ตอนที่ 1573 ขอโทษนะ แต่เราไม่ได้สนิทกัน (4)
อย่างที่คาดเมื่อคำพูดออกมาจากปากของเฉียวฉู่ รอยยิ้มบนใบหน้าของกู่ซินเยียนก็แข็งทื่อในทันที หลินเฮ่าอวี่ที่อยู่ข้างๆก็แทบกระอักเลือดจากคำพูดหยิ่งผยองของเฉียวฉู่
จะพูดกันดีๆไม่ได้หรือไง?พูดอย่างที่คนเขาพูดกันไม่เป็นเรอะ?
ไอ้หมอนี่มาที่นี่เพื่อหาเรื่องใช่ไหม?
จวินอู๋เสียนั่งเฉยอยู่ด้านข้างราวกับไม่ได้ยินอะไรเลยแม้ว่าในใจนางจะชื่นชมการตอบโต้ที่ร้ายกาจนั้นอย่างมาก
ความโง่ของเจ้าทึ่มเฉียวก็ไม่ใช่ว่าจะรักษาไม่ได้นี่นา
แม้แต่คนที่มีไหวพริบและพูดจาฉะฉานอย่างกู่ซินเยียนก็ยังอึ้งกับคำพูดของเฉียวฉู่นางไม่สามารถหาคำใดๆมาพูดได้เลย
แต่เฉียวฉู่กลับมีท่าทางคึกคักสมใจเขามองหลินเฮ่าอวี่ที่โกรธจนหน้าเขียวด้วยสายตาประเมิน
“ในเมื่อพวกเจ้ามาที่นี่เพื่อขอโทษงั้นก็น่าจะทำตัวเหมือนคนอยากขอโทษหน่อยซิ ทำไมมาจ้องข้าอย่างแค้นเคืองแบบนั้น? ตกหลุมรักหมัดของข้ารึไง? อยากด่าก็ด่าเลย อย่าเก็บไว้ อยากได้สันติด้วยท่าทางแบบเจ้านี่นะ ข้าเพิ่งเคยเห็นแบบนี้เป็นครั้งแรกเลยว่ะ เจ้าสู้ข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ พุ่งเข้ามาก็มีแต่จะโดนกระทืบกลับไป ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยให้มันแล้วๆกันไปซะ? คิดว่าจ้องข้าแบบนั้น แล้วข้าจะตายเพราะโดนจ้องรึไง? ไอ้ไก่อ่อนหน้าตัวเมียเอ๊ย”
ใบหน้าของหลินเฮ่าอวี่เปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มริมฝีปากที่เม้มแน่นสั่นเล็กน้อย ความโกรธทำให้ริมฝีปากของเขาซีดขาว
ฟ่านจั๋วและคนอื่นๆเห็นหลินเฮ่าอวี่โกรธจนควันออกหูพวกเขาก็แอบเชียร์กันอยู่ในใจ
ทุกคนต่างรู้แก่ใจดีกว่าหลินเฮ่าอวี่วางแผนจัดฉากจวินอู๋เสียพวกเขากังวลอยู่ว่าจะไม่สามารถหาวิธีที่เหมาะสมในการแก้แค้นเขาได้ แล้วเจ้าโง่นี่ก็ดันมาขอให้พวกเขาเหยียบหน้าด้วยตัวเอง แล้วพวกเขาจะทำให้เขาผิดหวังได้อย่างไร?
หลินเฮ่าอวี่โกรธจนแทบคลั่งโชคดีที่กู่ซินเยียนแอบกดเขาไว้
ในที่สุดกู่ซินเยียนก็เข้าใจแล้วว่าคนตรงหน้านางไม่ใช่พวกคนดีมีน้ำใจ ความเป็นศัตรูที่พวกเขามีต่อวิหารมารโลหิตนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉียวฉู่แห่งวิหารปีศาจเพลิง ท่าทางของเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่คิดจะสร้างสันติเลยแม้แต่น้อย แต่กลับมาที่นี่เพื่อก่อความวุ่นวายแทน
วิหารปีศาจเพลิงและวิหารมารโลหิตขัดแย้งกันมานานแล้วกู่ซินเยียนพอจะเข้าใจว่าทำไมเฉียวฉู่ถึงแสดงความเป็นศัตรูต่อพวกเขามากขนาดนี้
แต่สถานการณ์กับอีกสี่วิหารไม่ได้รุนแรงมากนักเพื่อที่จะแก้ไขความขัดแย้งระหว่างวิหารมารโลหิตและอีกสี่วิหาร กู่ซินเยียนจึงต้องทนอย่างไม่มีทางเลือก หากวันหน้าวิหารปีศาจเพลิงจะลงมือกับวิหารมารโลหิต และอีกสี่วิหารไม่ได้เข้าร่วมด้วย วิหารมารโลหิตก็จะไม่เสียเปรียบมากเกินไปนัก
“เหตุใดคุณชายเฉียวถึงโกรธขนาดนี้?พวกเราก็แค่มารวมตัวเพื่อคุยกันเท่านั้น แม้ว่าช่วงนี้วิหารมารโลหิตจะเจอกับปัญหา แต่ข้าอดคิดไม่ได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับเรานั้นค่อนข้างแปลก ไม่ทราบว่าวิหารมารโลหิตเราไปล่วงเกินอะไรพวกเจ้า ถึงทำให้พวกเจ้าไม่พอใจมากขนาดนี้? เราต่างก็เป็นคนของสิบสองวิหาร สิบสองวิหารได้ให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันมาตลอดหลายปีเพื่อต้านแรงกดดันที่เก้าอารามพยายามทำกับเรา ข้าคิดว่าเราไม่ควรปฏิบัติต่อกันเหมือนเป็นศัตรู เนื่องจากศัตรูที่แท้จริงที่พวกเราต้องเผชิญนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือเก้าอารามไม่ใช่หรือ?” กู่ซินเยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่รีบไม่ช้า ไม่มีร่องรอยของความหงุดหงิดเลยแม้แต่น้อย ราวกับคำพูดของเฉียวฉู่ไม่ได้ทำให้นางโกรธเลย
“เก้าอารามมีอำนาจที่มั่นคงและสิบสองวิหารก็มักถูกพวกเขากดเอาไว้ ไม่อาจต่อต้านขัดขืนได้ หลังจากราชอาณาจักรแห่งความมืดแยกตัวสันโดษ เก้าอารามก็ค่อยๆแข็งแกร่งขึ้น สี่พรรคก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก ถ้าวันที่เก้าอารามยึดตำแหน่งของราชอาณาจักรแห่งความมืดได้มาถึง พวกเราสิบสองวิหารจะอยู่ที่ไหนกัน? เราจะเป็นเหมือนอย่างที่เราเคยเป็นครั้งที่ราชอาณาจักรแห่งความมืดยังอยู่งั้นหรือ? ถูกกดไว้ไม่ให้โงหัวไปตลอดชีวิต?” เสียงนุ่มนวลอ่อนโยนนั้นดึงเอาความเป็นปรปักษ์ระหว่างเก้าอารามและสิบสองวิหารออกมา ปัดความขัดแย้งภายในระหว่างสิบสองวิหารออกไป ฟังราวกับว่าสิบสองวิหารนั้นเป็นมิตรและรักใคร่กลมเกลียวกันมาโดยตลอด
ตอนที่ 1574 ขอโทษนะ แต่เราไม่ได้สนิทกัน (5)
ไม่พูดไม่ได้กู่ซินเยียนมีความสามารถในการพูดที่ดีจริงๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเฉียวฉู่มีหัวใจที่“หนักแน่น” ล่ะก็ ถ้าหากเป็นคนอื่น พวกเขาคงหลงไปตามคำพูดของกู่ซินเยียนแล้ว
ถึงขนาดพูดเรื่องความชอบธรรมของสิบสองวิหารได้ก็คงไม่มีทางไหนที่จะโต้แย้งนางได้แล้ว
หลังจากพูดจบใบหน้าของกู่ซินเยียนก็ยังมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนเช่นเดิมขณะมองไปยังทุกคน
กล่าวกันว่าไม่มีใครตบใบหน้าที่มีรอยยิ้มได้ลง
ท่าทางของกู่ซินเยียนช่างนุ่มนวลอ่อนโยนรอยยิ้มของนางก็ให้ความรู้สึกที่จริงใจจนทำให้พวกเขาไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ
ถ้าหลินเฮ่าอวี่เป็นคนพูดเฉียวฉู่คงฟาดไม่ยั้งไปแล้ว แต่พอเป็นหญิงสาวที่ดูนุ่มนวลบอบบาง เฉียวฉู่ก็รู้สึกว่าถ้าพูดจาร้ายกาจกับนาง เกรงว่ามันจะไร้คุณธรรมไปหน่อย
เห็นได้ชัดว่าทุกคนคิดเหมือนกันแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเป้าหมายของตนคืออะไร แต่ทุกคนก็รู้สึกว่าอย่างน้อยพวกเขาควรให้เกียรติผู้หญิงบ้าง
และผู้หญิงเพียงสองคนในหมู่พวกเขาหรงรั่วและจวินอู๋เสีย……ก็อ่อนโยนกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชายซะอีก
หรงรั่วไม่เคยชักสีหน้าใส่ผู้หญิงคนไหนในบรรดาหนุ่มสาวของวิหารจิตหวนคืนที่เป็นศิษย์ใหม่รุ่นนี้ นางได้ชนะใจทุกคน และเป็นผู้เยาว์ที่อ่อนโยนซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆมากกว่าผู้ชายคนไหนๆ
ส่วนจวินอู๋เสีย……
แม่สาวคนนี้ถึงขนาดมีภรรยาแล้วด้วยซ้ำ!ยังจะต้องพูดอะไรอีก!?
นางคือผู้ชนะที่สุดยอดที่สุดในหมู่พวกเขาแล้ว!
โชคดีที่มีคนคนหนึ่งที่มีภูมิต้านทานต่อเพศหญิงแตกต่างจากพวกของเฉียวฉู่มาก
นั่นก็คือ……เฟยเหยียน
ตอนที่เฟยเหยียนเข้าสำนักธาราเมฆเขาแต่งตัวเป็นผู้หญิง ถ้าหรงรั่วเป็นเทพหนุ่มที่ได้รับการเคารพนับถือมากที่สุดในบรรดาศิษย์ใหม่ของวิหารจิตหวนคืน เฟยเหยียนก็คือ “เทพธิดา” ของวิหารมังกร
ระดับความนิยมของเฟยเหยียนในวิหารมังกรไม่ได้น้อยไปกว่าความนิยมของกู่ซินเยียนในวิหารมารโลหิตเลย
ฝีปากอันร้ายกาจของเฟยเหยียนไม่ใช่สิ่งที่เฉียวฉู่จะแข่งขันด้วยได้เฟยเหยียนกอดอกเชิดหน้ามองกู่ซินเยียนด้วยสีหน้าไม่ยอมรับ
“ที่คุณหนูกู่พูดคือจะบอกว่าพวกเราทุกคนที่นี่เป็นพวกไร้คุณธรรมงั้นหรือ? ข้าว่าคำพูดของคุณหนูกู่น่าขำมาก สถานการณ์ที่แท้จริงระหว่างสิบสองวิหารเป็นยังไง ต่อให้คนอื่นไม่รู้ พวกเราทุกคนก็ควรรู้ดีกว่าใคร! เจ้าพูดเรื่องความกลมเกลียวปรองดองกันงั้นหรือ? เอาคำพวกนั้นไปพูดกับคนจากเก้าอารามยังเหมาะสมกว่าไหม? ขอถามหน่อยเถอะ ตอนที่วิหารมารโลหิตทำตัวหยิ่งผยองบงการผู้คนไปทั่ว เจ้าได้คิดถึงเรื่องความกลมเกลียวปรองดองระหว่างสิบสองวิหารบ้างรึเปล่า? ถ้าข้าจำไม่ผิด มันก็เพิ่งผ่านมาแค่หนึ่งเดือนเอง คนจากวิหารมารโลหิตทำร้ายคนจากวิหารคลื่นมรกตไม่ใช่หรือ? ชิ ตอนที่พวกเจ้าทำร้ายผู้คน เจ้าไม่สนเรื่องคุณธรรมความดีระหว่างสิบสองวิหารเลยสักนิด แต่พอพวกเจ้าโดนทำร้ายบ้าง ก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ทันทีเลยนะ คนเราจะทำตัวสองมาตรฐานแบบนี้ไม่ได้ซิ ถ้าจะทำ อย่างน้อยก็ต้องจำไว้ว่าต้องซ่อนหางตัวเองไว้ให้ดี อย่าให้หางโผล่แบบนี้ มันดูน่าเกลียด” น้ำเสียงของเฟยเหยียนเดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำ ไม่อ่อนโยนนุ่มนวลดุจสายน้ำเหมือนกู่ซินเยียน แต่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยถากถาง
ใบหน้าของกู่ซินเยียนไม่น่ามองแล้วนางรู้ว่าเพศหญิงของนางทำให้นางได้เปรียบพวกเฉียวฉู่และผู้ชายคนอื่นๆ แต่กับเฟยเหยียนที่เป็น “เพศเดียวกัน” นั้น เห็นได้ชัดว่าความได้เปรียบนี้ใช้ไม่ได้แล้ว
“เฟยเหยียนข้าคิดว่าเจ้าอาจจะเข้าใจอะไรผิดอยู่นะ พวกเราไม่เคยข่มเหงรังแกใครมาก่อนเลย” กู่ซินเยียนพยายามกอบกู้สถานการณ์
เหตุการณ์ที่คนของพวกเขาคนหนึ่งได้ทำร้ายคนของวิหารคลื่นมรกตนางยังจำได้อย่างชัดเจน เนื่องจากหลินเฮ่าอวี่ใช้ข้ออ้างในการปกป้องจวินอู๋เพื่อโต้เถียงกับคนของวิหารอื่นๆ เพื่อทำให้วิหารอื่นๆเกลียดจวินอู๋มากขึ้น พวกเขาได้ใช้โอกาสนั้นโจมตี พยายามปลุกระดมให้เกิดความโกลาหลมากขึ้น