งานแต่งงานในโรมโบราณนั้นมีขั้นตอนที่ซับซ้อนอยู่3ขั้น: ขั้นแรกคือจะมีพิธีที่บ้านของเจ้าสาว, งานขบวนที่บ้านของเจ้าบ่าวและสุดท้ายก็คือพิธีที่เจ้าสาวจะเข้ามาในบ้านของสามี.
โดยทั่วไปแล้วพวกแขกจะมาตอนงานขั้นที่3.
แต่รอบนี้มันก็เกือบจะค่ำแล้ว.
แน่นอนว่าเย่เทียนเองก็ขึ้นรถม้าออกไปในรอบนี้ด้วยเช่นกัน.
เย่เทียนพกถุงเหรียญทองเล็กๆและพาแองเจล่าไปด้วยกัน. เพราะยังไงไปงานแต่งก็ห้ามมือเปล่าเด็ดขาด.
ขณะเดินทางเย่เทียนก็เห็นพวกชนชั้นสูงรีบไปทางบ้านแครสซัสเช่นกัน.
แม้พวกชนชั้นสูงจะดูหมิ่นแครสซัสในใจแต่พวกเขาก็ยังต้องไว้หน้าพ่อของเขาอยู่.
บ้านของแครสซัสตอนนี้ประดับประดาด้วยแสงสว่าง. แม้ว่ามันจะไม่ดูหรูเหมือนรุ่นหลังๆ แต่ก็มีพรมแดงปูไว้และมีผ้าสีแดงประดับประดาอยู่ข้างประตูเต็มไปหมด. มันดูเหมือนงานปาร์ตี้เลย.
ดูเหมือนว่าขั้นสุดท้ายของพิธีที่เจ้าสาวจะต้องเข้ามาในบ้านแต่งงานยังไม่เริ่มขึ้น.
แขกหลายคนยืนอยู่ด้านหน้าบ้าน รอแครสซัสจูงมือเจ้าสาวอยู่.
“แองเจล่า, เจ้ารอข้าอยู่ในรถม้าก่อนนะ. เดี๋ยวข้าจะให้บางอย่างกับเจ้า. เจ้ามีหน้าที่ช่วยข้า เอามันไปให้วิคตอเรีย.”
หลังจากรถม้าจอดแล้ว เย่เทียนพูดกับแองเจล่าด้วยสายตาชั่วร้าย.
“ทราบแล้วค่ะ, ข้าจะรอท่านอยู่ที่นี่ค่ะเจ้านาย!”
แองเจล่าตอบด้วยความเคารพ.
เย่เทียนจุ๊บหน้าผากของแองเจล่าเบาๆแล้วเดินไปที่งาน.
จากนั้นไม่นานเย่เทียนก็เห็นคนหน้าคุ้นๆ, ปอมปีย์กับแม่ของเขา เวลิน่า, พวกเขากำลังคุยอยู่กับชนชั้นสูงผู้อื่นอยู่.
ปอมปีย์เองก็เห็นเย่เทียนแล้ว, ความรู้สึกหวาดกลัวประหลาดๆโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าของเขา เขารู้สึกกลัวหน่อยๆ.
เขากลัวว่าคนบ้าอย่างเย่เทียนจะมาเก็บหนี้ที่ติดไว้ตรงนี้จริงๆ แล้วเขากับครอบครัวก็จะถูกฉีกหน้าแน่ๆ.
เย่เทียนเย้ย, แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจพวกเขาแล้วก็ไม่อยากฉีกหน้าปอมปีย์ที่นี่ด้วย. ถึงมันจะดูน่าสนุกแต่มันก็จะทำให้เขาดูหยาบคายและทำให้ชนชั้นสูงหลายคนที่นี่ไม่ชอบแน่ๆ แม้แต่พ่อเขาด้วย.
ออเรเลียกับซีซาร์เองก็มาเช่นกัน. พวกเขาเห็นเย่เทียนแล้วโบกมือให้.
“โอ้พระเจ้า. ทำไมเจ้าถึงมาช้านัก?”
พอเห็นเย่เทียนอีกครั้ง ออเรเลียก็ดีใจและซีซาร์เองก็มีความสุขกว่าเดิมอีก.
“เรียนท่านหญิงออเรเลีย ท่านน่าจะทราบว่าข้ายุ่งมากๆเลยนะครับ”
เย่เทียนยิ้มแล้วบ่น “ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าบ้าแครสซัสนั้นเมินข้าและไม่ชวนข้าเลย”
“อย่าใส่ใจเลยซาตาน. เจ้าเป็นชั้นสูงหน้าใหม่, ก็เป็นปกติอยู่แล้วที่เขาจะจำเจ้าไม่ได้. แต่ทว่าเจ้าทำได้ดีมากครั้งนี้. เจ้าสามารถรู้จักกับชนชั้นสูงผู้อื่นจากงานฉลองแบบนี้ได้เลย”
ออเรเลียปลอบเย่เทียนแล้วชื่นชมการกระทำของเย่เทียนมากๆ.
“ครับ, ข้าก็คิดเช่นนั้น”
เย่เทียนยิ้มแต่ก็ยังรู้สึกแสยะหน่อยๆ. ถ้าเขาเปิดร้านอาหารแล้ว เขาจะกลัวว่าไม่รู้จักพวกชนชั้นสูงชอบกินเลือดกินเนื้อพวกนี้รึป่าว?
“คู่หมั้นข้า เคช่าอยู่ที่ไหนหรอครับ?”
เย่เทียนมองไปรอบๆออเรเลียและหาเด็กผู้หญิงอีกคนไม่เจอ เขาเลยอดใจถามไม่ได้.
จนถึงตอนนี้เขายังไม่เคยพบคู่หมั้นเขาเลย.
“เรื่องเจ้ามีคู่หมั้นแล้วเนี่ย มันจำยากขนาดนั้นเลยหรอ. ข้าคิดว่าเจ้าลืมเคช่าไปแล้วซะอรก….”
เสียงของออเรเลียเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง.
“ท่านหญิงออเรเลียครับ, ท่านต้องเชื่อข้านะ พระเป็นเจ้าเองก็เป็นพยานได้ว่าข้ากำลังยุ่งอยู่กับการสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับคู่หมั้นข้าจริงๆ…..”
เย่เทียนยิ้มด้วยความจริงใจ.
“พระเจ้า, ข้ากังวลเรื่องอนาคตลูกสาวข้าจริงๆ. พระเจ้าจะรู้ไหมนะว่านางจะได้เจอกับศัตรูหัวใจมากแค่ไหนในอนาคต…..”
ออเรเลียรู้ตัวว่าชายผู้แข็งแกร่ง,กล้าหาญ,หล่อเหลา,อบอุ่น,รวยและปากหวานคนนี้มีเสน่ห์แรงกับผู้หญิงเหลือเกิน.
เย่เทียนเป็นคนแบบนั้นจริงๆ.
เย่เทียนแก้ต่างไม่ทันเพราะมีเสียงดังมาแต่ไกล, แครสซัสจูงมือเจ้าสาวของเขามาแล้ว.
เวลานี้เกือบจะพลบค่ำแล้วและขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการแต่งงานก็เริ่มแล้ว, เมื่อคบเพลิงส่องแสงนำทางให้เจ้าสาวไปสู่บ้านของสามีเธอ. ในขั้นตอนนี้, เพื่อเป็นการเลียนแบบการแต่งงานที่มีมาแต่โบราณของหัวหน้าเผ่าแล้ว, เจ้าบ่าวต้องแสร้งทำเป็นแย่งเจ้าสาวมาจากแม่ของนางเพื่อแสดงความแข็งแกร่งให้เห็น.
“ทาราซิโซ….”
“ทาราซิโซ….”
….
ขณะที่คบเพลิงเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ พวกแขกก็เริ่มตะโกนคำว่า ’ทาราซิโซ’ ซึ่งเย่เทียนเองก็ไม่เข้าใจความหมายของมันนักแต่มันก็คงเป็นแค่สโลนแกนของพิธีเท่านั้นล่ะมั้ง บางทีอาจจะเป็นเครื่องบอกอำนาจของเจ้าบ่าวก็ได้.
“ไปอวยพรเจ้าบ่าวเจ้าสาวกันเถอะ!”
ออเรเลียยิ้มแล้วพาเย่เทียนกับซีซาร์เข้าไปด้านใน.
“โอเค!”
เย่เทียนยิ้มด้วยความชั่วร้ายในดวงตา. เขากำลังกังวลว่าจะเข้าหาเจ้าสาวยังไง.
เจ้าสาวนั้นสวยมากๆ, โดยเฉพาะวันนี้ที่เป็นช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดในชีวิตเธอ ใบหน้าของเธอนั้นอ่อนช้อยมากๆ อาจจะสวยกว่าแองเจล่าหน่อยนึงเลยก็ว่าได้.
ขณะตามออเรเลียกับพวกแขกไป เย่เทียนก็มาถึงตัวเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ขณะคว้าโอกาสอวยพรทั้งคู่ เย่เทียนก็เนียนไปข้างๆเจ้าสาวแล้วมือของเขาก็ขยับไปอย่างรวดเร็วแล้วก็กลับมาที่เดิม.
“ขอให้พวกเจ้ามีความสุข, ขอให้พระเจ้าแห่งโชคสถิตกับพวกเจ้าตลอดไป!”
ท่ามกลางฝูงชน เย่เทียนก็อวยพรเช่นกัน, เสียงของเขาไม่ได้ดังมากนักแต่สำหรับแครสซัสแล้วมันเป็นเสียงที่เขาเกลียดชังมากที่สุด, ดังนั้นเวลาที่เขามองมาหาตัวเย่เทียน, เขาก็ช้อคและรอยยิ้มบนใบหน้าก็ดูประหลาดๆ.
ไม่รู้เพราะอะไร, การที่เย่เทียนมางานนี้ทำให้เข้ารู้สึกว่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น.
แต่ทว่าเขาก็ไม่มีเวลาพอจะพูดอะไรเลย แล้วก็ถูกฝูงชนดันไปข้างหน้า.
“เหะ เหะ…..”
เย่เทียนยิ้ม, ออกจากฝูงชนไปแล้วเดินไปทางที่ที่เขาจอดรถม้าไว้.
“แองเจล่า, เอาเส้นผมนี้กลับไปให้วิคตอเรียแล้วปล่อยนางออกมาคืนนี้, นางรู้ว่าต้องทำอะไร”
ขณะขึ้นรถม้าเย่เทียนส่งเส้นผมที่ห่อด้วยผ้าสีแดงให้แองเจล่าแล้วอธิบายให้เธอฟัง.
“เข้าใจแล้วค่ะเจ้านาย!”
แองเจล่าสงสัยมากๆแต่ก็ไม่ถามอะไรเยอะและด้วยคำสั่งของเย่เทียน เธอก็ขับรถม้ากลับไป.