จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up – ตอนที่ 24

ตอนที่ 24

ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล

ตอนที่ 24 ทักษะศักดิ์สิทธิ์คลุ้มคลั่ง
“เจ้านี่ช่างรู้จักเลือกเวลาลงมือเสียจริงนะ”
ฉินเทียนหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เขาทราบทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อได้เห็นฉินคุนปรากฏตัวขึ้นพร้อมผู้ติดตาม
ฉินคุนกระโดดลงมาจากกิ่งไม้และเดินเข้าหาฉินเทียน ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นขณะแค่นเสียงเย็น มันมองดูหลุมบ่อที่กระจัดกระจายอยู่โดยรอบจากการต่อสู้และรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย ภายใต้แรงกดดันจากกอลิล่าดุร้ายแล้ว พวกมันแทบจะไม่อาจหายใจได้ ทว่าฉินเทียนกลับสามารถรับมือกับมันได้หรือ?
‘มันได้ประสบพบเจอกับปาฏิหาริย์แบบใดกันจึงสามารถยกระดับความแข็งแกร่งขึ้นได้เช่นนี้ในเวลาอันสั้น?’ ฉินคุนลอบคิดขึ้นในใจ
มันหันไปมองฉินเทียน จากนั้นจึงกล่าวออกมา “เจ้าสวะแห่งตระกูลฉิน ครั้งนี้เจ้าหมดโชคแล้ว!”
ฉินเทียนยังคงยืนอยู่บนศพของกอลิล่าดุร้ายขณะถามออกมา “ทราบได้อย่างไรว่าข้าโชคไม่ดี?”
“กลุ่มพวกโง่กลับเป็นฝ่ายมาหาข้าเองถึงที่ นับว่าช่วยข้าประหยัดเวลาไปได้มาก” ฉินเทียนกล่าวออกมาด้วยท่าทีไม่แยแส
“เจ้า!…”
“ฮ่าฮ่า…” ฉินคุนหัวเราะออกมา มองดูสภาพของฉินเทียนในตอนนี้ที่ไม่เพียงพลังปราณจะแห้งเหือด ทั่วร่างของเขายังเต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่
แล้วฉินเทียนในสภาพเช่นนี้ยังจะเป็นคู่ต่อสู้ของมันได้อีกหรือ?
“พลังปราณของเจ้าคงใช้ออกจนหมดสิ้นแล้วสินะ…ฮ่าฮ่าฮ่า…” ฉินคุนหัวเราะอย่างถือดี
มองดูการกระทำของฉินคุนแล้ว บุรุษเคราครึ้มก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ กระนั้นก็ที่มันไม่ทันจะได้ตอบสนอง เงาร่างห้าสายก็กระโดดออกมาโอบล้อมมันไว้
บุรุษเคราครึ้มก็กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับฉินเทียน พลังปราณของมันเองก็แห้งเหือดลงแล้วเช่นกัน ไม่อาจฟื้นฟูขึ้นมาในระยะเวลาอันสั้น มันไม่เคยใส่ใจต่อผู้ฝึกตนที่อยู่เพียงขั้นฝึกตน แต่หากจะต้องช่วยเหลือฉินเทียนในเวลาเดียวกันด้วยแล้ว นั่นก็ตึงมืออย่างยิ่ง
ฉินเทียนหันไปมองฉินหยางที่ยืนอยู่ ฉับพลันร่างของมันก็หายตัวไป
ทันใดนั้นเขานึกถึงอวิ๋นม่านและเริ่มวิตกกังวลขึ้นมา
ดูเหมือนว่าฉินคุนจะวางแผนเอาไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจะต้องเกาะกุมทุกวินาทีอันแสนล้ำค่าที่เขามีไว้ให้ได้….
“ครั้งก่อนเป็นเพราะมีคนช่วยเหลือเจ้า หากแต่คราวนี้….หึหึ..” ฉินเทียนหยุดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ “จะอย่างไรเจ้าก็ต้องตาย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเพียงลำพัง?”
“พยัคฆ์ภูผาคำราม!” แววตาของฉินคุนแวบแสงเย็นชา มือทั้งสองกางออกดุจกรงเล็บ ร่างของมันพลันระเบิดพลันปราณคำรามเสียงพยัคฆ์ออกมา….
“ประเมินตัวสูงไป!”
ฉินเทียนยิ้มและก้าวเท้าออกไป เขาย้ายตำแหน่งไปมากว่าสามสิบก้าวในทันที มือทั้งสองกำเป็นหมัดต่อยออกไป
เมื่อทั้งสองเข้าปะทะกัน ฉินคุนก็รับรู้ได้ถึงระลอกพลังปราณกำลังพุ่งเข้ามาจนทำให้มันต้องตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าฉินเทียนได้ทุ่มพลังปราณทั้งหมดออกมา แต่มันจะมีพลังปราณที่มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร?
หรือว่ามันสามารถทะลวงไปขั้นก่อตั้งวิญญาณได้แล้ว?
นั่นเป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเป็นไปได้
ฉินคุนก้าวไปข้างหน้าและต่อยหมัดเล็งไปที่คางของฉินเทียน มันไม่เชื่อว่าฉินเทียนจะสามารถหลบหลีกการโจมตีนี้ได้…
ไม่เพียงฉินเทียนจะไม่หลบ หากแต่หมัดทั้งสองยังถูกปล่อยออก การโจมตีอันหนักหน่วงได้ปะทะเข้าที่แผ่นหลังของฉินคุนจนส่งเสียง ‘แคร๊ก’ ออกมา
“อ๊ากกก!..”
ฉินคุนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด นัยน์ตาทั้งสองข้างแดงฉานราวโลหิต มันกลิ้งตัวไปกับพื้นพยายามจะหลบออกจากระยะโจมตีของฉินเทียน
กระนั้น ฉินเทียนจะยอมปล่อยโอกาสที่จะฟาดหวดสุนัขจมน้ำไปหรือ?
ฉินคุนสะกดกลั้นความเจ็บปวดกลิ้งตัวไปตามพื้น เพียงเมื่อมันคิดว่าสามารถหลบออกจากระยะการโจมตีของฉินเทียนไปได้แล้ว ฉินเทียนก็ต่อยไปที่แก้มขวาของมันขณะที่มันกำลังจะลุกขึ้นยืนนั้นเอง มันรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงขณะที่โลหิตพุ่งออกจากปากของมัน
ฉินเทียนขยับตัวอีกครั้ง ฉินเทียนพุ่งตัวออกไปยังตำแหน่งที่ร่างนั้นกำลังจะร่วงลงบนพื้น โดยไม่รอให้ฉินคุนได้ลงพื้นเสียก่อน อีกหมัดของเขาก็ต่อยเข้าที่ส่วนท้องของฉินคุน
“อั๊กกกก!….”
เป็นเสียงร้องที่ราวกับหมูถูกเชือด
ตุบ
ฉินคุนร่วงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง เหล่าศิษย์นอกทั้งห้าที่กำลังรุมล้อมบุรุษเคราครึ้มอยู่พลันหันมามองฉินเทียนอย่างหวาดกลัว ฉินคุนที่เป็นผู้ฝึกตนขั้นที่เจ็ดกลับไม่อาจจะทำอย่างไรต่อฉินเทียนได้ แล้วพวกมันยังจะเป็นคู่ต่อสู้ให้กับฉินเทียนได้อีกหรือ?
“เจ้า…..พลังปราณของเจ้า…” ฉินคุนนอนอยู่บนพื้นขณะหอบหายใจราวกับวัวตัวผู้ออกมา สายตาทั้งสองหันไปมองฉินเทียน จากที่ตกตะลึงเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นโทสะ
ฉินเทียนหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “พลังปราณของข้าทำให้เจ้าตะลึงงั้นหรือ?” ยามที่เขาสังหารสัตว์ปีศาจขั้นที่ห้าไปนั้น ระดับของเขาก็เพิ่มขึ้น เขากลายเป็นผู้ฝึกตนขั้นที่เจ็ด ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งพลังชีวิตและพลังปราณของเขาก็ถูกฟื้นฟูกลับมาจนเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
นี่คือผลของการเลเวลอัพ พลังชีวิตและพลังปราณของเขาจะถูกฟื้นฟูจนเต็มโดยไม่สนว่าเขาจะตกอยุ่ในสถานการณ์เช่นไร
ฉินคุนช่างโชคร้ายอย่างยิ่งที่เลือกลงมือในเวลาเช่นนี้
รางวัลของการสังหารสัตว์ปีศาจที่มีทักษะศักดิ์สิทธิ์ยังไม่หมดเพียงเท่านี้….
“น่าประหลาดใจจริงๆ….แต่ก็เท่านั้น…”
ฉินคุนหัวเราะอย่างเย็นชาขณะที่ยังคงนอนอยู่ที่พื้น มันล้วงเอาเม็ดยาออกมาและกลืนลงไป เส้นเลือดของมันพลันปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด ใบหน้าที่ซีดขาวของมันพลันเปลี่ยนไป บาดแผลตามร่างของมันค่อยๆถูกฟื้นฟูด้วยความเร็วที่สามารถมองได้ด้วยตาเปล่า
เม็ดยาผลาญตะวัน เม็ดยาระดับหก เป็นยาเม็ดอันรุนแรงที่สามารถเพิ่มความเร็วในเยียวยาบาดแผลได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เมื่อตัวยาถูกกลืนลงไปแล้วบาดแผลทั้งหมดก็จะถูกเยียวยาในทันที หากแต่ผู้ใช้จะต้องทนรับความเจ็บปวดเป็นสามเท่าของบาดแผล
นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของผู้ใช้จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เมื่อมันถูกใช้โดยผู้ฝึกตนขั้นที่เจ็ด ผลของมันก็ยิ่งรุนแรง ตอนนี้ฉินคุนมีความแข็งแกร่งเทียบได้กับขั้นก่อวิญญาณที่สี่ พลังปราณ ความเร็วและพละกำลังของมันต่างถูกยกระดับขึ้น
ฉินคุนดันตัวลุกขึ้นยืน
นัยน์ตาของมันเปลี่ยนเป็นแดงฉานขณะฉีกยิ้ม ร่างของมันระเบิดรังสีที่ปั่นป่วนพลุ่งพล่านออกมา ขณะที่ฝุ่นผงรอบร่างก่อตัวขึ้นเป็นชั้นๆ
“ช่างเป็นพลังปราณที่รุนแรงจริงๆ”
แววตาของฉินเทียนเปลี่ยนไป มองดูแถบพลังชีวิตของฉินคุนที่ยาวขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิมแล้ว เขาก็อดสบถขึ้นไม่ได้ “บัดซบ มันไปเปลี่ยนร่างมาหรือไง?”
“แข็งแกร่ง ฮ่าฮ่า…ไม่สิ..ไม่เพียงแต่แข็งแกร่ง”
“ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มลองท่าเดิมดู ‘พยัคฆ์ภูผาคำราม!’….”
ร่างของฉินคุนพลันหายไป วินาทีถัดมามันก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าฉินเทียน ฉินเทียนไม่อาจตอบสนองได้รวดเร็วพอ หมัดของฉินคุนจึงต่อยเข้าที่ส่วนท้องของเขาจนลอยกระเด็น
“-1,200”
“บัดซบ! หมัดเดียวกลับลดพลังชีวิตไปมากกว่าพันจุด!”
ขณะลอยอยู่กลางอากาศ ฉินเทียนก็ใช้พลังปราณพุ่งไปยังพื้น แต่คาดไม่ถึงว่าฉินคุนจะย้ายจากตำแหน่งเดิมทันที เงาวูบหนึ่งพลันพุ่งไปยังตำแหน่งที่ฉินเทียนกำลังจะลงยืนนั้น
“เอาจริงดิ? กลับกล้าบีบบังคับบิดาผู้นี้? ฮ่าฮ่า”
เขาหัวเราะอย่างโมโหขึ้นในใจ “คลุ้มคลั่ง”
วิ้ง!
บุรุษเคราครึ้มสะดุ้งขึ้นมา มันรู้สึกคุ้นหูกับเสียงนี้อย่างยิ่ง อันที่จริงมันจดจำได้ว่าเป็นเสียงตอนที่กอลิล่าดุร้ายเปลี่ยนเป็นคลุ้มคลั่ง มันพลันหันไปมองร่างมหึมานั้น หากแต่ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด จากนั้นมันจึงหันไปเห็นรัศมีที่ระเบิดออกมาจากร่างของฉินเทียน จิตใจของมันพลันเปลี่ยนเป็นสับสน
ไฉนมันจึงมีทักษะศักดิ์สิทธิ์ของกอลิล่าดุร้ายได้?
ทักษะที่ฉินเทียนใช้ออกก็คือ ทักษะศักดิ์สิทธิ์ของกอลิล่าดุร้าย ทักษะคลุ้มคลั่ง
เมื่อตอนที่เขาสังหารกอลิล่าดุร้ายไปนั้น เสียงของระบบก็แจ้งเตือนขึ้นในจิตใจ
“ได้รับทักษะศักดิ์สิทธิ์: คลุ้มคลั่ง”
ในเวลานั้นฉินเทียนแทบจะโห่ร้องด้วยความยินดีและเขารีบศึกษามันในทันที
—————————————-
ทักษะคลุ้มคลั่ง
ระดับ: 0
ค่าประสบการณ์: 0/1000
รายละเอียด: เพิ่มพลังโจมตี ความเร็ว พลังปราณ พลังชีวิตเป็นสองเท่า
—————————————-
สามารถที่จะได้รับทักษะมาหลังจากการสังหารบอส ฉินเทียนรู้สึกเบิกบานใจอย่างยิ่ง เขาไม่ได้รับสิ่งใดหลังจากสังหารสัตว์ปีศาจไปมากมายจนทำให้เขารู้สึกหดหู่ แต่เมือเขาสังหารกอลิล่าดุร้ายได้นั้น เขากลับได้รับทักษะศักดิ์สิทธิ์คลุ้มคลั่ง แล้วนี่จะไม่ให้เขารู้สึกยินดีได้อย่างไร?
ค่าสถานะของเขาพลันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า มันทำให้เขาคิดว่าความเร็วของฉินคุนไม่นับเป็นอย่างไรอีก ก่อนที่ฉินคุนจะไปถึงตำแหน่งที่ฉินเทียนกำลังร่อนลงนั้น เขาก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาและชะลอตัวกลางอากาศ มองไปยังฉินคุนที่อยู่ด้านล่าง เขาพลันตะโกนออกมา “ตายซะ!”
วินาทีนั้น แววตาของฉินคุนลุกโชนไปด้วยโทสะ มันกู่ร้องและกระโดดขึ้นมา….
“ตาย!”
ฉินเทียนตะโกนอีกครั้งและโจมตีออกไป…..

จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up

จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up

Status: Ongoing

ฉินเทียน ชายหนุ่มผู้จับผลัดจับผลูถูกย้ายวิญญาณมายังร่างที่อมโรคในอีกโลกหนึ่ง เขากลายเป็นเจ้าของร่างที่จุดตันเถียนไม่อาจใช้การได้ ทำให้เขาไร้ซึ่งพลังลมปราณ กระนั้นสวรรค์ก็ยังไม่ทอดทิ้งเขา พระเจ้าได้มอบระบบเลเวลมาให้ด้วย! ชายผู้ไร้ค่างั้นเหรอ? กำลังภายใน#ต่างโลก#ระบบเกมนั่นมันเจ้าของร่างคนก่อนต่างหาก ต้องก้มหน้าก้มตาฝึกฝนพลังลมปราณงั้นเหรอ? เหอะ เขาสามารถเพิ่มเลเวลผ่านการฆ่าสัตว์อสูรได้ กระจอกน่า! เลเวลจะเพิ่มขึ้นเมื่อเขาฆ่าสัตว์อสูร ฆ่าผู้คน ถล่มตระกูลที่ทุกคนบอกว่าแข็งแกร่ง บอกเลยว่าข้านี่ล่ะบอสใหญ่! ด้วยระบบเลเวลนี้ เขาจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหาคอขวดด้านการฝึกปรือดังเช่นอัจฉริยะคนอื่นๆ ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็เพียงแค่ ฆ่า! เพื่อชีวิตที่ดีกว่า! ฝ่าฟันมุ่งหน้าเพื่อกลายเป็นจ้าวยุทธ์! วะฮะฮ่า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท