จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up – ตอนที่ 122

ตอนที่ 122

ตอนที่ 122

ในสํานักชั้นนอกมีภารกิจมากมายให้เลือกกระทํา และภารกิจสังหารปีศาจร้ายจิ๋วโยวลี่ยุ่ยก็นับเป็นภารกิจที่มีความอันตรายค่อนข้างสูง เป็นภารกิจที่ถูกประกาศมาแล้วหลายเดือนแต่ไม่มีผู้ใดเคยกระทําสําเร็จ

เมื่อภารกิจนี้หายไปจากแผ่นศิลาดํา ทั่วทั้งโถงภารกิจในชั้นแรกก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยดังเซ็งแซ

“ฝีมืออันร้ายกาจ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนลงมือ?”

“จิ๋วโยวลี่กุยเป็นศิษย์ของราชันปีศาจเสียโหมวที่น่ากลัวผู้นั้น คิดไม่ถึงว่ายังมีผู้ที่หาญกล้าไปตอแยไม่รู้ว่าเป็นสหายวีรบุรุษท่านใด”

“อู่สยงป้าแห่งประตูเทียนเพิ่งรับภารกิจสํารวจปาหมิงไห้ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน และตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้กลับมา คงไม่ใช่ฝีมือเขา”

“ไม่ใช่ว่าอวี่เฉิงแห่งประตูเทียนเพิ่งรับภารกิจไปเมื่อวานี้หรอก? หรือจะเป็นเขาที่ทําสําเร็จ”

ทั้งหอภารกิจเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยดังจอแจ

ในความคิดของพวกเขาแล้ว มีเพียงศิษย์จากประตูเทียนที่สามารถสังหารปีศาจระดับ หกขั้นกลั่นวิญญาณย่อมไม่มีใครคิดไปถึงชื่อของฉันเทียน

หลังจากสังหารจิ๋วโยวลี่อุ้ย ฉินเทียนก็ได้รับแต้มผลงานมาสามพันแต้ม เขาจึงตรงดิ่งกลับที่พักทันทีการตายของอเฉิงจะก่อเกิดคลื่นลมอะไรขึ้นมาบ้าง ฉุนเทียนต้องการทราบเป็นอย่างยิ่ง

แต่แม้จะผ่านไปแล้วสามวัน เรื่องราวกลับเงียบเชียบราวกับอวเฉิงไม่เคยมีตัวตนอยู่

“ศิษย์สายนอกย่อมไม่ได้รับความสนใจ?” ฉุนเทียนคิดขึ้นในใจก่อนจะยิ้มอย่างเย็นชา เช่นนี้ก็ดีลดความยุ่งยากไปได้มาก”

สํานักเทียนจี้มีศิษย์อยู่เป็นล้านคน การที่ศิษย์ตกตายไปในระหว่างการทําภารกิจนับเป็นเรื่องที่ธรรมดาสามัญเป็นอย่างยิ่ง ไม่เว้นแม้แต่ศิษย์จากประตูเทียน กระทั่งการตกตายของศิษย์สายในก็แทบจะเรียกความสนใจจากผู้อาวุโสภายในสํานักไม่ได้

ความจริงข้อนี้ทําให้ฉันเทียนถอนหายใจออกมา

อย่างไรเสียนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาสังหารศิษย์ของสํานักเทียนจี้ ยิ่งกว่านั้นยังเป็นศิษย์ประตูเทียนทั้งยังเป็นสมาชิกของกลุ่มชิงเทียน

“ดูเหมือนเราจะคิดมากไปแล้ว” ฉุนเทียนยิ้มเจื่อนก่อนจะเดินออกจากห้อง เขาตระเตรียมจะไปยังหอภารกิจเพื่อรับภารกิจอีกครั้ง

สิ่งเดียวที่เขาต้องกระทําในตอนนี้คือเร่งสะสมแต้มผลงาน

หลังจากได้รับอต้มผลงานมา ฉุนเทียนก็ค้นพบว่าแต้มผลงานนี้ไม่เลวเลย มันสามารถแลกเปลี่ยนได้กระทั่งสมบัติอมตะ ขอเพียงมีแต้มผลงานมากพอ ก็สามารถแลกเอาอาวุธวิเศษหรือทักษะวิชามา คิดถึงตรงนี้แววตาของฉันเทียนก็ฉายประกายโลภออกมาเขาต้องการจะแลกสมบัติทั้งหมดมาและครั้งต่อไปที่เขาต้องต่อสู้กับศัตรู เพียงโยนภูเขาสมบัติออกไปศัตรูก็ตกตายโดยที่เขาไม่ต้องลงมือเป็นความรู้สึกที่ใช้เงินฟาดใส่ศัตรูจนตาย

มีประสบการณ์จากการสังหารจิ๋วโยวลี่กุยมาแล้ว ฉุนเทียนก็พอจะมองระดับความอันตรายออกจากการประเมินดูแล้ว ภารกิจสังหารจิ๋วโยวลี่กุ้ยนับว่าอยู่ที่ระดับ 8 ไม่นับเป็นภัยคุกคามสํา รับเขา

ขอเพียงไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝัน ภารกิจย่อมสามารถลุล่วงอย่างง่ายดาย

รายละเอียดของภารกิจที่ปรากฏอยู่บนแผ่นศิลาดําอาจจะไม่สามารถเชื่อได้ทั้งหมด ยังมีเหตุปัจจัยที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด

ฉินเทียนมองดูแผ่นศิลาดําเพื่อเลือกภารกิจใหม่ สังหารปีศาจหิมะพันปีในอาณาจักรเสว่เย่แต้มผลงานสี่พันแต้ม ระดับความอันตรายจัดอยู่ในสิบอันดับแรก เป็นภารกิจที่ท้าทายไม่เบา

ภารกิจนี้ตกค้างอยู่ที่นี่มาแล้วครึ่งเดือนโดยไม่มีผู้ใดรับไปกระทํา

ฉินเทียนเดินไปที่แผนกรับภารกิจก่อนจะยื่นป้ายไม้สีดําออกไป ”รับภารกิจสังหารปีศาจหิมะพันปีในอาณาจักรเสว่เย่”

ฉินเทียนกล่าวด้วยเสียงปกติ แต่คนที่อยู่รอบตัวของเขายังสามารถได้ยิน

เห็นฉุนเทียนหยิบป้ายไม้สีดําออกมา หลายคนก็แค่นเสียงอย่างดูถูก

ศิษย์จากประตูหวงก็กล้ารับภารกิจเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ นี่ไม่เป็นการรนหาที่ตายหรอกหรือ?

“เจ้าควรจะเปลี่ยนเป็นภารกิจอื่น ภารกิจนี้ไม่เหมาะกับเจ้า”

“สหาย เจ้าคิดจะไปสังหารปีศาจหิมะพันปีด้วยความสามารเพียงแค่นี้? ตลกน่า”

” เตรียมสั่งเอาไว้ก่อนจะดีกว่านา ฮ่าๆๆ

“ฮ่าๆ……………”

แม้จะมีเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้น แต่ฉุนเทียนก็ไม่ได้สนใจ หลังจากรับภารกจิมาเขาก็เดินออกจากหอภารกิจทันที และก็เผชิญกับเสียงหัวเราะเยาะอีกหน เหล่าศิษย์ต่างชี้ไม้ชี้ไม้วิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาไม่รู้จักประมาณตน และจะต้องตายอย่างอนาถ

“ระดับเจ็ดขั้นกลั่นวิญญาณ ปีศาจหิมะพันปีก็ไม่ได้แข็งแกร่งสักเท่าใด คงไม่มีปัญหา” ฉินเทียนอ่านคําอธิบายภารกิจพลางคิดขึ้นในใจ หลังจากทําภารกิจได้สําเร็จ อยากจะรู้ว่าคนพวกนั้นจะมีสีหน้ายังไง”

คิดถึงภาพนั้นแล้ว มุมปากก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ดูชั่วร้าย

หลังจากนั้นห้าวัน ฉุนเทียนก็กลับมา

เขาเข้าไปในหอภารกิจและรับเอาแต้มผลงานจํานวนสี่พันแต้มไป ภารกิจสังหารปีศาจหิมะพันปีที่เคยอยู่บนแผ่นศิลาดําก็ถูกปลดออก

ผู้คนต่างตกตะลึงขณะที่จ้องมองฉันเทียนอย่างพูดไม่ออก สังหารปีศาจหิมะพันปีที่อยู่ระดับเจ็ดขั้นกลั่นวิญญาณโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใด บรรดาเหล่าผู้ที่เคยปรามาศเขาเอาไว้ล้วนแต่หน้าแดงขึ้นมา

”เป็นไปได้อย่างไร นี่มันบ้าชัดๆ ศิษย์ประตูหวงจะสามารถสังหารปีศาจหิมะพันปีได้อย่างไรกัน?”

“เขาเป็นศิษย์ประตูหวงแน่หรือ?”

” เขาทําสําเร็จได้ยังไง?”

ฉินเทียนกวาดมองฝูงชนที่ตกตะลึงพลางฉีกยิ้มเย็น จากนั้นจึงเดินสายอาดๆออกจากหอภารกิจไป

ตอนนั้นเองก็มีศิษย์สองสามคนเข้ามาเอ่ยปากถามอย่างสุภาพ “สหาย สนใจเข้าร่วมกลุ่มค้อนสงครามหรือไม่? ภารกิจสามารถกระทําร่วมกันและแบ่งแต้มผลงานอย่างเท่าเทียมกลุ่มของพวกเรานับเป็นกลุ่มที่มีชื่อเสียงอยู่บ้าง”

“หึม” ฉุนเทียนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า ”เช่นนั้นพวกเจ้าก็ต้องแข็งแกร่งมาก?”

“แข็งแกร่ง? ไม่เพียงแต่แข็งแกร่ง ในสํานักชั้นนอกแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดไม่รู้จักกลุ่มก้อนสงครามของพวกเรา

“งั้นรึ?” ฉุนเทียนหัวเราะ “เช่นนั้นข้าคงไม่ควรไปทําให้กลุ่มของพวกเจ้าต้องหม่นแสง”

“เอ๊ะ?”

ศิษย์คนนั้นชะงักไป ขณะที่มีศิษย์อีกคนเข้ามากล่าวด้วยน้ําเสียงอ้อนวอน ”พี่ใหญ่ ท่านต้องช่วยน้องชายคนนี้นะ ข้าอยู่ที่สํานักเทียนจี้มาสองปีแล้ว แต่ยังรวบรวมแต้มผลงานได้ไม่ถึงหนึ่งพันแต้มเลย หากปีหน้าข้ายังรวบรวมได้ไม่ครบหนึ่งพันแต้ม ข้าจะถูกขับออกจากสํานักพี่ใหญ่ต้องช่วยข้านะ”

” ช่วยเจ้า?” ฉุนเทียนออกเดินต่อ ศิษย์คนนั้นรีบติดตามไปอย่างนอบน้อม

“ใช่แล้วพี่ใหญ่ โปรดช่วยข้าด้วยเถอะ”

”เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยข้าก่อน ไหนๆก็จะถูกไล่ออกอยู่แล้ว ช่วยข้าโอนแต้มผลงานทั้งหมดของเจ้า มาช่วยข้าหน่อยสิ” ฉุนเทียนกล่าวอย่างเฉื่อยชา เขาเคยเห็นศิษย์คนอื่นๆทําการโอนแต้มผลงานให้กันมาก่อน ฉุนเทียนย่อมไม่มีกะจิตกะใจโอนแต้มช่วยเหลือขอทานน้อยผู้นี้

ศิษย์ผู้นั้นเปลี่ยนสีหน้าพลางจ้องมองฉันเทียนด้วยความโกรธ

ฉุนเทียนเผยยิ้มบางพลางเดินต่อไป

” พี่ใหญ่ เขาก็คือคนที่ทําภารกิจสังหารปีศาจร้ายจิ๋วโยวลี่อุ่ยได้สําเร็จ”

ใต้ร่มไม้ที่ห่างจากหอภารกิจไปไม่ไกล ศิษย์รุ่นเยาว์ที่แต่งกายเลิศหรูชี้ไปยังฉินเทียนพลางพูดคุยกันในหมู่พวกเขามีอยู่คนหนึ่งที่ดูอายุมากกว่าคนอื่นๆ เขาก็คือผู้นําของผู้เยาว์กลุ่มนี้ สายตาของเขาจ้องมองไปยังฉินเทียนขณะที่ปรากฏจิตสังหารขึ้นมา

ชื่อของเขาก็คือลั่วเฉิง ระดับเจ็ดขั้นกลั่นวิญญาณ ติดอยู่ในสิบอันดับศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสํานักนอกเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าเป็นศิษย์สายใน

เขามีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าลั่วไค่ ลั่วไก่ได้ตอบรับคําเชิญของอวี่เฉิงร่วมทางไปปราบจิ๋วโยวลี่ ปุยด้วยกัน แต่หลังจากนั้นข่าวคราวของเขาก็เงียบหายไป ทําให้ลั่วเฉิงสงสัยว่าเขาจะถูกฉินเทีย นสังหาร

เป็นไปได้อย่างไรที่ศิษย์จากประตูหวงผู้หนึ่งจะสามารถสังหารปีศาจร้ายจิ๋วโยวลี่อุ่ยที่อยู่ระดับ หกขั้นกลั่นวิญญาณ?

จะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น เป็นไปได้มากว่าฉันเทียนจะซุ่มรอให้สองฝ่ายต่อสู้จนบาดเจ็บแล้วค่อยสังหารผู้ที่อยู่รอดในตอนท้าย

ลั่วเฉิงจ้องมองฉันเทียนก่อนจะสั่งการออกมา ”ตรวจดูว่าภารกิจต่อไปของเขาคือภารกิจอะไร”

จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up

จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up

Status: Ongoing

ฉินเทียน ชายหนุ่มผู้จับผลัดจับผลูถูกย้ายวิญญาณมายังร่างที่อมโรคในอีกโลกหนึ่ง เขากลายเป็นเจ้าของร่างที่จุดตันเถียนไม่อาจใช้การได้ ทำให้เขาไร้ซึ่งพลังลมปราณ กระนั้นสวรรค์ก็ยังไม่ทอดทิ้งเขา พระเจ้าได้มอบระบบเลเวลมาให้ด้วย! ชายผู้ไร้ค่างั้นเหรอ? กำลังภายใน#ต่างโลก#ระบบเกมนั่นมันเจ้าของร่างคนก่อนต่างหาก ต้องก้มหน้าก้มตาฝึกฝนพลังลมปราณงั้นเหรอ? เหอะ เขาสามารถเพิ่มเลเวลผ่านการฆ่าสัตว์อสูรได้ กระจอกน่า! เลเวลจะเพิ่มขึ้นเมื่อเขาฆ่าสัตว์อสูร ฆ่าผู้คน ถล่มตระกูลที่ทุกคนบอกว่าแข็งแกร่ง บอกเลยว่าข้านี่ล่ะบอสใหญ่! ด้วยระบบเลเวลนี้ เขาจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหาคอขวดด้านการฝึกปรือดังเช่นอัจฉริยะคนอื่นๆ ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็เพียงแค่ ฆ่า! เพื่อชีวิตที่ดีกว่า! ฝ่าฟันมุ่งหน้าเพื่อกลายเป็นจ้าวยุทธ์! วะฮะฮ่า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท