Genius Doctor Black Belly Miss – ตอนที่ 1703-1704

ตอนที่ 1703-1704

ตอนที่ 1703 ทวดมึงซิ (3)
  เยว่อี้ใกล้จะหมดลมหายใจแล้วเนื้อฉีกเลือดโทรมกาย จูเก๋ออินลงนั่งยองๆด้วยความพอใจ เขาคว้าผมเยว่อี้ดึงเขาขึ้นมา
  “คุณชายเยว่เมื่อกี้มีคนพูดว่าการประลองของเราทำให้พวกเขาเสียเวลา เจ้าพูดมา เจ้าจะยอมแพ้ไหม จะได้รู้ผลสักที” จูเก๋ออินถามอย่างชั่วร้าย
  หางตาของเยว่อี้แตกและตาทั้งสองข้างก็บวมปิด ไม่สามารถลืมตาได้เลย เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย แล้วจะตอบจูเก๋ออินได้อย่างไร?
  ดวงตาของจูเก๋ออินฉายแววมุ่งร้ายอย่างมากเขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงเยว่อี้ขึ้นมาด้วย จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเฉียวฉู่ที่เป็นคนพูดก่อนหน้านี้ และพูดพร้อมกับหัวเราะว่า “คุณชายเยว่ช่างเป็นคนดื้อรั้นจริงๆ ดูเหมือนเขาไม่คิดที่จะยอมแพ้เลยสักนิด”
  ขณะที่พูดจูเก๋ออินก็จ้องมองไปที่เฉียวฉู่ด้วยสายตายั่วยุ
  “ทวดมึงซิ!!”เฉียวฉู่สูญเสียความเยือกเย็น แสงพลังวิญญาณสีม่วงเปล่งประกายออกมาจากร่างของเขาอย่างฉับพลัน มันเจิดจ้าสว่างไสวจนบดบังแสงของจูเก๋ออิน!
  แสงพลังวิญญาณเจิดจ้ามากจนทำให้ผู้เยาว์ทุกคนจากรอบด้านพากันตกใจ
  [พลังวิญญาณสีม่วงขั้นสาม!]
  กระทั่งจูเก๋ออินก็สีหน้าเปลี่ยนไปเขาได้ยินว่างานชุมนุมเทพยุทธ์ครั้งล่าสุดมีผู้เยาว์ที่มีพลังมหาศาลอยู่หลายคน และเคยได้ยินพวกผู้อาวุโสคุยกันถึงเรื่องนี้ในวิหาร แต่เขาไม่รู้ว่าพลังของพวกเขาอยู่ในระดับใด ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือเฉียวฉู่เป็นหนึ่งในผู้เยาว์พวกนั้น!
  แม้แต่จูเก๋ออินผู้หยิ่งผยองและหลงตัวเองก็ยังตกใจเมื่อเห็นระดับพลังของเฉียวฉู่!
  [เจ้าเด็กวัยรุ่นคนนี้มีพลังวิญญาณสีม่วงขั้นสามจริงๆเป็นไปได้ยังไง?]
  [ถ้าปล่อยให้เขาพัฒนาต่อไปใครจะรู้ว่าเขาจะกลายเป็นคนที่น่ากลัวขนาดไหนในเวลาแค่ไม่กี่ปี?]
  เฉียวฉู่ไม่สามารถดับไฟโทสะที่โหมกระหน่ำในใจเขาได้วิธีที่โหดเหี้ยมของจูเก๋ออินไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทนได้ การฆ่าคนก็แค่ตัดหัวซะก็ได้แล้ว แต่เขากลับเหยียดหยามเยว่อี้ ช่างเลวทรามต่ำช้าและน่ารังเกียจจริงๆ!
  แต่ในขณะที่เฉียวฉู่กำลังจะพุ่งขึ้นไปบนเวทีประลองเพื่อฆ่าจูเก๋ออินเสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังออกมาจากฝูงชน
  “ที่แท้ประมุขน้อยแห่งวิหารมังกรก็เท่านี้เอง นอกจากรังแกคนที่ไม่มีทางสู้ ก็ดูเหมือนจะไม่มีความสามารถอื่นแล้ว”
  เสียงนั้นเต็มไปด้วยการเสียดสีเหน็บแนมทุกคนพากันหันไปทางต้นเสียงโดยพร้อมเพรียงกัน
  พวกเขาเห็นเด็กหนุ่มหน้าอ่อนคนหนึ่งเดินช้าๆเข้ามาจากด้านหลังของฝูงชนโดยมีเด็กสาวจากวิหารเงาจันทราตามมาด้านหลัง และผู้ชายอีกคนที่สวมเครื่องแบบของวิหารเงาจันทรา
  ทันทีที่จูเก๋ออินเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มเขาก็หน้าเขียวทันที!
  ถ้าบอกว่าที่เขาลงมือกับเยว่อี้อย่างต่ำช้าเช่นนั้นเป็นเรื่องปกติวิสัยแล้วล่ะก็คนที่เขาอยากให้ตายมากที่สุดก็คงไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเด็กหนุ่มตรงหน้าเขาคนนี้นี่เอง!
  เด็กหนุ่มคนที่ดึงดูดสายตาของกู่ซินเยียนไปนับครั้งไม่ถ้วนในงานเลี้ยงเมื่อคืน!
  “ไอ้หนูพูดเช่นนั้นหมายความว่ายังไง?” พอจูเก๋ออินเห็นจวินอู๋เสีย ความโกรธที่เขาระบายใส่เยว่อี้ก็ลุกโหมขึ้นอีกครั้ง
  จวินอู๋เสียเดินเข้ามาจากในฝูงชนสายตาเย็นชาของนางไม่ได้มองไปที่จูเก๋ออินเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่กวาดมองไปที่ร่างของเยว่อี้แทน
  เมื่อเห็นร่างโชกเลือดของเยว่อี้ดวงตาของจวินอู๋เสียก็ทอประกายเยียบเย็น
  เมื่อครู่นางนั่งอยู่ในห้องของตัวเองและกำลังคุยกับจวินอู๋เหยาเรื่องผลการฝึกของนางในช่วงนี้ แต่จู่ๆนางก็ได้รับข้อความบนแผ่นหยกโดยไม่คาดคิด มีเพียงเพื่อนๆของนางเท่านั้นที่มีแผ่นหยกพวกนี้ หากไม่อยู่ในช่วงวิกฤตจริงๆ พวกเขาจะไม่ใช้แผ่นหยกนี้เล่นๆแน่ และบนแผ่นหยกของนาง นางก็เห็นตัวอักษรคำว่า “ประลอง” ได้อย่างชัดเจน!

ตอนที่ 1704 ทวดมึงซิ (4)
  จวินอู๋เสียรู้ได้ทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นจึงรีบมาทันที และบังเอิญเจอกับจื่อจินที่ร้อนรนอย่างมาก เพราะเหตุนี้นางจึงได้รู้ว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นที่เวทีประลอง
  ในการเดินทางมาที่วิหารจิงหงครั้งนี้จวินอู๋เสียแค่ตั้งใจจะจัดฉากอยู่เบื้องหลังเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจูเก๋ออินจะทำตัวเป็นหมาบ้ากัดเยว่อี้ไม่ยอมปล่อย เมื่อมองดูบาดแผลบนร่างของเยว่อี้ก็เห็นได้ชัดว่าจูเก๋ออินพยายามจะฆ่าเขา ถ้านางมาช้ากว่านี้อีกนิดเดียว เกรงว่าคงไม่มีพลังที่จะฟื้นคืนชีพเขาได้!
  เหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างคาดไม่ถึงเช่นนั้นทำให้จวินอู๋เสียรู้สึกประหลาดใจ
  วิหารเงาจันทราและวิหารมังกรไม่เคยเป็นศัตรูกันเยว่อี้กับจูเก๋ออินก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน แล้วทำไมจูเก๋ออินถึงได้จ้องเล่นงานเยว่อี้?
  จวินอู๋เสียคิดเกี่ยวกับประเด็นนี้มานับครั้งไม่ถ้วนระหว่างวิ่งมาที่นี่แต่ก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่เมื่อนางเดินมาที่ข้างเวทีประลองและเห็นสภาพอันเลวร้ายของเยว่อี้ ข้อสงสัยนั้นก็ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลอีกต่อไป!
  จูเก๋ออินแค่รนหาที่ตายนั่นแหละ!
  “หมายความว่ายังไงน่ะหรือ?”จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นเผชิญกับสายตากินเลือดกินเนื้อของจูเก๋ออิน ดวงตาของนางทอประกายเย็นชาขณะที่พูดว่า “ก็วิหารมังกรนั้นแข็งแกร่ง สามารถทำร้ายผู้คนได้ตามใจชอบ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าคนที่ต่อต้านท่านบนเวทีประลองวันนี้เป็นศิษย์ของวิหารเงาจันทราเรา ต่อให้เป็นศิษย์ของวิหารอื่น แค่เพราะท่านอยากจะฆ่าก็ฆ่าเลยไม่ใช่หรือ? อยากเฉือนเนื้อเถือหนังก็ทำเลยไม่ใช่หรือ? ขอถามหน่อย มีใครบ้างที่กล้าทำร้ายประมุขน้อยวิหารมังกรแม้เพียงปลายเส้นผม? ประมุขน้อยแห่งวิหารมังกร ถ้าท่านเบื่อมากจนทนไม่ไหว อยากได้เลือดคนอื่น บอกมาตรงๆเลยก็ได้ ศิษย์วิหารเงาจันทราของเราคนนี้ จะมอบให้ท่านจัดการได้ตามใจชอบ จะไม่เจ็บแค้นภายหลัง แค่แค้นใจที่วิหารเงาจันทราไม่สามารถเทียบกับวิหารมังกรได้”
  จวินอู๋เสียพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาและไม่ได้วิงวอนขอความเมตตาให้เยว่อี้เลย แต่กลับพูดว่าจะทิ้งเยว่อี้ให้จูเก๋ออินจัดการได้ตามใจ จะฆ่าจะแกงยังไงก็ได้
  เมื่อคำพูดนั้นออกมาทุกคนที่นั่นก็พากันตกตะลึง
  จื่อจินที่คิดว่าจวินอู๋เสียจะช่วยเยว่อี้ก็ตกใจจนนิ่งค้างไปทันทีนางมองด้านหลังของจวินอู๋เสียอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมจวินอู๋เสียถึงพูดเช่นนั้น
  [เขา……มาที่นี่เพื่อช่วยเยว่อี้ไม่ใช่หรือ?]
  ดวงตาของจื่อจินเบิกกว้างพวกผู้เยาว์ที่อยู่รอบๆก็ตกตะลึงพูดไม่ออกกับคำพูดที่น่าตกใจของจวินอู๋เสีย
  แต่มีเพียงชายที่ยืนอยู่ด้านหลังจวินอู๋เสียเท่านั้นที่ดวงตายังคงมีรอยยิ้มขณะมองตรงไปที่ด้านหลังของร่างเล็กๆตรงหน้าเขา
  [เด็กน้อยกำลังจะเอาเรื่องแล้ว]
  จูเก๋ออินเองก็ตกใจกับคำพูดของจวินอู๋เสียเขาคิดว่าจวินอู๋เสียจะมาเพื่อช่วยเยว่อี้ ไม่คิดเลยว่าเจ้าเด็กนี่จะอ่อนแอถึงขนาดกลัวตำแหน่งของเขาในฐานะประมุขน้อยวิหารมังกร และถึงกับยอมดูศิษย์ร่วมวิหารของตัวเองตายอย่างอนาถด้วยน้ำมือของเขาโดยไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากอ้อนวอนสักคำ
  ทันใดนั้นความเกลียดชังที่เขามีต่อจวินอู๋เสียก็เปลี่ยนเป็นความภาคภูมิใจในตัวเองเขามองไปที่กู่ซินเยียนโดยไม่รู้ตัว หวังว่ากู่ซินเยียนจะได้เห็นว่าเจ้าเด็กอ่อนแอไร้กระดูกสันหลังจากวิหารเงาจันทราแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร
  อย่างที่คาดไว้กู่ซินเยียนมองจวินอู๋เสียด้วยสายตางงงวยอย่างมากพร้อมกับขมวดคิ้ว
  ปฏิกิริยาของกู่ซินเยียนทำให้ในใจจูเก๋ออินเต็มไปด้วยความยินดีเขาหันไปมองจวินอู๋เสียด้วยแววตาหยิ่งผยองอวดดี
  “อย่างน้อยเจ้าก็รู้สถานการณ์รู้ว่าอะไรควรไม่ควร แต่วิหารเงาจันทราเลี้ยงดูขยะอย่างพวกเจ้ามายังไง? เห็นเพื่อนตัวเองอยู่ในมือข้า แต่กลับไม่กล้าเอ่ยปากขอชีวิตเขาแม้แต่คำเดียวเนี่ยนะ? ไอ้หนู ข้าให้ตัวเลือกเจ้าดีไหมล่ะ? เจ้าแค่คุกเข่าลงกับพื้นและคำนับสามครั้งต่อหน้าข้า แล้วข้าจะปล่อยเยว่อี้ เจ้าจะว่ายังไงล่ะ??”

Genius Doctor Black Belly Miss

Genius Doctor Black Belly Miss

เธอคอยอดอัจฉริยะแห่งศตวรรษที่ 24. เพียงเข็มเงินเล่มเดียวเธอก็สามารถช่วยชีวิตใครก็ได้ให้พ้นจากความตาย
ทว่าหลังจากการเกิดระเบิดมันทำให้เธอหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก คนที่นั้นมักเรียกเธอว่า “คุณหนู”
แต่ทว่า “คุณหนู” คนก่อนนั้นของพวกเขานั้นไรซึ่งภูติวิญญาณประจำตัว ทั้งยังร่างกายอ่อนแอและยังไร้ความสามารถใดๆ
แม้กระทั้งคู่หมั่นก็ยังพาคนรักใหม่มาข่มเหงกัน แต่ตอนนี้มีเธอที่เป็นเจ้าของร่างกายนี้ ถ้าใครมันกล้ามาอวดดีใส่เธอ?
เพียงแค่มีเข็มอยู่ในมือเธอ โลกทั้งโลกใบนี้ก็ตกลงเป็นของเธอแล้วทุกหนทุกแห่งที่ไปย่อมเกิดปาฏิหาริย์!
อย่างไรก็ตามเธอได้ช่วยชีวิตชายคนหนึ่งไว้ ไม่รู้ว่าตอนนั้นเธอคิดอะไรอยู่ถึงได้ยอมช่วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท