ตอนที่ 1504 การแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด (1)
จวินอู๋เสียรออย่างอดทน นางไม่ได้รีบร้อน เมื่อนางเข้าไปในสนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด เวทีทั้งหมดที่มีอยู่หลายสิบเวทีก็เต็มไปด้วยความร้อนแรง การแข่งขันกำลังดำเนินไปอย่างสุดเหวี่ยง
ในมือของทุกคนมีป้ายตัวเลขที่มีสีตรงกับเวทีแต่ละเวที พวกเขาถูกแบ่งกันไปตามนั้น และสิ่งที่ทุกคนต้องทำก็คือนั่งรออยู่ด้านข้างจนกว่าจะถึงตาของตัวเองที่จะขึ้นไปบนเวที
สถานที่จัดการแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดกว้างขวางใหญ่โตมาก พื้นที่ทั้งหมดแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ผู้เข้าแข่งทุกคนเบียดเสียดกันอยู่ที่ชั้นแรก นอกเหนือจากพื้นที่ว่างที่ผู้คนยืนรอกันแล้ว พื้นที่ที่เหลือก็คือเวทีแข่งขัน
ที่ริมชั้นสอง มีส่วนหนึ่งเป็นห้องส่วนตัว เมื่อมองขึ้นไปจากชั้นแรกจะไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ แต่ทุกคนต่างก็รู้แก่ใจดีว่า ในห้องส่วนตัวพวกนั้นก็คือคนจากสิบสองวิหารและเก้าอาราม พวกเขาจะต้องคอยเฝ้าดูการแข่งทั้งหมดจากที่นั่นอย่างแน่นอน
จวินอู๋เสียกวาดสายตามองไปรอบๆ และไม่เห็นใครจากสิบสองวิหารและเก้าอารามเลย หูของนางได้ยินแต่เสียงกรีดร้องและเสียงเชียร์จากพวกผู้เยาว์ที่กำลังตื่นเต้นและฮึกเหิม
สิ่งที่แตกต่างจากเวทีการแข่งขันอื่นๆ ก็คือมีการจัดเวทีให้ใช้ครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับอีกคนตรงๆ ผู้แข่งขันแค่ต้องแสดงความสามารถของตัวเองออกมาก็เท่านั้น
ผู้แข่งขันที่มีพรสวรรค์ชั้นเลิศจะได้อยู่ต่อ ส่วนพวกที่ความสามารถธรรมดาก็จะถูกคัดออก
จวินอู๋เสียยืนอยู่ในเงามืด คอยสังเกตดูพวกผู้เยาว์ตามเวทีต่างๆ นั่นเป็นครั้งแรกที่จวินอู๋เสียตระหนักว่าในอาณาจักรกลางนั้นมีชนเผ่าที่แปลกๆอยู่มากมายขนาดนี้
บนเวทีหนึ่ง จวินอู๋เสียเห็นผู้เยาว์ร่างผอมสูงคนหนึ่ง แต่งกายด้วยเสื้อผ้าเนื้อหยาบและเรียบง่าย เผยให้เห็นไหล่และขา แขนขาทั้งสี่ของเขาสามารถบิดงอไปในมุมที่แปลกประหลาด และยังสามารถยืดหรือลดความยาวได้ตามต้องการ
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นกับภาพที่เห็น นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่จวินอู๋เสียได้เห็นอะไรแบบนี้ ถ้านางเดาไม่ผิด คนผู้นั้นน่าจะมาจากเผ่าเดียวกับฮัวเหยา เผ่าผู้ใช้กระดูก!
อาณาจักรกลางมีชนเผ่าต่างๆที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวเป็นจำนวนมาก คนอย่างพวกเขามีข้อได้เปรียบคนอื่นๆ แม้ว่าจะไม่มีพลังวิญญาณหรือภูติประจำตัวที่แข็งแกร่ง พวกเขาก็ยังได้รับการยอมรับจากสิบสองวิหารและเก้าอารามด้วยความสามารถพิเศษของพวกเขา
แต่……
เห็นได้ชัดว่าผู้เยาว์ที่ยืนอยู่บนเวทีไม่ได้ควบคุมกระดูกได้ละเอียดขนาดที่ฮัวเหยาทำได้ เขาทำได้แค่เปลี่ยนขนาดของกระดูกเท่านั้น แต่ไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ และด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถเปลี่ยนรูปใบหน้าของเขาได้เลย ได้แต่แสดงความสามารถในการเปลี่ยนรูปแขนขาของเขาเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้เยาว์คนนั้นก็ถูกปฏิเสธ และเขาก็ก้าวลงเวทีไปอย่างสิ้นหวัง
ดูเหมือนว่าไม่ใช่ทุกคนในเผ่าที่มีความสามารถระดับเดียวกัน จวินอู๋เสียคิดอยู่ในใจขณะมองไปที่เวทีอื่นๆ
“โฮ่ว!!!” อีกเวทีหนึ่ง ผู้เยาว์ที่ค่อนข้างล่ำบึ้กคนหนึ่งกำลังแบกก้อนหินด้วยแขน เขาคำรามออกมาเสียงดังขณะที่ยกมันขึ้น และใช้มือเปล่าบดขยี้ก้อนหินแข็งๆนั้นให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ก้อนหินขนาดใหญ่ในมือเขาเหมือนเป็นเต้าหู้ชิ้นหนึ่งที่ไม่สามารถทนแรงกระทบได้แม้เพียงเล็กน้อย
“โห หายากนะที่คนจากเผ่าลิงยักษ์จะมาร่วมการแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด” ผู้เยาว์หลายคนที่รออยู่ข้างเวทีหัวเราะอย่างมีความสุข ขณะที่มองเด็กหนุ่มกล้ามโตตรงหน้า แล้วเริ่มพูดคุยกัน
“คนจากเผ่าลิงยักษ์ควรไปที่การแข่งภูติประจำตัวเพื่ออวดภูติลิงยักษ์ที่แข็งแกร่งของพวกเขาไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงอยากมาแข่งที่นี่ เรากำลังเปรียบเทียบความแข็งแกร่งอยู่รึไง?” ผู้เยาว์อีกคนหัวเราะเยาะ
นี่เป็นครั้งแรกที่จวินอู๋เสียได้ยินเกี่ยวกับเผ่าลิงยักษ์ จากการสนทนาระหว่างผู้เยาว์ทั้งสอง นางสามารถเดาลักษณะของคนจากเผ่าลิงยักษ์ได้อย่างคร่าวๆ
ทุกคนจากเผ่าลิงยักษ์จะมีลิงยักษ์เป็นภูติประจำตัว และเนื่องจากภูติประจำตัวที่พวกเขาครอบครอง ร่างกายของพวกเขาจึงมีความแข็งแกร่งของลิงยักษ์อยู่ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เรียกภูติประจำตัวออกมา พละกำลังของพวกเขาก็แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาก