จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up – ตอนที่ 83

ตอนที่ 83

จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 83 โจมตีผสาน
“ฉินเทียนยังไม่ตาย……”
“ขะ…เขา…เขามาปรากฏที่นี่ได้ยังไง?”
“ท่านประมุข พวกเราจะทำอย่างไรดี? หากเขามาที่นี่เพื่อช่วยคนและทำให้องค์ชายสามขุ่นเคือง เช่น…เช่นนั้นตระกูลฉินก็คงจบสิ้นแล้ว…….” ฉินควงกล่าวอย่างเหม่อลอยด้วยความกังวล ขณะที่มองดูฉินเทียน ความโกรธก็พลันปะทุขึ้นในใจ เขาแทบอดรนทนรอไม่ไหวที่จะพุ่งเข้าไปสับสังหารฉินเทียนเป็นชิ้นๆ
ท่าทีของฉินซานเทียนเปลี่ยนไปขณะที่แผ่จิตสังหารออกมา การปรากฏตัวของฉินเทียนทำให้เขาตกตะลึงอย่างมาก แต่ครู่ถัดมาเขาก็พลันตัดสินใจได้ ฆ่า เพื่อรักษาวงศ์ตระกูลแล้ว ฉินเทียนจะต้องตาย!
ฉินซานเทียนโค้งคำนับหยางฮงคราหนึ่งเป็นเชิงแสดงเจตจำนงอาสาออกศึก
หยางฮงยังคงสงบนิ่ง บางครั้งบางครายังยิ้มออกมาจางๆ นอกเหนือจากการออกคำสั่งป้องกันไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้เวทีแล้ว เขาก็ไม่ได้ส่งคนไปจัดการกลุ่มศัตรูแม้แต่คนเดียว แม้จะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น แต่เขายังคงเยือกเย็น ท่าทีของเขาทำให้ผู้คนไม่อาจหยั่งคาดสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ เมื่อเห็นฉินซานเทียนขันอาสาออกศึก เขาก็ยิ้มบางก่อนจะผงกศีรษะเป็นเชิงอนุญาต
ไม่ไกลจากบัลลังก์ของหยางฮง หยางฮั่นกำลังจ้องมองฉินเทียนด้วยเพลิงแค้นแน่นอก จิตสังหารของเขาเริ่มแผ่ออกจากร่าง…….
พลังปราณของฉินซานเทียนและฉินควงพุ่งขึ้นพรวดพราดอย่างฉับพลัน จากนั้นทั้งสองก็พุ่งตัวไปทางเวที พวกเขาต่างก็เกลียดชังฉินเทียนอย่างลึกล้ำที่พยายามจะทำลายพิธีวิวาห์ขององค์ชายสาม หากหยางฮงเดือดดาลเพราะเรื่องนี้แล้วล่ะก็ ตระกูลฉินคงประสบกับหายนะ
เมื่อนึกถึงความโหดเหี้ยมที่หยางฮงแสดงภายในเมืองชิงเหอเมื่อหลายวันก่อน รูม่านตาของฉินซานเทียนก็เบิกโพรง พลังปราณของเขาควบแน่นจนกลายเป็นมีด และที่ด้านหลังของเขาก็ปรากฏเทพสงครามที่กำลังถือมีดเหมือนกับของเขาขึ้นมา ฉินซานเทียนใช้ออกด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดเพื่อหวังสังหารฉินเทียนในกระบวนท่าเดียว
เมื่อฉินเทียนตกตาย เขาก็จะรอดพ้นจากหายนะ และอนาคตของเขาก็จะเจิดจ้าไร้ขีดจำกัด
“มอบชีวิตมา!”
ฉินควงแค่นเสียงขณะที่เส้นผมสีขาวของเขาปลิวสยายในอากาศ กระบี่แสงนับพันพลันปรากฏออกมาจากกระบี่ในมือจนก่อตัวเป็นกระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งที่อัดแน่นไปด้วยจิตสังหาร
ขณะเดียวกัน หยางหลินก็ดึงพลังจากฟ้าดินโจมตีเข้าใส่ฉินเทียน……….
“บ้าคลั่งขั้นที่หนึ่ง!”
“ปะทุ!”
ฉินเทียนกู่ร้องขึ้นในใจ ความโกรธภายในกายพลันปะทุออก ในเวลาเดียวกัน เสียงร้องของมังกรก็ดังขึ้นจากเวทีที่มีฝุ่นผงปลิวคละคลุ้ง จากนั้นเสียงของคชสารเหยียบย่ำปฐพีก็ดังขึ้นตามมา
พลังที่มหาศาลนัก!
ฉินเทียนบีบกำมือ พละกำลังมหาศาลกำลังวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายของเขาก่อนจะไหลมารวมกันที่ฝ่ามือ
นัยน์ตาของฉินเทียนมีสีแดงแฝงอยู่จางๆ ชุดเกราะปีศาจโลหิตสงครามที่อยู่บนร่างเปล่งแสงสีแดงราวโลหิต
ฉินเทียนในเวลานี้ดูราวกับเทพเจ้าป่าเถื่อนจากยุคบรรพกาล
วิ้ง
ภายใต้ผลของทักษะศักดิ์สิทธิ์บ้าคลั่ง แสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นบนร่างของเขาก่อนจะแผ่ออกไปโดยรอบ ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้นสี่เท่า
พละกำลัง พลังปราณ ความเร็ว พลังชีวิต ประสิทธิภาพของกลิ่นอายนักล่าล้วนเพิ่มขึ้นสี่เท่า และนั่นยังรวมถึงอานุภาพของพลังมังกรพิสุทธิ์……
การเปลี่ยนแปลงกลิ่นอายอย่างฉับพลันของฉินเทียนถึงกับทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน ทุกคนที่อยู่ภายในลานจัสตุรัสล้วนต้องตกตะลึง ฝูงชนที่กำลังวิ่งหนีอย่างชุลมุนต่างก็ชะงักฝีเท้าและหันมามองฉินเทียนพลางกลืนน้ำลายลงคอ ยามเมื่อแสงสีขาวแผ่กระจายออกไปราวกับคลื่น ผู้คนก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แฝงอยู่ในแสงสีขาว………….
หยางหลินตกตะลึงอ้าปากค้าง แววตาของเขาฉายแววไม่ยอมรับ ความอิจฉาริษยาพลันครอบงำจิตใจ “ระดับศักดิ์สิทธิ์…..ทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์…เป็น….เป็นไปได้อย่างไรกัน?…..เขายังอายุไม่ถึงยี่สิบปีด้วยซ้ำ แล้วเขาจะเข้าใจทักษะระดับสูงสุดเช่นนี้ได้อย่างไร?”
“เป็นไปไม่ได้”
ทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ย่อมเหนือกว่าทักษะระดับทั่วไปอย่างเทียบกันไม่ติด หากไม่ฝึกปรือนานนับร้อยปี คนผู้นั้นย่อมไม่อาจบรรลุทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ได้ ผู้บ่มเพาะบางคนกระทั่งใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่อาจทำความเข้าใจมันได้เสียด้วยซ้ำ ดูอย่างไรฉินเทียนก็อายุไม่เกินสิบแปดปี ทว่าเขากลับสามารถใช้ทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ เรื่องนี้ทำให้หยางหลินที่มั่นใจในตัวเองมาตลอดรู้สึกราวกับแตะถูกเกล็ดย้อน หยางหลินพลันรู้สึกเกลีดชังฉินเทียนอย่างที่สุด
เขาแค่นเสียง ก่อนที่พลังปราณจะหลั่งไหลเข้าสู่หอกในมืออีกครั้ง หยางหลินเวลานี้กำลังเดือดดาลถึงขีดสุด เขาได้ทุ่มเทพลังทั้งหมดลงในการโจมตีครั้งนี้
หยางหลิน ศิษย์ที่มีพรสวรรค์เด่นล้ำของนิกายอมตะหนันเทียน ระดับสามขั้นกลั่นวิญญาณ
ฉินซานเทียน ประมุขตระกูลฉิน ระดับสองขั้นกลั่นวิญญาณ
ฉินควง ผู้อาวุโสตระกูลฉิน ระดับหนึ่งขั้นกลั่นวิญญาณ
สามผู้บ่มเพาะขั้นกลั่นวิญญาณร่วมมือกันโจมตีเข้าใส่ฉินเทียนด้วยแรงกดดันอันมหาศาล และจิตสังหารที่สามารถฆ่าคนธรรมดาได้ในหนึ่งลมหายใจ ฉินเทียนเรียกใช้งานเคล็ดมังกรฟ้า กลิ่นอายนักล่าของเขาพุ่งออกต้านรับจิตสังหารของศัตรูทั้งสาม ภายในจุดตันเถียน พลังของมังกรฟ้าและคชสารเริ่มประสานเข้าด้วยกัน ก่อเกิดเป็นพลังไร้ลักษณ์สายหนึ่ง
ความแข็งแกร่งของฉินเทียนในตอนนี้ได้พุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด
ต้านทานยอดฝีมือขั้นกลั่นวิญญาณสามคน ในใจฉินเทียนหาเกรงกลัวไม่ ดวงตาของเขาฉายแววมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า
ตูม…………
ครืน………….
ครืน………….
ครืน………….
เกิดเสียงระเบิดขึ้นสามครั้งจนดังกึกก้องทั่วท้องฟ้า พื้นที่วังหลวงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ผู้คนที่อยู่ภายในลานจัสตุรัสค่อยๆล้มลงหมดสติ รังสีปราณอันรุนแรงสาดกระจายออกโดยรอบ ทุกสิ่งที่สัมผัสถูกมันล้วนถูกเปลี่ยนเป็นผุยผง เมื่อสายลมพัดผ่าน ฝุ่นผงเหล่านั้นก็ลอยหายไป…..
เวทีที่ถูกแกะสลักจากหินก้อนใหญ่เริ่มมีรอยปริร้าวพลางส่งเสียง ‘แกร๊กๆ’ ออกมา
โครม…….
เมื่อไม่อาจต้านทานไว้ได้อีก เวทีก็พังครืนลง
หยางฮงสีหน้าแปรเปลี่ยนพลางลุกขึ้นพรวด
“ฟู่….ฟู่…..ฟู่……..”
ฉินเทียนหอบหายใจอย่างหนัก โลหิตและพลังปราณในกายพลุ่งพล่านปั่นป่วน เขาสะกดกลั้นความเจ็บปวดก่อนจะกลืนโลหิตกลับลงไป แสงสีแดงบนเกราะปีศาจโลหิตสงครามเปลี่ยนเป็นหม่นหมองราวกับบาดเจ็บหนัก
“เจ้านับเป็นผู้เข้มแข็งผู้หนึ่ง แต่อย่างไรวันนี้เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี” หยางหลินกล่าวด้วยสีหน้าขาวซีด ในระหว่างแลกเปลี่ยนกระบวนท่า ตัวเขาก็แทบถูกส่งลอยกระเด็นออกไป หากไม่ได้ชุดเกราะที่สวมใส่อยู่ เขาคงจะเจ็บหนักไปแล้ว เมื่อประสบพบเจอศัตรูเข้มแข็ง เขาจะไม่ปล่อยอีกฝ่ายไปเด็ดขาด
เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ฉินเทียนแข็งแกร่งไปมากกว่านี้ ระดับเก้าขั้นรวบรวมวิญญาณที่มีพลังปราณมากมายมหาศาลขนาดนี้ ทั้งยังสามารถเข้าใจทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์ นี่ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์สมควรมี เขาปล่อยให้เขาเติบโตจนก้าวเข้าสู่ขั้นกลั่นวิญญาณ ถึงตอนนั้นหยางหลินย่อมไม่อาจต่อกรฉินเทียนได้อีก
ด้านหลังของเขาปรากฏร่างเซียนที่มีรอยปริแตกขึ้นอีกครั้ง จิตสังหารอันเย็นเยียบแผ่กระจายออกจากร่างหยางหลิน……
“เป็นไปได้อย่างไร? ไฉนเติบโตขึ้นได้ถึงเพียงนี้? มันฝึกฝนทักษะอะไรกันแน่?” ฉินซานเทียนหน้าขาวซีดขณะกลืนเม็ดยาเพื่อสะกดระงับความเจ็บปวดบริเวณอก เขาไม่อาจเชื่อว่าฉินเทียนจะก้าวมาถึงขั้นนี้ ขั้นที่สามารถต้านรับการโจมตีจากผู้บ่มเพาะขั้นกลั่นวิญญาณถึงสามคนพร้อมกัน
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ทั้งยังเติบโตได้รวดเร็วเกินไปด้วยเช่นกัน เขาไม่อาจปล่อยให้ฉินเทียนมีชีวิตรอดออกไปได้อย่างเด็ดขาด!
จิตสังหารครอบงำห้วงความคิดของฉินซานเทียน
“ฉินเทียน ชดใช้ชีวิตบุตรชายข้ามา!”
ฉินควงร่ายรำกระบี่ด้วยความแค้น กระบี่แสงนับพันเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง……
ฉินเทียนแค่นเสียง สีหน้าของเขาปราศจากความหวาดกลัว อย่างไรก็ตาม ยามเมื่อมองไปยังเหนือศีรษะของหยางฮงแล้ว เขาก็ต้องตกตะลึง ความแข็งแกร่งของหยางฮงนั้นเหนือล้ำเกินจินตนาการ กลิ่นอายของเขาได้หลอมรวมเข้ากับพลังฟ้าดินแล้ว…… ‘ฟู่’
ฉินเทียนสูดหายใจเข้าปอดก่อนจะหันไปมองอวิ๋นม่านที่กำลังหลั่งน้ำตา “หลับตาเถอะ อีกไม่นานก็จบแล้ว……”

จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up

จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up

Status: Ongoing

ฉินเทียน ชายหนุ่มผู้จับผลัดจับผลูถูกย้ายวิญญาณมายังร่างที่อมโรคในอีกโลกหนึ่ง เขากลายเป็นเจ้าของร่างที่จุดตันเถียนไม่อาจใช้การได้ ทำให้เขาไร้ซึ่งพลังลมปราณ กระนั้นสวรรค์ก็ยังไม่ทอดทิ้งเขา พระเจ้าได้มอบระบบเลเวลมาให้ด้วย! ชายผู้ไร้ค่างั้นเหรอ? กำลังภายใน#ต่างโลก#ระบบเกมนั่นมันเจ้าของร่างคนก่อนต่างหาก ต้องก้มหน้าก้มตาฝึกฝนพลังลมปราณงั้นเหรอ? เหอะ เขาสามารถเพิ่มเลเวลผ่านการฆ่าสัตว์อสูรได้ กระจอกน่า! เลเวลจะเพิ่มขึ้นเมื่อเขาฆ่าสัตว์อสูร ฆ่าผู้คน ถล่มตระกูลที่ทุกคนบอกว่าแข็งแกร่ง บอกเลยว่าข้านี่ล่ะบอสใหญ่! ด้วยระบบเลเวลนี้ เขาจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหาคอขวดด้านการฝึกปรือดังเช่นอัจฉริยะคนอื่นๆ ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็เพียงแค่ ฆ่า! เพื่อชีวิตที่ดีกว่า! ฝ่าฟันมุ่งหน้าเพื่อกลายเป็นจ้าวยุทธ์! วะฮะฮ่า!

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท