“พี่ชายจี มันไม่แพงไปหน่อยเหรอ!?”
ระหว่างทางไปห้องโถงแลกเปลี่ยน เจ้าอ้วนจูก็มีสีหน้าไม่พอใจ
ประสบการณ์ที่เขาได้รับจากนิยายในเว็บโนเวลนั้นไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ในทางกลับกันจีเย่ก็มองเรื่องตลกของเขา
ในท้ายที่สุด พวกเขาทั้งสองก็บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในอัตราส่วนหนึ่งต่อสามสำหรับหญ้าวิญญาณและคริสตัลทับทิม
จีเย่รู้ว่าภูเขามังกรคู่ไม่ใช่ถิ่นฐานเพียงแห่งเดียวในเมืองแห่งมนุษย์ที่ครอบครองไอเทมที่ใช้รักษาอาการบาดเจ็บทางวิญญาณ
นอกจากนี้เจ้าอ้วนก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงต้องหารือกับหญิงสาวผมสีแดงที่มีชื่อว่าคาตาร์รีน่าก่อนที่เขาจะกำหนดราคาได้อย่างสมบูรณ์
…
“นี่คือห้องโถงแลกเปลี่ยนเหรอ?”
ไม่กี่นาทีต่อมา พวกเขาก็มาถึงห้องโถงแลกเปลี่ยนและเห็นห้องทรงกลมขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วย ‘ห้องส่วนตัว’
จากทางเข้าของแต่ละห้อง เราจะสามารถเห็นคุณสมบัติของไอเทมที่จะแลกเปลี่ยน!
อย่างไรก็ตามประสาทสัมผัสทางสายตาในดินแดนแห่งมรดกนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคน
ในสายตาของจีเย่และหลู่จือเซิน ห้องโถงแลกเปลี่ยนยังคงเป็นสไตล์โบราณ
อย่างไรก็ตามในสายตาของคนอื่น บางทีสิ่งที่พวกเขาเห็นอาจเป็นสไตล์เทคโนโลยี การบ่มเพาะ และแม้กระทั่งเวทมนตร์!
“ว้าวว แม้แต่ห้องส่วนตัวที่นี่ก็ใช้เหรียญอารยธรรม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 50 เหรียญ”
“ไม่อย่างนั้นฉันก็สามารถหาห้องส่วนตัวของใครบางคนเพื่อแลกเปลี่ยน นั่นมันโกงเกินไป!”
หลังจากมองดู ‘กฏการทำธุรกรรม’ อย่างระมัดระวัง เจ้าอ้วนก็กล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“แขกผู้มีเกียรติครับ แขกผู้มีเกียรติท่านนั้นกำลังรอคุณอยู่ในห้องหมายเลข 1 ครับ!”
บริกรสวมชุดสีน้ำเงินนั้นอยู่ยืนที่ทางเข้าของห้องโถงแลกเปลี่ยน เขากล่าวอย่างเคารพเมื่อเขาเห็นจีเย่
“น้องชายจู ฉันจะรอนายในห้องหมายเลข 1”
จีเย่ยิ้มให้เจ้าอ้วนจูก่อนที่จะเดินตามบริกรเข้าไปในห้องส่วนตัวที่ค่อนข้างหรูหรา
“ท่านหัวหน้า!”
เมื่อเขาเข้าไป เขาก็เห็นชายหน้าซีดไร้หนวดเคราที่มีใบหน้าหม่นหมองเล็กน้อย เขายืนขึ้นและทักทายเขา
“ในห้องโถงแลกเปลี่ยนแห่งนี้ แขกสามารถเลือกซ่อนใบหน้าที่แท้จริงของพวกเขาได้”
“ในความจริง ท่่านสามารถแม้กระทั่งเลือกให้ผู้ดูแลช่วยทำธุรกรรมแทนได้!”
บริกรอธิบาย
เห็นได้ชัดว่าหลู่จือเซินเลือกที่จะซ่อนรูปลักษณ์ของเขา เขาอาจไม่คุ้นเคยกับการตอบสนองของเจ้าอ้วนจู
“ผู้นำหลู่ นายโพสต์ข้อมูลแล้วใช่มั้ย? ถ้าอย่างนั้นเริ่มอนุญาตให้คนเข้ามาได้!”
จีเย่ไม่ได้ตั้งใจที่จะซ่อนรูปลักษณ์ของเขา
ท้ายที่สุดแล้วนี่คือดินแดนแห่งมรดกไม่ใช่โลก ไม่จำเป็นต้องปกปิดตัวเอง
“ชิ้นส่วนของแก่นแท้ทองแดงที่สามารถใช้ในการปรับแต่งอาวุธ ฉันต้องการแลกปลี่ยนมันกับนมศิลา…”
“ระเบิดแบบแยกส่วนเอฟวันที่ผลิตในประเทศหมีทางตอนเหนือ รับประกันคุณภาพ ฉันอยากแลกเปลี่ยนกับผลเมล็ดสีชาด”
“เข็มฉีดยาปลุกสุดยอดพลัง มันมีโอกาส 10% ที่จะได้รับสุดยอดพลัง!”
“ระเบิดไวรัสชีวภาพ เรากำลังทำวิจัยเรื่องทีไวรัส หากคุณซื้อมันตอนนี้ คุณสามารถอัปเกรดฟรีได้ในอนาคต!”
หลังจากถิ่นฐานภูเขามังกรคู่เปิดการแลกเปลี่ยน ผู้คนก็เข้ามาห้องหมายเลข 1 ทันที
เห็นได้ชัดว่าทรัพยากรที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้โดยตรงนั้นสำคัญต่อทุกถิ่นฐาน
มันน่าดึงดูดพอสมควร
เรื่องนี้รวมถึงถิ่นฐานเทคโนโลยีบางแห่งด้วย
ไอเทมที่พวกเขาเอามาแลกเปลี่ยนนั้นน่าตื่นตาตื่นใจ
อย่างไรก็ตามไอเทมประเภทเทคโนโลยีส่วนใหญ่จะใช้แสงจากโชคะชาตาเพื่อโอนถ่ายกลับไปที่ภูเขามังกรคู่หลังจากทำธุรกรรมมากเกินไป
ดังนั้นนอกเหนือจากไอเทมหนึ่งหรือสองชิ้นที่รู้สึกว่ามีประโยชน์ จีเย่ก็ไม่ยอมรับการทำธุรกรรมอื่น
หลังจากแลกเปลี่ยนทรัพยากรส่วนใหญ่ที่เขานำมา
“ฮ่าๆๆ พี่โจวไม่ต้องกังวล ฉันมีเครื่อข่ายมากมาย!”
หญิงสาวสองคนในชุดโบราณ คนหนึ่งใส่ชุดสีเหลืองและคนหนึ่งใส่ชุดสีเขียว เดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวชุดเหลืองอายุประมาณ 16 ถึง 17 ปี เธอกล่าวพน้อมกับยิ้มอย่างแจ่มใส
“อ่าา ฉันจำคุณได้ คุณคือจี จี…”
เมื่อเธอเห็นจีเย่ ดวงคาของหญิงสาวคนนั้นก็เบิกกว้าง
“จีเย่!”
จีเย่รู้สึกหมดหนทางเล็กน้อยในขณะที่เขากล่าวกับ ‘คนรู้จัก’ ของเขา
ใช่แล้วคนรู้จัก
พวกเขาพบกันในระหว่างการประชุมที่สำนักงานสมาพันธ์เรียกประะชุมสำหรับ ‘ผู้เล่นเบต้า’ ที่ทำบททดสอบเสร็จสิ้น หลังจากที่ชายหนุ่มศิลปินผมยาวจากไปด้วยสีหน้าเย็นชา เด็กสาวผมฟูที่เคี้ยวหมากฝรั่งก็ได้กล่าวว่าภารกิจของเธอนั้นง่ายมาก!
อันที่จริง แม้แต่ในดินแดนแห่งมรดก เด็กสาวก็ดูเหมือนจะได้รับบางสิ่งที่คล้ายกับหมากฝรั่งจากที่ไหนสังแห่ง
“นี่คือศิษย์พี่หญิงของฉัน ศิษย์นิกายง้อไบ๊ ชื่อของเธอคือโจว!”
มีผู้เล่นเบต้าไม่มากนักในเมืองหยาง บางคนแม้กระทั่งล้มเหลวในภารกิจของพวกเขา
ดังนั้นหลังจากเห็นจีเย่ เด็กสาวหมากฝรั่งก็มีความสุขอย่างเห็นได้ชัด หลังจากสนทนาอย่างเรียบง่าย เธอก็แนะนำ ‘วีรบุรษ’ ที่น่าจะมาจากถิ่นฐานของเธแด้วยสีหน้าคาดหวัง
“นิกายง้อไบ๊?”
จีเย่อดไม่ได้ที่่จะหันไปมองหญิงสาวชุดเขียวที่ชื่อว่าศิษย์พี่หญิงโจว
รูปลักษณ์ของเธอนั้นธรรมดามาก เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิดก็พบว่าหม่นหมองเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอปกปิดรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเธอเหมือนกับหลู่จือเซิน
ตามทฤษฏีแล้ววีรบุรุษธรรมดาไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวตนของพวกเขาเพราะพวกเขาไม่โด่งดัง!
สกุลโจวแห่งนิกายง้อไบ๊?
มีนิกายง้อไบ๊มากกว่าหนึ่งแห่งในวัฒนธรรมของโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
ตัวอย่างเช่น ‘นิกายง้อไบ๊’ ของศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมบนโลกได้รับการขนานามว่าเป็นสามนิกายศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ของที่ราบภาคกลางควบคู่ไปกับวัดเส้าหลินและบู๊ตึ๊ง นิกายง้อไบ๊นั้นเป็นที่รู้จักในเรื่องการแผ่สาขาของพวกเขา
ในวรรณคดีและหนังมี ‘นิกายง้อไบ๊’ จำนวนมาก
ในบรรดาพวกเขา นิกายง้อไบ๊ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือผลงานชิ้นโบแดง ‘ศึกเทพยุทธ์ภูผาซูซาน’ ซึ่งถูกเขียนในช่วงสงครามศตวรรษที่ผ่านมา
สมาพันธ์ก่อตั้งหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนหน้านั้นเพื่อส่งเสริมการหลอมรวมของวัฒนธรรมในประเทศต่างๆ พวกเขาเลือกหนังสือเล่มนี้เป็นตัวแทนของวรรณกรรมประเทศมังกรในช่วงยุคสงครามและเผยแพร่ไปทั่วโลก เป็นผลให้หนังสือศิลปะการต่อสู้ที่เกี่ยวกับเทพเจ้าและปีศาจเล่มนี้ถูกเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวาง
ส่งผลให้นิยายเรื่องต่อมาได้รับอิทธิพลอย่างมาก
ในบรรดาผู้เขียนหนังสือศิลปะการต่อสู้ เช่น จิน กู และฮวงนั้นก็ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากนิยายเรื่องนี้
ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นนิกายง้อไบ๊ในนิยายศิลปะการต่อสู้ แต่ความแข็งแกร่งของบุคคลชั้นนำก็สามารถไปถึงระดับวิสามัญในการควบคุมปราณของพวกเขาและปรับแต่งดาบปราณของพวกเขา!
ตัวอย่างเช่น ‘นิกายง้อไบ๊’ ในนิยายของจิน ‘ดาบมังกรหยก’ ผู้ก่อตั้งเทพธิดาก๊วยเดินทางไปตามภูเขาและแม่น้ำหลายพันแห่งเพื่อตามหาคนรักของเธอ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ในท้ายที่สุดเธอก็บรรลุความศักดิ์สิทธิ์บนภูเขาง้อไบ๊และก้าวเข้าสู่ระดับ ‘สูงสุด’ ด้วยดาบศักดิ์สิทธิ์ ‘ดาบสวรรค์’!
ดังนั้นนิกายง้อไบ๊ทุกแห่งจึงมีศักยภาพมหาศาล!