บ้านของตระกูลจูเลียสนั้นมโหฬารและหรูหรามาก.
พอเย่เทียนบอกชื่อและจุดประสงค์ที่มาแล้วหนึ่งในยามเฝ้าประตูก็รีบเข้าไปรายงานเจ้านายของพวกเขา.
ไม่นานนักซีซาร์ก็ออกมาแต่มีแค่เขาคนเดียวไม่มีใครตามมาอีกเลย. ออเรเลียที่ปกติดูตื่นอกตื่นใจก็ไม่ออกมาทักทายเขาเหมือนปกติ.
ส่วนเหตุผลนั้นเย่เทียนเดาว่าน่าจะเป็นเพราะเธอยังอายที่จะเจอหน้าเขาเพราะเรื่องคืนนั้น.
พอคิดถึงเรื่องคืนนั้นน้องชายของเย่เทียนก็ดันตื่นขึ้นมาอีกแล้ว.
คืนนั้นเย่เทียนรู้ขนาดอกเอวสะโพกเธอเลยด้วยซ้ำ.
“ท่านอาจารย์มาเยี่ยมช่างเป็นเกียรตินัก!”
พอเห็นเย่เทียนซีซาร์ก็ดีใจมากๆและหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความตื่นเต้นทันที.
ตอนนั้นหน้าของซีซาร์ก็เต็มไปด้วยเหงื่อและดูแดงมากๆด้วย.
เย่เทียนมองไปที่มือของเขาแล้วก็สังเกตเห็นรอยแดงๆ เขาจึงรู้ได้ทันทีว่าซีซาร์น่าจะเพิ่งฝึกวิชาดาบมา.
“ข้าเองก็ดีใจที่มีศิษย์ขยันอย่างเจ้า. เชื่อข้าเถอะอนาคตของเจ้า เจ้าจะต้องยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าบรรพบุรุษในประวัติศาสตร์ตระกูลจูเลียสซะอีก!”
เย่เทียนพูดกับเขาด้วยความตื้นตัน. เด็กที่มีความขยันและอุตสาหะขนาดนี้ก็มีแววจะประสบความสำเร็จได้.
ตามประวัติศาสตร์แล้วถ้าตระกูลของเขาไม่เสื่อมอำนาจล่ะก็ ซีซาร์จะต้องเติบใหญ่กว่านี้แน่นอน.
“ขอบพระคุณสำหรับคำชมครับท่านอาจารย์. วันนี้ท่านจะแนะวิชาดาบให้ข้าได้หรือไม่?”
ถึงยังไงซีซาร์ก็ยังเด็ก เขาก็ต้องรู้สึกดีใจและภูมิใจเพราะคำชมของเย่เทียนเป็นธรรมดา.
“ได้เลย!”
เย่เทียนยิ้มแล้วถาม “เอ่อ…แม่ของเจ้าอยู่ที่ใดรึ? ข้าอยากจะคุยบางอย่างกับนาง!”
“ท่านแม่รึครับ? นางบอกว่านางไม่สบายวันนี้เลยให้ข้ามาพบท่านคนเดียว….”
ซีซาร์ตอบอย่างเขินอายเล็กน้อย.
“ข้าดูแค่นี้ก็รู้แล้ว, เจ้าโกหกข้าอยู่. ไปเลยนะเจ้าหนู พาข้าไปหานางเลย, ข้ามีบางอย่างที่สำคัญมากๆ. บางทีมันอาจจะทำให้เรารวยขึ้นก็ได้!”
เย่เทียนลูบหัวซีซาร์เบาๆแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม.
“ฮี่ฮี่”
ซีซาร์ยิ้มอย่างอายๆ.
“โอเคๆ ตามข้ามาเลยครับอาจารย์!”
สุดท้ายซีซาร์ก็นำทางเย่เทียนเข้าไป.
“จะว่าไปแล้วน้องสาวเจ้า เคช่าล่ะ, นางอยู่บ้านหรือไม่?”
เย่เทียนถาม.
“นางบอกว่าจะไปที่วิหารแล้วภาวนาให้เพื่อนๆของนางวันนี้แต่ข้าว่านางคงไปที่ที่น่าสนุกแล้วแหละตอนนี้!”
ซีซาร์พูดกระแนะกระแหน.
“น่าเสียดายจริงๆนะ…”
เย่เทียนพูดอย่างหดหู่. ตอนแรกเขาคิดว่าจะได้เห็นคู่หมั้นแล้วซะอีก. ของขวัญเองก็พร้อมแล้วด้วย.
“เดี๋ยวนางก็กลับครับ….”
ซีซาร์พยายามพูดปลอบ. จากนั้นพวกเขาก็มาถึงห้องรับแขกแต่ออเรเลียก็ไม่อยู่ที่นี่.
“เมื่อตะกี้นี้นางยังอยู่เลย. โปรดรอซักครู่นะครับ, ข้าจะให้คนไปหานาง!”
ซีซาร์พูดอย่างอายๆ.
“ไม่เป็นไร, นางอาจจะยุ่งอยู่. ข้าว่าข้าสอนวิชาดาบให้เจ้าก่อนดีกว่า! ไปหากิ่งไม้มาซิ!”
เย่เทียนห้ามซีซาร์แล้วสั่ง.
“ครับๆ ขอบพระคุณครับอาจารย์!”
พอได้ยินเย่เทียนจะสอนวิชาดาบให้, ซีซาร์ก็ดีใจมากๆ. เขารีบพาเย่เทียนไปที่ลานแล้วสั่งให้พวกทาสไปหาไม้มา.
“วิชาดาบหลักๆแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากการ สับ, แทง, ดึงและฟาด. แต่บางทีกำลังที่เยอะกว่าก็ไม่ได้ดีเสมอไป. เจ้าต้องเรียนรู้การใช้พละกำลังให้ดีๆแล้วหาจุดอ่อนของศัตรูเจ้าด้วยการทำงานของฝืเท้าแล้วก็ฆ่าพวกมันให้ได้ในครั้งเดียว. โดยเฉพาะในสนามรบกาลหน้านี้, ศัตรูที่เจ้าจะเจอไม่ได้มาคนเดียวแน่. ดังนั้นเจ้าจะต้องฆ่าพวกมันให้ได้ในการโจมตีครั้งเดียว, อย่าเสียแรงตัวเองไปเปล่าๆ”
เย่เทียนพูดอย่างฉะฉาน, แถมยังฟังดูสมเหตุสมผลด้วย. ซีซาร์รีบพยักหน้าทันที.
“ถือไว้, เข้ามาโจมตีข้า, คิดซะว่าจะต้องฆ่าข้าให้ได้!”
เย่เทียนโยนดาบให้ซีซาร์แล้วพูดกับเขา.
“ระวังนะครับอาจารย์!”
ซีซาร์พยักหน้าแล้วเริ่มโจมตีแต่เย่เทียนก็แค่ตั้งรับไว้เฉยๆแล้วก็เดินหน้าเข้าหา จากนั้นดาบของเขาประกับดาบของซีซาร์จนไปถึงคอของซีซาร์ในที่สุด.
“อ๊ะ…..”
จู่ๆก็มีเสียงดังออกมาและมันเต็มไปด้วยความกังวล. ออเรเลียนั่นเอง – เธอดูการต่อสู้ของพวกเขาอยู่ตลอดขณะซ่อนอยู่ในห้องไกลๆ.
“ตะกี้นี้เจ้าฟันลงมาหาข้าด้วยแรงทั้งหมดที่มี เจ้าเลยไม่มีแรงเหลือไว้ป้องกันตอนที่ข้าสวนกลับ….”
เย่เทียนอธิบายกับซีซาร์ที่กำลังงงๆอยู่.
“อาจารย์ครับ ท่านทำได้อย่างไร?”
ซีซาร์ตื่นเต้นมาก, เขามองมาที่เย่เทียนด้วยความกระหายความรู้.
“พละกำลังที่ชำนาญแล้วยังไงล่ะ!”
เย่เทียนพูดจากนั้นเดินไปทางกองไม้ที่พวกทาสขนมาให้. เขาพูดกับซีซาร์ “เจ้าผ่ามันด้วยดาบได้รึป่าว?”
“ข้าขอลองครับ!”
ซีซาร์อยากจะลองมากๆ. จากนั้นเขาพยายามจะผ่าครึ่งไม้ท่อนนั้นแต่ตัวไม้ก็มีแค่รอยฟันตื้นๆ.
“ปั้ก!”
เย่เทียนฟันลงไป จากนั้นท่อนไม้ก็หักออกครึ่งนึง.
“ข้าไม่ได้ใช้กำลังเยอะ ไม่งั้นแล้วคมดาบมันจะเบนออกต่อให้ข้าผ่ามันได้ก็ตาม!”
เย่เทียนอธิบาย.
“อาจารย์ท่านทำได้อย่างไรครับ?”
ซีซาร์ตกใจมาก.
“ไม้น่ะมันมีเส้นของมันอยู่, ข้าแค่ผ่าไปตามเส้นของมัน. เส้นของไม้คือจุดอ่อนของมัน. ขนาดไม้เองยังมีจุดอ่อนเลย คงไม่ต้องพูดถึงมนุษย์ใช่มั้ย?”
เย่เทียนยิ้มแล้วสอนเขา “ต่อไปเจ้าต้องฝึกด้วยตัวเอง!”
พอพูดเสร็จเย่เทียนก็เดินไปทางห้องไกลๆที่ออเรเลียอยู่. ตะกี้เขารู้ได้ว่าออเรเลียอยู่ที่ใดเพราะนางร้องออกมาแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินไปก่อน.
เย่เทียนผลักประตูเข้ามาแล้วล้อคไว้ พร้อมรอยยิ้มบางๆที่มุมปาก.
“ท่านออเรเลียครับ, ท่านไม่สบายไม่ใช่รึ? ทำไมท่านถึงต้องด้อมๆมองๆชายหนุ่มกับเด็กน้อยฝึกวิชาดาบกันตรงนี้ล่ะ?”
พอเห็นสีหน้าตกใจของออเรเลียเย่เทียนก็พูด.
วันนี้ออเรเลียเซ็กซี่มากๆ, เธอใส่ชุดเดรสสีม่วงและดูสง่ามากๆ.
“ข้า…ซาตาน, เจ้านี้ไร้มารยาทมาก….”
พอเห็นเย่เทียนล้อคประตูหน้าของออเรเลียก็แดงขึ้นและใจของเธอก็เต้นรัว. ภาพในคืนนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวเธออีกครั้ง.
“เพราะข้าคิดถึงท่าน ยิ่งไปกว่านั้นคือ คิดถึงมาก มาก มากด้วย…”
ตาของเย่เทียนมีประกายไฟลุกโชนขึ้นทำให้หัวเธอรู้สึกมึนๆ.
จากนั้นเธอก็รู้สึกตัวว่าอยู่ในอ้อมแขนของเย่เทียนแล้ว.
“หยุดนะ…..พวกเราไม่ทำงี้ไม่ได้….”
ออเรเลียลนลาน, ความรู้สึกในรถม้าก็ถาโถมกลับมาในหัวเธออีกครั้ง.
“อ๊ะ…เจ้าบ้าซาตาน, ปล่อยมือเจ้านะ. ข้าเป็นแม่ของเคช่า, เจ้าทำอย่างงี้กับข้าได้เยี่ยงไร?”
ออเรเลียร้องออกมาด้วยความกลัวเพราะมือของเย่เทียนเริ่มไปคลึงภูเขาหิมะ2ลูกของเธอ.