ตอนที่ 1709 เล่น (1)
ดูเหมือนไม่มีใครเอาคำพูดของผู้อาวุโสแห่งวิหารจิงหงมาใส่ใจสายตาที่พวกผู้เยาว์มองผู้อาวุโสวิหารจิงหงทำให้ผู้อาวุโสคนนั้นรู้สึกผิดขึ้นมา
ความจริงการกระทำของผู้อาวุโสคนนั้นในมุมมองของวิหารจิงหงก็ไม่มีอะไรผิดวิหารจิงหงไม่มีความคิดจะล่วงเกินวิหารอื่นๆเลย ไม่ว่าจูเก๋ออินจะทำผิดขนาดไหนในวันนี้ แต่วิหารเงาจันทราก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์พิเศษอะไรกับวิหารจิงหง ดังนั้น ท่าทีเป็นกลางของวิหารจิงหงก็เป็นที่เข้าใจได้
ถ้านี่เป็นสถานการณ์ปกติทั่วไปคำพูดพวกนั้นก็อาจจะเป็นที่ยอมรับได้มากกว่านี้
แต่ปัญหาคือจวินอู๋เสียได้กระตุ้นให้ทุกคนต่อต้านการกระทำของจูเก๋ออินไปเมื่อครู่ตอนนี้ผู้เยาว์ทุกคนจึงต่อต้านวิธีการที่โหดร้ายเกินไปของจูเก๋ออิน ผู้อาวุโสวิหารจิงหงที่พยายามไกล่เกลี่ยสถานการณ์จึงทำให้สายตาของทุกคนแปลกไป
มันรู้สึกเหมือนว่าเพราะเขากลัวอำนาจของวิหารมังกรถึงได้เข้าข้างจูเก๋ออิน
พวกผู้เยาว์ต่างรู้สึกหวาดกลัววิธีการของจูเก๋ออินและตอนนี้พวกเขาก็ “ค้นพบ” แล้วว่าวิหารจิงหงเข้าข้างวิหารมังกร นั่นยิ่งเตือนพวกเขาถึงความไม่กลัวอะไรเลยของวิหารมังกรและการนิ่งเฉยของวิหารจิงหง
เมื่อคิดว่าตนจะต้องอยู่ในวิหารจิงหงไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่งเหล่าผู้เยาว์ก็รู้สึกไม่พอใจกับการไม่ทำอะไรเลยของวิหารจิงหง
นี่ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของพวกเขาได้เลยพวกเขาอยู่ในวิหารจิงหงโดยที่ไม่ได้รับการปกป้องแต่อย่างใด ความรู้สึกต่อต้านจูเก๋ออินจึงแผ่ขยายไปยังวิหารจิงหงด้วย
พอมีความรู้สึกต่อต้านใบหน้าที่พวกผู้เยาว์แสดงออกต่อผู้อาวุโสวิหารจิงหงจึงดูไม่ดีนัก พวกเขาจากไปกันทีละกลุ่ม สายตาก่อนจากไปของพวกเขาทำให้ใบหน้าของผู้อาวุโสวิหารจิงหงแข็งขึ้นเล็กน้อย
เขาไม่ได้โง่ถึงจะได้ไม่เห็นความไม่พอใจที่ผู้เยาว์พวกนี้มีต่อเขา แต่ความไม่พอใจที่ยากแก่การเข้าใจนี้ทำให้ผู้อาวุโสวิหารจิงหงสับสนและรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
ง่ายนักนี่ในการจัดเตรียมสิ่งต่างๆให้เด็กพวกนี้แล้วพวกเขาก็ก่อปัญหากันเอง แต่ดันมาโทษวิหารจิงหง สุดท้ายแล้ววิหารจิงหงทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไรกัน?
การประลองจบลงอย่างไม่มีความสุขวิหารจิงหงอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก วิหารมังกรไม่ได้เห็นท่าทีเป็นกลางของพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ศิษย์วิหารอื่นๆกลับเข้าใจผิดว่าพวกเขายอมจำนนต่ออำนาจของวิหารมังกร
จูเก๋ออินกลับไปที่ห้องอย่างหงุดหงิดอารมณ์เสียภายในใจสับสนวุ่นวาย
บนเวทีประลองเมื่อครู่เขาเห็นสายตาของพวกผู้เยาว์จากวิหารอื่นอย่างชัดเจน ความระแวงในสายตาของพวกเขาทำให้เขาเกิดลางสังหรณ์ที่เลวร้าย เขาไม่คิดเลยว่าช่วงเวลาแห่งความภูมิใจในตัวเองวันนี้จะทำให้วิหารอื่นๆเกิดความไม่พอใจวิหารมังกรของเขา คิดไม่ถึงเลยจริงๆ
การทรมานเยว่อี้เป็นเพียงเรื่องส่วนตัวของเขาแต่สุดท้ายด้วยคำพูดไม่กี่คำของจวินอู๋เสีย ทำให้เรื่องกลายเป็นวิหารมังกรใช้อำนาจข่มเหงรังแกคนอื่น และจูเก๋ออินก็พูดโต้แย้งไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว ตอนอยู่บนเวทีประลองเมื่อครู่ จูเก๋ออินไม่สามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่ระหว่างทางกลับห้อง เขาวิเคราะห์ทุกคำพูดของจวินอู๋เสียกลับไปกลับมาอย่างละเอียด แล้วก็ตระหนักถึงบางสิ่งขึ้นมาได้
เจ้าหมอนั่นแกล้งทำเป็นต่ำต้อยด้อยกว่าและอับจนหนทางความยโสโอหังและกำเริบเสิบสานของเขาจึงยิ่งเห็นได้อย่างชัดเจน ตอนแรกจูเก๋ออินคิดว่าเป็นนิสัยของจวินอู๋เสียที่ขี้ขลาดจนเกินทน แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันมีบางอย่างทะแม่งๆ
“บัดซบ!ไอ้ระยำนั่นมันเล่นข้า!” จูเก๋ออินพูดด้วยความโกรธขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาทุบกำปั้นลงบนโต๊ะด้วยความหงุดหงิด ทันใดนั้น ผิวหน้าของโต๊ะไม้หงมู่แข็งๆก็เป็นรอยแตกราวกับใยแมงมุม
ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดพวกนั้นและท่าทางอ่อนแอของจวินอู๋เสียคนจากวิหารอื่นจะยุ่งกับเรื่องของวิหารมังกรไปทำไม?
ตอนที่ 1710 เล่น (2)
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเฟยเหยียนก็เข้ามาในห้องของจูเก๋ออิน ทันทีที่เข้าประตูมา เขาก็เห็นจูเก๋ออินขบกรามแน่นด้วยความโกรธ ทำให้เฟยเหยียนแอบขำอยู่ในใจ
จูเก๋ออินถูกประคบประหงมเอาอกเอาใจจากทุกคนมาตั้งแต่เล็กมีทั้งความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ แต่ไม่ได้เฉลียวฉลาดมีไหวพริบเท่าจวินอู๋เสีย คำพูดเพียงไม่กี่คำของจวินอู๋เสีย ไม่เพียงทำให้จูเก๋ออินไม่กล้าลงมือกับเยว่อี้ต่อหน้าฝูงชนเท่านั้น แต่ยังผลักจูเก๋ออินและวิหารมังกรเข้าสู่ในกลางตาพายุอีกด้วย! แถมยังไม่มีช่องให้ตอบโต้ได้เลย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวโดยที่มือไม่ต้องเปื้อนเลือดสักนิด
ด้วยนิสัยใจคอของจูเก๋ออินคิดจะสู้กับจวินอู๋เสียก็เท่ากับรนหาที่ตาย ความพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นยาขมที่เขาจำต้องกินแล้ว!
ไม่ใช่แค่เขาที่ต้องกินแต่ทั้งวิหารมังกรก็ต้องกิน!
“นายน้อย” เฟยเหยียนเก็บแววตายิ้มเยาะแล้วมองจูเก๋ออินอย่างเชื่อฟัง
จูเก๋ออินกำลังหงุดหงิดเขาเห็นเฟยเหยียนเข้ามาแต่สีหน้าดำทะมึนก็ไม่ได้จางหายไป “ข้าไม่น่าปล่อยให้ไอ้เด็กวิหารเงาจันทราคนนั้นพูดจาเหลวไหลเลย! น่าจะจัดการเยว่อี้ให้จบๆไปซะก่อนที่เจ้านั่นจะมา วันนี้เจ้าเด็กนั่นมาที่เวทีประลองแล้วพูดจาเหลวไหลไร้สาระ ทำให้ข้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัด”
ยิ่งคิดจูเก๋ออินก็ยิ่งโกรธเขาไม่เคยต้องอัดอั้นตันใจเช่นนี้มาก่อน มีหมวกใบใหญ่สวมหัวอยู่เช่นนี้ เขาไม่มีโอกาสอธิบายตัวเองเลย
ถ้าเป็นเวลาอื่นเขาคงฟาดเจ้าเด็กปากพล่อยนั่นให้ตายด้วยฝ่ามือเดียวไปแล้ว
เหตุการณ์วันนี้เป็นผลมาจากความยโสอวดดีของจูเก๋ออินถ้าเขาฆ่าเยว่อี้ไปก่อนหน้านี้ แม้ว่าจวินอู๋เสียจะมายังที่เกิดเหตุ นางก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เขาก็สามารถเดินจากไปได้โดยไร้รอยขีดข่วน ไม่ต้องเผชิญหน้ากับจวินอู๋เสีย จวินอู๋เสียจะไม่มีโอกาสจับผิดเขาและไม่มีโอกาสพูดคำเหล่านั้นเลย และถ้าเขาลงมือกับจวินอู๋เสียทันทีที่พบกันแทนที่จะใช้ท่าทีข่มเหงรังแกคนเช่นนั้น จวินอู๋เสียก็จะไม่สามารถใช้คำพูดของนางกระตุ้นให้ผู้เยาว์คนอื่นๆเกิดความกลัวขึ้นมาได้
แต่ทั้งหมดนี้จูเก๋ออินไม่ได้ทำเขาอยากทรมานเยว่อี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะใช้เยว่อี้สร้างความอัปยศให้กับจวินอู๋เสีย จึงทำให้จวินอู๋เสียมีโอกาสโต้กลับได้
“นายน้อยไม่จำเป็นต้องโกรธเรื่องของวิหารเงาจันทราน่ะเรื่องเล็ก แต่ตอนนี้เรามีเรื่องสำคัญกว่าต้องจัดการ” เฟยเหยียนพูดอย่างอ่อนโยน รู้ว่าจูเก๋ออินเกลียดจวินอู๋เสียแล้ว
พูดแล้วก็ตลกการใช้อำนาจข่มเหงรังแกคนและยั่วยุจวินอู๋เสียนี้ก็เริ่มจากการกระทำของจูเก๋ออินเองทั้งนั้น แค่เพราะจวินอู๋เสียไม่ยอมจำนน นางจึงได้รับความเกลียดชังจากจูเก๋ออิน คนใจแคบเช่นนี้ช่างน่ารังเกียจและไร้ยางอายจริงๆ
จูเก๋ออินไม่ได้สังเกตเห็นแววตาดูถูกเหยียดหยามที่ซ่อนอยู่ของเฟยเหยียนใจของเขาจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เท่านั้น
“เจ้าพูดถูกวิหารเงาจันทราไม่มีค่าพอ แต่ไอ้สารเลวที่เล่นงานข้าวันนี้ ทำให้ข้ากลายเป็นตัวตลกต่อหน้าทุกคน และยังทำให้วิหารมังกรเราถูกเข้าใจผิดด้วย แม้ว่าอำนาจของวิหารมังกรจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เพราะมีวิหารมารโลหิตและวิหารปีศาจเพลิงอยู่เหนือเรา เราจึงไม่เป็นที่สังเกตมากนัก แต่วันนี้ไอ้หมอนั่นผลักเราออกมาสู่แสงไฟ ข้าเห็นความเป็นศัตรูที่มีต่อเราในแววตาของคนวิหารอื่นอย่างชัดเจน นั่นไม่ใช่สัญญาณที่ดีเลย” จูเก๋ออินนวดหว่างคิ้วตัวเองอย่างปวดหัว จากนั้นก็หันไปมองเฟยเหยียนและพูดว่า
“โชคดีที่เจ้าจัดการได้ทันเวลาทำให้เรื่องไม่เลวร้ายไปกว่านี้ ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่ามันจะเลวร้ายถึงขนาดไหน”
ในเวลานั้นสมองของจูเก๋ออินกำลังสับสนเขาไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนสถานการณ์ได้อย่างไร จนกระทั่งเฟยเหยียนปรากฏตัวขึ้นชี้ทางออกให้เขา