เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ทุกคนเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางไปโลกวิญญาณ ก่อนเดินทางจวินอู๋เสียเรียกเย่กู เย่ฉา และเย่เม่ยมาทีละคนและพูดคุยกับพวกเขาแต่ละคนอยู่นานในห้องของนาง แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน รู้เพียงว่าหลังจากจวินอู๋เสียออกจากวังหลินอ๋อง ทั้งสามคนก็นำกองทัพราตรีจากไปเช่นกัน ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาไปที่ไหน
แม้ว่าจวินชิงจะอยากรู้ แต่เขารู้ว่ามันไม่เหมาะที่เขาจะรู้เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกองทัพราตรีมากเกินไป จึงพูดแค่ถ้าต้องการให้ร่วมมือ กองทัพรุ่ยหลินจะทำอย่างเต็มที่
ในกระท่อมไม้เล็กๆระหว่างหุบเขา พวกจวินอู๋เสียปรากฏตัวขึ้นและทำให้พวกทหารยามจากกองทัพรุ่ยหลินตื่นเต้นอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะระเบียบวินัยที่เข้มงวดในการควบคุมตัวเองของกองทัพรุ่ยหลิน พวกเขาคงวิ่งไปที่ด้านหน้าของจวินอู๋เสียแล้ว แต่พวกเขาทำได้เพียงมองนางด้วยสายตาตื่นเต้นและรอยยิ้มสดใสเบิกบาน
คุณหนู ทหารคนหนึ่งทักทายนางด้วยเสียงที่สั่นเพราะความตื่นเต้น
จวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อย
จวินชิงมาที่นี่กับพวกเขาด้วย แต่ไม่ได้จะเข้าไปที่โลกวิญญาณกับพวกเขา
หลังจากมาถึงกระท่อมไม้หลังเล็ก ฝีเท้าของจวินชิงก็หยุดลงชั่วครู่พร้อมกับที่หันไปมองจวินอู๋เสีย
เสี่ยวเสีย ครั้งนี้อาจะไม่ไปกับเจ้านะ ในเมื่อเจ้าต้องการทำสงครามในอาณาจักรล่าง ช่วงนี้ข้าจึงต้องเตรียมการกับฉูหลิงเย่ เข้าไปในโลกวิญญาณก็ระวังตัวด้วย คำพูดของจวินชิงอาจจะฟังดูเรียบง่ายธรรมดา แต่ไม่มีคำไหนที่ไม่แสดงให้เห็นถึงความห่วงใย
โลกวิญญาณได้ร่วมมือกับอาณาจักรล่างแล้ว แต่เขาก็ยังอดเตือนจวินอู๋เสียไม่ได้ จวินอู๋เสียเข้าใจความรู้สึกของเขาและพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
ถ้าเจอเรื่องร้ายอะไร จำคำที่เจ้าสัญญากับท่านปู่เจ้าไว้ให้ดี ห้ามหายตัวไปอีก จวินชิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
พวกเขาทนไม่ได้แล้วหากต้องแยกจากกันอีกห้าปี
จวินอู๋เสียส่งเสียง อืม เบาๆ
ท่านอาเล็กวางใจเถอะ พวกเราจะดูแลเสี่ยวเสียไม่ให้คลาดสายตาเลย รับรองว่าเข้าไปทางไหน เราจะพานางกลับมาทางนั้น เฉียวฉู่ตบอกรับรองอย่างแข็งขัน
จวินชิงทำเป็นเคร่งเครียดต่อไม่ได้เมื่อเห็นการกระทำของเฉียวฉู่ เขาได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนใจและพยักหน้า เช่นนั้นข้าคงต้องรบกวนพวกเจ้าแล้ว
ท่านอาเล็กไม่ต้องสุภาพกับเราขนาดนั้น เฉียวฉู่พูดและยิ้มจนตาหยี ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เพื่อค้นหาจวินอู๋เสีย ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับวังหลินอ๋องจึงสนิทสนมกันมาก แม้แต่วิธีเรียกจวินชิงก็กลายมาเป็นสนิทสนมคุ้นเคยกันแล้ว
งั้นก็ไปเถอะ ข้าไม่รั้งพวกเจ้าไว้แล้ว จวินชิงพูด
จวินอู๋เสียมองจวินชิงอีกครั้ง จากนั้นนางก็ก้าวเข้าไปในกระท่อมไม้หลังเล็ก พวกเฉียวฉู่ก็ตามเข้าไปติดๆ ฉินเกอและหลงจิ่วพยักหน้าให้จวินชิงก่อนจะก้าวเข้าไป มีเพียงซือถูเหิงที่ทำหน้าตึงอยู่ตลอดเวลา
จวินชิงมองไปที่ซือถูเหิง พอประตูปิดเขาก็ขมวดคิ้ว ไม่รู้ทำไม แต่เขากังวลเกี่ยวกับคนที่ชื่อซือถูเหิงนี่ เขามีความรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่ามีบางอย่างแปลกๆเกี่ยวกับคนๆนี้
แต่จวินชิงก็ไม่คิดมาก เพราะเมื่อคืนนี้จวินอู๋เสียได้บอกแผนของนางแล้ว นางตั้งใจนำกองกำลังของอาณาจักรบนมาที่อาณาจักรล่างและจะใช้ผลกระทบทางธรรมชาติของอาณาจักรล่างกำราบคนของอาณาจักรบน มันจะเป็นการต่อสู้ที่ต้องตายกันไปข้างหนึ่งแตรสงครามยังไม่รู้ว่าจะดังขึ้นเมื่อใด จวินชิงไม่กล้าสะเพร่าแม้แต่น้อย และจะใช้เวลาที่เหลือในการระดมกำลังทั้งหมดของอาณาจักรล่างเพื่อเตรียมพร้อมให้เต็มที่ที่สุดสำหรับสงครามที่ใกล้เข้ามา!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฝีเท้าของจวินชิงที่กำลังเดินจากไปก็หนักแน่นมากขึ้น
ครั้งนี้พวกเขาจะต่อสู้เคียงข้างจวินอู๋เสีย!