ตอนที่ 1545 ครูที่รักเหล้ายิ่งชีพ (2)
ซูหย่ากลายมาเป็นครูของจวินอู๋เสียอิทธิพลที่จวินอู๋เสียมีต่อซูหย่านั้นยากจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ แต่พลังวิญญาณสีเงินของนางไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบเคียงได้
ในตอนนั้นจวินอู๋เสียเชื่อว่าสำนักธาราเมฆไม่ใช่แค่สำนักธรรมดาทั่วไป เห็นได้ชัดว่าซูหย่าไม่เคยชี้แนะศิษย์มาก่อน ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีเงินที่มีพลังเทียบเท่ากับประมุขวิหาร แต่กลับถูกโยนทิ้งไว้ในสถานที่ที่ไม่ต่างจากห้องเก็บเหล้า ใจของหัวหน้าสำนักธาราเมฆช่างใหญ่ซะจริงๆ
จวินอู๋เสียคิดว่าหลังจากที่ซูหย่ารับนางเป็นศิษย์นางจะสอนบางอย่างให้อย่างแน่นอน แต่……นางคิดผิด……
หลังจากที่ซูหย่าพูดอย่างนั้นแล้วนางก็กลับไปนั่งบนโซฟานุ่มสบายของนาง ชันขาขึ้นมาข้างหนึ่ง และกระดกเหล้าเข้าไปอีก 2 อึกใหญ่ๆ
“ตอนนี้ข้าก็เป็นครูของเจ้าแล้ว”
จวินอู๋เสียพยักหน้า
“งั้นสิ่งแรกที่เจ้าต้องทำ”ผู้หญิงคนนั้นมองจวินอู๋เสีย แล้วยกมือขึ้นชี้ไปที่บันไดด้านข้าง “ทำความสะอาดชั้นสอง”
“…………”จวินอู๋เสียเริ่มรู้สึกว่านางคงคิดมากเกินไป!
เทียบซูหย่ากับครูทั่วๆไปแล้ว……ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“อย่ามัวแต่ยืนนิ่งอยู่ซิอยากให้ข้าเตะเจ้าขึ้นไปรึไง? อืดอาดชักช้าเป็นสาวน้อยไปได้ ถ้าทำไม่ได้เรื่องล่ะก็ เจ้าก็กลับไปที่ที่เจ้ามาซะ” ซูหย่าพูดเย้ยหยัน
จวินอู๋เสียถอนใจเล็กน้อยแล้วเดินขึ้นไปบนชั้นสองอย่างเงียบๆ
ไม่ว่าซูหย่าจะนอกลู่นอกทางยังไงสำนักธาราเมฆก็ได้จัดให้นางมาที่นี่แล้ว นางจะทำหน้าที่ที่ศิษย์ควรทำ คิดซะว่าเป็นการฝึกก่อนที่จะจัดการกับสิบสองวิหาร
จวินอู๋เสียเดินขึ้นไปบนชั้นสองของหอจันทร์แรมแล้วนางก็ชะงักค้างอยู่ที่ประตู
ทุกที่ที่ตามองเห็นบนชั้นสองรกแบบสุดๆไหเหล้ากองระเกะระกะไปทั่ว มีกองอะไรก็ไม่รู้อยู่ทั่วทุกซอกทุกมุม จวินอู๋เสียเจอกระดูกขาไก่ที่กินไปแล้วครึ่งหนึ่งบนพื้นด้วย……
“……….”
จวินอู๋เสียที่เป็นพวกบ้าความสะอาดถึงขั้นช็อกกับขยะตรงหน้า
ทั่วทั้งหอจันทร์แรมมีซูหย่าอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นจึงเดาได้ไม่ยากว่าใครคือคนที่สร้างขยะพวกนี้
[นางได้ครูแบบไหนมาเนี่ย?]
จวินอู๋เสียได้แต่ถามสวรรค์อย่างไร้คำพูด
ไม้กวาดสภาพน่าอนาถจมอยู่ในกองอะไรก็ไม่รู้จวินอู๋เสียมองอยู่นาน สุดท้ายก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง แล้วหยิบถุงมือออกมาจากกระเป๋ามิติ หลังจากลากเอาไม้กวาดออกมาแล้ว นางก็ลงมือต่อสู้กับกองขยะอย่างขมขื่น
ซูหย่านอนอยู่บนโซฟานุ่มบนชั้นหนึ่งและฟังเสียงฝีเท้าที่ดังมาจากชั้นสองรอยยิ้มที่ไม่เข้าใจความหมายปรากฏขึ้นบนใบหน้างดงามของนาง จากนั้นนางก็ดื่มต่ออย่างสบายอารมณ์
จวินอู๋เสียเอาขยะที่กองอยู่ที่นั่นนานแค่ไหนก็ไม่รู้ใส่ถุงกระสอบจากนั้นก็แบกมันลงบันไดจากชั้นสองและนำออกไปด้านนอกหอจันทร์แรมอย่างเงียบๆเที่ยวแล้วเที่ยวเล่าโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซูหย่าก็ไม่คิดจะเอ่ยชมสักคำ ตอนที่จวินอู๋เสียเข้าๆออกๆอีกหลายครั้งและเดินลงบันไดมาอีกครั้งพร้อมขยะ ซูหย่าก็กอดเหยือกเหล้าหลับไปแล้วบนโซฟานุ่มสบายนั้น ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ตอนนางหลับ ขาอันขาวเนียนของนางก็เผยออกมาทั้งขา และโซฟาของนางก็หันออกไปทางประตูที่เปิดอยู่ของหอจันทร์แรม!
เด็กหนุ่มหลายคนที่บังเอิญเดินผ่านหอจันทร์แรมก็สะดุดเข้ากับวิวที่ยอดเยี่ยมนั้นพวกเขาหยุดยืนอยู่นอกประตูทันทีพลางจ้องมองน้ำลายไหล
จวินอู๋เสียมองพวกหมาป่าหิวกระหายข้างนอกด้วยสายตาเย็นชานางวางถุงขยะลงและเอาเสื้อคลุมออกจากกระเป๋ามิติมาคลุมขาให้ซูหย่า ซ่อนภาพอันงดงามนั้นจากสายตาของพวกเด็กหนุ่มด้านนอก
ตอนที่ 1546 ครูที่รักเหล้ายิ่งชีพ (3)
จวินอู๋เสียใช้เวลาถึง3 วันเต็มในการทำความสะอาดหอจันทร์แรม ในช่วงนั้น ภาพที่นางลากถุงขยะใบใหญ่และเล็กออกมาถูกศิษย์จำนวนมากพบเห็นเข้า เกิดเสียงโจษจันขึ้นมากมายท่ามกลางเหล่าศิษย์ใหม่ของสำนักธาราเมฆ
ตั้งแต่งานชุมนุมเทพยุทธ์จวินอู๋เสียเจอกับเรื่องพลิกผันมากมาย ความหายากของเผ่าจ้าววิญญาณทำให้นางเป็นเป้าหมายแย่งชิงของสิบสองวิหารทั้งหมด สร้างความอิจฉาให้กับเหล่าผู้เยาว์มากมาย แต่ไม่มีใครคาดคิดว่านางจะเลือกวิหารหยกวิญญาณที่ตกต่ำลงไปแล้ว
และหลังจากเข้าสำนักธาราเมฆศิษย์คนอื่นๆต่างเริ่มฝึกกันหมดแล้ว มีเพียงจวินอู๋เสียที่ต้องมาทิ้งขยะ ทำให้พวกผู้เยาว์ที่อิจฉาจวินอู๋เสียพากันแอบหัวเราะเยาะ
“คนเหมือนกันแต่ชีวิตไม่เหมือนกันข้าคิดว่าเจ้านั่นจะเก่งกาจอะไรนักหนา แต่ก็แค่นั้นแหละ วิหารหยกวิญญาณจะเทียบกับสิบสองวิหารได้ยังไง? คนที่สำนักธาราเมฆไม่ได้โง่ ใครจะสอนคนจากวิหารหยกวิญญาณอย่างจริงจังกัน?” พวกผู้เยาว์รวมกลุ่มพูดคุยกันหลังการฝึกจบลง
“ข้าว่าก็ดีออกเอาขยะไปทิ้ง เหมาะกับเขาดีไม่ใช่หรือ? ฮ่าๆ”
แล้วพวกผู้เยาว์ก็พากันหัวเราะ
จวินอู๋เสียออกมาจากหอจันทร์แรมและกำลังเดินทางกลับหอพักนางก็เจอเข้ากับกลุ่มผู้เยาว์ขี้นินทากลุ่มนั้น นางเดินผ่านไปอย่างสงบ แต่เห็นได้ชัดว่าผู้เยาว์พวกนั้นไม่คิดจะปล่อยนางไปง่ายๆแบบนั้น
“เฮ้จวินอู๋! ห้องข้าไม่ได้ทำความสะอาดมาหลายวัน ทำไมเจ้าไม่ทำความสะอาดให้ข้าด้วยล่ะ?”
“ใช่ๆๆ!ของข้าด้วย! ไม่ต้องห่วง ข้าจะจ่ายให้ ไม่ให้เจ้าทำฟรีหรอก”
“บอกให้นะจวินอู๋ทำไมเจ้าไม่ดูแลห้องให้พี่น้องเราที่นี่ล่ะ แล้วพวกเราจะช่วยชี้แนะให้เจ้าสักอย่างสองอย่างนอกเวลาฝึกของเราไง ข้อตกลงดีจะตาย ไม่ใช่ว่าตอนพวกเราจบจากที่นี่กลับไปแล้ว เจ้ายังต้องอยู่ทำงานขี้ข้าพวกนี้ในสำนักต่อล่ะ”
คำพูดดูถูกถากถางไล่ตามจิกกัดจวินอู๋เสียอย่างไร้ปราณีราวกับฝูงสุนัขบ้าจวินอู๋เสียเดินผ่านผู้เยาว์พวกนั้นด้วยใบหน้าเย็นชา ไม่สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
ผู้เยาว์พวกนั้นเห็นจวินอู๋เสียเงียบก็ยิ่งคึกคะนองการกระซิบกันเบาๆในตอนแรกก็กลายเป็นการดูถูกอย่างโจ่งแจ้งในวันนี้
กู่ซินเยียนยืนอยู่ในเงามืดมองจวินอู๋เสียเดินผ่านไปท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะเย้ยหยัน ใบหน้างามประดับด้วยรอยยิ้ม
หลินเฮ่าอวี่เดินตามหลังกู่ซินเยียนอย่างใกล้ชิดสายตาของเขามองด้านหลังจวินอู๋เสียที่ห่างออกไป ในใจเต็มไปด้วยความยินดี
กู่ซินเยียนมักจะทำดีกับจวินอู๋เสียการใจดีแบบนี้ทำให้หลินเฮ่าอวี่อิจฉามาก เมื่อเห็นจวินอู๋เสียตกอยู่ในสภาพเลวร้ายเช่นนี้ ความยินดีในหัวใจก็ชัดเจนจนไม่จำเป็นต้องพูด นอกจากนี้กู่ซินเยียนก็แค่มองดูอยู่เงียบๆ ไม่มีทีท่าจะก้าวเข้าไปช่วยเลยสักนิด ทำให้หลินเฮ่าอวี่มีความสุขมาก
สุดท้ายแล้วจวินอู๋ก็มีความสุขกับความรุ่งโรจน์ที่ได้มาจากความหายากของเผ่าจ้าววิญญาณเพียงแค่ชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น
ในสำนักธาราเมฆข้อได้เปรียบของการเป็นคนจากเผ่าพิเศษได้สิ้นสุดลงทันทีที่เขาเลือกวิหารหยกวิญญาณ พวกเขาเริ่มการฝึกที่แท้จริงกันแล้ว แต่สำนักธาราเมฆกลับให้จวินอู๋ทำงานคนใช้ ช่างปฏิบัติได้แตกต่างกันเหลือเกิน
“น่าสมเพชดูเหมือนสำนักธาราเมฆจะไม่ให้ความสำคัญกับเผ่าจ้าววิญญาณเท่าไรนัก ตอนนี้จวินอู๋ไม่ได้รับการชี้แนะที่เหมาะสมและยังไม่สามารถฝึกฝนได้ แต่กลับกลายมาเป็นภารโรงของสำนักธาราเมฆแทน ข้าว่าเขาคงไม่มีโอกาสได้ออกไปจากที่นี่ชั่วชีวิตแล้ว” น้ำเสียงของหลินเฮ่าอวี่มีความเห็นอกเห็นใจอย่างมาก แต่สีหน้าไม่มีความเมตตาใดๆ กลับเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยแทน
กู่ซินเยียนชำเลืองมองหลินเฮ่าอวี่สถานการณ์ตอนนี้ของจวินอู๋ย่ำแย่จริงๆ ถึงขั้นกล่าวได้ว่าเลวร้ายอย่างมาก