น้ำในทะเลสาบนั้นราวกับกระจกกำลังสะท้อนแสงจันทร์
ในศาลาที่มีรูปแกะสลักไม้โบราณและดอกไม้ ธูปส่งควันลอยขึ้นไปในอากาศในขณะที่ดนตรีบรรเลงอย่างเบาหวิว
ภายใต้นิ้วเรียวของหญิงงามในชุดสีขาวสะอาดสะอ้าน พิณสีดำขลับดูเหมือนจะทำให้แสงจันทร์บนท้องฟ้าก่อให้เกิดท่วงทำนองที่คลุมเครือ
ลมกระโชกแรงพัดไปทั่วทะเลสาบ ผมที่ยาวถึงเอวของเธอพัดตามกระแสลมและมีผมปิดบังใบหน้าของเธอไว้ ทำให้ใบหน้าที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้นภายใต้แสงจันทร์
เมื่อเผชิญหน้ากับบุคคลเช่นนี้ คำอธิบายเดียวที่สามารถใช้ได้ก็คือการทบทวนคำอธิบายที่ใช้กับผู้จัดการสาวชุดม่วงจากร้านอาหารสามพันซึ่งก็คือท่าทางที่คล้ายกับผู้เป็นอมะ!
อย่างไรก็ตามฝ่ายแรกนั้นเป็นผู้เป็นอมตะที่ลงมายังโลกมนุษย์ ในขณะที่ฝ่ายที่สองนั้นน่าจะเป็นผีอมตะ
นี่เป็นเพราะพลังงานอมตะสีขาวบริสุทธิ์นี้ซ่อนความเครียดแค้นเอาไว้!
“ปรมจารย์หนุ่ม คุณยืนฟังมานานแล้วนะ คุณไม่คิดพิณามานั่งฟังในศาลาเหรอ?”
หญิงสาวชุดขาวกล่าวออกมาเบาๆ เสียงของเธอไพเราะยิ่งกว่าเสียงพิณ แต่น้ำเสียงของเธอนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ความไม่พอใจของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนนั้นเป็นเรื่องสมเหตุสมผล
ในอดีต เมื่อคนธรรมดาได้ยินเสียงดนตรีของเธอ พวกเขาส่วนใหญ่ก็จะอดไม่ได้ที่จะพุ่งเข้าหาเธอเมื่อพวกเขาเห็นใบหน้าเธอ
อย่างไรก็ตามชายหนุ่มชุดน้ำเงินผู้ที่ปีศาจต้นไม้ให้เกลี้ยกล่อมนั้นไม่ได้ก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว เขารักษาระยะห่างและฟังเธอบรรเลงเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง
เป็นที่รู้กันดีว่าการบรรเลงพิณนั้นทำให้เจ็บนิ้ว แม้ว่าเธอจะเป็นวิญญาณ แต่การดีดพิณในขณะที่เป็นวิญญาณนั้นเป็นเรื่องที่เหนื่อยกว่าคนที่มีชีวิตจริงๆ
“โอ้ ขอโทษทีนะ!”
สีหน้าของจีเย่แข็งทื่อในขณะที่เขาดูเหมือนจะงุนงง
เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเป็นลูกสาวของเจ้าหน้าที่ทางการ ดังนั้นทักษะพิณของเธอจึงโดดเด่นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถเช่น หมากรุก พิณ การวาดภาพและการเขียนตัวอักษรในดินแดนแห่งมรดกนั้นมีความพิเศษในระดับหนึ่ง
เสียงดนตรีของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเพียงพอสำหรับคนธรรมดาที่จะดื่มด่ำกับมันจนถึงจุดที่ลงใหลไปโดยไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตามเมื่อรู้ว่านี่คือวัดหลานรั่ว จีเย่ก็อดไม่ได้ที่จะทำตัวเฉื่อยชาเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะติดตามเสียงดนตรีมาที่นี่ แต่เขาก็แอบใช้พลังของสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาเพื่อป้องกันไม่ได้ตัวเองได้รับผลกระทบจากเสียงดนตรี
พูดตามตรง สองชั่วโมงที่เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนใช้ในการดีดพิณนั้นเสียไปอย่างสูญเปล่า…
อย่างไรก็ตามสำหรับจีเย่ มันเป็นการเก็บเกี่ยวที่ยอดเยี่ยม
นี่เป็นเพราะเขาค้นพบการต้านทานเสียงดนตรีนั้นสามารถกระตุ้นความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขา ทำให้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้มาถึงจุดสูงสุดของอันดับ 3 และส่งสัญญาณว่าจะทะลวงอันดับ 4 แล้ว!
“อ๊ะ ผ้าคลุมหน้าของฉัน!”
เมื่อเห็นจีเย่เป็นแบบนี้ เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป
ทันใดนั้นเธอก็ปล่อยมือของเธอออกจากผ้าคลุมหน้าและปล่อยให้ลมพัดผ้าคลุมหน้าลอยไปด้านข้างจีเย่
ครั้งนี้ในที่สุดจีเย่ก็หยุดนิ่ง เขาเอื้อมมือไปคว้าผ้าคลุมหน้าสีขาวที่มีกลิ่นหอมจางๆ ของดอกไม้
“ขอบคุณมากปรมจารย์หนุ่ม…”
ในชั่วพริบตา มือสีขาวน้ำนมทั้งคู่และผมสีดำที่ยาวลงมาราวกับน้ำตกก็ได้มาอยู่ที่ไหลของจีเย่
เมื่อเขาหันกลับไปมอง หญิงสาวผู้ที่มาอยู่ตรงหน้าเขาก็ได้ส่งยิ้มให้เขา
ราวกับว่าดวงจันทร์บนท้องฟ้านั้นหม่นแสงลงอย่างกระทันหัน
ตามทฤษฏีแล้วใครก็ตามที่สมองทำงานได้ปกติจะพบว่าไม่ใช่เรื่องปกติที่มีหญิงสาวปรากฏในวัดร้างอย่างกะทันหัน แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนมากมายที่ตกหลุมพรางในโลกนี้
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไม
นี่เป็นเพราะทุกสิ่งบนใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าเขานั้นชวยให้หลวงใหล คนธรรมดาจะรู้สึกว่ามันยากที่จะต้านทานความงดงามเช่นนี้
“ที่นี่หนาวเกินไป เข้ามาในบ้านกับฉันสิ!”
จีเย่เอื้อมมือออกไปและอุ้มเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน เธอรู้สึกเย็นเล็กน้อยเมื่อถูกสัมผัส
ในฐานะวิญญาณ เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนนั้นมีอุณภูมิหนาวเย็นกว่าปกติ แต่เธอก็ไม่ได้ไร้การรับรู้อุณภูมิอย่างสมบูรณ์
อันที่จริงแล้วเขารู้สึกถึงน้ำหนักของเธอ เธอไม่ได้มีความรู้สึกไร้น้ำหนักเหมือนผีเลย
ในทางทฤษฏีแล้ว นักรบมีพลังชีวิตที่ทรงพลัง ผีธรรมดาจะไม่กล้าเข้ามาสิงร่างของพวกเขา แต่เห็นได้ชัดว่าผีในโลกนี้มีลักษณะพิเศษ
จีเย่จำได้ว่าในหนังสือต้นฉบับของเหลียวไจจื้ออี้ เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนจะค่อยๆ มีความรู้สึกเหมือนกับคนธรรมดาเพราะเธอมักจะมีปฏิสัมพันธ์กับคนที่มีชีวิต เธอแม้กระทั่งให้เกิดเนิดลูกชาย
เป็นไปได้มั้ยว่าโลกนี้จะพิจารณาถึงประเด็นนี้แล้ว?
‘เห้อ ตอนแรกฉันคิดว่าเขามีความอดทนทางจิตใจและเป็นพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม!’
‘ฉันไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะไม่สามารถต้านทานเสน่ห์ของหญิงสาวคนนี้ได้’
‘ลืมไปเถอะ ฉันไม่สนใจ ไม่ว่านายจะเป็นหรือตายก็ขึ้นอยู่กับโชคของนาย!’
หยานซีเซียผู้ที่ถือดาบทองเหลืองอยู่ในมือก็ได้ปรากฏตัวขึ้นในมุมที่ห่างไกล หลังจากเห็นฉากนี้ เขาก็ส่ายหัวด้วยความผิดหวัง
‘ลืมมันไปซะ ฉันจะไปล่าสัตว์และทำอาคารใต้แสงจันทร์’
‘อืมมม ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ? มีหมาป่าจำนวนมากและพวกมันก็ไม่ได้ตัวเล็กเลย ฉันจะล่ามันสักหนึ่งตัว มันน่าจะพอสำหรับฉันให้อยู่ได้อีกสองสามวัน!’
หลังจากนั้นหยานซีเซียก็มองไปที่ป่าสีดำ พูดให้ชัดเจนก็คือหมาป่าเทาตัวใหญ่ที่อยู่รอบวัดหลานรั่วด้วยความคิดชั่วร้าย
…
“ทำไมหลวงจีนถึงไร้หัวใจ!?”
ในวัดหลานรั่ว
มีบางอย่างที่คล้ายกันเกิดขึ้นที่ริมทะเลสาบ
หญิงสาวชุดน้ำเงินที่งดงามยืนอยู่ที่ทางเข้าห้อง สายลมพัดมาชุดที่บางของเธอในขณะที่เธอแสดงสีหน้าเสียใจ
“ออกไป ฉันไม่ชอบผู้หญิง!”
เมื่อได้รับจากแจ้งเตือนจากจีเย่ล่วงหน้า หลู่จือเซินจึงไม่มีความคิดอื่นใด
อย่างไรก็ตามเขาไม่เก่งกาจในการแสดง ดังนั้นเขาจึงทำเพียงแค่ตะโกนให้ผีสาวที่มาเคาะประตูของเขาให้ออกไป
“ฮึ่ม”
สีหน้าของผีสาวที่มีชื่อว่าเสี่ยวฉิงได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวเพราะความโกรธ เป็นเรื่องน่าอายพอสมควรแล้วที่ปีศาจต้นไม้พันปีส่งเธอมาล่อลวงหลวงจีน แต่หลวงจีนคนนี้ไม่ได้มักมากในกาม
ส่วนอีกคน…
เสี่ยวฉิงหันกลับไปและมองไปที่เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนที่ถูกจีเย่อุ้มเข้าห้อง ประตูและหน้าต่างถูกปิดทันทีเมื่อพวกเขาเข้าไปในห้อง
ความอิจฉาทำให้ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นใบหน้าผีที่น่ากลัวซึ่งถูกปกคลุมด้วยก๊าซสีดำ ช
อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่มีทางเลือก เธอทำได้เพียงแค่กลับไปและแจ้งปีศาจต้นไม้พันปีว่าเธอล้มเหลว
…
อย่างไรก็ตามหลังจากเขาประสบความสำเร็จในการพา ‘ผีสาว’ ที่มีผู้เล่นชายนับไม่ถ้วนบนโลกเคยฝันถึงมาในห้องเขาและปิดประตูหน้าต่างทั้งหมด
จีเย่ก็โยนเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนลงบนโซฟา
“ปรมจารย์หนุ่ม คุณทำให้ฉันเจ็บนะ!”
“เสี่ยวเชี่ยน ฉันจะพูดความจริงกับเธอ เธอไม่ได้เป็นมนุษย์ใช่มั้ย?”
จีเย่มองไปที่เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนที่ไม่พอใจซึ่งนอนอยู่บนโซฟา สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมมาก
มันช่วยไม่ได้ ในฐานะคนที่มีเลือดอุ่นที่บ่มเพาะศิลปะการต่อสู้ เป็นเรื่องนากสำหรับเขาที่จะอดทนต่อไปได้ เขาทำได้เพียงแค่รักษาสีหน้าไว้
โชคดีที่เขาเป็นคนที่สามารถเอาชีวิตรอดได้อย่างง่ายดายในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลาหลายสิบวัน เขาจึงมีเจตจำนงที่แน่วแน่
“คุณ… คุณเป็นใครกันแน่? คุณรู้ชื่อฉันได้ยังไง?”
เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนผู้ที่ทรุดตัลงบนโซฟาก็ได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปในทันที ในขณะที่เธอมองจีเย่ด้วยสีหน้าตกตะลึง
“ศพบนหลังคาเป็นผลลัพธ์จากการทำงานหนักของเธอใช่มั้ย?”
จีเย่ไม่ตอบ แต่ยังคงจ้องเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ฉัน…”
สีหน้าของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนมืดลง
เธอจับมุมโซฟาด้วยนิ้วสีขาวน้ำนมของเธอและรู้สึกผิดเล็กน้อย และกลัวว่าจะถูกเปิดโปงการกระทำผิดของเธอ
“เสี่ยวเชี่ยน ฉันรู้ว่าเธอไม่มีทางเลือก ศพของเธออยู่ในเงื้อมมือของปีศาจต้นไม้พันปี ภายใต้การคุกคามของมัน เธอจึงถูกบังคับให้ทำร้านมนุษย์ อันที่จริงแล้วเธอเป็นคนที่มีจิตใจดี”
“ฉันมาที่วัดหลานรั่วเพื่อกำจัดปีศาจต้นไม้ตัวนี้เพื่อปกป้องเธอ ดังนั้นฉันหวังว่าเธอจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับมันให้ฉันฟัง”
ในที่สุดสีหน้าของจีเย่ก็เปลี่ยนไปเมื่อเขากล่าวออกมา
พูดตามตรง หากเขาไม่ได้อยู่ในสนามรบแห่งโชคชะตาและอยู่ในโลกจริงของโปเยโปโลเย เขาอาจจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเสี่ยวเชี่ยนอย่างช้าๆ เหมือนกับที่ผู้ชายส่วนใหญ่บนโลกจินตนาการ เขาจะใช้ความสามารถของเขาเพื่อทำให้เธอตกหลุมรัก
อย่างไรก็ตามนี่คือ ‘สนามรบ’ เวลาแบบนี้ทำให้เขาต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน