ตอนที่ 1551 เด็กนี่ไม่เลว (1)
“ศิษย์พี่……คำพูดท่าน……”เทียนเจ๋อชินแล้วกับท่าทางรังเกียจของซูหย่าที่มีต่อเขา เขาเกาหัวและพูดอย่างเก้อเขินเล็กน้อย “ข้าไม่มีพรสวรรค์อย่างศิษย์พี่ ก็ข้ามันโง่มาตั้งแต่เด็กนี่นา ไม่งั้นท่านจะเป็นศิษย์พี่ข้า แล้วข้าเป็นศิษย์น้องท่านได้ยังไง”
ซูหย่าทำเสียงหึยังคงไม่พอใจ
เมื่อเห็นว่าท่าทีของซูหย่าดีขึ้นเล็กน้อยเทียนเจ๋อก็รีบเข้าไปใกล้ๆและนำเหล้าชั้นดีที่เตรียมไว้ออกมาส่งให้ซูหย่า
“นี่เป็นเหล้าชั้นดีที่ข้าเพิ่งนำมาจากเชิงเขาจิบซักนิดข้าก็ยังไม่กล้า ข้ารู้ว่าศิษย์พี่ชอบดื่ม ก็เลยนำมาให้ท่าน”
ซูหย่าเหลือบมองไหเหล้าแล้วยื่นมือออกไปรับ
“ก็ยังมีไหวพริบอยู่บ้างนี่เอ้า พูดมา! วันนี้เจ้ามาทำอะไรที่หอจันทร์แรมของข้า? ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ไปซะ เห็นหน้าจ๋อยๆของเจ้าแล้วอารมณ์เสีย! เป็นผู้ชายตัวโตซะเปล่า กระมิดกระเมี้ยนเป็นผู้หญิง ไม่อึดอัดใจบ้างรึไง?”
เทียนเจ๋อร้องไห้อยู่ในใจปกติเขาก็เหมือนผู้ชายนะ ในสำนักธาราเมฆ เขาคือคนที่พูดคำไหนคำนั้น ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ไม่ไว้หน้าใคร แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าซูหย่า ท่าทางของเขาก็อ่อนลงโดยไม่รู้ตัว
“มีธุระซิ!นายท่านสั่งให้ข้ามา”
ซูหย่าพูดว่า“นายท่านอะไร เรียกอาจารย์ไม่เป็นรึไง?”
เทียนเจ๋ออยากร้องไห้มีอาจารย์ประหลาดก็ลำบากใจพอแล้ว ยังมีศิษย์พี่จอมโหดอีก คนปกติธรรมดาอย่างเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับศิษย์อาจารย์คู่นี้อย่างมาก
“อาจารย์ไม่ให้ข้าเรียกแบบนั้นในสำนัก”เทียนเจ๋อตอบอย่างเศร้าใจ
“งี่เง่าทั้งคู่”ซูหย่าพูดพร้อมส่งเสียงหึ
เทียนเจ๋อเพิกเฉยต่อการดูถูกของซูหย่าและเริ่มพูดเรื่องธุระที่มา
“อาจารย์ให้ข้ามาถามและดูว่าเด็กที่ถูกส่งมาให้ศิษย์พี่เป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อซูหย่าได้ยินนางก็หยุดดื่มและลุกขึ้นนั่งบนโซฟา
“ว่าแล้วว่าคนที่ยัดเจ้าหนูมาที่นี่ต้องเป็นตาแก่นั่นแน่ๆ!เขาทนเห็นข้าอยู่ว่างๆไม่ได้รึไง? ข้าอุตส่าห์มาซ่อนอยู่ในหอจันทร์แรมแล้ว ยังจะยัดเยียดคนมาให้ข้าอีก!”
เทียนเจ๋อพูดอย่างลำบากใจว่า“อย่ามาโทษข้านะ เป็นความตั้งใจของอาจารย์ ข้าแค่ทำธุระให้เท่านั้น นอกจากนั้น……เจ้าเด็กจวินอู๋ก็ไม่เลวเลย ถึงจะซื่อบื้อไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่ก็ซื่อสัตย์ ลักษณะพิเศษของเผ่าจ้าววิญญาณของเขา ไม่มีใครสามารถสอนได้เลย คนที่คุ้นเคยกับพลังจิตวิญญาณกับร่างวิญญาณมากที่สุดก็มีแค่ศิษย์พี่ ยังไงท่านก็……” เทียนเจ๋อยังพูดไม่จบ ซูหย่าก็จ้องกลับด้วยสายตาเย็นชา คำที่ยังไม่ได้พูดก็ถูกกลืนกลับเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้
ซูหย่าถอนสายตากลับมา
เทียนเจ๋อถามอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก“ศิษย์พี่ไม่พอใจจวินอู๋หรือ?”
ซูหย่าส่งเสียงหึ“ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กนั่นเชื่อฟังดีล่ะก็ ข้าจับโยนออกไปนานแล้ว ใครเป็นคนส่งเขามาก็ช่าง”
เมื่อเทียนเจ๋อได้ยินก็รู้ว่าการแสดงยังดำเนินต่อไปได้!
แม้ว่าซูหย่าจะพูดเหมือนหงุดหงิดแต่เทียนเจ๋อรู้ว่านั่นหมายความว่าซูหย่าตกลงที่จะสอนจวินอู๋แล้ว ต้องรู้ว่าซูหย่าไม่ชี้แนะศิษย์มาหลายปีแล้ว นางไม่อยากอยู่ในสำนักธาราเมฆแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งเด็ดขาดของอาจารย์ที่ให้นางอยู่ที่นี่ นางคงหายตัวไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้แล้ว
ซูหย่ามีพลังสูงมากนางมีวิธีการเฉพาะตัวในการสอนลูกศิษย์ของนาง ศิษย์ทั่วไปไม่อยู่ในสายตานางเลย ในอดีต คนที่นางเต็มใจสอนก็มีแค่ไม่กี่คน ถ้านางยอมให้จวินอู๋อยู่ที่นี่ นั่นก็หมายความว่านางจับตามองจวินอู๋แล้วและเต็มใจที่จะชี้แนะสั่งสอนเขา ทำให้เทียนเจ๋อถอนหายใจอย่างโล่งอกได้ในที่สุด
อาจกล่าวได้ว่าทั่วทั้งสำนักธาราเมฆ คนที่แข็งแกร่งกว่าซูหย่ามีเพียงอาจารย์ของพวกเขาสองคนเท่านั้น การที่ทำให้ซูหย่ายอมรับศิษย์ได้นั้นเป็นสิ่งที่หายากจริงๆ
ตอนที่ 1552 เด็กนี่ไม่เลว (2)
“ใช่ๆๆเจ้าเด็กจวินอู๋นั่นไม่เลวเลย” เทียนเจ๋อรีบเห็นด้วย
ตอนที่ซูหย่าเอ่ยถึงจวินอู๋เสียน้ำเสียงของนางดีขึ้นเล็กน้อย ตอนแรกนางไม่คิดจะสอนอะไรจริงๆ นางหมดใจจะสอนไปแล้ว ดังนั้นในตอนแรกนางจึงจงใจทำให้จวินอู๋เสียลำบาก และสั่งให้เด็กนั่นทำหลายอย่างที่เขาไม่ควรทำ
ถ้าเป็นเด็กคนอื่นคงหมดความอดทนเพราะความหยิ่งผยองและจากไปนานแล้วแต่ไม่ว่าความต้องการของซูหย่าจะไร้เหตุผลเพียงใด จวินอู๋เสียก็ปฏิบัติตามคำสั่งของนางอย่างเงียบๆซึ่งเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของซูหย่าจริงๆ
เด็กคนนี้ไม่พูดมากและยังไม่เคยประจบสอพลอทำท่าอวดเก่ง เป็นแค่เจ้าโง่ที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน
ซูหย่าเฝ้ามองจวินอู๋เสียทรหดอดทนทำงานหนักทุกวันใจที่เป็นน้ำแข็งมานานก็ค่อยๆละลายอย่างช้าๆ
“เจ้ากลับไปบอกอาจารย์ว่าข้า ซูหย่า จะรับเด็กคนนี้เอาไว้ หนึ่งปีต่อจากนี้ ข้าจะคืนอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้กลับไปให้ ถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่เหนือกว่าศิษย์ทุกคนที่มีพวกหัวทึบเป็นครูล่ะก็ อย่ามาเรียกข้าว่าซูหย่า!” ซูหย่าประกาศกร้าวอย่างมั่นใจ
เทียนเจ๋อพยักหน้ารัวๆในใจรู้สึกดีใจแทนจวินอู๋เสีย
คำพูดของซูหย่าแรงมากก็จริงแต่ในฐานะศิษย์น้องของซูหย่า เทียนเจ๋อรู้ว่าซูหย่าเป็นเพียงคนเดียวในสำนักธาราเมฆที่สามารถทำคำพูดบ้าๆนั่นให้กลายเป็นจริงได้
ในช่วงเวลาหนึ่งปีจะทำให้จวินอู๋เสียกลายเป็นอัจฉริยะที่สามารถเอาชนะศิษย์ทุกคนในสำนักธาราเมฆได้ นั่นคือคำสัญญาของซูหย่า!
ซูหย่าไม่ได้ยอมทำอะไรง่ายนักแต่เมื่อไรที่นางยอมทำแล้วล่ะก็ ไม่มีอะไรที่นางทำไม่ได้
“เอาล่ะเจ้าไสหัวไปได้แล้ว ข้าเห็นหน้าหงอยๆของเจ้าแล้วอารมณ์เสีย ไป ไป ไป๊! ถ้าไม่มีอะไรก็อย่ามาเกะกะข้าที่นี่!” หลังจากซูหย่าให้ความมั่นใจกับเทียนเจ๋อแล้ว นางก็ออกคำสั่งขับไล่เขาอย่างไม่ไยดี
เทียนเจ๋อรีบออกไปโดยไม่กล้าอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียวตอนออกไปก็ปิดประตูให้อย่างดี
ซูหย่านั่งอยู่บนโซฟามองประตูที่ปิดลง แล้วถอนหายใจเบาๆ นางก้มมองมือทั้งสองข้างของตัวเอง ใบหน้าที่มีร่องรอยความมึนเมาปรากฏความเหงาเศร้าอย่างที่ไม่สมกับเป็นนางในยามปกติ
“ให้ตายซิรู้สึกเหมือนโดนหลอกอีกแล้ว”
สุดท้ายนางก็ยังทำสิ่งที่นางเคยไม่อยากทำ
หวังว่าครั้งนี้ทุกอย่างจะแตกต่างออกไป
ที่ชั้นใต้ดินจวินอู๋เสียกำลังเช็ดถังเหล้า ตอนแรกนางไม่ชินกับกลิ่นเหล้าที่รุนแรงในห้องเก็บเหล้า สองสามวันแรกต้องดมกลิ่นมากเกินไปจนถึงกับเวียนหัว แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มชิน ตอนนี้เมื่อได้กลิ่นเหล้า นางก็รู้สึกว่าเส้นเอ็นและหลอดเลือดทั่วร่างของนางโล่งสบายมากขึ้น
ในฐานะหมออัจฉริยะจวินอู๋เสียจึงมีสัมผัสที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายของนางเอง
นางอยู่ในห้องเก็บเหล้าที่ชั้นใต้ดินแค่ครึ่งเดือนแต่เส้นเอ็นและหลอดเลือดของนางขยายตัวขึ้นไม่น้อย ต้องรู้ว่าเส้นเอ็นและหลอดเลือดของนางได้รับการบำรุงจากยาที่นางปรุงขึ้นเอง ทำให้มีความแข็งแกร่งมากกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว แต่ความแข็งแกร่งที่เพิ่มเข้ามาในตอนนี้ทำให้จวินอู๋เสียประหลาดใจจริงๆ
ทันใดนั้นประตูห้องเก็บเหล้าก็เปิดออก ซูหย่าเดินลงมาสองสามก้าวก่อนจะบังคับตัวเองให้มองไปที่จวินอู๋เสียซึ่งกำลังเช็ดไหเหล้าอยู่ แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏในแววตาของนาง แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของนางกลับมาดูเฉยเมยอีกครั้ง
“จวินอู๋”ซูหย่าเอ่ยปาก
จวินอู๋เสียลุกขึ้นมองซูหย่าด้วยแววตาสงสัย
“ขึ้นมา”พูดจบนางก็หันกลับและเดินออกไปจากห้องเก็บเหล้า จวินอู๋เสียก็เดินตามนางออกไป
เมื่อปิดประตูห้องเก็บเหล้าจวินอู๋เสียก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าซูหย่า ไม่รู้ว่าราชินีที่รักเหล้ายิ่งชีพคนนี้จะทรมานอะไรนางอีก