ตอนที่ 1623 อันตรายในค่ำคืนที่มืดมิด (10)
ในหอพักของศิษย์ใหม่กลิ่นคาวเลือดลอยตลบอบอวลอยู่ในทางเดิน
คนชุดดำ6 คนนอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้น พวกเขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าวันหนึ่งพวกเขาจะพ่ายแพ้ให้กับเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเช่นนี้ สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งเจ็บใจมากขึ้นก็คือ พวกเขาพ่ายแพ้โดยที่ไม่สามารถตอบโต้ได้เลย
แม้ว่าพวกเฉียวฉู่จะได้บาดแผลเล็กๆน้อยๆกันไปบ้างแต่เมื่อเทียบกับสภาพของคนชุดดำแล้ว พวกเขาอยู่ในสภาพที่ดีกว่ามาก นอกจากนั้น จวินอู๋เสียได้ปรุงยาสำหรับรักษาบาดแผลให้เพื่อนๆของนางเอาไว้แล้วด้วย จึงไม่ต้องพูดถึงเลย
“ชิข้าก็คิดว่าพวกนี้จะปิดปากเงียบได้นานแค่ไหน โดนไปสองสามทีก็สารภาพออกมาหมดเปลือกแล้วเนี่ยนะ?” เฉียวฉู่ลูบคาง สายตาของเขามองไปที่คนชุดดำคนหนึ่ง
คนชุดดำคนนั้นคือผู้ใช้พลังวิญญาณสีม่วงขั้นสี่ที่ต่อสู้กับจวินอู๋เสียพลังวิญญาณสีม่วงขั้นสี่ในสิบสองวิหารนั้นคือระดับผู้อาวุโสที่เป็นรองแค่ประมุขวิหาร แต่ตอนนี้คนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นกลับอยู่ในสภาพที่ผู้คนไม่อาจทนมองได้เลย แขนขาของเขาบิดไปในมุมแปลกๆ ข้อต่อทั้งหมดมีแต่รอยฟกช้ำดำเขียว
ดวงตาของเขาบวมจนดูเหมือนตาปลาทองบาดแผลบนร่างกายก็มีเลือดสีดำคล้ำไหลออกมา
คนชุดดำที่บาดเจ็บคนอื่นๆพากันตัวสั่นงันงกอยู่ทางด้านหนึ่งพวกเขากลัวมากจริงๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ใครจะคิดว่ายาเพียงเม็ดเดียวจะทำให้ผู้ใช้พลังวิญญาณสีม่วงขั้นสี่ต้องประสบชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายแบบนี้?
พวกเขาได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าจวินอู๋เสียป้อนยาให้กับชายคนนั้นหนึ่งเม็ดแล้วไม่ได้ทำอะไรอีกเลย จากนั้นข้อต่อของชายคนนั้นก็ส่งเสียงดังกรอบติดต่อกันไม่หยุด คล้ายกับว่ากระดูกข้อต่อของเขาถูกหัก ไม่สามารถควบคุมกระดูกได้ ได้แต่นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้น
ความเจ็บปวดที่ไม่ใช่มนุษย์แบบนั้นแค่มองก็ทำให้พวกเขาขนพองสยองเกล้าแล้ว
พวกเขายอมตายดีกว่าต้องเจอกับความเจ็บปวดทรมานแบบนั้น!
“ที่ควรถามก็ถามไปเกือบหมดแล้วอย่าเสียเวลาเลย ฟ้าเกือบสว่างแล้ว” ฟ่านจั๋วมองท้องฟ้านอกหน้าต่างและเห็นว่าขอบฟ้าค่อยๆสว่างขึ้น คืนนี้พวกเขาสู้กันอยู่นานพอสมควร และได้ข้อมูลที่ต้องการจากคนชุดดำแล้ว ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
“เอาล่ะให้ข้าส่งพวกเขาไปที่ชอบๆได้รึยัง?” เฉียวฉู่ลงนั่งยองๆ พร้อมหักข้อนิ้วเสียงดังกรอบ แต่เขาไม่ได้ลงมือใดๆทั้งสิ้น แต่กลับมองไปที่จวินอู๋เสียเหมือนจะถามความคิดเห็นของนาง
จวินอู๋เสียมองไปที่กลุ่มคนชุดดำที่กลัวจนหัวหดจากปากของหัวหน้ากลุ่ม นางได้รู้ว่ากู่อิ่งเป็นคนส่งคนพวกนี้มาจริงๆ แต่มีจุดหนึ่งที่จวินอู๋เสียสงสัยอย่างมาก ไม่ว่านางจะซักถามถึงที่มาของพวกเขาอย่างหนักขนาดไหนก็ตาม นางก็ไม่ได้คำตอบใดๆ พวกเขาถ้าไม่ขบกรามแน่นไม่ยอมพูด ก็ดูเหมือนจะไม่รู้จริงๆว่าตัวเองมาจากไหน สิ่งเดียวที่พวกเขารู้ก็คือเป้าหมายที่มาที่นี่เท่านั้น
เมื่อมองไปที่ท้องฟ้าด้านนอกจวินอู๋เสียก็รู้ว่านางไม่สามารถลากไปได้นานกว่านี้แล้ว ก่อนที่คนชุดดำพวกนี้จะมาถึง นางได้ใช้ยาพิเศษบางอย่างเพื่อทำให้ทุกคนหลับสนิทไม่ตื่น ตอนนี้ยากำลังจะหมดฤทธิ์แล้ว อีกไม่นานทุกคนก็จะตกใจตื่นจากกลิ่นคาวเลือดที่รุนแรง
นางไม่อยากให้ตัวตนของนางถูกเปิดเผยในตอนนี้
“อย่าเพิ่งฆ่าพวกเขาข้ายังอยากใช้ประโยชน์บางอย่าง” ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของจวินอู๋เสีย คนชุดดำกลุ่มนี้ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่นางรู้สึกว่าน่าจะมีวิธีที่เหมาะกับการตายของพวกเขามากกว่านี้
ถือซะว่าเป็น“ของขวัญตอบแทน” ที่นางส่งให้กับคนผู้นั้นก็แล้วกัน
ตอนที่ 1624 ของขวัญตอบแทน (1)
เมื่อแสงแรกของดวงอาทิตย์สาดลงบนพื้นขับไล่ความเงียบสงัดของยามราตรี นกส่งเสียงร้องอยู่บนกิ่งไม้ และอุณหภูมิก็เริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง
เหล่าผู้เยาว์ในสำนักธาราเมฆตื่นขึ้นจากการหลับใหลและรู้สึกต่างจากเช้าวันก่อนๆเล็กน้อย พวกเขารู้สึกเหมือนหลับสนิทกว่าเดิมก่อนจะลุกออกจากเตียงเพื่อเตรียมตัวสำหรับการฝึกฝนในวันใหม่ แต่แล้วผู้เยาว์เหล่านั้นก็ได้กลิ่นแปลกๆที่ลอยอยู่ในอากาศจางๆ กลิ่นนั้นเหมือนกับกลิ่นเลือดเป๊ะ
ผู้เยาว์หลายคนเปิดประตูออกมาด้วยความกังวลสายตาของพวกเขามองไปรอบๆเพื่อหาที่มาของกลิ่น
หลินเฮ่าอวี่ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษความเหนื่อยล้าทรมานที่เขาได้รับในช่วงนี้ ทำให้เขานอนหลับไม่สนิทมานานแล้ว การได้นอนหลับสนิทโดยไม่ฝันและไม่มีอะไรรบกวนจนถึงรุ่งสางช่วยบรรเทาความหดหู่ของเขาได้ไม่น้อย หลินเฮ่าอวี่เก็บเตียงแล้วไปยืนส่องกระจกอยู่ที่หน้ากระจกทองแดง เขารู้สึกพอใจกับรูปลักษณ์ของตัวเองมาก เด็กหนุ่มดึงชายเสื้อให้ตึง พอคิดว่าตัวเองดูดีแล้ว ก็เดินไปที่ประตูและเอื้อมมือออกไปเพื่อเปิดประตู
แต่ทันทีที่เปิดประตูหลินเฮ่าอวี่ก็ต้องตกตะลึง เขาเห็นผู้คนรุมล้อมอยู่ที่หน้าห้องของเขา สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หลินเฮ่าอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าทำไมคนพวกนี้ถึงพากันมามุงอยู่ที่หน้าห้องของเขาตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้
ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากไล่คนพวกนั้นออกไปกลิ่นเลือดก็พุ่งขึ้นจมูกของเขา หลินเฮ่าอวี่ก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัว บนพื้นตรงหน้าห้องของเขาที่ทุกคนต่างถอยห่างออกไปนั้น เขาเห็นกองเลือดเนื้ออยู่กองหนึ่ง!
เลือดได้แห้งไปแล้วเล็กน้อยมันแห้งติดกับเศษเนื้อที่ดูไม่ออกว่าเป็นอะไร พวกมันกองสุมกันจนเหมือนเป็นเนินเขาลูกย่อมๆขวางหน้าประตูห้องของเขา กลิ่นเลือดที่พุ่งใส่หน้าเขาทำให้หลินเฮ่าอวี่หน้าซีดทันที!
ไม่ใช่แค่พื้นแม้แต่ประตูห้องของเขาก็ถูกสาดด้วยเลือดจนกลายเป็นสีแดงสด
หลินเฮ่าอวี่ตกใจกลัวมากจนฟันกระทบกันแม้ว่าช่วงนี้ชีวิตของเขาจะไม่ราบรื่น แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นภาพที่เต็มไปด้วยเลือดมากมายขนาดนี้มาก่อน!
ภาพเลือดเนื้อกองใหญ่ทำให้ในหัวของเขามีเสียงดังขึ้นไม่หยุดเขาไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการว่านั่นคือกองอะไร!
จะมีอะไรน่ากลัวไปกว่าการเห็นกองแบบนี้อยู่ที่หน้าประตูห้องของตัวเองในตอนเช้า?
นี่คือการขู่งั้นหรือ?เป็นแค่การข่มขู่? หรือว่าเป็นการเตือน?
หลินเฮ่าอวี่เพิ่งตื่นขึ้นมาแต่เขารู้สึกเหมือนติดอยู่ในคืนฤดูหนาวที่มืดจนมองไม่เห็นมือของตัวเอง อุณหภูมิในร่างเขาถูกดูดหายไปจนหมด ทำให้เขาตัวสั่นอย่างรุนแรง
สีหน้าของพวกผู้เยาว์ที่มุงอยู่หน้าห้องดูน่าเกลียดมากต่างรู้สึกขอบคุณอย่างที่สุดที่เจ้ากองนี้ไม่ได้อยู่หน้าห้องของพวกเขา แต่เป็นห้องของหลินเฮ่าอวี่ เห็นได้ชัดว่าคนที่ทิ้งเจ้ากองนี้ไว้ที่นี่เจาะจงเป้าหมายที่หลินเฮ่าอวี่คนเดียว!
ทุกคนอดเดาอยู่ในใจไม่ได้ว่าใครคือคนที่ทำเรื่องนี้?
นี่หมายความว่ามีคนต้องการชีวิตของหลินเฮ่าอวี่ใช่หรือไม่?
คำถามเดียวกันนี้วนเวียนอยู่ในใจของทุกคนที่นั่นสายตาที่มองหลินเฮ่าอวี่ก็เริ่มแปลกไป แม้แต่ศิษย์ของวิหารมารโลหิตก็ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ด้วยความเกรงกลัวอยู่ลึกๆว่าพวกเขาอาจจะถูกลากให้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
แม้ว่าหลินเฮ่าอวี่จะเป็นหลานชายของผู้อาวุโสแห่งวิหารมารโลหิตแต่เห็นได้ชัดว่าเขาได้ทำให้คนที่ไม่ธรรมดาบางคนเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ใครจะรู้ว่าศัตรูต้องมีพลังมากแค่ไหนถึงสามารถทำการสังหารโหดในสำนักธาราเมฆได้
อนาคตเป็นสิ่งสำคัญแต่ชีวิตตัวเองสำคัญกว่า!
พวกผู้เยาว์ที่มักจะเกาะติดอยู่กับหลินเฮ่าอวี่ก็แอบบอกตัวเองอยู่ในใจว่าตอนนี้พวกเขาต้องขีดเส้นเว้นระยะห่างกับหลินเฮ่าอวี่ให้ชัดเจนเป็นการชั่วคราว