ฤดูใบไม้ผลิผ่านมา ฤดูใบไม้ร่วงผ่านไป เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ช่วงเวลาหลายปีผ่านไปอย่างเงียบๆราวกับเม็ดทรายที่ร่วงหล่นในนาฬิกาทราย
ในถิ่นทุรกันดารของอาณาจักรกลาง คนงานกลุ่มหนึ่งกำลังแบกอิฐหินหนักๆไว้บนหลัง และรีบเดินไปพร้อมกับแส้ที่ฟาดลงบนร่างกายของพวกเขาเพื่อเร่งการก่อสร้างวิหารตรงหน้า บรรยากาศกดขี่อันหนักอึ้งครอบคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักรกลาง
ภายใต้แสงแดดที่แผดเผา คลื่นความร้อนทำให้เหงื่อทุกเม็ดที่ไหลออกจากร่างกายระเหยเป็นไอ หลังจากทำงานมาทั้งวัน ในที่สุดพวกคนงานที่อยู่ในชุดเสื้อผ้าโทรมๆก็ได้พักครู่หนึ่ง แม้ว่าจะโดนพวกคนคุมจ้องด้วยสายตาหงุดหงิดก็ตาม พวกเขาลากร่างที่อ่อนล้าของตัวเองไปนั่งที่วิหารซึ่งสร้างได้ครึ่งหนึ่งแล้ว อิฐหินที่พวกเขานั่งทับอยู่โดนแดดเผาจนร้อน ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนเตียงเข็ม
แต่พวกคนงานที่ทำงานหนักภายใต้สภาพแวดล้อมที่โหดร้ายก็ไม่บ่นอะไร ตรงกันข้าม พวกเขานั่งลงพร้อมถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้แสงแดดอันร้อนระอุหรือนั่งอยู่บนก้อนอิฐร้อนๆ พวกเขาก็ไม่สน สำหรับพวกเขา นี่ถือเป็น ‘ความหรูหรา’ แล้ว
เด็กหนุ่มที่ดูธรรมดาคนหนึ่งนั่งอยู่ก้อนอิฐหิน เขายกถุงน้ำหนังแกะในมือข้างหนึ่งขึ้นดื่ม น้ำเย็นๆที่ไหลเข้าปากช่วยดับความร้อนจากแสงอาทิตย์อันร้อนระอุ
“เฮ้อ……เมื่อไรจะเสร็จเนี่ย?” ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆบ่นพร้อมกับถอนใจยาว เสื้อผ้าของเขาสกปรกมอมแมม หนังที่มือด้าน แม้ว่าเขาจะอายุแค่วัยกลางคน แต่ผมของเขาหงอกแล้ว ใบหน้าก็มีริ้วรอยแห่งวัย รูปลักษณ์ของเขาต่างจากอายุจริงไปไกลทีเดียว
“ลุงหลิว พอวิหารสร้างเสร็จแล้ว ก็หมายความว่าพวกเรากลับบ้านได้แล้วใช่ไหม?” เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆถามพร้อมดวงตาที่เป็นประกายด้วยความหวัง เขาเป็นวัยรุ่น แต่ก็เหมือนกับคนอื่นๆ ต้องทำงานหนักมาก ไม่ใช่เพื่อหารายได้ แต่เพื่อรักษาชีวิตของตนเอาไว้
ชายวัยกลางคนเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนๆ หลายเดือนผ่านไปตั้งแต่การก่อสร้างวิหารตรงหน้าพวกเขาเริ่มต้นขึ้น ตอนแรกมีคนงานก่อสร้างมากกว่าหนึ่งพันคน แต่ไม่กี่เดือนต่อมา จำนวนคนก็ลดลงจนเหลือเพียงไม่กี่ร้อยคน คนส่วนใหญ่ทนงานหนักไม่ไหว หากไม่ล้มป่วยก็ล้มลงจากความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า คนที่ทำงานไม่ไหวก็ไม่ได้รับการรักษาใดๆ แต่กลับถูกพวกคนคุมงานทิ้งไว้ในที่ทุรกันดาร ไม่ว่าฝนตกหรือแดดออก ก็ไม่มีทั้งน้ำและอาหารจัดเตรียมไว้ให้ ได้แต่รอความตายอย่างสิ้นหวัง
เมื่อห้าปีที่แล้ว ไม่มีใครคิดว่าอาณาจักรกลางจะกลายเป็นเช่นนี้ หลังจากสิบสองวิหารถูกทำลาย อาณาจักรกลางก็ได้พบความสงบสุขในช่วงสั้นๆ แต่ความสงบสุขนั้นอยู่ได้แค่ปีเดียวเท่านั้น
หนึ่งปีผ่านไป ฝันร้ายที่แท้จริงก็เริ่มขึ้นและครอบคลุมไปทั่วอาณาจักรกลาง
วิหารหยกวิญญาณหายไปจากอาณาจักรกลางอย่างกะทันหัน ราวกับพวกเขาระเหยกลายเป็นอากาศไปแล้ว เก้าอารามได้เข้ายึดอาณาจักรกลางทั้งหมด ตั้งแต่นั้นมา คนของอาณาจักรกลางก็ได้เข้าใจว่าเผด็จการที่แท้จริงคืออะไร!
เก้าอารามรวบกลุ่มอำนาจทั้งหมดในอาณาจักรกลาง และควบคุมดินแดนทั้งหมดบนแผ่นดินนี้ กระทั่งสี่ดินแดนยังถูกปราบ ขณะที่โลกวิญญาณก็เหมือนจะหายไปจากอาณาจักรกลาง
เก้าอารามปกครองทั้งอาณาจักรกลาง พวกเขาเรืองอำนาจในยุคมืดนี้ แต่ถ้าผู้คนสามารถเลือกได้ พวกเขาอยากศิโรราบให้กับราชอาณาจักรแห่งความมืดมากกว่า!สุขในช่วงสั้นๆ แต่ความสงบสุขนั้นอยู่ได้แค่ปีเดียวเท่านั้น
หนึ่งปีผ่านไป ฝันร้ายที่แท้จริงก็เริ่มขึ้นและครอบคลุมไปทั่วอาณาจักรกลาง
วิหารหยกวิญญาณหายไปจากอาณาจักรกลางอย่างกะทันหัน ราวกับพวกเขาระเหยกลายเป็นอากาศไปแล้ว เก้าอารามได้เข้ายึดอาณาจักรกลางทั้งหมด ตั้งแต่นั้นมา คนของอาณาจักรกลางก็ได้เข้าใจว่าเผด็จการที่แท้จริงคืออะไร!
เก้าอารามรวบกลุ่มอำนาจทั้งหมดในอาณาจักรกลาง และควบคุมดินแดนทั้งหมดบนแผ่นดินนี้ กระทั่งสี่ดินแดนยังถูกปราบ ขณะที่โลกวิญญาณก็เหมือนจะหายไปจากอาณาจักรกลาง
เก้าอารามปกครองทั้งอาณาจักรกลาง พวกเขาเรืองอำนาจในยุคมืดนี้ แต่ถ้าผู้คนสามารถเลือกได้ พวกเขาอยากศิโรราบให้กับราชอาณาจักรแห่งความมืดมากกว่า!
ในถิ่นทุรกันดารของอาณาจักรกลาง คนงานกลุ่มหนึ่งกำลังแบกอิฐหินหนักๆไว้บนหลัง และรีบเดินไปพร้อมกับแส้ที่ฟาดลงบนร่างกายของพวกเขาเพื่อเร่งการก่อสร้างวิหารตรงหน้า บรรยากาศกดขี่อันหนักอึ้งครอบคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักรกลาง
ภายใต้แสงแดดที่แผดเผา คลื่นความร้อนทำให้เหงื่อทุกเม็ดที่ไหลออกจากร่างกายระเหยเป็นไอ หลังจากทำงานมาทั้งวัน ในที่สุดพวกคนงานที่อยู่ในชุดเสื้อผ้าโทรมๆก็ได้พักครู่หนึ่ง แม้ว่าจะโดนพวกคนคุมจ้องด้วยสายตาหงุดหงิดก็ตาม พวกเขาลากร่างที่อ่อนล้าของตัวเองไปนั่งที่วิหารซึ่งสร้างได้ครึ่งหนึ่งแล้ว อิฐหินที่พวกเขานั่งทับอยู่โดนแดดเผาจนร้อน ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนเตียงเข็ม
แต่พวกคนงานที่ทำงานหนักภายใต้สภาพแวดล้อมที่โหดร้ายก็ไม่บ่นอะไร ตรงกันข้าม พวกเขานั่งลงพร้อมถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้แสงแดดอันร้อนระอุหรือนั่งอยู่บนก้อนอิฐร้อนๆ พวกเขาก็ไม่สน สำหรับพวกเขา นี่ถือเป็น ‘ความหรูหรา’ แล้ว
เด็กหนุ่มที่ดูธรรมดาคนหนึ่งนั่งอยู่ก้อนอิฐหิน เขายกถุงน้ำหนังแกะในมือข้างหนึ่งขึ้นดื่ม น้ำเย็นๆที่ไหลเข้าปากช่วยดับความร้อนจากแสงอาทิตย์อันร้อนระอุ
“เฮ้อ……เมื่อไรจะเสร็จเนี่ย?” ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆบ่นพร้อมกับถอนใจยาว เสื้อผ้าของเขาสกปรกมอมแมม หนังที่มือด้าน แม้ว่าเขาจะอายุแค่วัยกลางคน แต่ผมของเขาหงอกแล้ว ใบหน้าก็มีริ้วรอยแห่งวัย รูปลักษณ์ของเขาต่างจากอายุจริงไปไกลทีเดียว
“ลุงหลิว พอวิหารสร้างเสร็จแล้ว ก็หมายความว่าพวกเรากลับบ้านได้แล้วใช่ไหม?” เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆถามพร้อมดวงตาที่เป็นประกายด้วยความหวัง เขาเป็นวัยรุ่น แต่ก็เหมือนกับคนอื่นๆ ต้องทำงานหนักมาก ไม่ใช่เพื่อหารายได้ แต่เพื่อรักษาชีวิตของตนเอาไว้
ชายวัยกลางคนเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนๆ หลายเดือนผ่านไปตั้งแต่การก่อสร้างวิหารตรงหน้าพวกเขาเริ่มต้นขึ้น ตอนแรกมีคนงานก่อสร้างมากกว่าหนึ่งพันคน แต่ไม่กี่เดือนต่อมา จำนวนคนก็ลดลงจนเหลือเพียงไม่กี่ร้อยคน คนส่วนใหญ่ทนงานหนักไม่ไหว หากไม่ล้มป่วยก็ล้มลงจากความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า คนที่ทำงานไม่ไหวก็ไม่ได้รับการรักษาใดๆ แต่กลับถูกพวกคนคุมงานทิ้งไว้ในที่ทุรกันดาร ไม่ว่าฝนตกหรือแดดออก ก็ไม่มีทั้งน้ำและอาหารจัดเตรียมไว้ให้ ได้แต่รอความตายอย่างสิ้นหวัง
เมื่อห้าปีที่แล้ว ไม่มีใครคิดว่าอาณาจักรกลางจะกลายเป็นเช่นนี้ หลังจากสิบสองวิหารถูกทำลาย อาณาจักรกลางก็ได้พบความสงบสุขในช่วงสั้นๆ แต่ความสงบสุขนั้นอยู่ได้แค่ปีเดียวเท่านั้น
หนึ่งปีผ่านไป ฝันร้ายที่แท้จริงก็เริ่มขึ้นและครอบคลุมไปทั่วอาณาจักรกลาง
วิหารหยกวิญญาณหายไปจากอาณาจักรกลางอย่างกะทันหัน ราวกับพวกเขาระเหยกลายเป็นอากาศไปแล้ว เก้าอารามได้เข้ายึดอาณาจักรกลางทั้งหมด ตั้งแต่นั้นมา คนของอาณาจักรกลางก็ได้เข้าใจว่าเผด็จการที่แท้จริงคืออะไร!
เก้าอารามรวบกลุ่มอำนาจทั้งหมดในอาณาจักรกลาง และควบคุมดินแดนทั้งหมดบนแผ่นดินนี้ กระทั่งสี่ดินแดนยังถูกปราบ ขณะที่โลกวิญญาณก็เหมือนจะหายไปจากอาณาจักรกลาง
เก้าอารามปกครองทั้งอาณาจักรกลาง พวกเขาเรืองอำนาจในยุคมืดนี้ แต่ถ้าผู้คนสามารถเลือกได้ พวกเขาอยากศิโรราบให้กับราชอาณาจักรแห่งความมืดมากกว่า!สุขในช่วงสั้นๆ แต่ความสงบสุขนั้นอยู่ได้แค่ปีเดียวเท่านั้น
หนึ่งปีผ่านไป ฝันร้ายที่แท้จริงก็เริ่มขึ้นและครอบคลุมไปทั่วอาณาจักรกลาง
วิหารหยกวิญญาณหายไปจากอาณาจักรกลางอย่างกะทันหัน ราวกับพวกเขาระเหยกลายเป็นอากาศไปแล้ว เก้าอารามได้เข้ายึดอาณาจักรกลางทั้งหมด ตั้งแต่นั้นมา คนของอาณาจักรกลางก็ได้เข้าใจว่าเผด็จการที่แท้จริงคืออะไร!
เก้าอารามรวบกลุ่มอำนาจทั้งหมดในอาณาจักรกลาง และควบคุมดินแดนทั้งหมดบนแผ่นดินนี้ กระทั่งสี่ดินแดนยังถูกปราบ ขณะที่โลกวิญญาณก็เหมือนจะหายไปจากอาณาจักรกลาง
เก้าอารามปกครองทั้งอาณาจักรกลาง พวกเขาเรืองอำนาจในยุคมืดนี้ แต่ถ้าผู้คนสามารถเลือกได้ พวกเขาอยากศิโรราบให้กับราชอาณาจักรแห่งความมืดมากกว่า!