ตอนที่ 1615 อันตรายในค่ำคืนที่มืดมิด (2)
กลางดึกคนกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาในสำนักธาราเมฆอย่างเงียบๆ คนที่ลาดตระเวนพื้นที่ต่างๆของสำนักธาราเมฆไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีคนกลุ่มใหญ่แทรกซึมเข้ามาในบริเวณสำนัก
ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาร่างสีดำพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วในเงามืดราวกับงูพิษที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมิด
ผู้เยาว์ทั้งหลายในสำนักล้วนหลับสนิทกันหมดแล้วเนื่องจากการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงยาวนานหลายชั่วโมงได้สูบเอาเรี่ยวแรงของพวกเขาไปจนเกลี้ยง พอตกกลางคืนทุกคนก็พากันนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงพร้อมกรนเสียงดัง ไม่มีใครสังเกตเห็นอะไรด้านนอกเลย
ภายในสาขาจ้าววิญญาณซูหย่าที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาก็พลันลืมตาขึ้นมา ในความมืดมิดนั้น สายตาเนือยๆเกียจคร้านตามปกติได้หายไปจากดวงตาที่สดใสของนาง ตอนนี้ดวงตาคู่นั้นคมกริบราวกับดาบที่ชักออกจากฝัก
ที่เรือนพักของอาจารย์ใหญ่ชายชราตัวเล็กที่กำลังกระตุ้นให้เทียนเจ๋อพัดไฟอยู่นั้นก็ยืดตัวตรงทันที ดวงตาที่มีชีวิตชีวาของเขามองตรงออกไปนอกหน้าต่างที่เปิดอยู่ จ้องไปยังทิวทัศน์ที่ถูกครอบคลุมด้วยความมืดยามค่ำคืน
เทียนเจ๋อที่พัดจนมือจะหลุดอยู่แล้วก็สังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของอาจารย์เขาเหนื่อยมากจนเกือบจะหลับและตาก็ปรือเต็มทีแล้ว
“อาจารย์……พักได้แล้วหรือ?”หัวเขามึนไปหมด ความอบอุ่นจากเตาที่โอบล้อมร่างกายเขาทำให้เขารู้สึกง่วง กลิ่นหอมของสมุนไพรทำให้เขาอยากนอนขดตัวอยู่บนพื้นอุ่นๆแล้วกรนเสียงดัง
“เจ้าโง่ไม่สังเกตหรือว่ามี ‘แขก’ มา?” ชายชราเคาะหัวเทียนเจ๋อก่อนจะเก็บกระดาษในมือไว้ตรงหน้าอกอย่างระมัดระวัง
คำพูดของชายชราทำให้เทียนเจ๋อตกใจจนหายง่วงเป็นปลิดทิ้งดวงตาของเขาเบิกกว้างพร้อมกับเด้งตัวลุกขึ้นในทันที พอความง่วงหายไป เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่ไม่คุ้นเคย ดวงตาที่เคยปรือก็สว่างขึ้นมาอย่างฉับพลัน
“หายากจริงๆ”ชายชราตัวเล็กดันเข่าตัวเองลุกขึ้น มือข้างหนึ่งทุบนวดหลัง “ไม่ได้เจอ ‘แขก’ ที่ไม่ได้รับเชิญมาตั้งนานแล้ว”
“ว่าแต่คนกลุ่มนี้เลือกเวลาผิดจริงๆ ยาของข้าใกล้จะเสร็จแล้ว เลยต้องล่าช้าออกไปอีก” ชายชรามองเตายาที่เขาใช้เวลาปรุงยาทั้งวันอย่างอาลัยอาวรณ์ ตามขั้นตอนแล้ว ยาในเตาจะเสร็จในอีกหนึ่งชั่วโมง น่าเสียดาย คนพวกนี้นี่ชอบมากวนตอนเขากำลังตั้งอกตั้งใจทำงานซะจริงเชียว
น่าเสียดายจริงๆ
เทียนเจ๋อไม่ได้พูดอะไรแววตาของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมดุดัน
สำนักธาราเมฆตั้งกฎไว้นานแล้วว่าห้ามผู้ใดเข้ามาในสำนักโดยไม่ได้รับอนุญาตแม้แต่ประมุขของสิบสองวิหารและประมุขของเก้าอารามก็เช่นเดียวกัน
แต่ตอนนี้มีใครบางคนแอบเข้ามาในสำนักธาราเมฆอย่างเงียบๆนี่เป็นการฝ่าฝืนกฎของสำนักธาราเมฆและเป็นการท้าทายอำนาจและศักดิ์ศรีของสำนักธาราเมฆโดยตรง!
“ช่างเถอะเสี่ยวเทียน ทุกคนที่มาก็คือแขก พวกเราเป็นเจ้าบ้าน ก็ควรทำหน้าที่เจ้าของบ้านให้ดี ไปกันเถอะ” ชายชราตัวเล็กเอามือสองข้างไพล่หลัง แล้วเดินนำไปอย่างไม่รีบร้อน ส่วนเทียนเจ๋อที่ยืนอยู่ด้านข้างก็พุ่งตัวออกไปจากบ้านหลังเล็กราวกับสายฟ้า ร่างของเขาหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว
ชายชรามองเงาร่างของเทียนเจ๋อที่เหลือทิ้งไว้แล้วส่ายหน้าช้าๆ
“คนหนุ่มนี่นะใจร้อนจริงๆเลย”
พูดจบเขาก็ยกเท้าขึ้นเพื่อจะก้าวเท้า แต่พอเท้าของเขาแตะพื้น ร่างของเขาก็วูบไหวไปมาราวกับเงาลวงตาที่ทับซ้อนกัน พร้อมกับการสั่นไหวเบาๆนั้น วินาทีต่อมา ร่างของชายชราก็หายไปจากจุดนั้นทันที แม้แต่ลมกระโชกเพียงครั้งเดียวก็ยังไม่มี หายไปอย่างไม่เหลือร่องรอยใดๆเลย
ตอนที่ 1616 อันตรายในค่ำคืนที่มืดมิด (3)
ระหว่างหอพักที่พวกลูกศิษย์อาศัยอยู่มีเงาสีดำหลายร่างพุ่งผ่านไปอย่างเงียบเชียบราวสายลม ไม่มีเสียงใดๆดังให้ได้ยินเลยแม้แต่น้อย
ผู้คุ้มกันของสำนักธาราเมฆที่ยืนเฝ้าอยู่นอกหอพักมองตรงไปข้างหน้าโดยไม่ได้สังเกตว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามา
ผู้คุ้มกัน2 คนแค่รู้สึกเย็นวาบที่คอเท่านั้น พอเอื้อมมือจะจับคอ ก็รู้สึกถึงความเหนียวๆอุ่นๆบนฝ่ามือ พวกเขายังไม่ทันจะส่งเสียงก็ล้มลงอย่างเงียบๆท่ามกลางความมืด
กลิ่นเลือดคาวคลุ้งลอยไปตามสายลมเงามรณะค่อยๆครอบคลุมไปทั่วสำนักธาราเมฆ
พวกที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดเดินผ่านไปอย่างไร้เสียงทิ้งความตายและความหวาดกลัวไว้เบื้องหลัง
จวินอู๋เสียนั่งอยู่ในห้องสายลมพัดเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดแง้มไว้เล็กน้อย สายลมเย็นเจือกลิ่นเลือดจางๆ กลิ่นนั้นเบาบางมาก แต่มันเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดเข้าที่ใจของจวินอู๋เสีย
ความตายมาเยือนอย่างไร้ซุ่มเสียงกลุ่มผู้บุกรุกที่เย่กูค้นพบนั้นไม่ได้มาอย่างมิตรแน่นอน ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนในสำนักธาราเมฆโดนสังหารไปแล้ว
แม้ว่ายังไม่ได้พบกันแต่จวินอู๋เสียก็รู้แล้วว่าคนพวกนั้นเป็นศัตรู ไม่ใช่มิตร!
“คุณหนูจะให้พวกเราลงมือไหมขอรับ?” เสียงของเย่ฉาแฝงความจริงจังหนักแน่น ปกติเขาจะคอยรับคำสั่งของจวินอู๋เสียอยู่เงียบๆ แต่ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งเกินกว่าที่คาดไว้ แถมยังไม่รู้ที่มาที่ไปของคนพวกนั้นด้วย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จวินอู๋เสียจะเสียเปรียบได้ง่ายๆ
จวินอู๋เสียหรี่ตาเล็กน้อยนางยืดตัวนั่งตรงและโยนยาสองขวดให้เย่ฉากับเย่กู
“กินซะ”
เย่ฉาและเย่กูไม่ถามอะไรเลยกลืนยาลงไปตามคำสั่งของจวินอู๋เสียทันที
จากนั้นจวินอู๋เสียก็หยิบเอายาเม็ดขนาดเท่าไข่นกกระทาออกมาจากกระเป๋ามิติใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้บดขยี้มันจนกลายเป็นผงอย่างรวดเร็ว ควันจางๆกระจายออกมาจากยาเม็ดนั้นและลอยไปตามลมที่พัดเข้ามาจากภายนอก ลอดผ่านช่องว่างของประตูห้องจวินอู๋เสียออกไปสู่อาคารหอพัก
“คุณหนู?”เย่กูงงเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าจวินอู๋เสียกำลังทำอะไร
จวินอู๋เสียดึงชายเสื้อของตัวเองอย่างเฉยเมยแล้วก้าวขาออกเดินไปที่ประตู พอมือของนางแตะที่จับประตู นางก็พูดช้าๆว่า “พวกเจ้าไม่ต้องลงมือ”
พูดจบจวินอู๋เสียก็เปิดประตูและเดินออกไป
ในเวลาเดียวกับที่จวินอู๋เสียเดินออกจากห้องของนางภายในทางเดินว่างเปล่ามีร่างสูงหลายร่างปรากฏตัวขึ้น ทุกคนเดินออกมาจากห้องของตัวเอง พวกเขายืนสบตากันอยู่หน้าประตูก่อนจะมองไปที่จวินอู๋เสีย ความตื่นเต้นที่พวกเขาเก็บกดมานานแสดงออกมาทางใบหน้า ในดวงตาสดใสเหล่านั้นก็ดูเหมือนมีเปลวไฟลุกโชนอยู่
เงาดำหลายร่างที่มีกลิ่นเลือดติดเสื้อผ้าอยู่จางๆเดินเข้าไปในหอพักที่เงียบสงัดด้านหลังประตูที่ปิดสนิทคือเหล่าผู้เยาว์ที่กำลังหลับสนิทไร้การป้องกันตัวใดๆทั้งสิ้น
เงาดำพวกนั้นเคลื่อนที่ไปในหอพักอย่างไร้เสียงราวกับภูติผีผ่านทางเดินที่มืดมิด มีเพียงแสงสลัวๆจากหน้าต่างตรงสุดทางเดินเท่านั้น
เงาดำพวกนั้นตรงเข้าหาเป้าหมายของพวกเขาก่อนจะหยุดอยู่หน้าประตูที่ปิดสนิทบานหนึ่ง
ขณะที่พวกเขากำลังจะพังประตูเข้าไปนั้นเองเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นที่ด้านหลังของพวกเขา!