ไฟเผาไหม้สำนักธาราเมฆถล่มลง แต่มันได้จุดไฟในหัวใจของทุกคนขึ้นมา พวกเขาตั้งตารอวันที่พวกเขาสามารถแก้แค้นได้
“ผู้อาวุโสไป๋สวี่ไปที่อาณาจักรล่างกับพวกเราไหม? ท่านเก่งกาจด้านการแพทย์ ดีเลยท่านจะได้ไปสอนพวกหมอของอาณาจักรล่าง” หรงรั่วยิ้ม นางมองไป๋สวี่และเชิญเขาให้ไปด้วยกัน
ไป๋สวี่ได้ยินบทสนทนาระหว่างจวินอู๋เสียและหนานกงเล่ยแล้ว และเข้าใจว่าพวกเขาตั้งใจจะดักโจมตีคนของอาณาจักรบนในอาณาจักรล่าง เพื่อที่จะได้เห็นการแก้แค้นให้เหรินหวง เขาจึงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการแพทย์……
“เจ้าไม่ต้องปลอบข้า เทียบกับจวินอู๋เสียแล้ว ทักษะด้านการแพทย์ของข้าด้อยกว่านางมาก” ไป๋สวี่หัวเราะเบาๆ ในฐานะที่เป็นหมอเทวดาของอาณาจักรกลาง เขาเคยคิดว่าทักษะด้านการแพทย์ของตัวเองไม่มีใครในโลกเทียบได้แล้ว แต่หลังจากได้พบจวินอู๋เสีย เขาก็รู้ว่าเขาเป็นแค่กบในกะลาเท่านั้น
“เสี่ยวเสียเป็นปีศาจ อย่าไปเทียบกับนางเลย” เฉียวฉู่พูดแทรก
จวินอู๋เสียไม่สนใจคำพูดของพวกเพื่อนๆ นางรู้ว่าพวกเขาพูดเพื่อปลอบไป๋สวี่
“เสี่ยวเสีย เราจะออกเดินทางกลับอาณาจักรล่างเมื่อไหร่?” ฮัวเหยาขี่ม้าเข้ามาข้างๆนาง เส้นทางที่พวกเขามุ่งไปในตอนนี้คือทางไปอาณาจักรแห่งความมืด ไม่ใช่อาณาจักรล่าง
“ข้าต้องกลับไปจัดการอะไรบางอย่างที่อาณาจักรแห่งความมืดก่อน”
ฮัวเหยาสบตากับฟ่านจั๋วที่อยู่ข้างๆ พวกเขาต่างมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว
สิ่งที่จวินอู๋เสียต้องจัดการน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของดินแดนแห่งวิญญาณ
ขณะที่เดินทางกลับไปยังอาณาจักรแห่งความมืด ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยเนื่องจากต่อสู้มาทั้งวัน เมื่อกลับมาถึงอาณาจักรแห่งความมืดพร้อมชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ กองทัพราตรีไม่ได้จัดงานเฉลิมฉลองใดๆ ทุกคนต่างกลับบ้านไปพักผ่อน
เมื่อจวินอู๋เสียมาถึงทางเข้าวัง คนที่มาต้อนรับก็ทำให้นางต้องขมวดคิ้ว
คนผู้นั้นเป็นหนึ่งในสามคนที่ส่งมาจากดินแดนแห่งวิญญาณ – ซือถูเหิง ในสามคนนี้ เขาเป็นคนที่กองทัพราตรีไม่ชอบมากที่สุด
เย่กูเดินอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสีย เมื่อเห็นซือถูเหิง สีหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นไม่น่าดูอย่างยิ่ง แต่สำหรับคนอื่นๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอซือถูเหิง พวกเขาพักอยู่ที่อาณาจักรแห่งความมืดมาครึ่งเดือน ได้พบกับหลงจิ่วและฉินเกอแล้ว แต่สำหรับซือถูเหิง พวกเขาเคยได้ยินแต่ชื่อ แต่ไม่เจอตัวจริง
ซือถูเหิงดูเหมือนอายุประมาณ 28 – 29 ปี หน้าตาดีแต่ดูเชยไปหน่อย ดวงตาสีเทาดูเหมือนรังเกียจเหยียดหยามทุกอย่างบนโลกรวมกับสีหน้าตายด้านแล้ว เวลาที่ผู้คนมองมาที่เขาก็จะอดรู้สึกอึดอัดไม่ได้
สายตาของซือถูเหิงจับจ้องอยู่ที่จวินอู๋เสียเท่านั้น ไม่สนใจคนที่อยู่ข้างหลังนางเลย ทำราวกับพวกเขาไม่มีตัวตน เหมือนพวกเขาเป็นเพียงอากาศ
“ได้ยินว่าเจ้าจะไปที่อาณาจักรล่าง?” ซือถูเหิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกระด้างราวกับกำลังสอบสวน
“ใช่” จวินอู๋เสียตอบตามตรง
“เจ้าไม่ได้ลืมข้อตกลงของเราใช่ไหม? เจ้าผัดวันประกันพรุ่งมาตลอด คิดจะทำอะไรกันแน่?” ซือถูเหิงพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ การออกไปข้างนอกบ่อยๆในช่วงนี้ของจวินอู๋เสียทำให้เขาไม่พอใจมานานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเกอห้ามไว้ เขาคงออกไปตามนางถึงที่แล้ว ยังดีที่ไม่มีอะไรผิดพลาด ที่ออกไปก่อนหน้านี้ก็ช่างเถอะ แต่นี่นางยังจะไปที่อาณาจักรล่างอีก!
“ไม่ได้ลืม ข้าจำเป็นต้องไปที่อาณาจักรล่าง ข้ายังจำข้อตกลงได้ วันนี้ข้าถึงกลับมาบอกให้พวกเจ้าเตรียมตัวไง พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางไปที่อาณาจักรล่างด้วยกัน” จวินอู๋เสียมองซือถูเหิงด้วยสายตาที่ไม่ต้อยต่ำไม่สูงส่ง
“ผู้อาวุโสไป๋สวี่ไปที่อาณาจักรล่างกับพวกเราไหม? ท่านเก่งกาจด้านการแพทย์ ดีเลยท่านจะได้ไปสอนพวกหมอของอาณาจักรล่าง” หรงรั่วยิ้ม นางมองไป๋สวี่และเชิญเขาให้ไปด้วยกัน
ไป๋สวี่ได้ยินบทสนทนาระหว่างจวินอู๋เสียและหนานกงเล่ยแล้ว และเข้าใจว่าพวกเขาตั้งใจจะดักโจมตีคนของอาณาจักรบนในอาณาจักรล่าง เพื่อที่จะได้เห็นการแก้แค้นให้เหรินหวง เขาจึงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการแพทย์……
“เจ้าไม่ต้องปลอบข้า เทียบกับจวินอู๋เสียแล้ว ทักษะด้านการแพทย์ของข้าด้อยกว่านางมาก” ไป๋สวี่หัวเราะเบาๆ ในฐานะที่เป็นหมอเทวดาของอาณาจักรกลาง เขาเคยคิดว่าทักษะด้านการแพทย์ของตัวเองไม่มีใครในโลกเทียบได้แล้ว แต่หลังจากได้พบจวินอู๋เสีย เขาก็รู้ว่าเขาเป็นแค่กบในกะลาเท่านั้น
“เสี่ยวเสียเป็นปีศาจ อย่าไปเทียบกับนางเลย” เฉียวฉู่พูดแทรก
จวินอู๋เสียไม่สนใจคำพูดของพวกเพื่อนๆ นางรู้ว่าพวกเขาพูดเพื่อปลอบไป๋สวี่
“เสี่ยวเสีย เราจะออกเดินทางกลับอาณาจักรล่างเมื่อไหร่?” ฮัวเหยาขี่ม้าเข้ามาข้างๆนาง เส้นทางที่พวกเขามุ่งไปในตอนนี้คือทางไปอาณาจักรแห่งความมืด ไม่ใช่อาณาจักรล่าง
“ข้าต้องกลับไปจัดการอะไรบางอย่างที่อาณาจักรแห่งความมืดก่อน”
ฮัวเหยาสบตากับฟ่านจั๋วที่อยู่ข้างๆ พวกเขาต่างมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว
สิ่งที่จวินอู๋เสียต้องจัดการน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของดินแดนแห่งวิญญาณ
ขณะที่เดินทางกลับไปยังอาณาจักรแห่งความมืด ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยเนื่องจากต่อสู้มาทั้งวัน เมื่อกลับมาถึงอาณาจักรแห่งความมืดพร้อมชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ กองทัพราตรีไม่ได้จัดงานเฉลิมฉลองใดๆ ทุกคนต่างกลับบ้านไปพักผ่อน
เมื่อจวินอู๋เสียมาถึงทางเข้าวัง คนที่มาต้อนรับก็ทำให้นางต้องขมวดคิ้ว
คนผู้นั้นเป็นหนึ่งในสามคนที่ส่งมาจากดินแดนแห่งวิญญาณ – ซือถูเหิง ในสามคนนี้ เขาเป็นคนที่กองทัพราตรีไม่ชอบมากที่สุด
เย่กูเดินอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสีย เมื่อเห็นซือถูเหิง สีหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นไม่น่าดูอย่างยิ่ง แต่สำหรับคนอื่นๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอซือถูเหิง พวกเขาพักอยู่ที่อาณาจักรแห่งความมืดมาครึ่งเดือน ได้พบกับหลงจิ่วและฉินเกอแล้ว แต่สำหรับซือถูเหิง พวกเขาเคยได้ยินแต่ชื่อ แต่ไม่เจอตัวจริง
ซือถูเหิงดูเหมือนอายุประมาณ 28 – 29 ปี หน้าตาดีแต่ดูเชยไปหน่อย ดวงตาสีเทาดูเหมือนรังเกียจเหยียดหยามทุกอย่างบนโลกรวมกับสีหน้าตายด้านแล้ว เวลาที่ผู้คนมองมาที่เขาก็จะอดรู้สึกอึดอัดไม่ได้
สายตาของซือถูเหิงจับจ้องอยู่ที่จวินอู๋เสียเท่านั้น ไม่สนใจคนที่อยู่ข้างหลังนางเลย ทำราวกับพวกเขาไม่มีตัวตน เหมือนพวกเขาเป็นเพียงอากาศ
“ได้ยินว่าเจ้าจะไปที่อาณาจักรล่าง?” ซือถูเหิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกระด้างราวกับกำลังสอบสวน
“ใช่” จวินอู๋เสียตอบตามตรง
“เจ้าไม่ได้ลืมข้อตกลงของเราใช่ไหม? เจ้าผัดวันประกันพรุ่งมาตลอด คิดจะทำอะไรกันแน่?” ซือถูเหิงพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ การออกไปข้างนอกบ่อยๆในช่วงนี้ของจวินอู๋เสียทำให้เขาไม่พอใจมานานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะฉินเกอห้ามไว้ เขาคงออกไปตามนางถึงที่แล้ว ยังดีที่ไม่มีอะไรผิดพลาด ที่ออกไปก่อนหน้านี้ก็ช่างเถอะ แต่นี่นางยังจะไปที่อาณาจักรล่างอีก!
“ไม่ได้ลืม ข้าจำเป็นต้องไปที่อาณาจักรล่าง ข้ายังจำข้อตกลงได้ วันนี้ข้าถึงกลับมาบอกให้พวกเจ้าเตรียมตัวไง พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางไปที่อาณาจักรล่างด้วยกัน” จวินอู๋เสียมองซือถูเหิงด้วยสายตาที่ไม่ต้อยต่ำไม่สูงส่ง