ตอนที่ 21 บ้านประมูลฟินิกซ์สีฟ้า
หลังจากเดินถามอยู่ประมาณเกือบชั่วโมงเกี่ยวกับลานประมูล ก็พบว่าที่นี้มีลานประมูลเพียงลานเดียวชื่อว่า
“บ้านประมูลนกฟินิกสีฟ้าซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ลองไปดูกัน” หยวนกล่าว
เสียวหัวพยักหน้าและเดินตามหยวนไปยังบ้านประมูลนกฟินิกซ์สีฟ้าซึ่งเป็นแหล่งประมูลของที่มั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปตะวันออก ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังได้รับการสนับสนุนจากนิกายฟินิกซ์สีฟ้าที่เป็นหนึ่งในนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย
“เราโชคดีจริงๆที่มาถึงเมืองนี้ในเวลาที่มันเปิดพอดี”
“อื้อ” เสียวหัวพยักหน้าเล็กน้อย
บ้านประมูลฟินิกซ์สีน้ำเงินจะเปิดเพียงครั้งเดียวในทุกๆ 3 ปี เพราะพวกเขาต้องใช้เวลารวบรวมสมบัติที่มีค่า และบังเอิญมากที่พวกเขาเข้ามาในวันนี้พอดี
หลังจากเดินไปรอบๆเมืองวิญญาณอยู่นาน เขาก็มาถึงบ้านประมูล
“ว้าว สาถนที่ใหญ่ขนาดนี้เป็นโรงประมูลงั้นหรอ???” หยวนอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเมื่อเห็นสิ่งปลูกสร้างหรูหราตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางถนน
“ขอโทษครับ นี่ใช่ทาบเข้าบ้านประมูลฟินิกซ์ฟ้าหรือเปล่าครับ” หยวนถามเพื่อความแน่ใจเขาจึงเดินเข้าไปถามผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านหน้าและอาจจะทำงานที่นี่
“สวัสดีคุณทำงานที่นี่ใช่ไหม” เขาถาม
“ใช่จ่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เยี่ยม วันนี้ฉันมาที่นี่เพราะต้องการเอาของมาขายหน่ะ”
“……”
หญิงสาวมองหน้าหยวนด้วยความประหลาดใจ
“…เอ่ออ ทางเราต้องขออภัย แต่เราหยุดทำการร้บของที่จะร่วมเข้าประมูลไปแล้วหล่ะ” เธอกล่าวในครู่ต่อมา
“อะไรกัน…” หยวนตกตะลึงยืนนิ่งด้วยความช็อค
หญิงสาวหัวเราะเบาๆแล้วพูดขึ้น “นี่เป็นครั้งแรกของเธอที่มาบ้านประมูลใช่หรือเปล่าจ๊ะ”
“ใช่แล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นพี่สาวคนนี้จะช่วยอธิบายเกี่ยวกับการนำของมาประมูลให้ เธอต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเพื่อจะเอาลงไปในรายการประมูลหลังจากนั้น เพื่อให้แขกรู้ว่าเขาจะต้องรอสิ่งที่ที่เขาอยากได้เมื่อไหร่เราจะนำของที่เธอต้องการจะขายเข้าสู่ลิสต์การประมูล พวกเขาจะได้เตรียมตัวเตรียมเงินถูกด้วยหน่ะจ่ะ”
“ฉันเข้าใจแล้ว…ก็เข้าท่าดี…” หยวนถอนหายใจด้วยความเสียใจและหงุดหงิดเล็กน้อย
“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องขายแกนมอนสเตอร์พวกนี้ที่อื่น”
“แกนมอนสเตอร์วิญญาณฝึกหัดงั้นหรอ?” หญิงสาวสังเกตเห็นของในมือหยวน
แม้ว่าหยวนจะมาได้ทันเวลาแต่พวกเขาไม่ได้สนใจแกนกลางมอนสเตอร์ระดับนั้นแม้แต่น้อย พวกเขาสนใจ แกนกลางมอนสเตอร์ระดับนักรบวิญญาณขึ้นไปเท่านั้น
คนที่ต่อแถวสังเกตเห็นก็พูดขึ้นมาว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเด็กนั่นคิดจะขายเศษขยะที่บ้านประมูลฟินิกซ์ฟ้าแห่งนี้งั้นรึ นี่เป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี”
“เหลียนหลง!! ทำไมทุกสิ่งที่ออกจากปากเจ้านั้นจะต้องเป็นอะไรที่เน่าตลอดเวลาด้วย อยู่เฉยๆไปเลยเลิกเยาะเย้ยเขาได้แล้ว” หญิงสาวข้างๆขมวดคิ้ว กับพฤติกรรมที่ไม่น่าชมของเพื่อนร่วมงานของเธอ
“ฮึ่ม! ข้าพูดแต่ความจริงเท่านั้น! ยิ่งเขาเรียนรู้เร็วเท่าไหร่เขาขะยิ่งเติบโตเร็วขึ้นเท่านั้น ทำไมท่านถึงต้องปกป้องขอทานเช่นนั้นด้วยเล่า” เหลียนหลงพูดด้วยสายตาเย้ยหยัน
“อย่าสนใจเธอเลย น้องชาย มันไม่ใช่อาชญากรรมเสียหน่อย ปล่อยๆไปเถอะ” นาหยิงพยายามปลอบหยวนทำตัวเหมือนพี่สาวที่เป็นมิตร
“นาหยิงเป็นอะไรของเธอหลงเสน่ห์ไอ้เจ้าเด็กนี่แล้วรึฮ่าฮ่า ข้าสงสัยเหลือเกินว่าถ้าเกิดพวกสาวกในนิกายฟินิกซ์ฟ้ารู้เข้าจะเป็นอย่างไร” เหลียนหลงยังคงหัวเราะต่อไป
“……” แม้ว่าหยวนจะไม่ได้สนใจคำเย้ยยันของเธอสักเท่าไหร่ แต่เด็กหญิงตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างเขากำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“เจ้ามดปลวกนี่ไม่รู้เสียแล้วว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร! ระดับพี่หยวนอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ อัจฉริยะที่สวรรค์จะต้องตกตะลึง วันนีงพี่หยวนจะยืนตะหง่านเหนือสิ่งอื่นใด ข้ายอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้พี่ถูกล้อเลียนต่อไปเช่นนี้”
“เจ้าทำเรื่องที่น่าอับอาย หรืออย่างน้อยข้าก็อายเมื่อต้องอยู่ข้างๆเจ้า” นาหยิงส่ายหัว
“เจ้ากำลังมองหาการต่อสู้งั้นหรือนาหยิง”
“โอ้! เจ้าต้องการสู้กับข้างั้นรึศิษย์พี่” นาหยิงหรี่ตามอง พร้อมกับแผ่รังสีนักรบวิญญาณสูงสุดออกมารอบๆร่างกาย
“คะ…คอยก่อนเถอะ คอยให้กลับไปที่นิกายก่อน ข้าจะ…”
“เกิดอะไรขึ้น?]” ทันมดนั้นก็มาน้ำเสียงที่ดูแข็งแกร่งปรากฏขึ้น หญิงชราปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ผู้อาวุโสชาง!!” เด็กหญิงทั้งสองหยุดการโต้เถียงกันและทำการโค้งคำนับทันที
“อย่าลืมส่าว่าตอนนี้พวกเจ้ากำลังอยู่ที่ใด! ไม่ว่าพวกเจ้าอยู่ในสถานะใดในนิกาย แต่ตอนนี้พวกเจ้ากำลังทำงานให้ข้า! และข้าจะไม่ทนเมื่อใครมาทำพฤติกรรมแย่ๆในบ้านประมูลฟินิกซ์ฟ้าแห่งนี้!”
“ข้อขอโทษ…” พวกเขารีบขอโทษทันที
“พอแล้วข้าจะจัดการพวกเจ้าทีหลัง หาที่นั่งให้แขกของเราแล้วปิดประตูซะ!” ผู้อาวุโสชางกล่าว
“เดี๋ยวก่อน” ขณะที่ผู้อาวุโสชางกำลังจะเดินกลับ เสียงที่น่ารักแต่เต็มไปด้วยความเอาแต่ใจนั้นได้หยุดเธอไว้
“สะ สะ เสียวหัว” หยวนมองเธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง “เธอกำลังทำอะไรหน่ะ??” เขากระซิบข้างหูเธอ
“ไม่ต้องห่วงพี่หยวนเสียวหัวจัดการเรื่องนี้เอง” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
“สาวน้อยคนนี้เป็นใคร” ผู้อาวุโสสัมผัสได้ถึงออร่าที่ลึกซึ้งรอบตัวเธอ
“ท่านะป็นเจ้าของที่นี่ใช่ไหม” จู่ๆเสียวหัวก็ถามขึ้น
“ถูกต้องแล้วเจ้าหล่ะเป็นใครกัน”
เสียวหัวไม่ตอบในทันที แต่หลังจากนั้นเธอก็ดึงกริชสีน้ำเงินออกมาจากกระเป๋าของเธอ
ทันใดนั้นเมื่อกริชปรากฏขึ้น การปรากฏตัวที่ไม่อาจหยั่งถึงนั้นได้ครอบคลุมสถานที่นี้เอาไว้
“การปรากฏตัวนี่!!” ผู้อาวุโสชางสะดุดไปด้านหลัง เกือบจะทำให้เธอล้มลง เมื่อได้เห็นและสัมผัสได้ถึงออร่าของมัน
“กริชเล่มนี้เป็นอาวุธระดับสวรรค์คุณภาพสูงสุด! กริชสวรรค์แห่งความเยือกเย็น!” เสียวหัวพูดต่อหน้าทุกคนด้วยความสงบนิ่ง “ข้าเป็นใครไม่ได้สำคัญ ที่สำคัญคือข้าตั้งใจจะขายกริชเล่มนี้ใน บ้านประมูลของท่าน แต่การกระทำของศิษย์ทั้งสองของท่าน ทำให้ข้านึกถึงแผนที่ 2”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งร่างกายผู้อาวุโสชางก็สั่นสะท้าน “ใครใครกันที่กล้าทำให้ท่านขุ่นเคือง! ข้าจะฆ่ามันแทนท่านเดี๋ยวนี้! “ ท่าทีของยายเฒ่าชางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้เหลียนหรงและนาหยิงตกใจเพราะไม่เคยเห็นท่าทีเช่นนี้มาก่อน ราวกับว่ามีใครมาฆ่าลูกชายของเธอ
แม้แต่หยวนก็อดไม่ได้ที่จะทำตาโต เรามาที่นี่เพื่อขายกริชนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่
“ยัยนั่น!” เสียวหัวชี้นิ้วเล็กๆของเธอ ยายเฒ่าชางหันไปมองที่เหลียนหรงที่กำลังทำหน้าซีดเป็นไก่ต้ม
“เจ้าทำอะไรลงไปเหลียนหรง?!” ยายเฒ่าคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ขะ ขะ ข้า” เหลียนหรงพูดไม่ออกและทรุดตัวเข่าลงพื้นฉี่ราดกางเกงด้วยความหวาดกลัว
นาหยิงปิดปากสนิทด้วยความตกใจ เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น
เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อจากนี้?
………