[เข้าสู่ดินแดนแห่งมรดกหรือไม่?]
[โปรดทราบว่าคุณสามารถเลือกที่จะกลับมาหลังจากที่คุณใช้เวลาอย่างน้อย 72 ชั่วโมงที่ดินแดนแห่งมรดกได้]
“ยืนยัน!”
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ทุกครั้งที่เขาเข้าสู่ระบบ เขาจะต้องอยู่ในดินแดนแห่งมรดกเป็นเวล่ 3 วันก่อนที่จะออกจากระบบใช่มั้ย?
แน่นอนวว่าความตายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง!
…
‘เหมืิอนที่ฉันคิด ที่เดิม’
จีเย่ลดการป้องกันของเขาลงในตอนที่มองไปที่ ‘ถ้ำที่พัก’ ที่คุ้นเคยซึ่งดูไม่มีอะไรผิดปกติ
เพียงแค่เวลาครึ่งวันบนโลก ป่าแห่งนี้ก็เริ่มขึ้นในรุ่งสาง
‘เอ๊ะะ คูลดาวน์ของพรสวรรค์การผสานลดลงนิดหน่อยงั้นเหรอ?’
นี่หมายความว่าเวลากลับไปที่โลกก็จะนับรวมคูลดาวน์ของสกิลนี้ด้วย?
จากนั้นจีเย่ก็สังเกตเห็นบางอย่าง
แน่นอนว่า นี่เป็นสิ่งที่ดี
[คุณได้พิสูจน์ความสามารถในการเอาชีวิตรอดในดินแดนแห่งมรดกโดยผ่านการทดสอบ อย่างไรก็ตามไม่ว่าตัวคนเดียวจะมีอำนาจมากแค่ไหนก็ไม่สามารถขาดการสนับสนุนจากเผ่าพันธุ์ของพวกเขาและอารยธรรมที่สร้างพวกเขาขึ้นมาได้]
[บนยอดเขา งูดำที่โหดเหี้ยมได้ยึดครองแหลางนี้เพียงแห่งเดียวและเป็นอันตรายต่อการดำรงอยู่ของการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ตอนนี้คุณได้รับมอบหมายให้กำจัดงูภายใน 10 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอันตรายมาคุกคาามอารยธรรมในดนาคตและเพื่อนร่วมสายพันธุ์ของคุณ!]
การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์?
เพื่อนร่วมสายพันธุ์ในอนาคต?
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคำพูดเหล่านี้ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญมากมายแล้ว
อันที่จริง ก่อนที่จีเย่จะเข้าสู่ดินแดนแห่งมรดก โลกก็ได้รับผลกระทบจากข้าวนี้แล้ว!
“ดินแดนแห่งมรดกจะยอมรับผู้ทดสอบมากขึ้นใช่มั้ย?”
“ใครมีวิธีการที่จะทำให้ถูกเลือกบ้าง? ฉันเสนอให้ราคาเบาะแสละหนึ่งล้าน!”
“พวกเขาจะคัดเลือกจากแนวหน้าจากอาชีพต่างๆ เหมือนชุดแรกหรือไม่? มันไม่ยุติธรรมเลย!”
“ยังไงก็ตาม อย่าเลือกฉัน ฉันรู้สึกว่าที่นั่นซ่อนโครงการใหญ่ไว้ ฉันไม่ต้องการเงิน อายุยืนยาว หรือพลังพิเศษ”
หัวข้อนี้ได้ขึ้นไปยังจุดสูงสุดก่อนที่จีเย่จะเข้าสู่ระบบ
ในขณะที่พลเรือนทั่วไปกำลังแสดงความคิดเห็นและข้อร้องเรียนที่หลากหลาย ผู้เล่นที่ไม่ได้อยู่ในดินแดนแห่งมรดกส่วนใหญ่ก็เข้าสู่ดินแดนแห่งมรดกอย่างรวดเร็ว รวมถึงผู้ที่มีอาการบาดเจ็บทางจิตใจเนื่องจากความตายด้วย
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง พวกเขาก็กัดฟันและเลือกที่จะเข้าสู่ดินแดนแห่งมรดกอีกครั้งหนึ่ง
นี่เป็นเพราะรางวัลพรสวรรค์ก่อนหน้านี้ หลายคนก็กลัวว่า ‘ภารกิจ’ นี้จะเหมือนกับการทดสอบครั้งก่อนซึ่งมีรางวัลพิเศษซ่อนอยู่!
แน่นอนว่ายังมีบางคนปฏิเสธที่จะเข้าสู่ดินแดนแห่งมรดกเนื่องจากบาดแผลทางจิตใจ!
…
โดยไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลก จีเย่เลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่ ‘ภารกิจการตั้งถิ่นฐาน’ ใหม่ของเขาอย่างเต็มที่
งูดำบนยอดเขา?
‘ฉันคิดว่าฉันควรตรวจสอบมันก่อน!’
เขาไม่รู้สึกเครียดเหมือนกับเมื่อก่อนนับตั้งแต่ที่เขารู้ว่าความตายไม่ใช่การตายจริงๆ เขาไม่กลัว ‘งูดำที่ดุร้าย’ ซึ่งอาจเป็นศัตรูที่น่ากลัวและพร้อมที่จะตรวจสอบมัน
อันที่จริง แม้ว่าเขาจะมาถึงดินแดนแห่งมรดกเป็นครั้งแรก
เขาอาจจะแปลกใจและไม่สบายใจ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกกลัวมากเกินไป!
นับตั้งแต่ที่เขาได้รับรู้เกี่ยวกับอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่คร่าชีวิตพ่อแม่ของเขา ความรู้สึกดังกล่าวก็จางหายไปในระดับหนึ่งจนถึงจุดที่หายไปหลังจากที่เขาตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยและท้าทายขีดจำกัดของเขา
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้แพทย์หญิงที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านจิตวิทยามีปฏิกิริยาแปลกๆ
พูดตามตรง ไม่ใช่ว่าจีเย่ไม่มีปัญหาทางจิตใจ แต่ปัญหาทางจิตใจของเขาค่อนข้างร้ายแรง!
อย่างไรก็ตาม ‘ปัญหาทางจิตใจ’ นี้ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นข้อได้เปรียบในดินแดนแห่งมรดก!
เนื่องจากเขาตัดสินใจที่จะปีนขึ้นไปบนภูเขา เขาจึงจำเป็นต้องเตรียมบางสิ่ง
อย่างแรกก็คือลูกศรระเบิดเพลิง
เขาได้ตั้งชื่อนี้หลังจากสร้างลูกศรสีเงินตราซิปโปขึ้นมาด้วยสกิลการผสานของเขา
แต่ก่อนหน้านี้มีปัญหาที่เขาเคยละเลย ขนาดของลูกศรที่ใหญ่มากจนทำไม่สามารถติดตั้งเข้ากับหน้าไม้ทลายดินสีทองแดงได้อีกต่อไป
[หมายเหตุจากผู้แปลไทย : จากตอนที่ 2 ที่ผมแปลผิดนะครับ ตอนนั้นจีเย่ได้ผสานลูกศรกับไฟแช็คนะครับ]
โชคดีที่จากคำอธิบาย ลูกศรนี้จำเป็นต้องไปถึงความเร็วที่กำหนดเท่านั้นเพื่อที่จะกระตุ้น ‘เปลวไฟ’!
ในกรณีฉุกเฉิน การโยนมันออกไปโดยตรงจะไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดี
หลังจากนั้นจีเย่ก็ใส่ ‘ใบมีดคู่หยกม่วง’ ที่เกือบจะโปร่งแสงที่แขนของเขา สุดท้ายเขาก็สวมชุดคลุมล่องหนของตั๊กแตนตำข้าวที่สามารถปกปิดร่างกายของเขาได้ทั้งหมด!
พูดให้ชัดเจน มันก็คือ ‘พรางตามสิ่งแวดล้อม’ แทนที่จะเป็นการมองไม่เห็น สีชุดคลุมสามารถกลมกลืนไปกลับสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติทำให้เขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งแวดล้อม
ชุดคลุมนี้เพียงอย่างเดียวก็สามารถกระตุ้นความสนใจของทหารบนโลกได้อย่างแน่นอน
ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ยินมาว่าอมีลเกิ้ลได้ลงทุนเงินจำนวนมหาศาลเพื่อทำการวิจัยเกี่ยวกับ ‘ผ้าคลุมล่องหน’ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ ชุดคลุมตัวนี้น่าจะเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ก้าวไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี!
…
หวูดดดด!
หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จีเย่ก็ผลักก้อนหินทางเข้าออกและก้าวออกจากถ้ำ
ทันทีที่เปิดถ้ำ ร่างสีขาวก็พุ่งเข้ามาหาเขาจากด้านข้าง!
“เดี๋ยววว…”
ด้วยสัญชาตญาณ เขาหลีกเลี่ยงการโจมตีและต่อยไปที่ผู้ที่โจมตีโดยใช้หมัดตั๊กแตนเจ็ดด้านโต้กลับไป
ตึ้ง!
หมัดที่เต็มไปด้วยพละกำลังปะทะเข้ากับผิวของร่างสีขาวอย่างแรง ในเวลาเดียวกันก็มีเสียงของคมมีดที่กรีดผ่านเข้ามา
‘ใบมีดปีกสีม่วง’ ที่แขนของเขาสะบัดออกไปในทันทีและเฉือนไปทั่วร่างสีขาว!
จากนั้นจีเย่ผู้ซึ่งเดิมทีเคร่งขรึมก็ตกตะลึงเมื่อเขาเห็นเป้าหมาย
‘เกิดอะไรขึ้น? ปลา!’
หลังจากโดนหมัดของเขาแล้วลอยไปไกลหลายเมตร มันก็พุ่งชนต้นไม้อย่างรุนแรง จากนั้นมันก็ตกลงกระแทกพื้นและกลิ้งอีกสองสามครั้ง สิ่งมีชีวิตที่เกือบจะถูกตัดออกเป็นสองส่วนด้วยใบมีดหยกม่วงที่แหลมคมนั้นแท้จริงก็คือปลา
สิ่งมีชีวิตนี้มีรูปลักษณ์สีขาว ปลาบินที่มีครีบเป็นปีกสองคู่ ร่างกายเหมือนใบมีดหนักประมาณ 3 กิโลกรัม!
[สังหารปลาใบมีดสี่ปีก (ระดับสามัญ อันดับ 2 พบได้ทั่วไป) ค่าประสบการณ์ที่ได้รับ : 2.]
ข้อมูลที่ปรากฏขึ้นในหัวของเขาพิสูจน์แล้วว่าแม้ว่ามันจะไม่ได้มาจากโลกอย่างชัดเจน แต่เขาก็ไม่รู้จักสายพันธุ์ที่ผิดพลาดนี้
อย่างไรก็ตาม ‘ถ้ำที่พัก’ ของเขาอยู่สูงบนเขา แต่ทำไมปลาถึงโผล่ออกมาได้?
“เอ๊ะ? สภาพแวดล้อมของภูเขาลูกนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนหรือปล่า?”
จีเย่
จีเย่มองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าประหลาดใจ
ถ้าเขาจำไม่ผิด ภูเขาที่เขาเลือกนั้นสูงเพียงสามถึงสี่ร้อยเมตรเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นเพียงเนินเขาเล็กๆ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาสามารถมองทะลุช่องว่างระหว่างต้นไม้สูงและก้อนเมฆ ยอดเขาสูงตระหง่านอยู่สูงจากทะเลอย่างน้อยหนึ่งพันเมตร ยอดเขามากกว่าครึ่งมีเมฆปกคลุมอยู่!
ถ้ำที่เดิมอยู่กลางป่าปรากฏขึ้นมาบนหน้าผาที่มีการไล่ระดับอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีกระแสที่พุ่งลงมาจากด้านบน ปลาใบมีดที่แปลกประหลาดก็มาจากมันอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้เขายังได้ยินเสียงของสัตว์ร้ายทุกชนิดที่ดังก้องไปทั่วภูเขา
เขาเข้าสู่แผนที่ใหม่งั้นเหรอ?