ทาสนักรบที่แข็งแกร่งมากที่สุดคือพวกกลาดิเอเตอร์ที่ถูกฝึกมาแบบพิเศษโดยเหล่านายทาส และถูกใช้สำหรับการต่อสู้โดยเฉพาะ.
เย่เทียนอยากซื้อทาสกลาดิเอเตอร์พวกนั้นไว้จริงๆ.
พวกนั้นไม่ใช่แค่แข็งแกร่งอย่างเดียวแต่ถูกฝึกมาให้จงรักภักดีกับเจ้านายและจะไม่มีวันทรยศเด็ดขาด.
ณ ช่วงเวลานี้, โคลอสเซียมยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเลยด้วยซ้ำ.
การก่อสร้างโคลอสเซียมเริ่มเมื่อปีพระคริสต์ที่72และสร้างเสร็จในปีพระคริสต์ที่80. ซึ่งมันก็เกือบ100ปีจากตอนนี้.
ถึงจะไม่มีโคลอสเซียม พวกนายทาสหลายคนก็ฝึกทาสไว้สู้แมตช์กลาดิเอเตอร์ ถึงสถานที่มันจะดูไม่ยิ่งใหญ่เท่าโคลอสเซียมอันเลื่องชื่อก็เถอะ.
พวกนายทาสจะล็อคกลาดิเอเตอร์ของตัวเองไว้ในกรงเหล็กยักษ์และสั่งให้ฆ่ากันเอง.มีแค่คนที่รอดชีวิตถึงจะออกมาได้.
ไอ้ ‘กรงต่อสู้’นี้อาจจะเป็นต้นแบบให้กับโคลอสเซียมในอนาคตก็เป็นได้.
การต่อสู้พวกนี้ดึงดูดคนให้มาดูที่สนามบ่อยมาก.
นอกจากเย่เทียนอยากจะได้กลาดิเอเตอร์มาเป็นของตัวเองแล้วเขาถึงกับวางแผนจะสร้างโคลอสเซียมด้วยซ้ำ!
ถ้าเขามีเงินพอเมื่อไหร่, เขาจะสร้างโคลอสเซียม ถึงจะเล็กๆที่น่าจะจุคนได้ไม่เกิน2หมื่นคนแต่มันก็เป็น
โคลอสเซียมอยู่ดี ถ้าเป็นไปตามแผน เขาคงร่ำรวยขึ้นมามาก แค่ขายตั๋วก็คุ้มแล้ว.
เนื่องจากเขาเป็นคนสร้างกฏ เขาจะใช้โคลอสเซียมนั้นหาเงินเยอะๆและรวบรวมนักสู้เก่งๆ.
แน่นอน, ตอนนี้มันคงเป็นแค่ฝันลมๆแล้งๆ. เขามีเงินไม่พอที่จะสร้างโปรเจ็คเว่อๆแบบนี้.
[ติ๊ด. ระบบได้ตรวจจับความคิดของท่านและได้สร้างเควสขึ้นมาใหม่! ภารกิจท่านคือ: สร้างโคลอสเซียมเล็กๆขึ้นมาภายใน5ปี; สร้างแห่งที่ใหญ่กว่า ขึ้นมาภายใน10ปี. ของรางวัล – ไม่ทราบ.]
เมื่อระบบดังขึ้นในหัวของเย่เทียน เขาชะงักก่อนจะยิ้มแบบเจ็บๆ. สร้างโคลอสเซียมเล็กๆภายใน5ปีแล้วก็สร้างอันใหญ่ภายใน10…..
เควสโคตรจะยาก. ถ้าจะจบเควสนี้; ไม่ใช่แค่ต้องใช้ต้นทุนอันมหาศาล อิทธิพลเยอะๆก็จำเป็นเช่นกัน.
ทันใดนั้น, น้ำหนักของเควสก็ทำให้เขาหนักใจ…..
ทันใด้นั้นเย่เทียนก็รู้สึกว่าความเงียบกำลังเกิดกับความวุ่นวายรอบๆตัว. สตรีสูงส่งผู้นึงมาที่ตลาดทาสพร้อมกับกลุ่มทหาร.
สตรีผู้นั้นดูเหมือนจะอายุ30ต้นๆ, จากความงามของเธอ. ท่าทางของเธอดูสง่างามและดูเป็นผู้ใหญ่.
ผมสีบลอนด์ของเธอถูกเกล้าเป็นมวยสูง โชวคอที่เหมือนกับพญาหงส์. ในฐานะสตรีชั้นสูงชาวโรมัน เครื่องแต่งกายของเธอปกปิดร่างกายซะส่วนใหญ่ ตั้งแต่ช่วงตัวลงไปถึงขา. ผิวสีขาวและรูปร่างโค้งเว้าของเธอค่อนข้างยั่วยวน.
ข้างหลังของเธอมีเด็กผู้ชายตามมา อายุคงประมาณ11ไม่ก็12ปี ผมของเขาสีน้ำตาลและหยิกหน่อยๆ.แม้จะอายุแค่นั้น, แต่ตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความดุดันและสติปัญญา.
กาอีอุส จูเลียส ซีซาร์!
เมื่อเขาจ้องไปที่เด็กคนนั้น, ชื่อนี้โผล่เข้ามาในหัวของเย่เทียน.
เชี่ย, เด็กนี่คือซีซาร์ตอนเด็กนี่หว่า
แต่ตอนนี้ชั้นอยู่ที่นี้, จักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่จะไม่ใช่ซีซาร์ แต่เป็นเซตาน!!
รอยยิ้มค่อยๆออกมาที่หน้าของเย่เทียน.
ถ้าเด็กนี้คือซีซาร์ ผู้หญิงตรงนั้นคงเป็นแม่ของเขา ออเรเลีย.
เย่เทียนรู้ถึงความงามของออเรเลีย แต่ก็ไม่ได้คิดว่านางจะงามปานนี้. นางคงจะพิชิตใจได้ทุกคนตอนสาวๆแน่ๆ.
ออเรเลียมาจากตระกูลออเรเลียสค็อตต้า. เป็นตระกูลที่รู้จักกันดีในสาธารณะรัฐ. เพราะปู่(ไม่ก็ตา)ของซีซาร์
ลูเชียส ออเรเลียส ค็อตต้าผู้เคยเป็นกงศุลในปี119ก่อนคริสตกาล.
ในสาธารณะรัฐโรมัน ยศกงศุลน่าจะเป็นยศสูงที่สุดในการเลือกตั้ง เนื่องจากมีการเลือกตั้ง2ครั้งในแต่ละปี
พวกเขาก็เหมือนผู้นำของสาธารณะรัฐ รับผิดชอบด้านควบคุมกองทัพเป็นเจ้าภาพการประชุมสภา,ถ่ายทอด
คำสั่งที่มาจากสภาและเป็นตัวแทนของสาธารณะรัฐในงานต่างแดน.
ณ ช่วงเวลานี้, พ่อของซีซาร์เพิ่งจะได้รับเลือกเป็นประธานของสภา ซึ่งแปลว่าเขามีอำนาจส่วนนึงต่อการ
ตัดสินใจของสาธารณะรัฐ.
รู้เลยว่าซีซาร์เกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทองเพราะเขาเป็นคนของตระกูลชั้นสูงที่มีอิทธิพล.
พ่อของเขาเป็นที่นับหน้าถือตา,นอกจากจะทำงานเป็นขุนเวียงแล้วยังเป็นขุนคลังอีกด้วยและยังเป็นถึงผู้แทนกงศุลแห่งเอเชีย.
ซีซาร์เป็นเด็กหูไวตาไวเขามองตรงไปที่ฝูงชน,รู้สึกได้ถึงสายตาของเยเที่ยนที่มองอยู่แต่ว่าเขาก็หาตัวคนที่จ้องไม่พบ.
“เชี่ย!”
เยเที่ยนถอนหายใจพร้อมกับเลี่ยงสายตาออกตอนที่ซีซาร์มองมาที่ฝูงชน.
ไม่แปลกใจเลยที่มันจะกลายเป็นสุดยอดจักรพรรดิ์แห่งโรม!
“แม่ครับ, นี่ไม่ใช่ตลาดทาสหรอครับ? ทำไมเรามานี่อะ?” ซีซาร์ถามอย่างสงสัย, คิ้วขมวด.
“ในเวลาอีก3ปี, ลูกจะกลายเป็นผู้ใหญ่. ก่อนหน้านั้น, เจ้าจำเป็นต้อง ‘หลั่งเลือด’ และกลายเป็นชายชาตรีเต็มตัว. วันนี้เจ้าจะต้องเลือกทาสคนนึงแล้วฆ่ามันซะ. ปีถัดไปจากปีหน้า, เจ้าต้องฆ่าทหาร – เฉลยแห่งสงคราม. เจ้าจะต้องเป็นชายชาตรีที่คู่ควรกับตระกูลเรา.”
แม้ออเรเลียจะพูดกับซีซาร์เบาๆ เย่เทียนก็ยังคงได้ยินที่พวกเขาคุยกัน.
หลั่งเลือด?
กะไว้แล้ว, ถึงพวกเขาจะเป็นผู้สูงส่งและเป็นที่เคารพ แต่พวกเขาคงไม่ใช่พวกงอมืองอเท้ารอความสบายแน่ๆ. บางที การสอนเด็กให้โตของพวกนั้นดูยากกว่าพวกสามัญชนอีก.
เย่เทียนเข้าใจแจ่มแจ้งเลยล่ะถ้าพูดถึงเรื่อง ‘หลั่งเลือด’ – เขารู้ว่ามันหมายถึงอะไร.