ตอนที่ 1508 เปิดตาดู (1)
ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่จวินอู๋เสียเขียน และไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียต้องการทำอะไร
“ถ้าเด็กนั่นไม่ทำอะไร เขาก็ควรออกไปจากที่นี่ อย่าอยู่ให้เสียเวลาคนอื่น”
พวกผู้เยาว์ที่อยู่ด้านล่างเวทีเริ่มเยาะเย้ยและวิ่งไปที่จวินอู๋เสียอย่างหมดความอดทน
ภายใต้เสียงเยาะเย้ยดังลั่น จวินอู๋เสียยกมือขึ้นและวาดผนึกน้ำ 2 ตัวลงบนพื้นเวที แมวดำที่อยู่ด้านข้างก็เดินช้าๆไปที่พวกมัน อุ้งเท้าหน้าทั้งสองของมันเหยียบลงบนเครื่องหมายอักษรโบราณข้างละตัว
ทันใดนั้น!
ไฟก็ลุกโชติช่วงขึ้นรอบๆขาของเจ้าแมวดำ! จากนั้นร่างของแมวดำก็ลอยขึ้นไปในอากาศต่อหน้าต่อตาทุกคน!
เปลวไฟลุกโชนอยู่ใต้อุ้งเท้าของมัน ขณะที่มันยืนอยู่กลางอากาศ ดูเหมือนคบไฟส่องสว่าง ดึงดูดสายตาของทุกคนให้จับจ้องไปที่มัน
“เป็นไปได้ยังไง!!” ภายในห้องส่วนตัว ชาย 3 คนจากวิหารปีศาจเพลิงลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ทันที พวกเขาต่างจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่แมวดำตัวน้อยที่อุ้งเท้ามีไฟลุกโชนสว่างไสวและกำลังลอยอยู่กลางอากาศ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นเลย
ภูติประจำตัวเป็นร่างวิญญาณ พวกมันไม่สามารถแปลงร่างได้ตามต้องการ นอกจากนั้นพวกเขาก็ไม่เคยเห็นภูติประจำตัวที่ไม่ใช่ภูติประเภทบินได้จะสามารถเดินบนอากาศได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมีไฟลุกติดเท้าเลย!
ชายทั้งสามรู้สึกตกใจมาก พวกเขาไม่สามารถคิดหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้เลยสำหรับภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา!
ในห้องส่วนตัวห้องอื่นๆ สายตาของคนจากสิบสองวิหารทุกคนจับจ้องไปที่แมวดำตัวน้อย ไม่มีใครรู้เลยว่าจวินอู๋เสียทำเช่นนั้นได้อย่างไร
บริเวณด้านในสนามแข่ง พวกผู้เยาว์ที่มุงอยู่รอบๆเวทีต่างเงยหน้ามองด้วยแววตาตกตะลึง พวกเขาจ้องไปที่แมวดำซึ่งกำลังเคลื่อนที่กลางอากาศอยู่เหนือหัวพวกเขาอย่างสบายใจ ราวกับกำลังเหยียบไปบนพื้นดินแทนที่จะเป็นอากาศที่ว่างเปล่าไร้รูปร่าง
คนที่ดูถูกและหัวเราะเยาะจวินอู๋เสียเมื่อครู่ ตอนนี้ต่างพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว
สามารถทำให้ภูติประจำตัวธรรมดาๆมีพลังที่น่าทึ่งเช่นนี้ได้ ความสามารถแบบนี้ไม่เคยมีใครได้ยินได้ฟังมาก่อน อย่าว่าแต่เคยเห็นกับตาตัวเองเลย
“นั่น……นั่นอะไร?” เย่กูที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเพื่อคอยปกป้องจวินอู๋เสียตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นจนพูดติดอ่าง เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ที่คนสามารถใส่พลังธาตุลงไปบนร่างวิญญาณได้!
“การเสริมวิญญาณ” เสียงของเย่ฉาดังขึ้น
“การเสริมวิญญาณ? มันคืออะไรล่ะนั่น?” เย่กูถามด้วยความประหลาดใจอย่างมาก
เย่ฉาส่ายหน้า “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน การเสริมวิญญาณเป็นของคุณหนูเอง ส่วนที่ว่ามันมาจากไหน มันคืออะไร คุณหนูเป็นเพียงคนเดียวที่รู้” เย่ฉายังจำได้ว่าเขาตกใจแค่ไหนตอนที่เห็นผลลัพธ์ของการเสริมวิญญาณ
เย่กูมีสีหน้าตกใจ เขาชื่นชมจวินอู๋เสียอย่างมากมาตลอด และเป็นเพราะคำสั่งของจวินอู๋เหยาด้วยที่ทำให้เขาเต็มใจปกป้องจวินอู๋เสียให้ปลอดภัยเพื่อเจ้านายของเขา แต่จากมุมมองของเย่กู แม้ว่าจวินอู๋เสียจะมีพรสวรรค์สูงและฉลาดมาก แต่ก็ยังมีช่องว่างใหญ่มากระหว่างพลังของนางและจวินอู๋เหยา ส่วนใหญ่แล้วจวินอู๋เหยาจะคอยทำหน้าที่เป็นผู้ปกป้องจวินอู๋เสียแบบเต็มขั้น และไม่ว่าจวินอู๋เสียจะสามารถเพิ่มพลังของตัวเองได้เร็วแค่ไหน นางก็ยังห่างไกลจากพลังของจวินอู๋เหยามากเกินไป
แต่พอเขาเห็นการเสริมวิญญาณที่แสดงอยู่ตรงหน้า เสียงในใจของเขาก็บอกเขาว่า จวินอู๋เสียเป็นคนที่ยิ่งกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้
“ตอนที่คุณหนูตัดสินใจมาที่สนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด นางต้องคิดไว้อยู่แล้วว่าจะทำยังไง การเสริมวิญญาณสองสามอย่างที่แสดงให้เห็นวันนี้เป็นแค่อันที่ง่ายที่สุดที่นางมี ดูเหมือนว่าพวกเราจะกังวลไปเปล่าๆซะแล้ว” เย่ฉาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก