“ว้าว….ซึ้งจังเลย!”
“ใช่ๆ….”
“พระเจ้า, ข้าหวังว่าพระเจ้าจะทรงประทานสามีที่เยี่ยมยอดให้ข้าบ้าง, ข้าจะซื่อสัตย์ต่อเขาไปชั่วชีวิตเลย. ข้าไม่สนด้วยว่าเขาจะมีผู้หญิงคนอื่น…..”
การสารภาพรักสุดโรแมนติคทำให้เพื่อนสองคนของเคช่ากรี๊ดกร๊าดด้วยความตื่นเต้น, พวกเธอมองเคช่าด้วยสายตาอิจฉา. ขณะพวกเธอมองไปทางเย่เทียน สายตาของพวกเธอก็เต็มไปด้วยความยกย่อง.
เย่เทียนไม่เพียงแค่หล่อเหลาและขี้เล่นเท่านั้น แต่ยังสามารถแสดงความโรแมนติคที่ผู้หญิงชอบที่สุดออกมาได้ด้วย.
ผู้ชายแบบนี้แหละคือคนที่พวกเธอต้องการ.
“เจ้าบ้าซาตาน, ข้าว่าแล้วเคช่าต้องหลงคำพูดเจ้า!”
ขณะออเรเลียกำลังยินดีกับเคช่า, เธอเองก็รู้สึกริษยาหน่อยๆในใจ. เพราะเธอไม่เคยได้ยินคำพูดที่โรแมนติคหรือคำสารภาพรักที่น่ารักขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเธอเลย.
คำพูดแบบนั้นสามารถเอาชนะใจผู้หญิงทุกคนได้เลย.
“…..”
เคช่ารู้สึกว่าหัวเธอโล่งไปหมด. พอได้ยินคำสารภาพรักสุดโรแมนติคของเย่เทียนสมองเธอก็หยุดทำงานไปเลย ตาของเธอเริ่มมึนๆเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น.
ในตอนนี้เธอรู้ตัวแล้วว่าเธอหลงเสน่ห์เย่เทียนไปเรียบร้อยแล้ว.
“เคช่าผู้งดงามของข้า, คู่หมั้นที่แสนศักดิ์สิทธิ์, โปรดใส่ของขวัญที่ข้าเตรียมให้เจ้าเป็นพิเศษนี้ด้วยเถอะ. ข้าหวังว่ามันสามารถช่วยให้ข้าอยู่กับเจ้าและปกป้องเจ้า….ตลอดไป….”
ตอนนั้นเองในมือของเย่เทียนก็มีสร้อยสวยๆเส้นหนึ่งโผล่มา, จี้นี้ทำมาจากไพลิน(แซฟไฟร์) ที่เจียรไนด้วยเทคโนโลยีจากอนาคต. มันเปล่งแสงสีน้ำเงินระยิบระยับออกมาและล่อตาผู้หญิงทุกคนมากๆ.
“โอ้พระเจ้า, ข้าจะเป็นลม…..”
ดูเหมือนว่าความสุขจะเข้ามาเร็วมาก, เคช่าแทบจะเป็นลมเพราะหัวใจของเธอรับความตื่นเต้นมากมายแบบนี้ไม่ไหว.
แต่เธอก็มัดผมยาวๆของเธอขึ้นเพื่อแสดงคอขาวๆของเธอให้เห็นแล้วให้เย่เทียนใส่สร้อยให้เธอ.
“อ๊าย…..”
เป็นอีกครั้งนึงที่เพื่อน2คนของเคช่ากรี๊ดกร๊าดออกมาด้วยความตื่นเต้นและออเรเลียเองก็มองไปทางลูกสาวด้วยความอิจฉา.
“เคช่า, เจ้าคือผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก…..”
เมื่อเย่เทียนใส่สร้อยให้เคช่า, เขาก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆมาจากตัวเธอและชมเธอด้วยความชอบ.
“ขอบคุณนะ, ซาตานที่รัก, ท่านจะเป็นพระเจ้าของข้า. ข้ารองานแต่งแทบไม่ไหวเลย ข้าจะได้มอบพรหมจรรย์ที่ล้ำค่าให้ท่านและจะอยู่กับท่านตลอดกลางวันกลางคืน, ภายใต้แสงแห่งพระเป็นเจ้า…..”
เคช่าตื่นเต้นมากถึงขนาดหัวเธอโล่งไปหมด, เธอเลยพูดสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่ตอนนั้นให้ทุกคนฟังโดยไม่รู้ตัว. มันช่างกระด้างและมุทะลุมากแถมยังหน้าไม่อายหน่อยๆด้วย.
“พอแล้ว, เลิกโม้ซักที. ขอพระเจ้าทรงโปรด, ข้าขอให้เจ้าทุกคนไม่ถูกความชั่วร้ายล่อลวงไป….”
ออเรเลียอดไม่ไหวจึงเข้ามาแทรกเคช่า, คำพูดที่นางพูดไปนั้นน่าเกลียดมาก.
“ที่รักคะ, นี่คือลูกพี่ลูกน้องของข้า โอมินิ มาเรียสและนี่คือเพื่อนสนิทของข้า จูเลีย เนวิล”
พอได้ยินคำพูดของออเรเลีย, เคช่าที่กำลังหน้าแดงก็กลับมามีสติจากความสุขอันเหลือล้นนั้น แต่เธอก็กระด้างมากแล้วเข้าไปกอดแขนเย่เทียนทันที จากนั้นเธอก็แนะนำเพื่อนของเธอด้วยสีหน้าอิ่มเอม.
“เป็นเกียรติของข้าที่ได้พบกับเจ้าทั้งสองคน, หญิงงามทั้งหลาย. รอบนี้ข้าไม่ได้นำของขวัญพิเศษมาเผื่อด้วยแต่รอบหน้าข้าจะนำมาแล้วกันครับ….”
เย่เทียนยิ้มแล้วพูดอย่างสดใส.
โอมินิ มาเรียส, เย่เทียนเคยเห็นเธอที่งานแข่งโคลอสเซียมของแครสซัสครั้งก่อน. นางเป็นลูกสาวของยูเลียและก็สวยเหมือนกันด้วย. จูเลีย เนวิล, เย่เทียนไม่รู้จักเธอมาก่อน. นางน่าจะเป็นลูกสาวของชนชั้นสูงซักคนและรูปร่างเธอก็ดูเซ็กซี่มากด้วย.
“ท่านลอร์ดซาตานผู้ยิ่งใหญ่ของข้า, เป็นเกียรติของข้านักที่ได้พบท่านเช่นกัน, ขออวยพรให้ท่านและเคช่า, แล้วก็ข้าจะรอของขวัญของท่านนะ….”
โอมินิ มาเรียสพูดกับเย่เทียนด้วยท่าทางสง่าและตาของเธอก็เป็นประกายด้วยความยกย่อง.
“ท่านลอร์ดซาตานของข้า, ท่านเปล่งประกายดุจพระเจ้าเลย, ยินดีที่ได้พบท่านเช่นกันค่ะ…..”
จูเลีย เนวิลผู้เซ็กซี่เลียปากแล้วมองไปทางเย่เทียนโดยตรง, ตาของเธอมีความรู้สึกพิเศษแว่บขึ้นมา.
นี่สินะที่เขาเรียกว่ายั่ว?
เย่เทียนคิดเงียบๆและเขาก็รู้สึกดีใจหน่อยๆด้วย.
“เอาล่ะ, เด็กๆรอกินข้าวกับพวกเราคืนนี้ซะเถอะนะ…..”
ออเรเลียชวนเด็กสาวทั้งสองและบ้านเธอก็ดูครื้นเครงขึ้นมาทันที.
เย่เทียนเองก็รอกินด้วย.
มื้อค่ำดูยิ่งใหญ่มาก, ยิ่งไปกว่านั้นคือเย่เทียนเป็นคนทำเองกับมือด้วย, ซึ่งนั่นทำให้สาวๆทั้ง3ชมเขาอย่างบ้าคลั่งขณะแข่งกันกินโดยไม่ห่วงหุ่นสวยๆของพวกเธอเลย.
เมื่อเย่เทียนกล่าวลา ตอนนั้นก็เที่ยงคืนพอดีแล้ว.
พอเขากลับมาถึงบ้าน, เขาก็จัดหนักแม่-ลูก3คนจนเกือบจะเช้าเลย.
“วู้ววววว…..”
ตอนที่เย่เทียนกำลังจะนอนนั้นก็มีเสียงหอนของหมาป่าที่น่ากลัวดังขึ้นมา. มันดังและชัดมากใกล้ๆกับบ้านของเย่เทียนเลย.
“อะวู้ววว….”
จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาใกล้ๆตรงที่วิคตอเรียอยู่.
“นางหมาป่ากำลังมา!”
ร่างกายของเย่เทียนสะดุ้งขึ้นมาทันที, เขาลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วแต่งตัวอย่างเร็ว. พอบอกเดย์ซี่ว่าห้ามออกมาข้างนอกเสร็จเย่เทียนก็รีบไปคว้าดาบและโล่มาแล้วก็เดินออกบ้านไปคนเดียว.
เสียงหอนของนางหมาป่านั้นดังมากราวกับว่าเธอไม่ได้แก่ตัวลงเลย.
เย่เทียนรู้สึกถึงอันตรายได้ทันที.
นี่คือสัตว์ที่อันตรายและแข็งแกร่งมาก.
“วู้วว!!!”
พอเย่เทียนเดินออกมาที่ลานหน้าบ้านปุ๊บ, วิคตอเรียก็รีบวิ่งมาด้านหน้าเย่เทียนทันที. เธอมองไปทางประตูเขม็งราวกับว่าจะพยายามกันบางอย่างไว้ให้เย่เทียน.
“โฮ่งง!!!”
เสียงคำรามที่อุกอาจดังขึ้นมาจากนั้นก็มีบางอย่างสีทองๆพุ่งข้ามกำแพงมา.
นี่มันนางหมาป่าหนิ!
นางน่าจะตัวยาวประมาณ3เมตรและสูงประมาณ1.6เมตร. พอนางเงยตัวขึ้น นางสูงเกือบจะ2เมตรเลยทีเดียว.
ขนสีทองของเธอสะท้อนกับแสงจันทร์และเขี้ยวของเธอเองก็ดูคมมากๆ, ตาสีแดงและน้ำเงินดูราวกับเป็นวิญญาณ.
สิ่งมีชีวิต: นางหมาป่าลึกลับ (โน๊ต: นี่คือนางหมาป่าที่กลายพันธุ์จากการกินกล้วยไม้โลหิต) *ไม่มั่นใจนะครับ*
พละกำลัง: 110
ความแข็งแกร่ง: 110
ความเร็ว: 120
ค่าความภักดี: -20 (ไม่เป็นมิตรอย่างมาก)
พอเห็นค่าแสตทของนางหมาป่า, เย่เทียนก็สั่นขึ้นมาทันที.
ในโลกนี้มันมีสัตว์น่ากลัวขนาดนี้อยู่ด้วยหรอ? ถ้าเย่เทียนสู้กับเธอ, เขามีโอกาสชนะแค่นิดเดียวเพราะเธอทะลุขีดจำกัดของสิ่งมีชีวิตไปแล้ว.
กล้วยไม้โลหิต!
ในโลกนี้มีต้นเจ๋งๆแบบนั้นอยู่ด้วย!!! นางหมาป่าเทพได้ขนาดนี้เพราะกินกล้วยไม้เลือดนั่นนี่นะ? (ผมมั่นใจละ)
เย่เทียนรู้เรื่องกล้วยไม้เลือดไม่มากนัก แต่จากที่ได้ยินมา, เขารู้ว่าต้นไม้เจ๋งๆแบบนั้นมีอยู่ในยุคนี้จริงๆ.
ในขณะเดียวกันเย่เทียนก็รู้สึกโล่งอกหน่อยๆเพราะถึงแม้ทุกอย่างมันจะเหนือความคาดหมายของเขา แต่เขาก็พอจะเข้าใจมันได้. อย่างน้อยเหตุผลที่นางหมาป่าแข็งแกร่งขนาดนี้ไม่ใช่เพราะเวทย์มนต์หรืออะไรอื่นๆ…
อย่างน้อยโลกนี้ก็ยังเป็นโลกปกติอยู่.
และนางหมาป่าตัวนี้ก็คงเป็นเรื่องบังเอิญ!
มันก็แค่มีเรื่องที่ไม่คาดฝันอย่างกล้วยไม้เลือดของยุคนี้เอง.