ตอนที่ 1509 เปิดตาดู (2)
“อันที่ง่ายที่สุดเหรอ? เจ้าจะบอกว่า……การเสริมวิญญาณมีมากกว่าสองแบบนี้หรือ?” ใบหน้าของเย่กูบิดเบี้ยวด้วยความตกใจ
เย่ฉาพยักหน้า
“แค่ที่ข้าเคยเห็นมาก่อนก็มากกว่า 100 แบบแล้ว”
เย่กูอ้าปากค้างทันที
เสียงอึกทึกวุ่นวายที่ดังไปทั่วสนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดเงียบกริบลงทันที คนที่สังเกตเห็นแมวดำลอยอยู่กลางอากาศพร้อมมีไฟลุกโชนที่ใต้อุ้งเท้าก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่พวกผู้เยาว์ที่อยู่บนเวทีอื่นก็หยุดการแสดงของตัวเอง แล้วจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้างพร้อมกับอ้าปากค้างอยู่ที่เดิม
ทั้งสนามแข่งเกิดความเงียบแปลกๆแผ่ไปทั่ว
หลังจากนั้นไม่นาน เปลวไฟใต้เท้าเจ้าแมวดำก็ค่อยๆสลายไป มันเดินอย่างช้าๆผ่านอากาศที่ว่างเปล่าลงสู่พื้นและเดินไปนั่งอยู่ข้างเท้าจวินอู๋เสีย
เกิดความเงียบรอบตัวจวินอู๋เสียอย่างเห็นได้ชัด แสงแห่งความพึงพอใจเปล่งประกายอยู่ในดวงตาของนาง
นี่ซิ……
ผลลัพธ์ที่นางต้องการ
สิ่งที่จะทำให้สิบสองวิหารกับเก้าอารามตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถเมินนางได้ ไม่สามารถไม่ปรารถนาในสิ่งที่นางครอบครองอยู่ การเสริมวิญญาณ!
ภายในความเงียบงันนั้น จวินอู๋เสียอุ้มแมวดำไว้ในอ้อมแขนและหันหน้าไปมองผู้ตัดสินที่นั่งอยู่ข้างเวที
“เป็นยังไง?” จวินอู๋เสียถามเบาๆ
เสียงใสเย็นชาดังตัดบรรยากาศที่เงียบกริบในสนามแข่งที่กว้างใหญ่ ฟังชัดเจนเป็นพิเศษ
ผู้ตัดสินพยายามรวบรวมสติกลับมาจากอาการตกตะลึง ความตกใจยังคงปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา เขาอ้าปากแต่ไม่รู้จะพูดอะไร ก่อนหน้านี้ไม่ว่าผู้แข่งขันจะเข้ารอบหรือตกรอบ ก่อนที่การแสดงความสามารถจะจบลง ก็จะมีคนส่งข่าวมาถึงเขาแล้ว แต่ตอนนี้หลังจากที่จวินอู๋เสียแสดงความสามารถเสร็จแล้ว ผู้ตัดสินก็ยังไม่ได้รับคำตัดสินใดๆเลย
“โปรด……โปรดรอสักครู่” ผู้ตัดสินที่ดุมาตลอด ตอนนี้ถึงกับสั่นเล็กน้อย ตอนเผชิญหน้ากับผู้เยาว์คนอื่นๆ เขาแสดงความดูถูกออกมาอย่างเต็มที่ การที่สามารถเป็นผู้ตัดสินในงานชุมนุมเทพยุทธ์ได้ ส่วนใหญ่ก็คือคนที่มีพลังมากพอสมควรและมักจะดูถูกพวกผู้เยาว์ที่มาแข่ง
แต่การปรากฏตัวของจวินอู๋เสียทำให้เรื่องพวกนั้นพลิกผันไปทั้งหมด
แม้แต่ผู้ตัดสินที่เคยเห็นโลกมามากเหล่านี้ก็ไม่เคยเห็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ตลอดชีวิตของพวกเขา เขาเข้าใจทันทีว่าผู้เยาว์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นแตกต่างจากคนอื่นๆทั้งหมด แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าความสามารถนั้นโผล่ออกมาจากไหน แต่เขาก็มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เยาว์คนนี้จะกลายเป็นรางวัลที่มีค่าที่สุดที่สิบสองวิหารจะต้องแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่งแน่นอน!
ภายในห้องส่วนตัว ชายสามคนจากวิหารปีศาจเพลิงใช้เวลานานกว่าจะได้สติกลับมา พวกเขาทิ้งตัวลงไปบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
“สวรรค์! ข้าเห็นอะไรเนี่ย? สามารถเพิ่มพลังลงบนร่างวิญญาณได้ด้วยหรือ?” ชายคนหนึ่งกุมหัวด้วยความประหลาดใจ ถ้าไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาของชายอีกสองคนเหมือนกันกับเขา เขาก็อาจจะคิดว่าตัวเองตาฝาดไปก็ได้
“เด็กนั่น! ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนเราจะต้องดึงเขาเข้าวิหารปีศาจเพลิงให้ได้!” ชายอีกคนประกาศและทุบที่หน้าอกตัวเอง
ความสามารถที่น่าทึ่งนั่นได้พลิกสิ่งที่พวกเขาคิดว่ารู้ไปอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่เด็กคนนั้นมีเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยมีมาก่อน!
“เกรงว่าวิหารอื่นๆก็เห็นเด็กนั่นแล้ว พวกเขาจะต้องคิดเหมือนพวกเราแน่” ปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าทึ่งนี้จะทำให้อาณาจักรกลางทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างแน่นอน คนจากวิหารอื่นๆพวกนั้นไม่ใช่คนโง่ ไม่มีใครยอมให้เด็กนั่นหลุดมือไปแน่!
“ฮ่า! พวกมันคิดเหมือนเราแล้วยังไง? ข้าอยากจะเห็นนักว่าพวกมันจะชนะวิหารปีศาจเพลิงได้ยังไง!”
“ข้าจะนำข่าวเรื่องนี้ไปบอกผู้อาวุโส พวกเจ้าคอยจับตาดูที่นี่ไว้ให้ดี! ถ้าเด็กนั่นออกจากที่นี่ก็ตามเขาไปและติดต่อเขาให้เร็วที่สุด ชวนเขามาเป็นพวกเราซะ!” หนึ่งในคนพวกนั้นร้อนใจอยากจะวิ่งออกไปทางประตูเต็มทีแล้ว!