ตอนที่ 1571 ขอโทษนะ แต่เราไม่ได้สนิทกัน (2)
กู่ซินเยียนนั่งอยู่ในศาลาและเห็น“ความขัดแย้ง” ระหว่างเฉียวฉู่กับฮัวเหยาด้วยตาตัวเอง จึงแอบถอนหายใจโล่งอกอยู่ในใจ
ดูเหมือนว่านางจะเดาไม่ผิดความสัมพันธ์ระหว่างคนพวกนี้ไม่ดีเอาซะเลย ที่ตอนนี้ไม่สู้กันก็เพราะอยู่ในสำนัก ถ้ามีโอกาส เกรงว่าจะเกิดการต่อสู้ขึ้นมาได้ง่ายๆ
พอรู้เช่นนี้กู่ซินเยียนก็โล่งอกขึ้นมาก สิ่งที่นางกลัวที่สุดก็คือความสามัคคีกลมเกลียวระหว่างห้าวิหาร เพราะมันจะทำให้การพยายามวิ่งเต้นเจรจาของนางในวันนี้บรรลุผลได้ยาก
เฉียวฉู่กับฮัวเหยามาถึงศาลาเป็นพวกแรกกู่ซินเยียนยิ้มและกล่าวทักทายสองสามคำ
อาการบาดเจ็บบนใบหน้าของหลินเฮ่าอวี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างยังคงไม่หายดีเมื่อเห็นเฉียวฉู่ ความโกรธก็ปะทุขึ้นมาทันที ความทรงจำที่ถูกเฉียวฉู่ทุบตีในวันนั้นยังคงไม่หายไปจากใจของเขา
ต้องรู้ว่าในฐานะที่เป็นหลานชายของผู้อาวุโสแห่งวิหารมารโลหิตไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกวิหารมารโลหิต เขาได้รับความเคารพและถูกประจบเอาใจมากพอสมควร ไม่เคยต้องทนทุกข์เช่นนี้เลย เฉียวฉู่เป็นคนแรกที่กล้าลงมือกับเขา สถานะของเขาไม่ได้ช่วยให้เฉียวฉู่แสดงความเมตตาใดๆเลย ความั่นใจและควาหยิ่งผยองของหลินเฮ่าอวี่ที่สร้างมาตลอดหลายปีถูกทำลายยับเยินต่อหน้าผู้คนมากมาย
แม้ว่ากู่ซินเยียนจะเตือนเขาก่อนแล้วแต่พอหลินเฮ่าอวี่เห็นเฉียวฉู่ ความเกลียดชังก็ยังแสดงออกมาทางแววตา ไม่สามารถระงับไว้ได้
เฉียวฉู่นั่งลงบนม้านั่งหินอย่างไม่สนใจเขายกขาขึ้นไขว่ห้างขณะมองหลินเฮ่าอวี่ด้วยสายตาดูถูก ยิ้มแบบไม่จริงใจพลางพูดว่า “อะไร? เจ็บใจเหรอ? ไม่ชอบที่โดนข้าอัดงั้นซิ? งั้นวันนี้ข้าจะอัดเจ้าอีกรอบดีไหม? เผื่อเจ้าจะสงบใจลงได้บ้าง”
พอคำพูดนี้ออกจากปากเฉียวฉู่หลินเฮ่าอวี่ก็หน้าซีดทันที
แม้ว่าจะมีความเกลียดชังอย่างรุนแรงอยู่ในใจแต่เขาต้องยอมรับว่าเขาไม่ใช่คู่มือของเฉียวฉู่ ด้วยความแข็งแกร่งของเฉียวฉู่ ไม่ต้องพูดถึงการทุบตีเขาแค่คนเดียวเลย ต่อให้มีเขาสามคน เฉียวฉู่ก็สามารถเล่นกับทั้งสามคนได้อย่างสบาย
กู่ซินเยียนเห็นสถานการณ์กำลังจะแย่นางก็รีบพูดด้วยรอยยิ้มกว้างว่า “พี่ใหญ่เฉียวมีความสามารถโดดเด่น เฮ่าอวี่ยังเด็กและไม่รู้เรื่อง ถ้าเขาล่วงเกินพี่ใหญ่เฉียวในเรื่องใด น้องสาวคนนี้ต้องขออภัยพี่ใหญ่เฉียวแทนเขาด้วย”
ก่ซินเยียนลดสถานะของตัวเองลงมาและแสดงท่าทางที่อ่อนหวานนุ่มนวลทำให้เฉียวฉู่ยากจะโวยวาย จึงทำได้แค่พ่นลมออกมาอย่างดูถูกและไม่พูดอะไรอีก
หลินเฮ่าอวี่ก้มหน้าและกำหมัดอยู่ในแขนเสื้อแน่นความเกลียดชังพลุ่งพล่านอยู่ในใจ เขาอยากจะกระโจนเข้าฉีกใบหน้าน่ารังเกียจของเฉียวฉู่ออกเป็นชิ้นๆ
แต่……
เขาไม่มีพลังมากพอที่จะทำเช่นนั้น
ไม่นานหรงรั่ว, เฟยเหยียน, และฟ่านจั๋วก็มาถึง พวกเขาพากันนั่งอย่างเป็นระเบียบอยู่ในศาลา
จวินอู๋เสียเป็นคนสุดท้ายที่ไปถึงเมื่อนางนั่งลง คนที่ควรจะอยู่ที่นั่นในวันนั้นก็มากันครบ
ภายในศาลาเล็กริมทะเลสาบมีกลุ่มผู้เยาว์ที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาศิษย์ใหม่ของสำนักธาราเมฆนั่งอยู่
คุณหนูของวิหารมารโลหิต,หลานชายของผู้อาวุโสแห่งวิหารมารโลหิต, และศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นนี้จากวิหารปีศาจเพลิง, วิหารมังกร, วิหารจิตหวนคืน, วิหารเสวียนเทียน, และวิหารจื่อเหลย แม้แต่จวินอู๋แห่งวิหารหยกวิญญาณที่ไร้ชื่อ แต่เป็นคนจากเผ่าจ้าววิญญาณเพียงคนเดียวในอาณาจักรกลาง
กล่าวได้ว่าในศาลาเล็กหลังนี้ได้รวมกลุ่มคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในบรรดาศิษย์ใหม่เอาไว้แล้ว
แต่……
ทุกคนต่างรับใช้กลุ่มอำนาจที่แตกต่างกันและความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ไม่มีความรักใคร่ปรองดองกันเลยสักนิด
การรวมตัวครั้งใหญ่เช่นนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วพวกผู้เยาว์ที่เดินเล่นอยู่ริมทะเลสาบก็รีบเขยิบเข้าไปที่ข้างศาลา เปิดตาเอียงหู พยายามจะเป็นประจักษ์พยานในเรื่องซุบซิบที่กำลังจะมาถึง
ตอนที่ 1572 ขอโทษนะ แต่เราไม่ได้สนิทกัน (3)
การรวมตัวครั้งใหญ่เช่นนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วพวกผู้เยาว์ที่เดินเล่นอยู่ริมทะเลสาบก็รีบเขยิบเข้าไปที่ข้างศาลา เปิดตาเอียงหู พยายามจะเป็นประจักษ์พยานในเรื่องซุบซิบที่กำลังจะมาถึง
คนมากันครบแล้วแต่บรรยากาศในศาลายังคงแปลกๆเล็กน้อย
อาจกล่าวได้ว่าคนที่นั่งอยู่ในศาลานั้นไม่มีสักคนที่ไม่ใช่คนสำคัญหรือคนที่มีอิทธิพล กระทั่งด้านรูปลักษณ์เพียงอย่างเดียว ก็ยังเป็นภาพที่งดงามชวนมอง
นอกจากจวินอู๋เสียที่บอบบางและหลินเฮ่าอวี่ที่ยังมีรอยฟกช้ำอยู่ไม่ว่าใครในกลุ่มนั้นก็สามารถดึงดูดสายตาของทุกคนได้
เฉียวฉู่ผู้บ้าคลั่ง,ฮัวเหยาผู้หล่อเหลาเย็นชา, หรงรั่วผู้สุภาพอ่อนโยน, คุณชายผู้สง่างามฟ่านจั๋ว, เฟยเหยียนผู้งดงามอย่างหาใดเปรียบไม่ได้ และกู่ซินเยียนที่มีใบหน้าสวยสดงดงาม การรวมตัวกันเช่นนี้ทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาได้
เพียงแต่……
แม้บรรยากาศระหว่างพวกเขาจะไม่ตึงเครียดขนาดมีประกายไฟแล่นแปลบปลาบแต่สถานการณ์ก็อาจจะน่าดูชมมากขึ้นได้
เมื่อคนมากันครบแล้วกู่ซินเยียนก็ลอบมองหนุ่มสาวที่นางไม่คุ้นเคยตรงหน้าอย่างประเมิน ในใจค่อนข้างสั่นไหว
บุคคลทั้งห้านี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดของงานชุมนุมเทพยุทธ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปวิหารมารโลหิตได้ยื่นคำเชิญให้พวกเขาทุกคน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครตอบรับคำเชิญเลย แม้แต่จวินอู๋ก็ปฏิเสธคำเชิญของวิหารมารโลหิตแล้วไปรับของวิหารหยกวิญญาณแทน
นั่นเป็นหนึ่งในผลลัพธ์ที่น่าเสียใจที่สุดที่วิหารมารโลหิตได้เจอและกู่ซินเยียนก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าทั้งหกคนนี้ตอบรับคำเชิญของวิหารมารโลหิต วิหารมารโลหิตก็คงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถไปถึงจุดสูงสุดของพีระมิดสิบสองวิหารได้
ไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาจะไม่สามารถโดดเด่นท่ามกลางวีรบุรุษทั้งหลายได้
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนั่นก็เป็นได้แค่ความปรารถนา สิ่งเดียวที่นางสามารถแย่งชิงมาได้ก็คือจวินอู๋จากวิหารหยกวิญญาณ
กู่ซินเยียนตั้งสติและยิ้มออกมาอย่างไร้พิษภัยจากนั้นก็พูดกับพวกเฉียวฉู่ว่า “ที่ข้ารบกวนพวกเจ้าให้มาที่นี่วันนี้เพราะเรื่องเข้าใจผิดบางอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเราในช่วงที่ผ่านมา บังเอิญว่านี่เป็นช่วงดอกไม้บานในฤดูใบไม้ผลิ เราจะได้คุยกันสบายๆที่ริมทะเลสาบ ถ้าเราสามารถแก้ไขความเข้าใจผิดระหว่างเราได้ มันก็จะเป็นผลลัพธ์ที่ดีด้วย”
กู่ซินเยียนใช้คำพูดได้อย่างชาญฉลาดไม่เจาะจงเรื่องที่ห้าวิหารต่อต้านวิหารมารโลหิต ใช้คำว่า “เข้าใจผิด” กับทุกคนที่นั่นโดยไม่ชี้นิ้วตำหนิใคร ราวกับนางมาที่นี่เพื่อเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย ไม่ได้มาเพื่อคลายความแค้นระหว่างห้าวิหารกับวิหารมารโลหิต
เพียงแค่ได้ยินคำพูดของกู่ซินเยียนฟ่านจั๋วก็รู้ทันทีว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ง่ายเลย
แต่ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริงที่กู่ซินเยียนฉลาดและมีไหวพริบแต่นางไม่รู้เรื่องที่ว่าพวกเฉียวฉู่ไม่ได้สนใจผลประโยชน์ของกลุ่มอำนาจที่พวกเขารับใช้เลย พวกเขาไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าเรื่องจะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก พวกเขาคาดหวังให้มันวุ่นวายโกลาหลแบบสุดๆเลยด้วยซ้ำ
“เฮอะแม่นางน้อย เจ้าก็หน้าตางดงาม แต่ทำไมพูดจาไม่น่าฟังอย่างนั้น? เข้าใจผิดอะไร? เจ้าจะบอกว่าสมองพวกเรามีปัญหางั้นรึ? คิดว่าเราไม่รู้หรือว่ามีความเข้าใจผิดอะไรรึเปล่า? ข้าไม่เห็นรู้สึกเลยว่ามีเรื่องเข้าใจผิดกัน เจ้าไม่ต้องทำเป็นพูดโน่นพูดนี่ ที่เจ้าเชิญพวกเรามาที่นี่วันนี้ พวกเราทุกคนรู้ดีว่าในใจเจ้าคิดอะไร เป็นเพราะคนของวิหารมารโลหิตโดนอัดจนเละเทะ เลยนั่งไม่ติดแล้วใช่ไหมล่ะ? ที่มาหาพวกเราวันนี้ ไม่ใช่ตั้งใจจะยอมอ่อนข้อขอโทษแล้วหาทางออกหรอกรึ? หรือจะบอกว่า……ข้าเข้าใจผิด?” เฉียวฉู่โพล่งออกมาโดยไม่สนใจ เล่นบทเป็นเด็กหนุ่มดิบเถื่อนที่หยิ่งยโสได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ไม่จำเป็นต้องพูดว่าคนของวิหารมารโลหิตจะมีปฏิกิริยายังไงเมื่อได้ยินคำพูดนี้กระทั่งเฟยเหยียนที่ฟังอยู่ด้านข้างก็เกือบยั้งตัวเองไม่ให้ทุบตีเขาไม่ได้
มันน่าโมโหจริงๆ!