มีถ้ำเล็กๆซ่อนอยู่หลังน้ำตกแห่งนั้น เมื่อชายหนุ่มเข้าไปข้างใน มีชายหนุ่มอีก 7-8 คนที่อายุใกล้เคียงกับเขา พวกเขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเก่าๆขาดๆ ใบหน้าสกปรกมอมแมม แต่สายตาของทุกคนคมกริบราวใบมีด ในหมู่พวกเขามีชายที่ดูสง่างามแต่งกายด้วยชุดสีฟ้ายืนเอามือไพล่หลัง เมื่อชายหนุ่มเห็นชายคนนั้น เขาก็คุกเข่าลงทันที
“ปรมาจารย์กู้”
ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นกู้หลีเชิงแห่งสำนักวายุประจิม ผู้คิดค้นวิชารักษาวิญญาณ
คนที่ควรอยู่ในอาณาจักรล่างได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างลึกลับในอาณาจักรกลาง
แม้ว่าจะผ่านไปห้าปีแล้ว แต่กาลเวลาก็ไม่ทิ้งร่องรอยไว้บนใบหน้าของเขาเลย เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น ใบหน้าที่อ่อนโยนของเขาดูแข็งแกร่งและเด็ดขาดมากขึ้น เขามองคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาแล้วพยักหน้าเล็กน้อย
“เป็นยังไง? พวกเจ้าเจออะไรบ้าง?” กู้หลีเชิงถาม
“ข้าพบว่าพวกเขากำลังสร้างโทเทมที่กลางวิหารตะวันตก แต่มันใหญ่กว่าในรูปที่ประมุขวิหารหยกวิญญาณให้ไว้มากขอรับ” ชายหนุ่มที่เพิ่งมาถึงรายงานทันที
คนที่อยู่ในถ้ำล้วนเป็นคนของกองทัพรุ่ยหลิน เมื่อห้าปีที่แล้ว การเปลี่ยนแปลงในอาณาจักรกลางได้เริ่มต้นขึ้นและเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ จดหมายของจวินอู๋เสียก่อให้เกิดความปั่นป่วนโกลาหลขึ้นในอาณาจักรล่าง ในตอนที่พวกเฉียวฉู่เร่งเดินทางไปที่อาณาจักรกลางพร้อมกำลังเสริม พวกเขาก็พบว่าพวกเขามาช้าเกินไป
เหรินหวงเสียสละตัวเอง จวินอู๋เหยาถูกจับ เยี่ยนปู้กุยเสียชีวิตในการต่อสู้ จวินอู๋เสียหายตัวไป และวิหารหยกวิญญาณมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ซูหย่า เทียนเจ๋อ และประมุขวิหารหยกวิญญาณได้รับบาดเจ็บสาหัส ฉูหลิงเย่และคนอื่นๆได้นำคนออกค้นหาจวินอู๋เสียอยู่ครึ่งปี แต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ พวกเขาไม่เคยยอมแพ้เลยสักครั้ง แต่ในเวลานั้นเก้าอารามเริ่มรวมอำนาจ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า คนจากอาณาจักรล่างจึงทำได้แค่รวบรวมกองกำลังและออกค้นหาจวินอู๋เสียอย่างลับๆต่อไป
ไม่มีใครคิดว่าการค้นหาจะกินเวลามาถึงห้าปี
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา อาณาจักรกลางได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เก้าอารามเข้าควบคุมอาณาจักรกลางอย่างสมบูรณ์ หลังจากประมุขวิหารหยกวิญญาณถ่ายทอดการตัดสินใจของจวินอู๋เสียให้ฉูหลิงเย่ นางก็พาพวกเขาไปตั้งรกรากในอาณาจักรล่างทันที พวกเขาทำได้เพียงค้นหาจวินอู๋เสียในอาณาจักรกลางอย่างลับๆต่อไป แม้ว่าเวลาจะผ่านไปห้าปีแล้ว แต่ไม่มีวันใดที่พวกเขาหยุดตามหานาง ในเวลาเดียวกัน เก้าอารามก็เริ่มเกณฑ์คนไปสร้างวิหาร
ฉูหลิงเย่ได้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเก้าอารามกับอาณาจักรบนจากประมุขวิหารหยกวิญญาณ การก่อสร้างวิหารเหล่านี้มีแนวโน้มสูงที่จะเกี่ยวข้องกับการบูชายัญเลือดสามอาณาจักร ดังนั้น ในขณะที่ค้นหาจวินอู๋เสีย พวกเขาก็ส่งคนแทรกซึมเข้าไปในสถานที่ก่อสร้างเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของอาณาจักรบน
กู้หลีเชิงได้มาที่อาณาจักรกลางเช่นกัน วิชารักษาวิญญาณของเขาทำให้เขาได้รับความโปรดปรานจากเก้าอารามได้สำเร็จและมีสถานะที่ดีระดับหนึ่ง ดูภายนอกเหมือนเขายอมจำนนต่อเก้าอาราม แต่ความจริงแล้วเขาเป็นจุดหลักในการติดต่อของกองทัพรุ่ยหลินในอาณาจักรกลาง รับผิดชอบการติดต่อสายลับของกองทัพรุ่ยหลินพร้อมกับรวบรวมข้อมูลทั้งหมด
“งั้นก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่า อาณาจักรบนเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว” เขาหรี่ตา แม้ว่าเขาจะแทรกซึมเข้าไปในเก้าอารามได้สำเร็จ แต่ตัวตนของเขายังไม่มีความสำคัญมากพอ ข้อมูลที่เข้าถึงได้จึงเป็นข้อมูลที่ไม่มีความสำคัญอะไร สำหรับเบาะแสเพิ่มเติม เก้าอารามจะส่งให้คนที่รับผิดชอบการสร้างวิหาร กู้หลีเชิงเคยพยายามติดต่อพวกเขา แต่พบว่าคนพวกนั้นคุยด้วยไม่ง่ายเลย
“ปรมาจารย์กู้”
ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นกู้หลีเชิงแห่งสำนักวายุประจิม ผู้คิดค้นวิชารักษาวิญญาณ
คนที่ควรอยู่ในอาณาจักรล่างได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างลึกลับในอาณาจักรกลาง
แม้ว่าจะผ่านไปห้าปีแล้ว แต่กาลเวลาก็ไม่ทิ้งร่องรอยไว้บนใบหน้าของเขาเลย เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนิดหน่อยเท่านั้น ใบหน้าที่อ่อนโยนของเขาดูแข็งแกร่งและเด็ดขาดมากขึ้น เขามองคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาแล้วพยักหน้าเล็กน้อย
“เป็นยังไง? พวกเจ้าเจออะไรบ้าง?” กู้หลีเชิงถาม
“ข้าพบว่าพวกเขากำลังสร้างโทเทมที่กลางวิหารตะวันตก แต่มันใหญ่กว่าในรูปที่ประมุขวิหารหยกวิญญาณให้ไว้มากขอรับ” ชายหนุ่มที่เพิ่งมาถึงรายงานทันที
คนที่อยู่ในถ้ำล้วนเป็นคนของกองทัพรุ่ยหลิน เมื่อห้าปีที่แล้ว การเปลี่ยนแปลงในอาณาจักรกลางได้เริ่มต้นขึ้นและเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ จดหมายของจวินอู๋เสียก่อให้เกิดความปั่นป่วนโกลาหลขึ้นในอาณาจักรล่าง ในตอนที่พวกเฉียวฉู่เร่งเดินทางไปที่อาณาจักรกลางพร้อมกำลังเสริม พวกเขาก็พบว่าพวกเขามาช้าเกินไป
เหรินหวงเสียสละตัวเอง จวินอู๋เหยาถูกจับ เยี่ยนปู้กุยเสียชีวิตในการต่อสู้ จวินอู๋เสียหายตัวไป และวิหารหยกวิญญาณมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ซูหย่า เทียนเจ๋อ และประมุขวิหารหยกวิญญาณได้รับบาดเจ็บสาหัส ฉูหลิงเย่และคนอื่นๆได้นำคนออกค้นหาจวินอู๋เสียอยู่ครึ่งปี แต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ พวกเขาไม่เคยยอมแพ้เลยสักครั้ง แต่ในเวลานั้นเก้าอารามเริ่มรวมอำนาจ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า คนจากอาณาจักรล่างจึงทำได้แค่รวบรวมกองกำลังและออกค้นหาจวินอู๋เสียอย่างลับๆต่อไป
ไม่มีใครคิดว่าการค้นหาจะกินเวลามาถึงห้าปี
ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา อาณาจักรกลางได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เก้าอารามเข้าควบคุมอาณาจักรกลางอย่างสมบูรณ์ หลังจากประมุขวิหารหยกวิญญาณถ่ายทอดการตัดสินใจของจวินอู๋เสียให้ฉูหลิงเย่ นางก็พาพวกเขาไปตั้งรกรากในอาณาจักรล่างทันที พวกเขาทำได้เพียงค้นหาจวินอู๋เสียในอาณาจักรกลางอย่างลับๆต่อไป แม้ว่าเวลาจะผ่านไปห้าปีแล้ว แต่ไม่มีวันใดที่พวกเขาหยุดตามหานาง ในเวลาเดียวกัน เก้าอารามก็เริ่มเกณฑ์คนไปสร้างวิหาร
ฉูหลิงเย่ได้รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเก้าอารามกับอาณาจักรบนจากประมุขวิหารหยกวิญญาณ การก่อสร้างวิหารเหล่านี้มีแนวโน้มสูงที่จะเกี่ยวข้องกับการบูชายัญเลือดสามอาณาจักร ดังนั้น ในขณะที่ค้นหาจวินอู๋เสีย พวกเขาก็ส่งคนแทรกซึมเข้าไปในสถานที่ก่อสร้างเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของอาณาจักรบน
กู้หลีเชิงได้มาที่อาณาจักรกลางเช่นกัน วิชารักษาวิญญาณของเขาทำให้เขาได้รับความโปรดปรานจากเก้าอารามได้สำเร็จและมีสถานะที่ดีระดับหนึ่ง ดูภายนอกเหมือนเขายอมจำนนต่อเก้าอาราม แต่ความจริงแล้วเขาเป็นจุดหลักในการติดต่อของกองทัพรุ่ยหลินในอาณาจักรกลาง รับผิดชอบการติดต่อสายลับของกองทัพรุ่ยหลินพร้อมกับรวบรวมข้อมูลทั้งหมด
“งั้นก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่า อาณาจักรบนเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว” เขาหรี่ตา แม้ว่าเขาจะแทรกซึมเข้าไปในเก้าอารามได้สำเร็จ แต่ตัวตนของเขายังไม่มีความสำคัญมากพอ ข้อมูลที่เข้าถึงได้จึงเป็นข้อมูลที่ไม่มีความสำคัญอะไร สำหรับเบาะแสเพิ่มเติม เก้าอารามจะส่งให้คนที่รับผิดชอบการสร้างวิหาร กู้หลีเชิงเคยพยายามติดต่อพวกเขา แต่พบว่าคนพวกนั้นคุยด้วยไม่ง่ายเลย