ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
ตอนที่ 22 สามคลั่งไร้เทียมทาน!
ในเวลานี้นั้น ท้องฟ้ากลายเป็นมืดสลัว ไม่มีแสงสามารถเล็ดรอดเข้ามาภายในป่า
ฉินเทียนพยายามที่จะวิ่งอย่างสุดกำลัง เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ยิ่งมายิ่งรุนแรง ใบหน้าของเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นซีดขาว
แม้จะออกมาห่างมาบ้างแล้ว แรงกดดันก็ยังคงส่งผลต่อเขา ฉินเทียนพอจะจินตนาการได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากว่าเขาเข้าไปใกล้ หากแต่เขาก็ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก เขาจะได้รับ ‘บทลงโทษ’ หากว่าทำภารกิจล้มเหลว
ส่วน ‘บทลงโทษ’ จะเป็นอย่างไรนั้น เขาไม่อาจทราบได้
กระนั้น หากว่าเขาไม่สังหารกอลิล่าดุร้ายตอนนี้ เขาก็ไม่อาจหลบหนีเนื่องเพราะว่าเขาได้เข้ามาอยู่ภายในพื้นที่โจมตีของมันแล้ว
“โฮกกกกกกก….”
กอลิล่าดุร้ายทุบหน้าอกและส่งเสียงคำรามดังกึกก้องออกมา
ฉินเทียนที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงร้อยก้าวสามารถมองเห็นได้ รูปร่างอันใหญ๋โตของมันไม่ต่างไปจากขุนเขา หน้าอกของมันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่หนาราวกับแผ่นเหล็ก ทั่วร่างของมันแผ่กลิ่นไอสีดำออกมาจางๆ สองมือที่กวัดแกว่งออกไปก่อเป็นใบมีดสายลมขึ้น มันแหลมคมราวกับกระบี่ ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ด้านหน้ามันไป
กอลิล่าที่ปรากฏอยู่ในสายตาของฉินเทียนทำให้เขาตกตะลึงอย่างหนัก เขาพลันหวนนึกถึงภาพยนตร์ในโลกเก่าของเขา “คิงคอง” ขึ้นมา คิงคองภายในภาพยนตร์เรื่องนั้นถูกสร้างขึ้นจากซีจีเอฟเฟกต์ดังนั้นมันจึงยังไม่สมจริงเต็มร้อย หากแต่ในตอนนี้ ราวกับว่าตัวเขาได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนั้น ฉินเทียนตกตะลึงอย่างแท้จริง
“บัดซบ!” ฉินเทียนอดสบถออกมาไม่ได้ เมื่อเทียบกันแล้ว ตัวเขาก็ไม่ต่างอะไรจากมดในสายตาของมัน แล้วเขาจะเอาอะไรไปฆ่ามันได้เล่า?
ฉินเทียนคร่ำครวญอยู่ภายในใจอย่างขมขื่น
มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่ทราบว่ากอลิล่าดุร้ายตัวนี้มีพลังชีวิตเหลืออยู่เพียงหนึ่งในสามส่วน กระนั้น พลังชีวิตหนึ่งในสามส่วนของมันก็ยังมากมายมหาศาล มันยังเหลือพลังชีวิตอยู่อีกราวหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นจุด
หลังจากลองคำนวณและคิดหาหนทางในการจัดการกอลิล่าดุร้ายดูแล้ว โอกาสที่จะสังหารมันได้แทบจะเป็นศูนย์
ช่างยากเย็นจริงๆ
“มันเป็นภารกิจที่ไม่มีทางทำสำเร็จ ไอ้ระบบเฮงซวย ต้องการไล่ให้ข้าไปตายหรือไง? คงไม่คิดว่าผู้เล่นเลเวลหนึ่งจะไปสู้กับบอสเลเวลสามสิบได้หรอกนะ?” ฉินเทียนบ่นออกมาอยู่ครึ่งค่อนวัน แต่ระบบก็ไม่ตอบสนองใดๆ มันกระทั่งไม่ส่งเสียงออกมาสักแอะ
หลังจากหลบการโจมตีไปได้ บุรุษเคราครึ้มก็พลันตะโกนไปทางบุรุษในชุดคลุมดำ หยานเทียนเกาหลง “หยานเทียน ไม่ต้องใส่ใจคนผู้นั้น มันเพียงอยู่ในขั้นฝึกตน มันไม่อาจสร้างปัญหาให้แก่พวกเรา”
“เจ้าเหนี่ยวรั้งปีศาจนั่นเอาไว้ ข้าจะไปสังหารคนผู้นั้นเอง” โดยไม่รอคอยคำตอบรับ บุรุษชุดคลุมดำพุ่งเข้าใส่ฉินเทียนทันที มันดึงกระบี่สีทองออกมาฟันออกเป็นรูปแบบบุปผาพุ่งเ้ขาใส่ฉินเทียน
ฉินเทียนทราบอยู่ก่อนแล้วว่ามีคนอยู่ใกล้กับกอลิล่าดุร้าย มันจะต้องไม่อาละวาดโดยปราศเหตุผล
กระนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับกอลิล่าดุร้ายแล้ว บุรุษสวมชุดคลุมดำก็ไม่คิดอะไรให้มากความ มันสลัดกอลิล่าและพุ่งเข้าโจมตีผู้ฝึกตนอันอ่อนแอนี้ก่อน
เมื่อเผชิญกับกระบี่ที่พุ่งเข้าใส่ ฉินเทียนไม่อาจประมาทมันได้ เขาโคจรพลังปราณหลบหนีทันที เหลือไว้เพียงเส้นสีดำจางๆเท่านั้น เขารีบร่ำร้องตะโกนขณะหลบหนี “ข้าเพียงบังเอิญผ่านทางมา!….”
เขาต้องการจะกล่าวว่า ‘เพียงผ่านทางมาซื้อของให้มารดา’ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้กล่าวจบประโยค กระบี่ของหยานเทียนก็บรรลุถึงแล้ว เส้นสีดำปรากฏขึ้นตรงหน้าของหยานเทียนขณะที่มันเข้าใจความรวดเร็วของกระบี่ตนเองดี ฉินเทียนกลับสามารถหลบรอดมันไปได้
การที่ผู้ฝึกตนขั้นฝึกตนสามารถหลบรอดกระบี่ของมันได้ นั่นทำให้ศักดิ์ศรีของผู้ที่อยู่ในขั้นรวบรวมวิญญาณเช่นมันต้องด่างพร้อย
มันขมวดคิ้วและไล่ติดตามฉินเทียนไปด้วยเจตนาสังหารอันรุนแรง
ฉินเทียนรู้สึกมึนงง แต่ไม่ช้าเขาก็เข้าใจได้ว่าทำไมฉินเทียนถึงต้องการสังหารเขา หากว่าเขากำลังล่าบอสอยู่ภายในเกมแล้วมีคนปรากฏตัวขึ้นมาในช่วงที่บอสใกล้จะตายแล้วล่ะก็ เป็นเขาก็จะเลือกกระทำเช่นเดียวกันนี้ เขาไม่อาจเสี่ยงก่อให้เกิดเภทภัยขึ้นในภายหลังได้
กระนั้น แถบพลังชีวิตของบอสที่แสดงออกมาก็ยังคงหนามาก การล่าสังหารมันด้วยคนเพียงสองคนก็นับว่ายากลำบากมากอยู่แล้ว แต่หยานเทียนก็ยังคงผละจากมาเพื่อไล่สังหารผู้อื่น ฉินเทียนคิดว่าสมองของมันจะต้องมีปัญหาแน่ๆ
นอกจากนั้น เขาเพียงอยู่ในขั้นที่หกของการฝึกตน ภัยคุกคามที่ปรากฏให้เห็นของเขาย่อมมีเพียงน้อยนิด
ฉินเทียนคิดเช่นนั้น หากแต่หยานเทียนกลับคิดต่างออกไป
อย่างช่วยไม่ได้ ฉินเทียนเพียงสามารถหนีไปยังทิศทางที่กอลิล่าดุร้ายอยู่ได้เพียงทิศเดียว
“หยานเทียน กลับมาได้แล้ว!” บุรุษเคราครึ้มกู่ร้องออกมาขณะที่ใช้ค้อนในมือทุบลงไปยังมือที่ใหญ่โตของกอลิล่าดุร้าย ตัวมันรู้สึกอ่อนล้าอย่างมากและแทบจะไม่อาจประคองสติเอาไว้ได้หลังจากใช้พลังปราณออกไปเกินขีดจำกัด
เมื่อเห็นว่าบุรุษเคราครึ้มกำลังตกอยู่ในอันตราย หยานเทียนก็ขมวดคิ้วและยกเลิกการไล่ล่าฉินเทียน พุ่งไปทางบุรุษเคราครึ้มนั้น
“ต้องแบบนี้สิ” ฉินเทียนถอนหายใจอย่างโล่งอกและคิดหามาตรการตอบโต้ เขาจะแย่งฆ่าบอสตัวนี้ได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้กำลังบังคับ ดังนั้นจึงเหลือเพียงการใช้หัวคิด
หยานเทียนปลดปล่อยพลังปราณออกมา ขณะที่ตัวกระบี่เปล่งแสงเจิดจ้า
“สุดยอดกระบี่”
แสงสีขาวพลันรวมตัวกันเป็นกระบี่ มันทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและฟันไปยังกอลิล่าดุร้าย
“โฮกกกกกก…”
แขนของมันปรากฏแผลลึกขึ้นเส้นหนึ่ง ผิวหนังของมันถูกเฉือนออกไปทำให้โลหิตฉีดพุ่งออกมา มันคำรามออกมาอย่างเจ็บปวด
“เป็นทักษะกระบี่ที่ทรงพลังนัก สามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่าห้าพันจุดในการฟาดฟันเพียงครั้งเดียว หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป อีกไม่นานกอลิล่าก็จบสิ้นแล้ว”
“บัดซบ ไม่ใช่ว่าผู้ที่อยู่ในขั้นรวบรวมวิญญาณมันแข็งแกร่งเกินไปหน่อยหรือ? โชคดีที่ข้าไม่ได้ไปตอแย มิเช่นนั้นกระทั่งตายอย่างไรยังไม่ทราบ”
ฉินเทียนพลันนึกถึงฉินเซี่ยงเทียน เขาอดสะท้านใจขึ้นไม่ได้
“โฮกกก….”
กอลิล่าดุร้ายพลันมีรัศมีสีขาวเปล่งออกมาจากร่าง ก่อให้เกิดเป็นระลอกแสงถูกปลดปล่อยออกมา
“คลุ้มคลั่ง?” บุรุษเคราครึ้มโพล่งออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อถึงสิ่งที่เกิดขึ้น มันโยนค้อนทิ้งไปและทะยานตัวออกห่างขณะตะโกนออกมา “หยานเทียน! หนี…”
หลังจากการโจมตีนั้น พลังปรารในร่างของหยานเทียนก็ได้แห้งเหือดลง ร่างของมันไม่อาจตอบสนองได้รวดเร็วพอและรับบฝ่ามือของกอลิล่าดุร้ายที่กำลังคลุ้มคลั่งเข้าไปเต็มๆ
“หยานเทียน!…”
“จบสิ้นแล้ว…”
โครมมมมม
มีหลุมปรากฏขึ้นและร่างของหยานเทียนที่แหลกเละราวกับเนื้อบดกระจัดกระจายอยู่ภายในหลุมนั้น
ตายแล้ว หยานเทียนถูกสังหารในการตบเพียงครั้งเดียว
“ข้ามาเร็วเกินไป…” ฉินเทียนรีบวิ่งออกจากพื้นที่โจมตี
ดวงตาของยุรุษเคราครึ้มลุกโชนด้วยความแค้น มันแดงก่ำราวโลหิต มันตะโกนออกมาสุดเสียง “เจ้ากับข้ามาสู้กันให้ตายไปข้าง!”
มือทั้งสองรวบรวมพลังปราณ มันทะยานร่างขึ้นไปบนท้องฟ้า และต่อยไปที่ส่วนศีรษะของกอลิล่าดุร้ายอย่างหนักหน่วง
หมัดทั้งสองของมันนี้เทียบได้กับน้ำหนักหนึ่งหมื่นจิน ความรวดเร็วของมันว่องไวดุจกระสุน
ขั้นกลั่นวิญญาณช่างทรงพลังนัก!
ฉินเทียนสะท้านใจเมื่อได้เห็นพลังที่แข็งแกร่ง บุรุษผู้นี้ทำให้เขารู้สึกถึงความห่างชั้นด้านพลัง
ตูมมมมมมม!
สิ้นเสียงที่ดังกัมปนาท กอลิล่าดุร้ายที่ร่างใหญ่โตราวกับขุนเขาก็เอนเอียงหลังจากรับการโจมตีเข้าไป มันนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะล้มไปกับพื้น……….
ที่พื้นดิน บุรุษเคราครึ้มหอบหายใจอย่างหนักหน่วง หากแต่ใบหน้าของมันกัลบเผยให้เห็นถึงความตื่นเต้น
ฟู่
ร่างของกอลิล่าดุร้ายพลันมีแสงสีขาวแผ่ออกมาอีกครั้ง
วินาทีนั้น แววตาของบุรุษเคราครึ้มพลันเลื่อนลอย เป็นแววตาที่สิ้นหวัง เจ้าปีศาจตัวนี้…มันกลับสามารถเข้าสภาวะคลุ้มคลั่งได้ถึงสามครั้ง!
ทักษะศักดิ์สิทธิ์ของกอลิล่าคลุ้มคลั่งนี้ มันกลับสามารถปลดปล่อยออกมาต่อเนื่องได้ถึงสามครั้ง….
มันคือสามคลั่งไร้เทียมทาน!