กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง …
เซี่ยเหล่ยหยิบโทรศัพท์ดาวเทียมขึ้นมาก่อนจะกดรับสาย
เป็นจังหวะเดียวกับที่หลงบิงพยายามกั้นหายใจเพราะกลัวว่าเสียงการหายใจของตัวเองจะเล็ดลอดออกไป
เสียงของกู๋เค่อเหวินดังออกมาจากลำโพงของโทรศัพท์ดาวเทียมว่า ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? ฉันอยู่ที่ทางเข้าโรงแรมทาเคตะแล้ว แต่ฉันยังไม่เห็นคุณเลยนะ
เซี่ยเหล่ยรู้ว่ากู๋เค่อเหวินต้องคำนวณเวลาและคาดเดาช่วงเวลาที่เขาจะมาถึงไว้แล้วอย่างแน่นอน เขาจึงไม่แปลกใจอะไรซักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามเขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า รถของผมมีปัญหาระหว่างทาง ผมไม่สามารถขับไปต่อได้ ดังนั้นขอเวลาผมหน่อย ผมต้องซ่อมรถให้เสร็จก่อนจะไปหาคุณ ตอนนี้คุณอยู่ตรงไหน กู๋เค่อเหวินถามทันที
หึ กู๋เค่อเหวิน คิดเหรอว่าผมจะบอกคุณว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน? ผมไม่บอกคุณหรอกนะ เซี่ยเหล่ยพูด
คุณอย่ามาเล่นลิ้นกับฉัน คุณไม่กลัวว่าฉันจะ… กู๋เค่อเหวินพูดอย่างไม่พอใจทันที
แต่ยังไม่ทันจะจบประโยค เซี่ยเหล่ยก็พูดแทรกขึ้นมาว่า กู๋เค่อเหวิน ผมจะฆ่าพี่ชายของคุณและกลับประเทศจีนทันทีถ้าคุณยังขู่ผมอีก ผมทำในสิ่งที่คุณต้องการแล้ว คุณอย่ามามากเรื่องกับผม นอกจากนี้หลักฐานที่คุณมีต่อให้คุณมอบมันให้กับรัฐบาล ผมก็จะใช้ความดีความชอบและความสัมพันธ์ทั้งหมดที่มีเพื่อต่อลองขอลดโทษเธอลง แน่นอนว่าโทษของเธอจะเบาลง เธอไม่ตายแน่นอน ซึ่งมันผิดกับพี่ชายของคุณ เขามีแค่ชีวิตเดียวและเขาตายแน่นอนเพราะฉะนั้นคิดให้ดีๆว่ามันคุ้มหรือไม่คุ้ม
งั้นคุณจะมาถึงที่นี่เวลาไหน? เสียงของกู๋เค่อเหวินนิ่มลงอย่างเห็นได้ชัด เธอพยายามเสแสร้ง
เซี่ยเหล่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไปว่า ผมจะไปให้ถึงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้ พูดจบก็วางสายทันที
เฮ้ออ หลงบิงปล่อยลมหายใจออกเต็มที่ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆใหม่ทันที ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยเนื่องจากออกแรงกลั้นหายใจ
ทำไมคุณถึงกลั้นหายใจหล่ะ? เซี่ยเหล่ยถาม
เพราะถ้าคุณสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็อาจจะได้ยินเสียงลมหายใจของฉันได้เช่นกัน มันดีกว่าไม่ใช่เหรอถ้าฉันจะกลั้นหายใจ เอาหล่ะเรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ว่าแต่ที่คุณพูดกับเธอเมื่อกี้นี้ ฉันค่อนข้างมั่นใจเลยว่าเธอไม่ได้สนใจชีวิตพี่ชายของเธอเลย หลงบิงพูด
เซี่ยเหล่ยหัวเราะก่อนจะพูดขึ้นว่า กันไว้ก่อนก็ดีเหมือนกันแต่เรื่องที่คุณพูดถึงกู๋เค่อเหวินนั้นผมก็เห็นด้วย ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยสนใจชีวิตพี่ชายของเธอเลย ก่อนหน้านี้เธอก็ถามถึงพี่ชายของเธอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ใช่ ดังนั้นเป้าหมายของเธอจริงๆแล้วคือคุณ หลงบิงพูด
เซี่ยเหล่ยนึกไปถึงมือปืนสองคนที่เฝ้าอยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้านทันที เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่เจ้าหน้าที่ซีไอเอแต่ก็ไม่รู้เลยว่าพวกเขาเป็นใคร ผู้หญิงที่อยู่กับกู๋เค่อเหวินด้วยก็เช่นกัน ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเธอเป็นใครและทำงานให้กับใคร
ด้วยฝีมือของกู๋เค่อเหวินนั้น เซี่ยเหล่ยไม่รู้สึกกลัวหรือกดดันเลยแม้แต่น้อย แต่ผู้หญิงคนนั้นที่อยู่กับเธอ เขาไม่รู้ทั้งฝีมือและตัวตนของเธอ เขาจึงรู้สึกประหม่าและกดดันค่อนข้างมาก
มันยังไม่สายเกินไปหรอกนะที่เราจะถอย หลงบิงพูดก่อนจะพูดต่อว่า และที่คุณบอกกู๋เค่อเหวินไปก็ค่อนข้างจะสมเหตุสมผล ด้วยคุณประโยชน์และความสัมพันธ์ของคุณที่มีต่อรัฐบาล มันคงช่วยให้โทษของเฉินตูเทียนหยินลดลงได้ไม่มากก็น้อย นอกจากนี้หลิงฮั่นเองก็เป็นเหมือนพี่น้องกับคุณเขาต้องช่วยคุณอยู่แล้ว ตำแหน่งของเขาก็อยู่ในระดับสูง อย่างน้อยและเลวร้ายที่สุดเธอจะไม่ถูกตัดสินประหารชีวิตอย่างแน่นอน
เซี่ยเหล่ยยิ้มก่อนจะพูดว่า เรื่องนั้นผมรู้อยู่แล้ว ผมยังเข้าใจด้วยว่าการถอยตอนนี้จะเป็นผลดีต่อเรามากที่สุด แต่…จะให้ใช้คุณประโยชน์ทั้งหมดในครั้งเดียวเพื่อแลกกับการช่วยเฉินตูเทียนหยินในครั้งนี้ผมว่ามันไม่ค่อยคุ้มซักเท่าไหร่
เขาไม่ต้องการใช้คุณประโยชน์ไปกับเรื่องนี้เพราะการใช้วิธีนี้สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวนอกจากนี้เขาต้องการจะใช้มันกับพ่อของเขา เซี่ยฉางห่ายเท่านั้น
สถานะตัวตนของเซี่ยฉางห่ายนั้นไม่เหมือนใครดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่ตัวตนของเขาถูกเปิดเผย เซี่ยเหล่ยต้องการจะใช้คุณประโยชน์ทั้งหมดที่เขามีเพื่อช่วยพ่อของเขาในเวลานั้น
ถ้าเขาใช้มันช่วยเฉินตูเทียนหยินตอนนี้ พ่อของเขาก็จะไม่รอด
อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องนี้เซี่ยเหล่ยไม่สามารถบอกและอธิบายให้หลงบิงฟังได้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก จู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เรานำอาหารที่สั่งมาส่งแล้ว ขอเข้าไปได้ไหม? เสียงของเจ้าของโรงแรมพูดอย่างสุภาพ
หลงบิงแสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจทันที เธอคิดว่านี่เป็นอุปสรรคหนึ่งอย่างที่มาขัดขวางเธอในขณะนี้
เซี่ยเหล่ยหัวเราะเล็กน้อยกับการแสดงของออกหลงบิง อย่างไรก็ตามเขาก็เดินไปเปิดประตูในทันทีเช่นกัน
หัวหน้าโรงแรมเข็นรถอาหารเข้ามาก่อนจะจัดจานให้เรียบร้อย หลังจากนั้นเธอก็โค้งคำนับหนึ่งครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องไป แม้ว่าในขณะนี้อาหารจะวางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว แต่ผู้ชายและผู้หญิงที่อยู่ในห้องนี้ไม่ได้สนใจแม้แต่จะมองไปที่มันเลยด้วยซ้ำ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของโรงแรมเดินออกไป พวกเขาก็จ้องหน้ากันพร้อมกับกระโจนร่างกายเข้าหากัน
ในขณะนี้ไม่มีอะไรมารบกวนพวกเขาแม้แต่เสียงโทรศัพท์
ในขณะเดียวกันรถที่อยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านก็เริ่มเคลื่อนที่ไปตามทางของถนนโดยพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปที่โตเกียว
ชายผิวขาวที่กำลังขับรถอยู่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกก่อนที่จะพูดเป็นภาษาอิตาลีว่า บอส พวกเรากำลังขับรถไปตามถนนโดยกำลังมุ่งหน้าไปที่โตเกียว ผมต้องการจะยืนยันว่าพวกเขาพูดความจริงหรือว่ากำลังโกหก
เสียงจากปลายสายเป็นเสียงของผู้หญิง เธอพูดว่า ระยะทางจากที่นั่นไปถึงโตเกียวประมาณ 50 กิโลเมตร รายงานกับฉันทันทีหากคุณพบเป้าหมาย และถ้าไม่ก็รีบกลับมาทันที
เข้าใจแล้ว บอส ชายผิวขาวพูดจบก็วางสายทันที
ในขณะนี้มีชายถืออาวุธไม่น้อยกว่า 20 คนที่อยู่ในโรงแรมหัวใจชิโนะ พวกเขากำลังออกตามหาเซี่ยเหล่ยโดยได้เอารูปของเขามาจากกู๋เค่อเหวิน ชายถืออาวุธเหล่านั้นออกตามหาเซี่ยเหล่ยตามห้องพักต่างๆของโรงแรม พวกเขาเป็นคนที่ไม่สนใจกฏหมายบ้านเมือง ดังนั้นถ้าห้องไหนไม่ให้ความร่วมมือพวกเขาจะพังห้องเข้าไปทันที
พวกเขาเหล่านี้ล้วนพูดภาษาญี่ปุ่น พวกเขาเป็นสมาชิกของแก๊งยากูซ่า ดังนั้นเจ้าของโรงแรมต่างๆไม่มีกล้าคิดที่จะเข้าไปห้าม เพราะกลัวจะมีเรื่องและถูกพวกเขาทำร้าย ดังนั้นส่วนใหญ่จึงให้ความร่วมมือกับพวกเขาแม้ว่าจะไม่เต็มใจก็ตาม
