเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่ราชวงศ์หมิงเป็นเจ้าของแต่ปัจจุบันมันตกเป็นส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น
หลังจากการสำรวจ เซี่ยเหล่ยและหลงบิงก็เดินทางกลับไปที่ค่ายทหารภายใต้การจ้องมองจากทหารรัสเซียกลุ่มใหญ่
คิดไม่ถึงเลยจริงๆ หลงบิงพูดพร้อมขมวดคิ้วก่อนจะพูดต่อว่า เข็มทิศสั่นสะเทือนมากที่สุดเมื่อเราเข้าใกล้กับหมู่เกาะเคียวจูนอกจากนี้ถ้าสังเกตที่ปลายเข็มทิศแล้วมันก็ยังชี้ไปที่เกาะโอกินาวา ที่นั่นเป็นที่ตั้งของฐานทัพทหารอเมริกันดูเหมือนภารกิจของเราจะอันตรายมากขึ้นไปอีกขั้น
หมู่เกาะโอกินาว่าเป็นที่ตั้งของฐานทัพอเมริกันซึ่งแบ่งเป็นสาขาใหญ่สี่สาขาคือทางทะเล ทางพื้นราบ ทางอากาศ และนาวิกโยธิน ที่นั่นมีทหารประจำการกว่า 20,000 นาย
ความอันตรายของภารกิจในครั้งนี้สามารถเปรียบเทียบได้กับการค้ายาเสพติดในสถานีตำรวจเลยก็ว่าได้…
เราไม่สามารถทำอะไรได้ เซี่ยเหล่ยพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะพูดต่อว่า หวังว่ามันจะไม่ได้อยู่ที่ใต้รันเวย์หรอกนะ เพราะเราไม่สามารถขุดมันจากที่นั่นได้แน่นอน
หลงบิงจ้องไปที่เซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดว่า ในเวลาแบบนี้คุณก็ยังจะเล่นมุกอีกอย่างนั้นเหรอ? เอาเถอะ…ถ้ามันอยู่ที่ใต้รันเวยของฐานทัพอเมริกันจริงๆ ฉันก็จะสั่งให้คุณไปขุดมันขึ้นมาอยู่ดี เซี่ยเหล่ยหัวเราะก่อนจะพูดว่า มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน
ว่าแต่…คุณจะจัดการกับกู๋เค่อหวู่และกู๋เค่อเหวินยังไง? หลงบิงพูดเปลี่ยนหัวข้อสนทนาก่อนจะพูดต่ออีกว่า เราไม่สามารถพากู๋เค่อหวู่ไปค้นหากับเราได้หรอกนะ
กู๋เค่อเหวินต้องการพบกับเราที่โตเกียว ดูเหมือนว่าเราจะต้องเดินทางไปยังโตเกียวและจัดการเรื่องของกู๋เค่อเหวินและกู๋เค่อหวู่ให้เรียบร้อยก่อนจะเดินทางไปที่เกาะโอกินาว่า เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมมองไปที่หลงบิงก่อนจะพูดต่ออีกว่า ดังนั้น ผมว่าคุณควรจะไปรอผมที่เกาะโอกินาวาก่อน ผมจะรีบตามไปทันทีที่จัดการพวกเขาเสร็จเรียบร้อย
คุณจะพากู๋เค่อหวู่ไปโตเกียวคนเดียวอย่างนั้นเหรอ? หลงบิงถาม
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าก่อนจะพูดว่า กู๋เค่อเหวินและผมมีเรื่องส่วนตัวที่จะต้องสะสางกันให้ได้ ดังนั้นเชื่อใจผมแล้วไปรอที่โอกินาว่า
คุณต้องการแบบนี้จริงๆใช่มั้ย? หลงบิงถามให้แน่ใจ
ใช่ เซี่ยเหล่ยตอบอย่างหนักแน่น
เอาหล่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะทำตามใจตัวเองเหมือนกัน ฉันจะไปโตเกียวกับคุณ และหลังจากนั้นเราจะไปโอกินาว่าด้วยกัน หลงบิงพูด
ด้วยคำพูดของเธอทำให้เซี่ยเหล่ยถึงกับพูดไม่ออกเลย
คุณเป็นคนเดียวที่สำคัญที่สุดสำหรับโครงการ Alloy X เพราะคุณเป็นคนเดียวที่สามารถตามล่าค้นหาสมบัติที่ซ่อนอยู่ได้ แบบนั้นแล้วฉันจะปล่อยให้คุณไปเผชิญอันตรายคนเดียวได้ยังไง คุณกำลังจะสู้กับกู๋เค่อเหวินที่มีซีไอเอหนุนหลังอยู่นะ หลงบิงพูด
เซี่ยเหล่ยพบกับปัญหาเข้าให้แล้ว เขาไม่อยากให้หลงบิงตามเขาไปที่โตเกียวด้วยนั่นก็เพราะเขาไม่อยากให้หลงบิงรู้เรื่องราวที่เกี่ยวกับข้อตกลงและความลับของเฉินตูเทียนหยิน
‘เราจะบอกความจริงกับหลงบิงดีมั้ยนะ?’เซี่ยเหล่ยคิดในใจก่อนจะคิดต่อว่า ‘แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่เที่ยงตรงและรักในความยุติธรรม เธอจะทำอย่างไรถ้ารู้ว่าเทียนหยินได้ยักยอกทรัพย์สินของแผ่นดินผ่านกู๋เค่อเหวิน? ‘
ถ้าเป็นเรื่องอื่น เขาไม่คิดที่จะปิดปิดความจริงจากหลงบิงแน่นอนแต่นี่เป็นเรื่องของเฉินตูเทียนหยิน เขาจึงไม่ค่อยแน่ใจซักเท่าไหร่ว่าจะทำอย่างไรดี
ในขณะที่เซี่ยเหล่ยกำลังคิดและลังเลอยู่นั้น หลงบิงก็จ้องไปที่เขาอย่างไม่ละสายตา ซึ่งเซี่ยเหล่ยไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเธอกำลังจ้องเขาอยู่
ถ้าอย่างนั้นเราต้องเตรียมตัว พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางตั้งแต่เช้า เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมเดินกลับไปที่ห้องพักของพวกเขา
อย่างไรก็ตามจากปฏิกิริยาของเซี่ยเหล่ยเมื่อซักครู่ หลงบิงสามารถสังเกตเห็นถึงความผิดปกติอะไรบางอย่างได้ แม้ว่าเธอจะสงสัยแต่ก็ยังไม่ได้ถามอะไรออกไปในทันที
ที่นี่คือค่ายทหารของทหารรัสเซียกู๋เค่อหวู่ก็อยู่ที่นี่ด้วย
หัวของกู๋เค่อหวู่ถูกคลุมด้วยผ้าสีดำทั้งหัว เขาถูกใส่กุญแจมือเอาไว้ เขานั่งอยู่บนเก้าอี้และไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้ ที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะไม่ต้องการให้เขารู้ว่าที่นี่คือที่ไหนและไม่ให้เขามีโอกาสหาทางหลบหนี
ค่าใช้จ่ายในการใช้เครื่องบินสอดแนม Ilyushin 38 นั้นสูงมาก เซี่ยเหล่ยต้องใช้เงินกับเรื่องนี้ไปมากถึง 500,000 ดอลล่าสหรัฐ
เอี๊ยดดด…
กู๋เค่อหวู่เงยหน้าขึ้นทั้งๆที่ยังถูกคลุมหัวเอาไว้อยู่เพราะเขาได้ยินเสียงเปิดประตู เขาหันซ้ายหันขวาเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า นั่นใคร?
ผมเอง เซี่ยเหล่ยตอบ
ที่นี่คือที่ไหน? กู๋เค่อหวู่ถามต่อ
ประเทศญี่ปุ่น พวกเราอยู่ในญี่ปุ่นแล้ว เซี่ยเหล่ยตอบ เขาโกหกกู๋เค่อหวู่
ในเมื่อถึงแล้ว ทำไมผมถึงยังถูกคลุมหัวอยู่? เอามันออกไปเดี๋ยวนี้ กู๋เค่อหวู่พูดอย่างไม่พอใจ
ผมจะถอดมันออกก็ต่อเมื่อถึงเวลา ซึ่งยังไม่ใช่ตอนนี้ดังนั้นรอต่อไปนอกจากนี้อย่าอ้าปากพูดถ้าไม่จำเป็น ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน เซี่ยเหล่ยพูดเตือน
ถ้าไม่ถอดผ้าคลุมหัวออก ผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณไม่ได้โกหกผม กู๋เค่อหวู่พูด เขายังไม่หมดหวังที่จะถอดผ้าคลุมหัวออก
จังหวะนี้ หลงบิงก็เดินเข้ามาพร้อมกับใช้สันมือทุบอย่างแรงไปที่ท้ายถอยของกู๋เค่อหวู่และเขาก็สลบไปในทันที
เซี่ยเหล่ยมองไปที่หลงบิงโดยไม่ได้พูดอะไร
หลงบิงยักไหล่เล็กน้อยหนึ่งครั้งก่อนจะพูดว่า ทำไมต้องเสียเวลาพูดกับเขาด้วย ทำให้เขาเงียบไปเลยไม่ง่ายกว่าเหรอ?
แน่นอนว่าทำให้เขาเงียบไปเลยเป็นวิธีที่ดีมากแต่มันเป็นเรื่องแปลกสำหรับเซี่ยเหล่ยไม่น้อยที่เห็นผู้หญิงใช้วิธีรุนแรงในการแก้ปัญหา
ตอนนี้เขาก็ไม่ได้ยินอะไรแล้ว หลงบิงพูดอย่างเคร่งขรึมก่อนจะพูดต่อว่า คุณไม่มีสิ่งที่อยากจะบอกฉันงั้นเหรอ?
หืม… เซี่ยเหล่ยพูดพร้อมแสดงท่าทางลังเล เขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะบอกความจริงกับหลงบิงดีหรือไม่
หลงบิงถอนหายใจก่อนจะพูดว่า ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เชื่อใจฉันสินะ
ด้วยคำพูดของเธอ มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเธอไม่พอใจกับท่าทีของเซี่ยเหล่ย
ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น เซี่ยเหล่ยรีบพูดทันที ก่อนจะพูดต่อเลยว่า คุณจะคิดอย่างนั้นทำไม? คุณก็รู้จักผมนี่ แต่ที่ผมลังเลเพราะเรื่องนี้มันค่อนข้างขัดกับหลักการในการใช้ชีวิตของคุณ…
จังหวะเดียวกับที่เซี่ยเหล่ยพูดเสร็จ ก็มีทหารรัสเซียคนหนึ่งเดินมาที่ห้องของพวกเขาพร้อมกับเคาะประตูก่อนจะพูดเป็นภาษารัสเซียว่า อาหารสำหรับพวกคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เซี่ยเหล่ยเปิดประตูออกไปพร้อมกับรับอาหารค่ำมา มันเป็นชุดอาหารที่ประกอบไปด้วยขนมปังชีสและไส้กรอก อย่างไรก็ตามแม้ว่าเซี่ยเหล่ยจะรับอาหารเย็นมาเรียบร้อยแล้ว แต่ทหารรัสเซียคนนั้นก็ยังยืนอยู่ที่ประตูไม่ได้กลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะรออะไรบางอย่างอยู่
เมื่อเห็นดังนั้น เซี่ยเหล่ยจึงยิ้มก่อนที่จะพูดเป็นภาษารัสเซียออกไปว่า มีอะไรอีกงั้นเหรอ?
ทหารรัสเซียคนนั้นตอบกลับมาว่า เรือที่เราเตรียมไว้ให้เป็นเรือประมง มันจะออกเดินทางเวลา 04.00 น. ในตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกพอสมควร คุณสามารถพักผ่อนได้ตามสบาย เมื่อถึงเวลาผมจะมาปลุกพวกคุณเอง
เราจะใช้เรือประมงในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นอย่างนั้นเหรอ? เซี่ยเหล่ยถามให้แน่ใจ ใช่แล้ว เราไม่สามารถใช้เรือรบได้ ทหารรัสเซียพูดพร้อมรอยยิ้มก่อนจะพูดต่อว่า ไม่ต้องกังวล มันเป็นเรือประมงของชาวญี่ปุ่นจริงๆ มันจะไม่มีปัญหาแน่นอน
เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก เซี่ยเหล่ยพูดก่อนจะเอื้อมมือไปปิดประตูหลังจากที่ทหารรัสเซียคนนั้นเดินกลับไป
หลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยและหลงบิงก็รับประทานอาหารด้วยความผ่อนคลาย แต่อย่างไรก็ตามในใจของหลงบิงยังคงรู้สึกอารมณ์เสียกับการกระทำของเซี่ยเหล่ยก่อนหน้านี้
เซี่ยเหล่ยสังเกตได้ถึงความไม่พอใจของเธอ เขาจึงยิ้มก่อนจะพูดขึ้นว่า เอาหล่ะ ผมจะบอกคุณ แต่คุณต้องสัญญากับผมก่อนว่าคุณจะไม่บอกใคร นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับผมและเฉินตูเทียนหยิน ซึ่งถ้าคุณพูดออกไป พวกเราจะประสบปัญหาทันที
หลงบิงมองไปที่เซี่ยเหล่ยก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นเซี่ยเหล่ยก็เล่าทุกอย่างให้เธอฟัง ซึ่งในขณะเดียวกันเขาก็คอยสังเกตปฏิกิริยาของเธอตลอดเวลาที่กำลังเล่า
อย่างไรก็ตามดูเหมือนหลงบิงจะไม่ตกใจกับเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ เธอยังคงเคี้ยวอาหารไปอย่างเรียบง่ายราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
แต่ความเงียบของหลงบิงนั้นทำให้เซี่ยเหล่ยรู้สึกกังวลไม่น้อย เขาจึงพูดกับเธอว่า ผมบอกคุณไปทุกอย่างแล้ว ซึ่งสิ่งนี้ขัดกับหลักการในการใช้ชีวิตของคุณอย่างมาก คุณให้ผมบอกความจริงกับคุณแต่คุณกลับไม่พูดอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ? การแสดงออกแบบนี้หมายความว่ายังไง?
หลงบิงตอบกลับไปอย่างเรียบง่ายว่า ฉันจะไม่ละทิ้งหลักการใช้ชีวิตของฉัน ดังนั้นเมื่อภารกิจนี้สิ้นสุด เมื่อเรากลับไปที่ประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉันจะทำการจับกุมเฉินตูเทียนหยินทันที
ว่าไงนะ นี่… คุณ…? เซี่ยเหล่ยตกใจมากจนพูดไม่ออก
หลงบิงวางขนมปังก่อนจะพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า คุณมันงี่เง่า คุณแต่งงานกับผู้หญิงแบบนี้ได้ยังไง? สิ่งที่คุณกำลังทำตอนนี้ไม่ต่างจากการขุดหลุมเพื่อวางกับดัก ซึ่งสุดท้ายแล้วคุณเองนั่นแหละที่จะตกลงไปในกับดักที่คุณเป็นคนทำมันขึ้นมา
เซี่ยเหล่ยหัวเราะแห้งๆก่อนจะพูดว่า ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมไม่มีทางเลือก ตอนนี้ผมเป็นสามีของเธอ ผมต้องช่วยเธอ
หลงบิงถอนหายใจก่อนจะพูดว่า บางครั้งฉันก็อิจฉาเฉินตูเทียนหยินนะที่เกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทอง เธอกลายเป็นประธานของบริษัทยักใหญ่ทันทีที่เรียนจบมหาวิทยาลัย ทุกอย่างเตรียมไว้ให้เธอเรียบร้อย ตอนนี้เธอก็ยังได้แต่งงานกับคุณอีก ฉันกล้าพูดได้เลยว่าเธอจะต้องไม่เสียใจกับชีวิตการแต่งงานอย่างแน่นอน เธอโชคดีจริงๆ
มันไม่ได้สวยหรูตลอดอย่างที่คุณคิดหรอกนะ เธอเองก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นกัน เซี่ยเหล่ยพูด
หยุดปกป้องภรรยาของคุณได้แล้ว หลงบิงพูดพร้อมกับจ้องไปที่เซี่ยเหล่ยก่อนจะพูดต่อว่า ฉันเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ทำไมคุณไม่แสดงความห่วงใยฉันบ้าง? คุณไม่คิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างอย่างนั้นเหรอ?
สายตาของเซี่ยเหล่ยเปลี่ยนเป็นว่างเปล่าทันที เขาไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรในสถานการณ์แบบนี้
ฉันล้อเล่น ฉันล้อเล่น ลืมมันไปซะ ถือว่าฉันไม่ได้พูดอะไร หลงบิงพูด
เมื่อได้ยินแบบนั้นเซี่ยเหล่ยก็ถอนหายใจเล็กน้อยทันที
แต่ฉันอยากจะเตือนอะไรคุณไว้หน่อย ถึงแม้ว่าเฉินตูเทียนหยินจะเป็นภรรยาของคุณ แต่คุณก็ไม่ควรปกป้องเธอตลอดไปหรอกนะ หากคุณช่วยเธอในครั้งนี้ ด้วยความทะเยอทะยานและความโลภของเธอ เธอจะไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่นอน แล้วคุณหล่ะ คุณจะต้องคอยตามเช็ดตามล้างให้เธอต่อไปเรื่อยๆงั้นเหรอ?
เซี่ยเหล่ยพยักหน้าแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาเข้าใจเจตนาที่ดีที่เธอต้องการจะเตือนเขา
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครรู้อนาคต ดังนั้นสิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือตามเช็ดตามล้างเรื่องนี้ของเฉินตูเทียนหยินให้เสร็จเรียบร้อยก่อน