ความผันผวนของพลังวิญญาณทำให้อากาศรอบตัวบิดเบี้ยว พวกคนชุดดำหน้าเปลี่ยนสีทันที!
คลื่นความร้อนพุ่งออกมาจากร่างของเหรินหวง ราวกับพลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!
จวินอู๋เสียฟื้นคืนสติขึ้นมา นางลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง เย่เม่ยกำลังอุ้มนางหลบหนี เมื่อนางลืมตาขึ้นก็เห็นด้านหลังที่เหยียดตรงยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางสายลมที่ส่งเสียงหวีดหวิว ขวางกั้นพวกคนชุดดำทั้งหมดไม่ให้ก้าวไปข้างหน้าได้อีก
“อาจารย์ปู่……”
ตูม!!
เสียงระเบิดดังกึกก้องกลบคำพูดของจวินอู๋เสีย แสงสว่างจ้าระเบิดจากจุดที่เหรินหวงยืนอยู่ คลื่นกระแทกอันรุนแรงกลืนกินพวกคนชุดดำที่พยายามหนี ในชั่วพริบตานั้น แม้แต่คนของวิหารหยกวิญญาณและเย่เม่ยที่อยู่ข้างหลังเหรินหวงก็กระเด็นลอยออกไป!
แรงระเบิดทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวและแสงสว่างเจิดจ้ากลืนกินทุกสิ่งรอบตัว ในเวลานี้ สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงเถ้าถ่านและควันที่กระจายไปทั่ว……
จวินอู๋เสียมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้าง นางถูกปกป้องอยู่ในอ้อมกอดของเย่เม่ย แรงระเบิดกระแทกพวกเขาให้กระเด็นออกไป ขอบเขตความเสียหายไม่สามารถระบุได้ จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย ในสายตาของจวินอู๋เสียมีเพียงแสงสว่างจ้าจากการระเบิดเท่านั้น!
การระเบิดตัวเองของเหรินหวงส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่พวกคนชุดดำที่อยู่ข้างหน้าเขา แต่ถึงกระนั้น แรงระเบิดก็รุนแรงมากจนพุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง โดนแม้แต่คนที่เขาพยายามจะปกป้อง!
เย่เม่ยไม่รู้ว่าเขากระเด็นไปไกลแค่ไหน แต่ขณะที่อยู่กลางอากาศ เขาได้เตรียมตัวและหันร่างของตัวเองให้เป็นเบาะรองรับนางจากการตกจากที่สูง จวินอู๋เสียเป็นเหมือนเทียนที่ใกล้ดับ แรงกระแทกจากการระเบิดรุนแรงจึงทำให้นางหมดสติไป……
………..
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร จวินอู๋เสียฟื้นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งตัว มันทำให้นางรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นเหมือนความฝัน แต่ก็ยังดูเหมือนจริงมากเช่นกัน
“คุณหนู” นางได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างๆ
จวินอู๋เสียรวบรวมกำลังและเบนสายตาไปมอง นางอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เห็นเพียงกองไฟที่ส่องแสงให้มองเห็นรอบด้านอย่างสลัวๆเท่านั้น
ร่างหนึ่งยืนอยู่ข้างๆนาง และทำให้นางตะลึงงันไปครู่นึง แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใคร ใจของนางก็ดิ่งวูบลงทันที
“คุณหนู” เย่ฉาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เย่กูที่อยู่ข้างๆเขาก็ทำเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนก้มหน้าลงอย่างเงียบงัน
“คุณหนู พวกเรามารับคุณหนูขอรับ” เย่ฉารออยู่นาน เมื่อเห็นว่าจวินอู๋เสียไม่พูดอะไร เขาก็เงยหน้าขึ้นอย่างลังเล แต่สิ่งที่เห็นคือดวงตาอันแดงก่ำของนางที่ดูเหมือนจะถามว่าทำไมพวกเขาถึงมาเอาป่านนี้
เย่ฉารู้สึกเหมือนลำคอถูกไฟเผา เขาก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตากับนาง
“คุณหนู ที่พวกเราไม่ได้มาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เพราะพวกเรากลัวตาย แต่เพราะนายท่านเจว๋มอบหมายงานให้พวกเราสามอย่าง พวกเราสามคนไม่สามารถขัดคำสั่งนายท่านได้ ถ้าคุณหนูต้องการจะกล่าวโทษ ข้ายินดีรับโทษทุกอย่าง ขอแค่คุณหนูดูแลตัวเองด้วยขอรับ!” เย่ฉาฝืนพูดทั้งหมดนี้ด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง มีเพียงหมัดที่กำแน่นของเขาเท่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงความคับแค้นและไม่เต็มใจของเขา
จวินอู๋เสียนิ่งเงียบ นางแค่มองพวกเขาอย่างเย็นชา
เย่กูลุกขึ้นยืนและพูดว่า “คุณหนู นายท่านเจว๋เลือกเสียสละตัวเอง ไม่ใช่เพราะพ่ายแพ้อาณาจักรบน นายท่านเจว๋ได้เตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้ว ขอให้คุณหนูดำเนินการต่อแทนนายท่านด้วยขอรับ!”
คลื่นความร้อนพุ่งออกมาจากร่างของเหรินหวง ราวกับพลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า!
จวินอู๋เสียฟื้นคืนสติขึ้นมา นางลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง เย่เม่ยกำลังอุ้มนางหลบหนี เมื่อนางลืมตาขึ้นก็เห็นด้านหลังที่เหยียดตรงยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางสายลมที่ส่งเสียงหวีดหวิว ขวางกั้นพวกคนชุดดำทั้งหมดไม่ให้ก้าวไปข้างหน้าได้อีก
“อาจารย์ปู่……”
ตูม!!
เสียงระเบิดดังกึกก้องกลบคำพูดของจวินอู๋เสีย แสงสว่างจ้าระเบิดจากจุดที่เหรินหวงยืนอยู่ คลื่นกระแทกอันรุนแรงกลืนกินพวกคนชุดดำที่พยายามหนี ในชั่วพริบตานั้น แม้แต่คนของวิหารหยกวิญญาณและเย่เม่ยที่อยู่ข้างหลังเหรินหวงก็กระเด็นลอยออกไป!
แรงระเบิดทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวและแสงสว่างเจิดจ้ากลืนกินทุกสิ่งรอบตัว ในเวลานี้ สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงเถ้าถ่านและควันที่กระจายไปทั่ว……
จวินอู๋เสียมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้าง นางถูกปกป้องอยู่ในอ้อมกอดของเย่เม่ย แรงระเบิดกระแทกพวกเขาให้กระเด็นออกไป ขอบเขตความเสียหายไม่สามารถระบุได้ จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย ในสายตาของจวินอู๋เสียมีเพียงแสงสว่างจ้าจากการระเบิดเท่านั้น!
การระเบิดตัวเองของเหรินหวงส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่พวกคนชุดดำที่อยู่ข้างหน้าเขา แต่ถึงกระนั้น แรงระเบิดก็รุนแรงมากจนพุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง โดนแม้แต่คนที่เขาพยายามจะปกป้อง!
เย่เม่ยไม่รู้ว่าเขากระเด็นไปไกลแค่ไหน แต่ขณะที่อยู่กลางอากาศ เขาได้เตรียมตัวและหันร่างของตัวเองให้เป็นเบาะรองรับนางจากการตกจากที่สูง จวินอู๋เสียเป็นเหมือนเทียนที่ใกล้ดับ แรงกระแทกจากการระเบิดรุนแรงจึงทำให้นางหมดสติไป……
………..
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร จวินอู๋เสียฟื้นขึ้นมาพร้อมความรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งตัว มันทำให้นางรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นเหมือนความฝัน แต่ก็ยังดูเหมือนจริงมากเช่นกัน
“คุณหนู” นางได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างๆ
จวินอู๋เสียรวบรวมกำลังและเบนสายตาไปมอง นางอยู่ท่ามกลางความมืดมิด เห็นเพียงกองไฟที่ส่องแสงให้มองเห็นรอบด้านอย่างสลัวๆเท่านั้น
ร่างหนึ่งยืนอยู่ข้างๆนาง และทำให้นางตะลึงงันไปครู่นึง แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใคร ใจของนางก็ดิ่งวูบลงทันที
“คุณหนู” เย่ฉาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เย่กูที่อยู่ข้างๆเขาก็ทำเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนก้มหน้าลงอย่างเงียบงัน
“คุณหนู พวกเรามารับคุณหนูขอรับ” เย่ฉารออยู่นาน เมื่อเห็นว่าจวินอู๋เสียไม่พูดอะไร เขาก็เงยหน้าขึ้นอย่างลังเล แต่สิ่งที่เห็นคือดวงตาอันแดงก่ำของนางที่ดูเหมือนจะถามว่าทำไมพวกเขาถึงมาเอาป่านนี้
เย่ฉารู้สึกเหมือนลำคอถูกไฟเผา เขาก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตากับนาง
“คุณหนู ที่พวกเราไม่ได้มาก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เพราะพวกเรากลัวตาย แต่เพราะนายท่านเจว๋มอบหมายงานให้พวกเราสามอย่าง พวกเราสามคนไม่สามารถขัดคำสั่งนายท่านได้ ถ้าคุณหนูต้องการจะกล่าวโทษ ข้ายินดีรับโทษทุกอย่าง ขอแค่คุณหนูดูแลตัวเองด้วยขอรับ!” เย่ฉาฝืนพูดทั้งหมดนี้ด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง มีเพียงหมัดที่กำแน่นของเขาเท่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงความคับแค้นและไม่เต็มใจของเขา
จวินอู๋เสียนิ่งเงียบ นางแค่มองพวกเขาอย่างเย็นชา
เย่กูลุกขึ้นยืนและพูดว่า “คุณหนู นายท่านเจว๋เลือกเสียสละตัวเอง ไม่ใช่เพราะพ่ายแพ้อาณาจักรบน นายท่านเจว๋ได้เตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้ว ขอให้คุณหนูดำเนินการต่อแทนนายท่านด้วยขอรับ!”