“พื้นที่ฝึกซ้อมงั้นหรอ ข้าอยากลองใช้มีดบินโดยเร็วที่สุด” หยวนพยักหน้าตามคำแนะนำของหมินลี่
จากนั้นเขาก็หลับตาเพื่อระลึกถึงแผนที่ในหัวของเขาเพื่อค้นหาสนามฝึกซ้อม
หลังจากยืนอยู่ที่นั่นสักครู่และหาสถานที่ที่แน่นอนเจอ หยวนก็ออกจากศาลาลึกซึ้ง
แน่นอนว่าหมินหลี่ก็ออกจากศาลาลึกซึ้ง และตามหยวนไป ไม่นานหลังจากนั้นหยวนก็เหมือนมีสตอล์กเกอร์คอยติดตามเขาอยู่ตลอดเวลา
ในเวลาต่อมาพวกเขาก็มาถึงสนามซ้อมซึ่งเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ และกว้างขวางซึ่งทอดยาวเป็นไมล์ พวกมันถูกแยกออกเป็นสี่ส่วนที่แตกต่างกัน
ส่วนที่หนึ่งของพื้นที่เป็นกำแพงขนาดใหญ่และยาวซึ่งวางอยู่รอบๆพื้นที่นี้ กำแพงพวกนี้เหมือนจะทำด้วยเหล็ก มันดูแข็งแรงมาก เมื่อมองไปจะเห็นศิษย์สองสามคนกำลังต่อยไปที่กำแพงเหมือนกำลังฝึกความแข็งแกร่งของร่างกายอยู่
ในพื้นที่ที่สองมีหุ่นรูปมนุษย์กว่าร้อยตัวที่ทำจากไม้และดูเหมือนว่าหุ่นเหล่านี้สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง และป้องกันตัวเองจากการโจมตีของเหล่าศิษย์ อย่างไรก็ตามหุ่นเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่มีความสามารถในการโจมตีศิษย์ไปด้วย
ในขณะเดียวกันในพื้นที่ที่สามก็มีหุ่นเหมือนกันและไม่เหมือนกับพื้นที่ที่สองหุ่นเหล่านี้โจมตีศิษย์ อย่างอุกอาจและบ้าคลั่ง
สำหรับพื้นที่ที่สี่มีสนามประลองขนาดกลางและขณะนี้มีศิษย์สองสามคนกำลังซ้อมต่อสู้กันอยู่
เมื่อมองไปจริงๆแล้วจะเห็นพื้นที่อีกที่หนึ่งเป็นพื้นที่ตรงกลาง แต่มันเป็นพื้นที่โล่งๆที่มีศิษย์บางคนนั่งหลับตาอยู่บนพื้นนั่น
หยวนคิดว่าสถานที่แห่งนั้นเป็นพื้นที่พักผ่อนของเหล่าศิษย์ในทันที เนื่องจากไม่มีผู้ฝึกฝนคนไหนที่มีสติขนาดที่สามารถทำการฝึกฝนของพวกเขาได้ในที่โล่งและรายล้อมไปด้วยผู้คนและเสียงต่างๆมากมาย
“กำแพงตรงนั้นคืออะไร และทำไมพวกเขาถึงต่อยไปที่กำแพงนั้นซ้ำๆด้วยละ?” หยวนพึมพำด้วยน้ำเสียงสงสัยหลังจากเห็นกิจกรรมที่ผิดปกติของพวกเขา
“นั่นคือกำแพงแห่งการดูดซับ ว่ากันว่าไม่สามารถทำลายได้จากการโจมตีทางกายภาพและมีสมบัติในการฟื้นฟู พวกมันเป็นที่นิยมมากสำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบความแข็งแกร่งอย่างเต็มที่” จู่ๆหมินลี่ก็ตอบเขาจากด้านหลังทำให้เขาตกใจเล็กน้อย
“แล้วหุ่นพวกนั้นมันทำลายไม่ได้ด้วยเหรอ?” หยวนถามเธอหลังจากนั้น
“ไม่ใช่ มันทำลายได้เพียงแต่มันยากมากที่จะทำลาย ถ้าเจ้าไม่ใช่นักรบวิญญาณ” เธอกล่าว
“ถ้าข้า…ถ้าข้าทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วทำลายมันไป ข้าจะต้องคืนเงินให้กับนิกายเท่าไหร่” หยวนถามด้วยน้ำเสียงประหม่าเล็กน้อย
หมินลี่มองเขาด้วยคิ้วที่สวยงามของเธอที่ยกขึ้นและเธอกล่าวว่า
“ถึงแม้จะเป็นข้าก็ไม่สามารถทำลายหุ่นพวกนั้นได้ แต่เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำลายพวกมันได้ ในขณะที่อยู่ต่ำกว่าข้าสองระดับงั้นหรอ?”
“อืม อะไรก็ไม่แน่เสมอไป และเพราะมันดูแพงข้าเลยถาม…”
หมินลี่พูดไม่ออก แม้ว่าเขาจะดูมีภูมิหลังที่ลึกซึ้ง แต่หยวนก็ไม่ได้ทำตัวเหมือนคนที่อยู่ในตระกูลที่มีอำนาจ
มีความชัดเจนถึงความไร้เดียงสาที่อยู่รอบตัวเขา แต่ก็มีบางอย่างที่มีเสน่ห์เกี่ยวกับตัวเขาที่ทำให้เธอสนใจ
“เจ้าจะไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายใดๆที่ทำกับหุ่น ดังนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลถ้าเจ้าจะทำมันพัง” หมินลี่กล่าวในเวลาต่อมา
“ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณเจ้ามากนะหมินลี่” หยวนพูดกับเธอก่อนที่เขาจะดึงเทคนิคมีดบินและเริ่มอ่านมัน
หมินลี่เลิกคิ้วอีกครั้งหลังจากเห็นสิ่งนี้
“ตอนนี้เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?” เธอถามเขา
“ข้ากำลังเรียนรู้เทคนิค” หยวนตอบด้วยน้ำเสียงสงบ
“อะไรนะ?” ดวงตาของหมินลี่เบิกกว้างและเธอชี้ไปที่บริเวณกลางสนามซ้อมแล้วพูดว่า
“ทำไมเจ้าไม่ทำตรงนั้นล่ะ ตรงนั้นมีรูปแบบที่ยกเลิกเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการออกไป ดังนั้นเจ้าจะมีความสงบเงียบอย่างแท้จริงในขณะที่เจ้านั่งอยู่ข้างใน…”
อย่างไรก็ตามก่อนที่หมินลี่จะพูดจบประโยคของเธอ หยวนก็ปิดเทคนิคและโยนมันกลับเข้าไปในวงแหวนมิติของเขาด้วยสีหน้าเรียบๆ
<คุณได้เรียนรู้เทคนิคมีดบิน>
<มีดบิน>
<ระดับ: มนุษย์>
<ระดับความเชี่ยวชาญ: 1>
<คำอธิบาย: ควบคุมมีดสั้นของเจ้าด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณ และส่งพวกมันบินผ่านสนามรบสังหารศัตรูของเจ้าจากระยะไกล! ปริมาณการใช้ฉีจะะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับจำนวนมีดที่เจ้าควบคุมพร้อมกันและความเร็วในการควบคุม>
หมินลี่ไม่เคยคิดเลยว่าหยวนจะเรียนรู้เทคนิคนี้ได้ในเวลาอันสั้นดังนั้นเธอจึงคิดว่าเขาแค่ทิ้งเทคนิคนี้ไปเพื่อที่เขาจะได้ฟังคำแนะนำของเธอและไปที่พื้นที่ตรงกลางนั่น
อย่างไรก็ตามเมื่อหมินหลี่สังเกตเห็นว่าหยวนกำลังเดินไปยังพื้นที่ที่สอง ซึ่งมีหุ่นป้องกันตัวอยู่เธอก็ขมวดคิ้วด้วยความงงงวยบนใบหน้าที่สวยงามของเธอ
‘อะไรกัน … เขากำลังจะไปไหน?’ หมินลี่สงสัยในตัวเองขณะที่เธอมองหยวนยืนต่อหน้าหุ่นเชิด
ไม่กี่อึดใจต่อมาเธอเฝ้าดูหยวน ในขณะที่หยวนดึงกริชสีดำที่สวยงามมากซึ่งไม่มีออร่าพิเศษใดๆออกมา
‘อาวุธที่สวยงามอะไรอย่างนี้…แต่ข้าไม่รู้สึกว่ามีอะไรพิเศษที่มาจากมัน มันเป็นแค่อาวุธธรรมดาที่ดูดีหรือเปล่า?’ หมินลี่คิดกับตัวเอง
‘หืม? แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงนำอาวุธออกมาในเมื่อเขายังไม่ได้เรียนรู้เทคนิคนั้นเลย? เขาพยายามจะทำอะไร? ‘
ในขณะเดียวกันหยวนวางกริชห้วงดวงดาวไว้บนฝ่ามือของเขาและเขาก็เปิดใช้งานเทคนิคมีดบิน
กริชห้วงดวงดาวเริ่มสั่นสะเทือนในวินาทีถัดไป และหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีมันก็เริ่มลอยขึ้นไปในอากาศพร้อมกับแสงสีแดงอ่อนๆรอบกริช
“อะไรกัน?!”
เมื่อหมินลี่เห็นกริชบินอยู่เหนือหยวน เธอก็ตะโกนด้วยน้ำเสียงตกใจอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เธอดึงดูดความสนใจของทุกคนที่นั่นอย่างรวดเร็ว
“นั่นไม่ใช่นางฟ้าหมินเหรอ เธอมาทำอะไรที่นี่ และเมื่อกี้นี้เสียงดังมาจากเธอเหรอ?”
“ข้าคิดว่าเป็นคนอื่น แล้วทำไมจู่ๆนางฟ้าหมินถึงตะโกนขึ้นมาล่ะ?”
“เจ้าคิดว่าเธอกำลังดูอะไรอยู่ เจ้าคิดว่าเธออาจจะดูเราฝึกอยู่หรือเปล่า”
“นั่นอาจจะเป็นอย่างนั้น! เรามาพยายามที่จะไม่ทำให้ตัวเองอับอายตอนนี้กันเถอะ!”
เหล่าศิษย์ในพื้นที่ฝึกฝนเริ่มฝึกด้วยความเข้มข้นมากขึ้น เพราะพวกเขาต้องการสร้างความประทับใจให้กับนางฟ้าหมิน แต่พวกเขาไม่เคยรู้เลยว่าเธอไม่ได้ให้ความสนใจกับพวกเขาเลยสักนิด และการจ้องมองของเธอก็ถูกล็อคไว้ที่ร่างของหยวน