ณ ดินแดนของเลห์แมน วิลสัน ด้านนอกของปราสาทได้รับการคุ้มกันอย่างเข้มงวด
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว รอบด้านได้มืดสนิท มีเพียงปราสาทแห่งนี้เท่านั้นที่ยังสว่างไสว
เลห์แมนได้เปลี่ยนไปใส่ชุดเกราะสีเงิน เขากำลังเช็ดทำความสะอาดดาบอย่างระมัดระวัง
ในระหว่างนั้นเขาได้ฟังรายงานของอัศวินที่ดูแลดินแดนของเขาในห้องโถง
เขาพบว่าในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่ ไม่มีการโจมตีใด ๆ ของพวกโจรเลย ดูเหมือนว่ากองโจรพวกนั้นได้แตกพ่ายไปแล้วและไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อที่นี่อีกต่อไป
ส่วนเมอร์ลินก็นั่งอยู่ไม่ไกล เขานั่งพิงพนักเก้าอี้ สีหน้าของเขาดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้มาก
“ดูเหมือนว่ากระดูกซี่โครงของผมจะไม่หักนะครับ แค่ช้ำเล็กน้อยเท่านั้น” เมอร์ลินกล่าวพลางกดเบา ๆ ตรงบริเวณซี่โครง
นี่ความอาการบาดเจ็บที่ได้รับจากการต่อสู้กับพ่อมดเจสัน เดิมทีเขาคิดว่าซี่โครงของเขาร้าว อาจจะต้องรักษาเป็นเวลาหลายเดือน แต่โชคดีที่ไม่อย่างนั้น เขาเลยพักผ่อนสักหน่อยก็จะหายดี
“ฟู่~” เมอร์ลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นเขาก็ลุกยืนขึ้นช้า ๆ และยืดตัวเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะรู้สึกเจ็บปวดอยู่แต่เขาก็สามารถออกกำลังกายแบบเบา ๆ ได้
“เมอร์ลิน ลูกหายดีรึยัง” เลห์แมนถามอย่างกังวล
“ดีขึ้นแล้วครับแต่ยังรู้สึกปวดอยู่เล็กน้อยเท่านั้น เรื่องของผมเอาไว้ก่อนเถอะครับ เรามาคุยกันดีมั้ยครับว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อดี” เมอร์ลินกล่าว เขาต้องการให้ทุกคนสนใจปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้
ตอนนี้เมืองหลวงได้ถูกควบคุมโดยศาสนจักรแล้ว แม้ว่าสถานการณ์ของเมืองแบล็กวอเตอร์จะดีขึ้นมาหน่อยเนื่องจากเมอร์ลินได้สังหารพ่อมดเจวันไป นั่นทำให้ทางศาสนจักรได้สูญเสียกำลังรบที่สำคัญไป ด้วยเหตุทำให้พวกเขาไม่อยากอยู่ที่เมืองต่อไป หากทางโบสถ์รู้เรื่องนี้เมื่อไหร่พวกเขาจะตกอยู่ในอันตรายทันที
แต่เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาจำเป็นต้องยืนยันสถานการณ์ปัจจุบันของอาณาจักรแห่งแสงเสียก่อน ถึงจะค่อยคิดแผนในขั้นต่อไป
แต่ทว่าเลห์แมนกับเมอร์ลินไม่รู้ข่าวสารใด ๆ เลย จึงทำให้พวกเขาคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
ด้วยความเงียบงันนี้ได้ทำให้บรรยากาศรอบข้างชวนให้รู้สึกอึดอัด
จู่ ๆ เมซี่ส์ก็พูดขึ้นมาว่า “กัตต์ได้บอกกับพวกเราก่อนหน้านี้ว่าศาสนจักรได้ควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของอาณาจักรแห่งแสงไปแล้ว”
เมอร์ลินพยักหน้ารับฟังอย่างเงียบ ๆ เขาก็คิดอย่างเช่นเดียวกัน เนื่องจากพวกเขาได้เตรียมตัวมาเป็นเวลานานและตอนนี้พวกเขาก็อยู่ในสถานะที่ได้เปรียบมาก หากราชวงศืไม่สามารถหยุดยั้งศาสนจักรได้ ประเทศนี้ก็จะตกอยู่ในความวุ่นวาย
จากนั้นเลห์แมนก็ได้พูดขึ้นมาด้วยเสียงอันแหบแห้ง “ดูเหมือนว่าแม้แต่ราชวงศ์ก็ไม่สามารถหยุดศาสนจักรได้และไม่มีที่ใดในอาณาแห่งแสงที่พวกเราสามารถอยู่ได้ เมอร์ลิน ลูกพอจะมีแผนอะไรบ้างมั้ย” เลห์แมนหันไปถามเมอร์ลิน
เมอร์ลินได้คิดอยู่พักหนึ่งและตอบว่า “พวกศาสนจักรที่มีกองกำลังมากมายมกาศาลที่สั่งสมมานานหลายปี ผมเกรงว่าแผนการของพวกเขาคงใกล้จะสำเร็จแล้ว หากเป็นเช่นนั้นพวกเราคงไม่สามารถอยู่ที่อาณาจักรนี้ได้อีกต่อไป เราควรจะเดินทางไปทางตะวันออกและมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรแบล็กมูน นี่เป็นทางออกเดียวของพวกเรา”
หลังจากที่เมอร์ลินพูดจบ ทุกคนก็เงียบไป
“ออกจากอาณาจักรงั้นเหรอ” เมซี่ส์กล่าวอย่างมาอย่างสับสน
เมอร์ลินเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขามีความคิดที่ไม่เหมือนคนอื่น ๆ ในครอบครัว เนื่องจากเขาไม่สนใจว่าจะอยู่ที่ไหน แต่ที่เขาต้องการไปอาณาจักรแบล็กมูนก็เพราะว่าตัวเขาเป็นพ่อมด เขาหวังว่าพ่อมดที่นั่นจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและเขารู้มาว่าพ่อมดที่นั่นมีสถานะที่สูงส่งด้วย
นอกจากที่นั่นจะปลอดภัยแล้ว เขายังสามารถเรียนศาสตร์พ่อมดเพิ่มเติมและแข็งแกร่งขึ้นได้อีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตามเมซี่ส์ พ่อบ้าน มาดามหน้าอกใหญ่ ลุงแพรตต์ หรือแม้แต่เลห์แมน พวกเขาอาศัยอยู่ในอาณาจักรแห่งแสงมาตลอดชีวิต แม้พวกเขาจะไม่ได้ศรัทธากับทางโบสถ์มากนักแต่พวกเขาก็ได้รับอิทธิพลบางอย่างจากโบสถ์มาไม่ก็ทางใดทางหนึ่งอยู่ดี
พวกเขาคงคิดว่า อาณาจักรแบล็กมูนนั้นเป็นประเทศที่น่ากลัวและชั่วร้าย
ทางด้านเลห์แมนไม่ได้พูดอะไรแต่ท่าทางของเขาได้เปลี่ยนไป ดูเหมือนว่าเขากำลังพิจารณาข้อเสนอของเมอร์ลิน
ในตระกูลวิลสันนั้น ไม่มีใครรู้จักอาณาจักรแบล็กมูนดีเท่าเขา
เขาได้เข้าร่วมสงครามครั้งใหญ่และรอดชีวิตจาก ‘โรงเชือด’ ที่โหดร้ายมาได้
การที่บอกให้ไปประเทศที่เขาเคยฆ่าฟันแบบนี้ มันก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะรับได้
“ท่านบารอนครับ กระผมมีเรื่องจะแจ้งให้ท่านทราบ”
จู่ ๆ อัศวินก็ตรงเข้ามาในห้องโถง เขาได้ก้มหัวลงและคุกเขา ก่อนจะรายงานต่อเลห์แมนด้วยความเคารพ
“ทางเราได้พบกับอัศวินจำนวนมากอยู่ด้านนอก ดูเหมือนพวกเขาจะตรงมาที่ปราสาทครับ”
“พวกมันเป็นพวกศาสนจักรรึเปล่า?” เลห์แมนถามอย่างประหลาดใจ ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปมาก
อัศวินผู้มารายงายได้ส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวว่า “เนื่องจากตอนนี้มันมืดมาก ทางเราจึงไม่ทราบว่าพวกเขาเป็นใคร ผมมาที่นี่ตามคำสั่งของท่านบารอน”
“ออกไปดูกันเถอะ”
เลห์แมนไม่สามารถนั่งเฉย ๆ ได้ เขาหยิบที่เพิ่งทำความสะอาดเสร็จและเดินตามอัศวินไปข้างนอก
“หวังว่าจะไม่ใช่พวกโบสถ์นะ…” เมอร์ลินพึมพำเบา ๆ เขามองไปข้างนอกราวกับเห็นผี
ถ้าหากเป็นพวกศาสนจักร เขาคงไม่อาจหลีกหนีการต่อสู้ได้ ตอนนี้พลังจิตของเขาฟื้นฟูขึ้นมาได้เพียงครึ่งเดียว นอกจากนี้เขาก็มีลูกยักษ์อีก 8ลูกในจี้ห้อยคอ หากเขาเจอพ่อมดแบบเดียวกับเจสัน เขาก็ไม่มั่นใจว่าพลังของเขาในตอนนี้จะจัดการพวกศาสนจักรได้
เมอร์ลินจึงตัดสินใจตามเลห์แมนไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
A Wizard’s Secret ความลับของพ่อมด – ตอนที่ 55
ตอนที่ 55
Posted by ? Views, Released on พฤศจิกายน 21, 2022
, A Wizard’s Secret ความลับของพ่อมด
Status: Ongoing
สำหรับใครก็ตามที่สามารถท่องคาถาและเสกเวทย์มนต์ได้ คน ๆ นั้นก็จะกลายเป็นพ่อมด
นั่นคือความลับความยิ่งใหญ่ที่เมอร์ลิน ผู้ซึ่งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตคาที่ได้ทะลุเข้ามาอยู่ในต่างโลกที่เต็มไปด้วยดาบและเวทมนต์
หลังจากที่เขาลืมตาตื่นขึ้นมา เขาได้รับชีวิตใหม่ในฐานะบุตรชายของขุนนาง ประจวบกับเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างเดอะเมทริกซ์ได้ติดตามเขามาด้วย
ซึ่งทำให้การร่ายเวทมนต์ของเขาง่ายดายอย่างที่เขาก็คาดไม่ถึง ด้วยข้อได้เปรียบอันมหาศาลนี้ มันจะสามารถทำให้เมอร์ลินกลายเป็นพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ได้หรือไม่?