ตอนที่ 1510 เปิดตาดู (3)
หลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง ผลตัดสินก็ถูกส่งไปยังมือของผู้ตัดสิน
ผลตัดสินให้เข้ารอบเป็นเอกฉันท์!
หลังจากได้รับคำตอบ จวินอู๋เสียก็ได้รับป้ายหมายเลขอันใหม่สำหรับรอบถัดไป จากนั้นก็เดินลงจากเวทีอย่างช้าๆ ตอนที่นางอุ้มแมวดำก้าวไปบนพื้นสนามแข่ง พวกผู้เยาว์ที่มุงอยู่รอบๆเวทีก็เปิดทางให้นางโดยไม่รู้ตัว ทุกคนเม้มปากจ้องมองไปที่ร่างเล็กๆของจวินอู๋เสีย
พวกผู้เยาว์ที่เยาะเย้ยดูถูกจวินอู๋เสียเสียงดังที่สุดเมื่อครู่ ตอนนี้ก็พากันหลบอยู่ด้านหลังฝูงชน ไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าจวินอู๋เสีย
พวกเขาไม่ได้โง่ ด้วยความสามารถนั้นของจวินอู๋เสีย สิบสองวิหารทั้งหมดจะต้องแย่งตัวนางกันอย่างดุเดือดแน่ และถ้าเด็กนั่นรู้ว่าเมื่อกี้พวกเขาดูถูกเขาล่ะก็……
เด็กพวกนั้นไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ได้แต่พยายามหลบหน้าอย่างเต็มที่ อยากจะเอาหน้ามุดดินไปเลยด้วยซ้ำ จวินอู๋เสียจะได้ไม่เห็นหน้าพวกเขา
แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดมากเกินไป จวินอู๋เสียไม่แม้แต่จะหันไปมองใคร นางแค่มองตรงไปข้างหน้า สายตาสงบนิ่งเหมือนน้ำนิ่ง ขณะเดินไปที่ทางออกของสนามแข่งอย่างใจเย็น
พอจวินอู๋เสียก้าวออกไปนอกประตูสนามแข่ง ด้านในสนามแข่งก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้นทันที
“เมื่อกี้มันอะไรกัน?”
“เด็กนั่นมาจากไหน?”
“ให้ตายซิ! ข้านึกว่าตัวเองตาฝาดไปซะอีก! เจ้าเห็นนั่นไหม?”
“จบแล้ว! จบกันแล้ว! ข้าด่าเขาไปเมื่อกี้ด้วย! เขาคงไม่ได้ยินหรอกใช่ไหม?”
ทั่วทั้งสนามแข่ง ทุกคนต่างไม่มีความคิดอย่างอื่นกันเลย การปรากฏของการเสริมวิญญาณได้เปลี่ยนสิ่งที่ทุกคนรู้ไปอย่างสิ้นเชิง
[งั้นร่างวิญญาณก็สามารถเสริมพลังแบบนั้นได้ด้วยซิ? เด็กคนนั้น! เขาทำได้ยังไง!?]
ขณะที่ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังสนทนากันอย่างดุเดือด พวกเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าภายในห้องส่วนตัวบนชั้นสอง เมื่อจวินอู๋เสียจากไป ก็มีเงาหนึ่งหรือสองคนหายวับตามหลังจวินอู๋เสียไปอย่างรวดเร็ว!
จวินอู๋เสียออกจากสนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด ทิ้งฝูงชนที่พลุกพล่านวุ่นวายเอาไว้เบื้องหลัง และเดินไปตามถนนที่ค่อนข้างว่างเปล่า
ในขณะนั้นพวกผู้เยาว์ส่วนใหญ่ที่รวมตัวกันบนภูเขาฝูเหยาได้ไปตามสนามแข่งต่างๆเพื่อรอคอยการตัดสินชะตากรรมของพวกเขา และมีเพียงผู้เยาว์บางคนที่แข่งเสร็จแล้วเท่านั้นถึงมาปรากฏตัวอยู่บนถนน ใบหน้าของพวกเขาถ้าไม่เต็มไปด้วยความภูมิใจที่ได้เข้ารอบ ก็ดูเศร้าโศกจากการตกรอบ
ผู้เยาว์หลายคนที่เพิ่งแข่งเสร็จเดินอย่างร่าเริงอยู่บนถนน เพียงแค่มองรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาก็จะเห็นได้อย่างง่ายดายว่าพวกเขาเป็นคนที่โชคดีกว่าในงานชุมนุมเทพยุทธ์และมีคุณสมบัติที่จะเข้ารอบต่อไป
จวินอู๋เสียเดินผ่านผู้เยาว์พวกนั้น พวกเขามองจวินอู๋เสียที่ดูผอมบางและอ่อนแออย่างดูถูก เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นแมวดำตัวน้อยในอ้อมแขนของจวินอู๋เสีย พวกเขาก็อดหัวเราะออกมาดังๆไม่ได้
“เจ้าดูภูติประจำตัวนั่นสิ! มันดูเหมือนตัวที่โดนภูติประจำตัวของเจ้าอัดบนเวทีเลยไม่ใช่หรือ?” ความดีใจจากการได้เข้ารอบทำให้ผู้เยาว์พวกนั้นฮึกเหิมขึ้นอย่างมาก พวกเขาเพิ่งกลับจากการได้รับชัยชนะจากการแข่งภูติประจำตัว ความตื่นเต้นและอะดรีนาลีนทำให้พวกเขาเกิดความหยิ่งผยอง พวกเขาจึงพูดพล่อยๆแบบไม่ยั้งคิด
“น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้เห็นตอนเจ้าแข่ง” ผู้เยาว์อีกคนแสร้งทำเป็นเสียใจ
ใบหน้าของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความยินดี เขาหันไปมองจวินอู๋เสียที่เดินห่างออกไปด้วยแววตามุ่งร้าย
“ไม่ได้เห็นแล้วจะเป็นไรไป? ข้าแสดงให้เจ้าดูอีกรอบตอนนี้ก็ได้!”