Heavenly Curse ทัณฑ์สวรรค์สาป – ตอนที่ 117

ตอนที่ 117

ตอนที่ 117 เงาดำที่ทรงพลัง

เมื่อโม่หรูเยียนไปถึงที่นั่น นางก็ได้เห็นเงาดำที่กระโดดเข้าไปหากลุ่มคนและคนกลุ่มนั้นก็คือเหล่าผู้คุ้มกันที่เป็นลูกน้องของนาง ทุกๆคนล้อมรอบเงาดำเอาไว้แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไร

“ออกไปให้พ้น” โม่หรูเยียนพูดออกมาเบาๆ จากนั้นเท้าของนางก็เหยียบอยู่บนไหล่ของผู้คุ้มกันคนหนึ่งและพุ่งตัวออกไปพร้อมกับดาบในมือของนางที่ถูกชักออกมาจากฝักทันที

โม่หรูเยียนสะบัดมือเล็กน้อย ปลายดาบของนางดูทรงพลังมากยิ่งขึ้นและมันก็ตรงเข้าไปหาเงาดำที่อยู่ตรงหน้าทันที

ในตอนที่โม่หรูเยียนมาถึงที่นี่นั้น ผู้คุ้มกันทุกๆคนที่ล้อมวงกันเอาไว้ต่างก็ก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัวจนทำให้เกิดเป็นพื้นที่ว่างตรงกลางที่พวกเขากำลังล้อมรอบอยู่

เดิมทีเงาดำนั้นหันหลังให้กับโม่หรูเยียนแต่เมื่อมันรู้สึกได้ถึงภัยคุกคามที่กำลังเข้ามาหาจึงรีบหันหน้ากลับมาทันทีและมือของมันก็ตรงเข้ามาหาโม่หรูเยียนอย่างรวดเร็ว

มือของมันมีลักษณะคล้ายกับเท้าของไก่ ผิวหนังดูแห้งและแข็ง นิ้วแต่ละนิ้วแยกออกจากกันอย่างชัดเจน และเล็บของมันก็ยาวและแหลมคม

“ชิ้ง!”

ดาบยาวในมือของนางปะทะเข้ากับกรงเล็บของมันจนมีประกายไฟเกิดขึ้น แต่เงาดำก็ถูกโม่หรูเยียนทำให้ถอยหลังออกไปเล็กน้อย

“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นปีศาจหรือตัวอะไรก็ตาม แต่ในวันนี้เจ้าต้องตาย” หลังจากโม่หรูเยียนได้โจมตีออกไปความมั่นใจของนางก็เพิ่มมากขึ้นทันที นางก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็วและไปปรากฏตัวอยู่ข้างๆเงาดำตนนั้นราวกับว่านางสามารถสับเปลี่ยนตำแหน่งของตนเองได้อย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันมือขวาของนางก็พุ่งทะยานออกไปและดาบยาวในมือของนางก็ตรงเข้าไปที่ศีรษะของเงาดำ

การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากและเงาดำก็ถูกแทงเข้าไปที่ศีรษะก่อนที่มันจะรู้สึกตัวเสียอีก

แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นจะไม่ได้เป็นอย่างที่โม่หรูเยียนต้องการ หลังจากดาบยาวในมือของนางแทงเข้าไปในศีรษะของเงาดำ นางก็รู้สึกราวกับว่ากำลังแทงดาบใส่แท่งเหล็กอยู่และมันแข็งเกินกว่าที่นางจะทะลวงเข้าไปได้

เงาดำกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและมือของมันก็พุ่งเข้าไปหาดาบที่แทงเข้ามายังศีรษะของมันตามสัญชาตญาณทันที

“ตู้ม!”

ด้วยการโจมตีครั้งนี้ดาบเหล็กในมือของโม่หรูเยียนก็บิดงอขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

ถึงแม้ว่าโม่หรูเยียนจะตกอยู่ในอันตรายแต่นางก็ไม่มีทางปล่อยมันไปแน่นอน ร่างกายท่อนบนของนางมีการเคลื่อนไหวอย่างแปลกประหลาด แขนของนางพริ้วไหวราวกับกิ่งหลิวที่ถูกพัดไปตามสายลม การเคลื่อนไหวที่พริ้วไหวของนางนั้นก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เงาดำหักดาบของนางในตอนนี้

แต่หลังจากนั้นนางก็ใส่พลังของตนเองลงไปในดาบอย่างรวดเร็วและใบดาบก็มีอาการสั่นขึ้นมาจนเกิดเป็นเสียงที่ได้ยินอย่างชัดเจน ดาบยาวของโม่หรูเยียนที่อยู่ตรงหน้าเงาดำนั้นเปล่งแสงจางๆออกมาและทันใดนั้นพลังของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นดาบในมือของนางก็แทงเข้าไปในศีรษะของเงาดำอีกครั้งหนึ่ง

ครั้งนี้ดาบของนางทะลุเข้าไปในศีรษะของมัน นางเห็นว่าร่างกายของเงาดำสั่นขึ้นมาเล็กน้อยและต่อจากนั้นมันก็ล้มลงไปกองที่พื้นทันทีโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆอีกต่อไป

โม่หรูเยียนดึงดาบของตนเองกลับมาและในตอนนี้ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างก็โห่ร้องออกมาด้วยความดีใจ แต่ท่านลุงไฉก็ยังคงขมวดคิ้วอยู่และรู้สึกได้ว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ

โม่หรูเยียนก็มีสีหน้าที่ดูสงสัยเล็กน้อย แต่นางก็ก้าวเดินออกไปพร้อมกับใช้ดาบในมือของตนเองเปิดผ้าคลุมหน้าของเงาดำออก เมื่อได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของมันโม่หรูเยียนก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที

“นั่นมันผู้ว่าจ้างซ่งนี่นา?” มีเสียงอุทานดังขึ้นมาพร้อมๆกัน

เพราะว่าคนที่นอนอยู่บนพื้นในตอนนี้เป็นคนที่พวกเขาต่างก็คุ้นเคยอย่างยิ่ง นี่คือซ่งกวนที่เป็นผู้ว่าจ้างในการขนส่งสมุนไพรในครั้งนี้ แต่ก่อนหน้านี้เขาได้หายตัวไปอย่างกะทันหัน เขากลายเป็นผีดิบตนหนึ่งได้อย่างไรกัน? และยังแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถสังหารผู้คุ้มกันถึง 3 คนได้อย่างรวดเร็ว?

“เป็นไปไม่ได้!”

ในตอนที่ทุกคนรู้สึกสับสนอยู่นั้นท่านลุงไฉก็รีบก้าวเดินออกมาทันทีและเมื่อเขาได้เห็นศพของซ่งกวน เขาก็รีบนั่งลงและตรวจสอบอย่างระมัดระวัง

“มีอะไรอย่างนั้นหรือ?” โม่หรูเยียนถามออกไปตรงๆ

“ดูที่เล็บของเขาสิ” ท่านลุงไฉชี้ไปที่มือของซ่งกวน “เล็บของเขายังคงสะอาด ไม่มีคราบเลือดอยู่แม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่ได้ฆ่าใครมาก่อนเลย”

โม่หรูเยียนก็มองตามลงไปด้วยเช่นกัน แม้ว่ามือของเขาจะดูน่ากลัวเล็กน้อยในตอนนี้แต่มันก็ยังคงดูสะอาดและปราศจากคราบเลือดใดๆ

“ไม่ใช่เขาที่ฆ่าพี่หวังขอรับ” ในตอนนี้ชายที่ได้เห็นใบหน้าของฆาตกรก่อนหน้านี้ก็รีบพูดขึ้นมาทันที

เมื่อได้ยินคำพูดของเขาทุกๆคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้งและพวกเขาไม่คิดเลยว่าถึงแม้จะสามารถสังหารศัตรูไปได้อย่างรวดเร็วแต่กลับกลายเป็นว่านี่ไม่ใช่ฆาตกรที่ลงมือ นั่นหมายความว่าตอนนี้ฆาตกรตัวจริงยังคงซ่อนตัวอยู่ในเงามืด

“อ้าก! อ้าก!”

ในตอนที่ทุกๆคนกำลังให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้น ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาอีก 2 ครั้งจากบริเวณรอบนอกและทำให้ทุกๆคนรีบเข้ามายืนรวมกลุ่มกันอีกครั้งหนึ่ง แสงจากคบเพลิงในมือทำให้พวกเขามองเห็นร่างเงาดำที่ตัวสูงกว่าเดิมค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากหน้าอกของผู้คุ้มกันทั้งสองคนช้าๆ ในมือทั้งสองข้างของมันถือหัวใจที่กำลังเต้นอยู่

ในขณะเดียวกันเงาดำก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาช้าๆพร้อมกับแสยะยิ้มขึ้นมา

“ผะ ผะ ผี !!”

ไม่รู้ว่าเป็นใครที่พูดขึ้นมาเช่นนี้แต่ทันทีที่เขาพูดขึ้นมานั้น ทุกๆคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็ตื่นตระหนกขึ้นมาจนเกิดเป็นความโกลาหล

และเงาดำนั่นก็ดูเหมือนจะมีความสุขเมื่อมันได้เห็นสายตาที่หวาดกลัวของทุกคนและจากนั้นมันก็นำหัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ใส่เข้าไปในปากทันทีพร้อมกับออกแรงกัดอย่างรุนแรง

“ฉูด!”

เมื่อเห็นเลือดที่กระเด็นออกมาจากมุมปากของเงาดำ โม่หรูเยียนก็ทำได้เพียงกัดฟันเท่านั้น

ท่าทีของเงาดำไม่ได้ทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเลย

ในเวลาเดียวกันนั้นผู้คนก็รู้สึกหวาดกลัวจนเริ่มหนีห่างออกไปจากที่นี่ โม่หรูเยียนยกดาบในมือของนางขึ้นมา ในตอนนี้เปลวเพลิงในหัวใจของนางลุกโชนขึ้นมาและนางรู้สึกได้เพียงความตั้งใจที่จะสังหารศัตรูเท่านั้น

“นายหญิงน้อย โปรดระวังตัวด้วย” ท่านลุงไฉรีบกล่าวเตือนทันทีและในเวลาเดียวกัน เขาก็พุ่งตัวออกไปพร้อมกับดาบในมือของตนเอง

“พี่น้องทุกท่านไม่ต้องหวาดกลัวไป ข้าจะเป็นผู้สังหารเจ้าปีศาจตนนี้เอง” เมื่อได้เห็นความเป็นผู้นำของโม่หรูเยียนและท่านลุงไฉหลายๆคนก็ได้สติกลับมา ความจริงแล้วการหนีไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะถ้าหากว่าโม่หรูเยียนเป็นอะไรขึ้นมา ก็คงเหลือเพียงพวกเขาที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูเท่านั้น

เมื่อมีคนลุกขึ้นมาเป็นผู้นำความกล้าหาญในใจของคนอื่นๆก็เพิ่มมากขึ้นทันทีและในตอนนี้ผู้คุ้มกันทั้ง 4 คนที่คอยประกบรถม้าลึกลับคันนั้นก็ปรากฏตัวออกมา พวกเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้คุ้มกันคนอื่นๆอย่างไม่ต้องสงสัย

โม่หรูเยียนถือว่าเป็นผู้ที่มีความเร็วมากที่สุดเมื่อเทียบกับทุกๆคนที่อยู่ที่นี่ และเพียงพริบตานางก็ออกไปเผชิญหน้ากับเงาดำตนนั้นแล้ว ดาบในมือของนางสั่นขึ้นมาเล็กน้อยและเปล่งแสงออกมายิ่งกว่าก่อนหน้านี้

“ฉึก!”

ดาบในมือของโม่หรูเยียนแทงเข้าไปยังดวงตาที่มีสีดำสนิทของเงาดำ แต่นางไม่คิดเลยว่าแม้ว่านางจะรวดเร็วมากแล้วแต่เงาดำกลับรวดเร็วยิ่งกว่า เงาดำยื่นมือของมันออกมาและฝ่ามือของมันก็ตรงเข้าไปหาดาบของนางพร้อมกับคว้าเอาไว้ทันที

ดาบยาวของนางแทงเข้าไปในฝ่ามือของเงาดำจนเกิดเป็นเสียงที่เหมือนกับโลหะกระทบกัน และดาบของนางก็เริ่มงอมากขึ้นจนมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ในตอนที่โม่หรูเยียนกำลังจะถอยกลับมานั้น เงาดำก็กำดาบในมือของมันเอาไว้แน่นและออกแรงบิดทันที

“เคร้ง!”

โม่หรูเยียนรู้สึกได้ถึงแรงของศัตรูที่พุ่งเข้ามาปะทะอย่างรุนแรงและมือขวาของนางที่ถือดาบอยู่ในตอนนี้ไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป แรงของศัตรูนั้นมากเสียจนทำให้ปลายดาบของนางหักไปทันที

ปลายดาบถูกหักออกมาอย่างรวดเร็วและมีบางส่วนที่พุ่งเข้ามาเฉี่ยวแก้มของโม่หรูเยียนอย่างรวดเร็วจนเกิดรอยแผลจางๆให้เห็น

ในตอนนี้ท่านลุงไฉพุ่งเข้ามาโจมตีด้วยเช่นกันแต่เงาดำเพียงแค่จ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาดูถูกเท่านั้น จากนั้นมันก็โยนปลายดาบที่หักคามือของมันออกไปทันที!

“ฟิ้ว!”

เศษของปลายดาบที่เงาดำโยนออกมานั้นตรงเข้ามาที่หน้าอกของท่านลุงไฉทันที

“ไอ้สาระเลวเอ้ย” แม้ว่าพลังของท่านลุงไฉจะไม่ได้มากเท่าโม่หรูเยียน แต่เขาก็มีประสบการณ์จากการทำงานเป็นผู้คุ้มกันมานานหลายปีและยังมีทักษะในการเอาตัวรอดอยู่มากมาย

แม้ว่าปลายดาบที่พุ่งเข้ามานั้นจะรวดเร็วมาก แต่ดาบยาวในมือของเขาก็พุ่งเข้าไปปะทะกับปลายดาบที่กำลังตรงเข้ามายังหน้าอกของตนเองในตอนนี้

“ชิ้ง!”

ปลายดาบปะทะเข้ากับดาบยาวในมือของเขาและท่านลุงไฉก็ก้าวถอยหลังออกไปหลายก้าวทันทีจนเกือบล้มลงไปที่พื้น แม้ว่าเขาจะรู้สึกอับอายกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่อย่างน้อยมันก็รักษาชีวิตของเขาเอาไว้ได้

เงาดำไม่ให้เวลาโม่หรูเยียนได้พักหายใจอีกต่อไป หลังจากที่มันโยนปลายดาบออกไปนั้นมันก็ตรงเข้ามาหาโม่หรูเยียนในทันที

“ตู้ม!”

โม่หรูเยียนพยายามหลบและตั้งรับการโจมตีของเงาดำอย่างต่อเนื่องและแรงปะทะก็ทำให้ร่างกายของนางกระเด็นออกไปทันที ในตอนที่เงาดำกำลังตรงเข้ามาสังหารนางนั้นผู้คุ้มกันทั้ง 4 คนที่ปรากฏตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็เข้ามาช่วยเหลือนางทันที

Heavenly Curse ทัณฑ์สวรรค์สาป

Heavenly Curse ทัณฑ์สวรรค์สาป

Status: Ongoing

โลกใบนี้ที่แสนโกลาหลวุ่นวายแต่ก็ถือว่ามีความสุขได้ถูกทำลายลงไปแล้ว ข้าเป็นเพียงแค่เด็กกำพร้าคนหนึ่งเท่านั้น

หากไม่ใช่เพราะท่านปู่ชีวิตของข้าคงจบสิ้นไปตั้งนานแล้ว แม้ว่าข้าจะต้องเข้าสู่ลัทธิเต๋า แม้ว่าข้าจะต้องอดมื้อกินมื้อ

แม้ว่าข้าจะต้องเดินทางไปยังที่ต่างๆอยู่เสมอ แต่เมื่ออยู่กับท่านปู่ข้าก็รู้สึกมีความสุขอย่างแท้จริง ข้าเคยได้ฟังเรื่องราวของกองทัพวิญญาณ

ผีดิบที่น่าสะพรึงกลัว และความชั่วร้ายในจิตใจของมนุษย์ แต่สิ่งที่ข้าต้องการมีเพียงแค่ชีวิตที่สงบสุขเท่านั้น เหตุใดสวรรค์ถึงไม่เคยเมตตาข้าเลย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท