ตอนที่ 1733 น่าสงสัย (3)
คืนนั้นเฟยเหยียนรอจนกระทั่งทุกคนหลับกันหมดแล้ว เขาก็แอบออกไปข้างนอกอย่างเงียบๆ ตรงไปยังห้องของจวินอู๋เสีย
ภายใต้ความมืดยามค่ำคืนเฟยเหยียนเปิดหน้าต่างออกอย่างเงียบๆ โดยไม่ทำให้เกิดเสียงเลยแม้แต่น้อย แต่ทันทีที่หน้าต่างเปิดออก แสงจันทร์ก็ส่องเข้าไปในห้องที่มืดสนิท เมื่อเฟยเหยียนเงยหน้าขึ้นมองเข้าไปข้างใน เขาก็เกือบจะตกจากขอบตึกนอกหน้าต่าง
“พี่……พี่ใหญ่อู๋เหยา……”
ภายในห้องจวินอู๋เหยายืนอยู่ข้างหน้าต่างอย่างเงียบๆ แสงจันทร์ส่องร่างของเขาทำให้เกิดรัศมีจางๆ ดวงตาคมกริบคู่นั้นราวกับฝังด้วยเพชรสีดำ
หัวใจของเฟยเหยียนแทบกระดอนออกจากอกด้วยความตกใจเขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจวินอู๋เหยาจะมาจริงๆ!
ตอนนั้นเองเขาก็อดนึกไปถึงวันที่เกิดเรื่องบนเวทีประลองไม่ได้ ตอนที่จวินอู๋เสียเข้ามา ชายที่ยืนอยู่ข้างๆนางแตกต่างจากที่พวกเขาเห็นในห้องโถงใหญ่ครั้งแรก แม้ว่ารูปร่างหน้าตาจะไม่ได้เปลี่ยนไป แต่บุคลิกลักษณะต่างกันคนละโลก แต่ตอนนั้นความสนใจของเขาจดจ่ออยู่ที่เวทีประลอง จึงไม่ได้คิดอะไรมาก
“หืม?”จวินอู๋เหยาสวมเพียงเสื้อคลุมชั้นในตัวบาง สายลมกลางคืนที่พัดผ่านมาทำให้ปกเสื้อคลุมเปิดออก เผยให้เห็นหน้าอกกว้างกำยำ
เฟยเหยียนกลั้นหายใจไม่กล้าแม้แต่จะมอง ในใจรู้สึกขื่นขม
พี่ใหญ่อู๋เหยาเป็นยอดชายในหมู่ผู้ชายจริงๆเขาเอื้อมมือขึ้นมาสัมผัสหน้าอกของตัวเองโดยไม่รู้ตัว แม้ว่ามันจะค่อนข้างแข็งอยู่บ้างเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับจวินอู๋เหยาแล้ว……
“ข้า……ข้ามาหาอู๋เสีย”เฟยเหยียนกล่าวอย่างระมัดระวัง
จวินอู๋เหยาเลิกคิ้วขึ้นแล้วดึงหน้าต่างปิดทันทีโดยไม่รอให้เฟยเหยียนปีนเข้ามา เล่นเอานิ้วของเฟยเหยียนเกือบถูกทับแบน
เฟยเหยียนได้แต่จ้องมองตาโตไปที่หน้าต่างซึ่งถูกปิดลงโดยไม่สามารถทำอะไรได้ไม่กล้าแม้แต่จะเคาะหน้าต่าง
หลังจากนั้นไม่นานหน้าต่างก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง ใบหน้าของจวินอู๋เสียที่ยังคงงัวเงียอยู่ก็โผล่มา ดวงตากลมโตของนางเป็นประกายจากน้ำตาที่เกิดจากความง่วงนอน
“เข้ามาซิ”จวินอู๋เสียเพิ่งโดนจวินอู๋เหยาปลุกขึ้นมา นางไม่รู้ว่าจวินอู๋เหยาเอาเสื้อคลุมตัวนอกของเขามาพันรอบตัวนางเมื่อไร
จวินอู๋เหยามีรูปร่างสูงใหญ่เสื้อคลุมตัวนอกของเขาที่อยู่บนตัวของจวินอู๋เสียจึงหลวมมากจนนางดูเหมือนเด็กที่สวมเสื้อผ้าของผู้ใหญ่ มือทั้งสองข้างของจวินอู๋เสียถูกคลุมมิดอยู่ในแขนเสื้อที่ยาวเกินไป และนางกำลังก้มหน้าม้วนแขนเสื้อขึ้น
เฟยเหยียนเข้าไปในห้องอย่างเชื่อฟังและเห็นจวินอู๋เหยานั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้บนโต๊ะข้างๆเขามีหน้ากากแปลงโฉมของเขาวางอยู่ ซึ่งเป็น “ใบหน้า” เดียวกับที่เฟยเหยียนเคยเห็นที่เวทีประลอง
“เจ้าคือคนที่ส่งข้อความมาหรือ?”จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นถามขณะยังคงม้วนแขนเสื้ออยู่
ข้อความเพิ่งได้รับเมื่อบ่ายวันนี้และเฟยเหยียนก็วิ่งมาหาถึงห้องในคืนเดียวกัน มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเฟยเหยียนต้องเป็นคนส่งข้อความแน่
“ใช่”เฟยเหยียนพยักหน้า
“นั่งซิ”จวินอู๋เสียชี้ไปที่เก้าอี้ด้านข้าง เฟยเหยียนเดินไปนั่งทันที เขาไม่กล้ามองไปที่ด้านข้างของจวินอู๋เหยาเลยด้วยซ้ำ
“เจ้าพบอะไร?”จวินอู๋เสียนั่งลง แมวดำตัวน้อยที่ถูกทิ้งไว้บนเตียงก็ยืดตัวแล้วกระโจนเข้าสู่อ้อมแขนของจวินอู๋เสียเพื่อขอให้ลูบ
“จื่อจินนั่นเป็นคนที่เจ้าพามาจากวิหารหยกวิญญาณหรือ?”เฟยเหยียนตรงเข้าประเด็นทันทีโดยไม่อ้อมค้อม
“อืม”จวินอู๋เสียพยักหน้า ตอนที่เห็นตัวอักษร “จิน” นางก็เดาได้ทันทีว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับจื่อจิน
“นางเป็นคนยังไง?”เฟยเหยียนถามต่อ
“โง่”จวินอู๋เสียโยนคำนั้นออกไปอย่างเฉื่อยชา
เฟยเหยียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี“นางโง่จริงๆนั่นแหละ”
ตอนที่ 1734 น่าสงสัย (4)
เฟยเหยียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี“นางโง่จริงๆนั่นแหละ”
“วันก่อนศิษย์วิหารมังกรนำข่าวมาบอกจูเก๋ออิน และข้าบังเอิญอยู่ที่นั่นด้วย ได้ยินว่าจื่อจินกับกู่อิ่งดูเหมือนจะสนิทกัน ทั้งสองคนถูกพบว่าไปเดินเล่นด้วยกันบ่อยๆ เจ้ารู้เรื่องนี้รึเปล่า?” เฟยเหยียนมองจวินอู๋เสียอย่างระมัดระวัง เขาก็เข้าใจว่าบางครั้งผู้หญิงกับผู้ชายก็เข้ากันได้ แต่สถานะของทั้งสองฝ่ายนั้นค่อนข้างผิดปกติ ยิ่งกว่านั้นจื่อจินก็เป็นศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณ ตามหลักเหตุผลแล้วนางน่าจะมีความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับคนของสิบสองวิหาร
แค่มองไปที่ตัวตนของเด็กหนุ่มก็มากพอจะทำให้เฟยเหยียนตกใจจนเหงื่อแตกได้แล้ว
ก็นั่นคือกู่อิ่งที่ฆ่าคนโดยไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย!
เขายังจำได้ว่ากู่อิ่งทำให้เกิดการนองเลือดมากแค่ไหนในสำนักวายุประจิมตอนที่พวกเขาอยู่ในสำนักวายุประจิม กู่อิ่งได้ฆ่าศิษย์ในสำนักที่บริสุทธิ์เหล่านั้นอย่างไร้เหตุผลเพื่อสนองความกระหายเลือดของเขา เขาเป็นเหมือนปีศาจที่คลานออกมาจากขุมนรก ทุกที่ที่เขาอยู่จะปกคลุมด้วยเงาแห่งความตายเสมอ
ปีศาจกระหายเลือดเช่นนี้จะไปชอบพอกับเด็กสาวธรรมดาได้อย่างไร?แถมยังเป็นเด็กสาวที่โง่เขลาไร้สมอง นี่มันผิดปกติชัดๆ
ถ้าเป้าหมายของกู่อิ่งเป็นคนอื่นเฟยเหยียนก็ไม่อยากจะใส่ใจนักหรอก เขาหวังว่ากู่อิ่งจะก่อเรื่อง เรื่องยิ่งใหญ่ยิ่งดี จะได้ทำให้วิหารอื่นๆโกรธแค้นเขา แต่สถานะของจื่อจินนั้นไม่เหมือนใคร แม้ว่านางจะใช้ฐานะว่าเป็นสมาชิกของวิหารเงาจันทรา แต่ความจริงนางคือศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณที่ติดตามจวินอู๋เสียมาที่วิหารจิงหง ถ้าจื่อจินไม่ระวังคำพูด ก็จะไม่ใช่แค่นางคนเดียวที่เดือดร้อน
แม้แต่จวินอู๋เสียก็ไม่รอด!
ผลกระทบของเรื่องนี้ร้ายแรงมากเฟยเหยียนจึงจำเป็นต้องเสี่ยงเพื่อมาบอกเรื่องนี้กับจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า“ข้ารู้”
“อะไรนะ?”เฟยเหยียนประหลาดใจ [นางรู้หรือ?]
“เจ้ารู้แล้วยังปล่อยให้จื่อจินทำเรื่องยุ่งเนี่ยนะ?ข้าไม่คิดว่ายัยเด็กจื่อจินนั่นจะเล่นงานกู่อิ่งได้” เฟยเหยียนรู้สึกกังวล กู่อิ่งไม่ใช่คนธรรมดา และไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ
เมื่อเห็นว่าเฟยเหยียนดูกังวลมากจวินอู๋เสียจึงรินน้ำให้เขาหนึ่งถ้วยและพูดช้าๆว่า “ทำไมจะไม่ล่ะ?”
“……….”เฟยเหยียนแทบอยากจะคุกเข่าลงตรงหน้าจวินอู๋เสีย ในสมองของคุณหนูคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ เขาล่ะไม่เข้าใจจริงๆ
เมื่อเห็นเพื่อนจมอยู่กับความวิตกกังวลจวินอู๋เสียก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าวางใจเถอะ”
“อย่างน้อยก็ใบ้ให้ข้ารู้สักนิดซิเราจะได้รู้ว่าควรทำอะไรต่อจากนี้” เฟยเหยียนยืนกรานในเรื่องนี้จริงๆ อย่างน้อยเขาต้องรู้ว่าตนจะร่วมมือกับจวินอู๋เสียอย่างไร จะได้ไม่ไปทำลายแผนการของจวินอู๋เสียโดยไม่ได้ตั้งใจ
จวินอู๋เสียมองเฟยเหยียนแล้วถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะกวักมือเรียกเขาเข้ามา
เฟยเหยียนเอียงหูเข้าไปใกล้เพื่อฟังเสียงกระซิบเบาๆของจวินอู๋เสียความกังวลในแววตาของเขาเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจในทันที จนกระทั่งจวินอู๋เสียบอกทุกอย่างให้เขาฟังจนเสร็จ สีหน้าประหลาดใจของเขาก็ไม่ได้จางหายไปแม้แต่น้อย
“……เจ้า……เจ้าวางแผนไว้หมดแล้วหรือ?”เฟยเหยียนมองจวินอู๋เสียด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
จวินอู๋เสียพยักหน้าแม้ว่านางจะไม่ได้ก้าวออกไปนอกห้องมากนัก แต่ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในวิหารจิงหงไม่รอดพ้นสายตาของเย่ฉา, เย่เม่ย, และเย่กู แม้ว่าจะนั่งอยู่แต่ในห้อง นางก็สามารถรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกได้
พฤติกรรมที่ผิดปกติของจื่อจินในช่วงนี้นางเคยได้ยินพวกเย่ฉาพูดถึงมาก่อน ดังนั้นนางจึงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้หมดแล้ว