จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 100 ตายซะ จ้าวอู่ตี้
“ขั้นกลั่นวิญญาณ?!”
“ระดับสี่ขั้นกลั่นวิญญาณ!”
“ความเร็วนี้มัน”
จ้าวอู่ตี้หน้าเปลี่ยนสี เห็นฉันเทียนกระโดดลงมาจากต้นไม้ เขาก็นิ่งค้าง ไม่ถึงสิบวัน ระดับเก้าขั้นรวบรวมวิญญาณไประดับสี่ขั้นกลั่นวิญญาณความเร็วนี่มันอะไรกัน? ต่อให้เป็นอัจฉริยะฟ้าประทานก็ไม่มีทางบ่มเพาะได้เร็วขนาดนี้
“เทียนน้อย นี่เจ้า”
ฉินเหลียนเผยยิ้มขณะในใจปลื้มปิติ กลิ่นอายของฉันเทียนยิ่งมายิ่งแกร่งกร้าวเป็นกลิ่นอายที่มีเพียงขั้นกลั่นวิญญาณเท่านั้นที่มีได้
“ให้ข้าจัดการเองท่านน้า วางใจเถอะ” ฉุนเทียนเดินเข้าไปหาฉินเหลียนก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดกลิ่นหอมอ่อนๆลอยเข้าจมูกจนทําให้ฉันเทียนใจสันสดชื่นสุดๆ!”
สายตาลุ่มหลงของฉันเทียนทําให้ฉันเหลียนหน้าร้อนผะผ่าว นางรีบขยับหลบไปด้านข้างด้วยใจเต้นแรงอาการคล้ายสาวน้อยวัยแรกแย้มที่เพิ่งสัมผัสความรัก
“จ้าวอู่ตี้ ถึงกับส่งตัวเองมาให้ถึงที่ นับว่าประหยัดเวลาให้ข้าไปได้เยอะ ในเมื่อเหล่าคนคุ้นหน้าคุ้นตาต่างมาเจอกันวันนี้ก็ไม่ต้องออกไปไหนแล้ว” ฉุนเทียนแค่นเสียง
กล่าวจบ กลิ่นอายบนร่างก็เปลี่ยนแปลง เทพโบราณที่ในมือถือเคียวด้ามใหญ่ปรากฏขึ้นด้านหลังกลิ่นอายของเทพโบราณคล้ายปีศาจร้ายที่แยกเขี้ยวกางเล็บพร้อมจะปลิดชีพผู้คน
“เทพดุร้าย!” จางไท่ซานตัวสั่นเทาขณะมองสิ่งที่ปรากฏขึ้นด้านหลังของฉันเทียน ใบหน้าของเขาถอดสีสายตาเหลือบมองจ้าวอู่ที่ “พี่จ้าว ข้าว่า……..”
จิตใจอันขลาดเขลาพลันเลือกยอมสยบโดยไม่ทันสู้รบ
เผชิญกับกลิ่นอายแกร่งกร้าวของฉันเทียน แน่นอนว่าระดับสามขั้นกลั่นวิญญาณอย่างจางไปซานอยากจะหนีใจแทบขาด กระนั้นจ้าวอู่ตี้กลับปลดปล่อยจิตสังหารอันเข้มข้นออกมาเคล็ดเพลิงสีชาดถูกใช้ออกขณะกล่าวตําหนิ “วันนี้หลบหนี แล้ววันถัดๆไปเล่า? มาถึงขั้นนี้แล้วเจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ?”
จ้าวอู่ตี้ตัดสินใจจะสังหารฉุนเทียน
ฉินเทียนเพียงอยู่ในระดับสี่ขั้นกลั่นวิญญาณ ขณะที่เขาอยู่ในช่วงปลายของระดับเจ็ด ดังนั้นการจัดการสิ้นเทียนสมควรไม่ตึงมือนัก อีกทั้งถิ่นเทียนยังเติบโตรวดเร็วเกินไป หากวันนี้ไม่ฆ่าในอนาคตก็ไม่ต้องหวังเลย ถึงตอนนั้นตระกูลจ้าวคงยากจะรอดพ้นหายนะ
ถึงตรงนี้ จ้าวอู่ตี้ก็ปลดปล่อยรัศมีปราณอันร้อนแรงออกมา เส้นผมสีแดงพลั่นปลิวสะบัดเคล็ดเพลิงสีชาดถูกใช้ออกด้วยสภาวะสูงสุด
จางไท่ซานสงบใจลงก่อนจะปลดปล่อยจิตสังหารออกมา
หากเขาหนีกลับไปเมืองขอบนภา อย่างไรเสียก็คงไม่อาจรอดพ้นการไต่สวนจากหยางฮงแทนที่จะปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ไม่สู้เดิมพันกับชีวิตฉินเทียนสักครา และหลังจากสังหารฉินเทียนได้หยางฮงยังจะตบรางวัลให้อีก ยังมี จ้าวอู่ที่ที่อยู่ช่วงปลายระดับเจ็ดขั้นกลั่นวิญญาณก็อยู่ที่นี่ด้วยโอกาสชนะมีมากกว่าแพ้
หลังใคร่ครวญดูแล้ว จางไท่ซานก็กล่าวออกมา “พี่จ้าว ข้าจะเชื่อท่าน พวกเราจะจัดการเจ้าคนทรยศของตระกูลฉิน!”
“เหอะ มั่นใจเสียจริงนะ” ฉุนเทียนยิ้มเยาะ ร่างของเขาพลันหายไป
” พลังมังกรพิสุทธิ์”
“บ้าคลั่งขั้นที่หนึ่ง”
แรงกดดันอันลึกล้ําพลันกดใส่พวกเขา
“ฝ่ามือลวงตา”
ฝามือกว่าหนึ่งพันสองร้อยแปดสิบฝามือปรากฏขึ้นกลางอากาศ
“ทําลาย!”
พลังงานไร้สภาพก่อตัวขึ้นรอบหมดของฉันเทียน จากนั้นจึงพลันชกออกไปจํานวนหนึ่งพันสองร้อยแปดสิบครั้งติดต่อกัน แต่ละครั้งที่เขาต่อยออกไป ฝ่ามือปราณก็ค่อยๆหายไปทีละคู่ก่อนที่สุดท้ายฝามือปราณของจ้าวอู่ตี้จะถูกทําลายจนหมดสิ้น
“ก็แค่ระดับเจ็ดขั้นกลั่นวิญญาณ” ฉุนเทียนกล่าวพลางปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของจ้าวอู่ ตี้และโจมตีใส่อีกฝ่าย
ความเร็วในการโจมตีของเขาทําให้คนทั้งหมดต่างพูดไม่ออก ยามที่จ้าวอู่ตี้ดึงสติกลับมาหมัด ที่เต็มไปด้วยพลังปราณของฉันเทียนก็ใกล้บรรลุถึงตัวของเขาแล้ว
จ้าวอู่ตี้รู้สึกตัวช้าเกินไป การโจมตีอันหนักหน่วงนี้ตรงเข้าเป้าอย่างจัง
ในเวลาเดียวกัน จางไท่ซานก็ลงมือโจมตี อย่างไรก็ตาม เป็นเวลาเดียวกันกับที่เทพโบราณด้านหลังของฉันเทียนตวัดเคียวฟันออกอานุภาพการโจมตีนี้สุดที่ผู้บ่มเพาะระดับสามขั้นกลั่นวิญญาณผู้หนึ่งจะต้านทานได้
ร่างของจ้าวอู่ตี้พุ่งกระแทกพื้นอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขาขาวซีด โลหิตกลุ่มใหญ่ไหลย้อมมุมปาก
จ้าวอู่ตี้ค่อยๆฝืนตัวลุกขึ้นยืน มือข้างหนึ่งปาดเช็ดโลหิตที่มุมปาก ก่อนที่สายตาของเขาจะจับจ้องไปที่รอยโลหิตบนฝ่ามือ หลังหัวเราะเสียงเย็นคราหนึ่ง หอกสีแดงก็ปรากฏขึ้นในมือบนตัวหอกมีลวดลายมังกรเพลิงถูกสลักเอาไว้
“หอกมังกรอัคนี้!?” ฉุนเทียนตกใจ จากความทรงจําของเขา รู้เพียงแค่หอกเล่มนี้ เป็นสมบัติประจําตระกูลของตระกูลจ้าวเพียงเคยได้ยินไม่เคยพบเห็น
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะรู้จักมัน” จ้าวอู่ตี้เหลือบมองจางไท่ซานคราหนึ่งก่อนจะหันไปจ้องฉุนเทียน “เช่นนั้นเจ้าก็คงทราบว่า ยามที่หอกมังกรอัคนี้ปรากฏจะต้องมีคนตาย”
” ตาย?” ฉุนเทียนหัวเราะ “คนที่จะตายก็เจ้าไม่ใช่เหรอ?”
จ้าวอู่ตี้กัดฟันกรอด หอกมังกรอัคนีที่ห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงพลันเสือกแทงออก รัศมีปราณที่แผ่ออกจากร่างของฉุนเทียนค่อยๆถูกมันกลืนกินไป
ฉินเทียนไม่เคยเห็นหอกมังกรอัคนี้ด้วยตาตัวเองมาก่อน เพียงแต่เคยได้ยินว่ามันเป็นสมบัติอมตะระดับต่ํา
สิ่งนี้เป็นของที่บรรพบุรุษของตระกูลจ้าวใช้ลาวาภายในภูเขาไฟหลอมสร้างขึ้นมา นอกจากผู้ที่ ฝึกฝนเคล็ดเพลิงสีชาด” แล้ว คนอื่นๆย่อมไม่อาจทนต่อรัศมีอันร้อนแรงของมันยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงการจะใช้มัน
รัศมีเพลิงของหอกมังกรอัคนี้สามารถผสานเข้ากับร่างกายของผู้ใช้ ภายในหอกบรรจุไว้ด้วยรัศมีปราณอันร้อนแรงที่สอดรับกับเคล็ดเพลิงสีชาด กล่าวก็คือ จ้าวอู่ตี้ในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นเป็นเท่าตัว
” อาวุธที่มีความสามารถในการกลืนกิน?”
“ไม่เลวๆ ข้าจะรับเอาไว้ก็แล้วกัน”
ฉินเทียนปลดปล่อยความแข็งแกร่งแท้จริงออกมา เขาปลดปล่อยพลังออกมาทั้งหมดแม้อีกฝ่ายจะไม่คู่ควรก็ตาม เขาจะไม่มอบโอกาสให้อีกฝ่ายโต้ตอบแม้สักครั้ง
” เปิดใช้โหมดปีศาจ…..”
เสียงกระดูกภายในร่างดังเลือนลั่น
ไม่ถึงครึ่งลมหายใจ ฉุนเทียนก็กลายร่างเป็นปีศาจสวรรค์ ร่างกายของเขาแดงก่ํา ปราณชั่วร้าย ราณโลหิตปีศาจ ปราณจิตมุ่งร้าย และพลังปราณแข็งกร้าวล้วนปะทุออกมาเผชิญกับการโจมตีด้วยหอกมังกรอัคนี้ของจ้าวอู่ตี้ นินเทียนที่อยู่ในร่างปีศาจสวรรค์ก็แค่นเสียง
หุบเขาเสวียนคงพลันปั่นป่วนวุ่นวาย
สัตว์อสูรต่างเตลิดหนี้อย่างไม่คิดชีวิต ป่าที่ก่อนนี้ยังพอมีร่องรอยสิ่งมีชีวิตอยู่บ้า งพลันเปลี่ยนเป็นเงียบวังเวง
“ตาย!”
ฉินเทียนขยับมือ อากาศถูกทะลวง เกิดเป็นหลุมดําจํานวนนับไม่ถ้วน
ความแข็งแกร่งที่เขาใช้ออกสุดที่พื้นที่นี้จะรับได้
“ปีศาจ!? ปีศาจ! เป็นไปไม่ได้ มันจะเป็นปีศาจไปได้อย่างไร?” จ้าวอู่ตี้โพล่งออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ความกลัวโถมเข้าครอบงําจิตใจ
หมัดสองหมดประทับลงบนอกของจ้าวอู่ตี้ หอกมังกรอัคนี้คล้ายคบเพลิงที่มอดดับลง ตัวหอกกลับกลายเป็นสงบเสงี่ยม ไม่กล้าแสดงความหยิ่งผยองดังเช่นก่อนหน้านี้อีก
กลิ่นอายของปีศาจสวรรค์ดุร้ายเกินไป กระทั่งหอกมังกรอัคนี้ที่มีจิตวิญญาณก็ทําได้เพียงรีบเก็บรัศมีเพลิงกลับไป การต่อต้านกลิ่นอายของปีศาจสวรรค์ก็ไม่ต่างอะไรจากการเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง มีแต่ตายเปล่า
จ้าวอู่ตี้มองดูฉินเทียนอย่างเหม่อลอย
ฉินเทียนแสยะยิ้มก่อนที่ฝ่าเท้าจะกระทืบลงบนศีรษะของจ้าวอู่ตี้
จ้าวอู่ตี้ตายแล้ว!
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น “ฉินเทียน” สําหรับการสังหารจ้าวอู่ตี้ ได้รับค่าประสบการณ์ 180,000 ค่าพลังปราณ 80,000 ค่าการรอดชีวิต 1,500.”
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น “ฉินเทียน” สําหรับการได้รับหอกมังกรอัคนี้…”
” ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น ฉินเทียน สําหรับการได้รับ แก่นระดับห้า 1 แก่น แก่นระดับหก 1 แก่น…”