Earth’s Best Gamer ตอนที่ 123 การดูแลพิเศษสําหรับผู้ทดสอบเบต้า
“ท่านหัวหน้า!”
เมื่อจีเย่มาถึงแนวหน้าทางทิศใต้ฝั่งมนุษย์โลหะ
อู่ซงและหยางจื้อนั้นกําลังฝึกฝนทหารบางคน
เนื่องจากพวกมนุษย์โลหะที่พวกเขาเผชิญหน้าได้เข้าสู่สถานะป้องกันตัว เว้นแต่เผ่ามนุษย์จะก้าวเข้าไปในอาณาเขตของพวกมัน พวกมันก็จะไม่ก้าวออกจากอาณาเขตแม้แต่ก้าวเดียว
ตั้งแต่มนุษย์โลหะตัวที่ผ่านมาถูกปืนใหญ่เหล็กเหมันต์ยิง พวกมันก็ไม่แม้กระทั่งเสนอหน้าออกมา
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แม้แต่หยางจื้อผู้ที่ถือกระบี่ภูเขาทมิฬที่อาจใช้ได้ผลกับพวกมันโดยเฉพาะ และเป็นผู้บัญชาการคนใหม่ที่เป็นนักธนูที่เก่งกาจ พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะทํายังไงกับอีกฝ่าย
“ผู้นําอู่ ขอบคุณสําหรับการทํางานหนักของนาย เราจัดการมอนเตอร์พงไพรแล้ว ต่อจากนี้ไปเราจะจัดการมนุษย์โลหะ!”
แน่นอนว่าจีเย่มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา หากมนุษย์โลหะไม่ออกจากอาณาเขตของพวกมัน ชายคนนี้จะทําการโจมตี!
“ดีมาก หลายวันมานี้ ฉันยังไม่ได้สู้กับมนุษย์โลหะเหล่านี้เลย ฉันสงสัยว่าวันนี้ฉันจะได้รับกระบี่ที่น่าเกรงขามจากพวกมันมั้ย!”
อู่ซงกล่าวอย่างคาดหวังพร้อมกับชูกระบี่วิญญาณเสือขึ้นมา
เขาเคยคิดที่จะหากระบี่อีกเล่มจากเผ่ามนุษย์ต่างดาว แต่น่าเสียดายที่หลังจากเผ่ามนุษย์ต่างดาวทุกตัวที่เขาสังหาร เขาก็ไม่เคยได้เห็นกระบี่หรืออาวุธที่คล้ายกันที่ขาพบว่าน่าพึงพอใจเลย!
“ขอให้ฉันได้เป็นกองหน้า!”
หยางจื้อผู้ที่ถือกระบี่ภูเขาทมิฬขออาสาเป็นกองหน้า
แม้ว่าเนื่องจากระดับของวิญญาณแห่งอารยธรรมที่สูงได้อัญเชิญหยางจื้อมาที่นี่ เขาจึงสามารถมาถึงระดับวิสามัญอันดับ 5 ได้โดยตรง แต่เขาก็ยังต้องการค่าประสบการณ์และแต้มเกียรติยศที่เพียงพอเพื่อเพิ่มความสามารถของเขาอย่างต่อเนื่อง!
มีคนไม่มากนักที่เข้ามาในอาณาเขตของมนุษย์โลหะ มีจําไม่น้อยกว่า 30 คน
แต่พวกเขาเป็นสมาชิกชั้นยอดส่วนใหญ่ของภูเขามังกรคู่
ทหารถิ่นฐานสิบนายสวมเกราะสองชั้น ถือโล่ไม้สีแดงหนาซึ่งเกือบสูงเท่ากับพวกเขา ความสามารถของพวกเขาเทียบเท่ากับทหารชั้นยอดอันดับ 8
ทหารชนพื้นเมืองรวมถึงอู่ซง หยางจื้อ หลิงเจิ้น กงซุนเชิง ลุงเก้าและเนี่ยเสี่ยวเชียน… นอกเหนือจากหลู่จือเซินผู้ที่ประจําการอยู่ที่แนวหลังในกรณีที่มนุษย์อินทรีเคลื่อนไหว คนอื่นก็มาที่นี่เพื่อเผชิญหน้ากับเผ่ามนุษย์ต่างดาวเผ่าสุดท้ายที่อยู่ติดกัน!
ในบรรดาผู้เล่น นอกเหนือจากจีเย่ ฉินเยว่หยู หลี่ชิง คุณชายบัก และฉู่หยินก็เข้าสู่ระดับวิสามัญแล้ว
อู่เฉียวเป็นคนเดียวที่ยังไม่ถึงระดับนั้น!
อย่างไรก็ตามผู้ทดสอบเบต้าคนนี้ที่ผ่านบททดสอบก็ควรมีความสามารถซ่อนอยู่
เนื่องจากในตอนที่เขาออกจากระบบไปครั้งนี้ จีเย่ก็รู้อะไรบางอย่างจากผู้อํานวยการโจว
เมื่อมีคนเสียชีวิตในดินแดนแห่งมรดก แม้ว่าระดับ แต้มเกียรติยศ และค่าประสบการณ์ของพวกเขาจะถูกรีเซ็ต แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเหลืออยู่นั้นคือแต้มเกียรติยศหายาก!
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อผู้ทดสอบเบต้าบางคนที่ผ่านบททดสอบได้เข้าสู่ระบบบัญชีของพวกเขาอีกครั้งหลังจากพวกเขาเสียชีวิต และหลังจากที่ความสามารถของพวกเขาเพิ่มขึ้นถึงจุดหนึ่ง พวกเขาจะตระหนักว่าพรสวรรค์ของพวกเขาถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับชนพื้นเมืองระดับความสามารถของพวกเขาจะลดลง!
บางทีนั่นอาจเป็นการดูแลพิเศษสําหรับผู้ทดสอบเบต้าที่ผ่านบททดสอบ
เมื่อเทียบกับเผ่ามนุษย์ต่างดาวอื่น มนุษย์โลหะมีอาณาเขตที่ค่อนข้างเรียบง่ายเพราะพื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยโลหะต่างๆ และไม่มีพื้นที่ให้พืชได้เติบโตเลย!
ด้วยเหตุนั้น เผ่ามนุษย์จึงไม่สามารถปกปิดการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้
แต่อันที่จริง พวกเขาก็ไม่ได้วางแผนที่จะปกปิดการเคลื่อนไหวเช่นกัน ถิ่นฐานของเผ่ามนุษย์ได้มาถึงอันดับ 2 แล้ว ในทางทฤษฎีหลังจากหลอมรวมกับถิ่นฐานของมอนเตอร์พงไพรที่ถูกใส่เข้าไปในห้องโถงแห่งโชคชะตา พวกเขาก็น่าจะไปถึงอันดับ 4
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากพวกเขาไม่มีความมั่นใจในการจัดการกับถิ่นฐานอันดับ 1 มันจะเป็นความอัปยศสําหรับอารยธรรมมนุษย์ที่ใช้เวลาพัฒนามาหลายล้านปี!
บูม บูม บูม!
เห็นได้ชัดว่าไม่เหมือนกับมอนเตอร์โคลนที่ไม่เคยตระหนักจนกระทั่งศัตรูอยู่หน้าถิ่นฐานของพวกมัน ทันทีที่เผ่ามนุษย์ก้าวเข้าสู่อาณาเขตของมนุษย์โลหะ อีกฝ่ายก็มีการตอบสนองทันที
จากโครงสร้างที่เหมือนกับถ้ำในอาณาเขตที่ทําด้วยโลหะอย่างสมบูรณ์ มีเงาสองสามเงาที่ส่องแสงสีน้ำเงินเล็กน้อย
หลังจากนั้นพวกมันก็เคลื่อนไหวไปรอบมนุษย์ที่บุกรุกจากระยะไกลในวงโคจรครึ่งวงกลม ด้วนความเร็วที่เหนือกว่ามนุษย์มาก
“มนุษย์โลหะอยู่ที่นี่ ระวังอาวุธลับของพวกมันด้วย พวกมันค่อนข้างอันตราย!”
อู่ซงเตือนคนอื่น
ร่างสีน้ำเงินเคลื่อนไหวเร็วมาก
เนื่องจากพวกมันไม่ได้เคลื่อนไหวด้วยเท้าของพวกมัน ในทางกลับกันทั้งร่างของพวกมันลอยอยู่เหนือพื้นไม่กี่เซนติเมตร และพวกมันกําลัง บิน” ราวกับรถไฟที่ลอยด้วยแม่เหล็ก
อย่างไรก็ตามจีเมีการมองเห็นแบบไดนามิกนั้นก็สามารถระบุลักษณะทางกายภาพของมนุษย์โลหะเหล่านี้
พวกมันมีรูปร่างคล้ายคลึงกันมนุษย์มาก ไม่อย่างนั้นพวกมันคงไม่ถูกเรียกว่าอย่างนั้น
อย่างไรก็ตามไม่เหมือนกับมนุษย์ที่ยืนด้วยเท้าของพวกเขา มนุษย์โลหะ หน้าลงและมีแสงสีน้ำเงินปกคลุมทั่วร่างกายของพวกมัน
ในขณะที่พวกมันยังคงเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง ชิ้นส่วนโลหะบางชิ้นก็พุ่งไปทางมนุษย์!
หวูดดด…
ชิ้นส่วนโหะพุ่งไปที่จีเย่ การเคลื่อนไหวเป็นไปตามหลักพลศาสตร์ของการไหล และความเร็วของมันก็ใกล้เคียงกับลูกศรหน้าไม้ทะลายดิน
ด้วยการขยับมือเพียงครั้งเดียว จีเย่ก็สามารถป้องกันชิ้นส่วนโลหะด้วยโล่ไม้สีแดงที่สูงครึ่งหนึ่งของมนุษย์
ตุบ…
ชิ้นส่วนโลหะแทงเข้าไปในโล่ไม้สีแดงระดับวิสามัญอันดับ 3 เหมือนกับชายคนหนึ่งที่ตกลงไปในโคลน มันถูกหยุดหลังจากที่มันแทงเข้าไปได้ไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตร!
ชิ้นส่วนโลหะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง แต่ความสามารถของพวกมันก็ถูกระงับด้วยคุณสมบัติระดับวิสามัญของโล่ไม้สีแดงซึ่งสามารถดูดซับพลังงานจลน์ได้
ท้ายที่สุดแล้ว การโจมตีของพวกเขาก็ไม่ได้ผลเหมือนกับของจีเย่ก่อนหน้านี้
ปัก! ปัก! ปัก!
นอกเหนือจากจีเย่ ทหารชนพื้นเมืองสิบคนที่มาถึงระดับสามัญอันดับ 8 ก็ยังป้องกันชิ้นส่วนโลหะด้วยโล่ไม้สีแดงเช่นกัน
โล่ระดับสามัญเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วโดยการใช้ไม้สีแดงที่พวกเขาตัดเมื่อวานนี้ และพวกมันก็ไม่มีคุณสมบัติระดับวิสามัญเหมือนกับของจีเย่ซึ่งสามารถดูดซับพลังงานจลน์ได้
อย่างไรก็ตามพวกมันยังคงหนาพอที่จะหยุดการโจมตีของมนุษย์โลหะไม่ให้เจาะทะลวงและพวกมันก็ใหญ่พอที่จะเป็นที่กําบังสําหรับผู้คนที่อยู่ข้างหลังเหล่าทหาร
ถึงอย่างนั้นผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ซ่อนอยู่หลังโล่
พวกเขาทุกคนต่างก็ต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของมนุษย์โลหะ
เคร้งงง! เคร้งงง!
สกิลกระบี่ของอู่ซงนั้นน่าทึ่งมาก
กระบี่วิญญาณเสือนั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนมันทิ้งภาพติดตาไว้กลางอากาศ และเขาก็ฟันชิ้นส่วนโลหะสองชิ้นในขณะที่พวกมันยังคงลอยอยู่กลางอากาศ
ฉ่าา!
ด้วยเกราะภูเขาทมิฬ หยางจื้อจึงไม่ต้องขยับกระบี่ภูเขาทมิฬด้วยซ้ำ เขาเปิดใช้งานพลังระดับวิสามัญพิเศษของกระบี่เมื่อชิ้นส่วนโลหะเข้ามาใกล้
ด้วยแสงสีฟ้าอมม่วง ชิ้นส่วนโลหะก็หยุดลงและตกลงไปที่พื้นใกล้กับเท้าของเขา
เขาไม่ได้โดดเด่นอยู่เพียงคนเดียว ชิ้นส่วนโลหะที่พุ่งไปที่อู่เฉียวก็เรืองแสงเป็นสีเทาเมื่อผู้ทดสอบเบต้จ้องมองมัน
หลังจากนั้นมันก็เปลี่ยนทิศทางกลางอากาศและพลาดเป้าหมายของมันซึ่งคือคอของเธอ
“สายฟ้า!”
ในทางกลับกัน กงซุนเพิ่งก็ชี้ดาบมังกรลวงตา
มีประกายสายฟ้าและชิ้นส่วนโลหะที่พุ่งมาหาเขาก็ถูกฟ้าผ่า!
“ว้าววว! ใกล้มาก!”
ส่วนคุณชายบักที่ได้กลายเป็นศิษย์ของลูกเก้า เขามีเหงื่อออกเล็กน้อย บาร์เรียโปร่งใสสีเขียวปรากฏขึ้นรอบตัวเขา หยุดชิ้นส่วนโลหะที่มุ่งหน้าไปยังจุดหว่างขาของเขา
จีเย่ได้รับหยกวิญญาณจากเผ่าวิญญาณซึ่งสามารถเปลี่ยนพลังวิญญาณให้กลายเป็นบาร์เรียสีเขียว
ลุงเก้าได้ศึกษามันซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกวัน ก่อนที่ในที่สุดเขาจะเชี่ยวชาญวิธีการใช้เทคนิคยันต์เพื่อชาร์จมัน
แม้ว่าจะใช้เวลานานพอสมควรในการชาร์จชิ้นส่วนยกวิญญาณเหล่านี้
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพวกมันแตกสลาย พวกมันก็จะไม่สามารถเปิดใช้งานได้เป็นเวลานานมาก
อย่างไรก็ตามพวกมันก็สามารถช่วยชีวิตได้ในช่วงเวลาวิกฤติ และพวกมันก็มีค่ามากสําหรับภูเขามังกรคู่
เมื่อการโจมตีของมนุษย์โลหะถูกป้องกันแล้ว ก็ถึงเวลาที่มนุษย์จะโจมตีกลับแล้ว
บูมม!
ปืนใหญ่เหล็กเหมันต์ที่หลิงเจิ้นถืออยู่ก็ได้ส่งเสียงฟ้าร้องออกมาและกระสุนปืนใหญ่ขนาดเท่ากําปั้นก็พุ่งออกไป มันพุ่งด้วยความเร็วสูงกว่าชิ้นส่วนโลหะมาก และตามที่คาดไว้ มันชนเข้ากับมนุษย์โลหะที่บินเป็นวงกลมอย่างรวดเร็ว
แรงกระแทกที่มหาศาลทําให้เกิดรอยบุบขนาดใหญ่ที่หน้าอกของมนุษย์โลหะทําให้มันกระเด็นออกไปหลายเมตร มันล้มลงกับพื้นและกลิ้งไปอีกครั้ง
มนุษย์โลหะนั้นหนักกว่ามนุษย์มาก ดังนั้นปืนใหญ่จึงทรงพลังมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เนื่องจากผู้อาวุโสเจี้ยวไม่ได้ศึกษาโครงสร้างของมนุษย์โลหะเท่านั้น โครงงการหลักของเขาก็คือแร่ที่ผลิตโดยมอนเตอร์โคลน
หลังจากที่เขาปรับปรุงและกลั่นผงแร่สีแดง เขาก็ได้รับผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า “ดินปืนสีแดง
มันเป็นวัตถุทรัพยากรระดับวิสามัญที่มีทั้งคุณภาพและความเสถียรที่สูงกว่าดินปืนสีดํา ในทางทฤษฎีแล้วมันสามารถใช้เป็นกระสุนของปืนขนาดเล็กได้Earth’s Best Gamer ตอนที่ 124 พลังของวิญญาณหัวหน้าหมาป่า
อย่างไรก็ตามหลังจากถูกกระสุนปืนใหญ่ของหลิงเจิ้นยิงใส่ มนุษย์โลหะก็กลิ้งไปกับพื้นทําให้เกิดประกายไฟขึ้น แต่มันก็ยังไม่ตาย แม้ว่าจะมีรอยบุบขนาดใหญ่ที่หน้าอกของมันก็ตาม
มันนอนคว่ำหน้าลงกับพื้นในเวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่ก่อนที่มนุษย์จะสามารถจัดการกับมันได้ มันก็กลับมายืนได้อีกครั้ง
หลังจากนั้นมันก็ “บิน” อีกครั้งด้วยแสงสีน้ำเงิน และยังคงขว้างอาวุธลับไปที่มนุษย์ต่อ
อย่างไรก็ตามพื้นข้างหน้าของมันก็พังทลายลงในทันที กลายเป็นแอ่งแมกม่าที่กําลังเดือดพล่าน เปลวไฟพุ่งออกมาจากพื้น และควันสีดําก็ลอยขึ้นสูงบนท้องฟ้า
หวูดดด…
แต่ด้วยแสงสีน้ำเงิน มนุษย์โลหะจึงทะลุผ่านแมกม่า เปลวไฟที่แผดเผาและแมกม่าสีส้มไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับมันแต่อย่างใด
มนุษย์โลหะทนไฟและอุณหภูมิสูงได้ขนาดนั้นเลยเหรอ?
เห็นได้ชัดว่าไม่!
เนื่องจากแมกม่าเป็นเพียงภาพลวงตา
จีเยถือไข่มุกมังกรลวงตาไว้ในมือ เห็นได้ชัดว่าวัตถุที่มีพลังระดับเหนือธรรมชาตินั้นไม่มีความหมายสําหรับมนุษย์โลหะ เพราะพวกมันไม่ได้ใช้สายตาในการรับรู้สิ่งต่างๆ
“ฉู่หยิน!”
จากนั้นจีเย่ก็โบกโล่ไม้สีแดงของเขาเพื่อป้องกันชิ้นส่วนโลหะอีกสองชิ้นที่พพุ่งมาที่เขาอย่างรวดเร็ว เขากล่าวกับฉู่หยินซึ่งเขาถูกเขาป้องกันและถือผีผาบุษราคัมอยู่
เขาพาฉู่หยินไปกับเขาไม่ใช่เพียงเพราะเธอมาถึงระดับวิสามัญแล้ว แต่จีเย่ยังสงสัยว่าการโจมตีด้วยเสียงจะมีผลพิเศษต่อมนุษย์โลหะเหล่านี้มั้ย เนื่องจากราชามอนเตอร์พงไพรสามารถสังหารพวกมันได้
เคร๊งงง!
ผีผาส่งเสียงออกมาอย่างกระทันหัน
เธอไม่ได้บรรเลงเพลงเช่น ‘General’s Command’ หรือ ‘Ambush on All Sides’ แต่เธอได้เปิดใช้งานพลังระดับวิสามัญเฉพาะตัวของผีผาบุษราคัม ขโมยวิญญาณ!
มนุษย์โลหะที่หน้าอกยังไม่ฟื้นฟูสั่นสะท้านเพราะพลังของผีผาบุษราคัม หลังจากนั้นแสงสีน้ำเงินก็หายไปในชั่วพริบตา และมันก็ล่วงลงมาอีกครั้งซึ่งทําให้เกิดประกายไฟในขณะที่ตัวมันขีดข่วนกับพื้นโลหะ
“ได้ผล!”
ดวงตาของฉู่หยินที่สวยงามราวกับภาพวาดได้สว่างไสวภายใต้ขนตาสีดํายาวของเธอ
จีเย่มอบผีผาบุษราคัมนี้ให้กับเธอในทันทีที่เธอเข้าร่วมกับถิ่นฐานภูเขามังกรคู่ แม้ว่าจะได้รับการพิสูจน์ผลงานในการต่อสู้ครั้งก่อนแล้ว แต่เนื่องจากลักษณะของดนตรีในดินแดนแห่งมรดก ส่วนใหญ่จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนในการเพิ่มขวัญกําลังใจ และพลังที่แท้จริงของวัตถุระดับวิสามัญชิ้นนี้ก็ไม่เคยถูกนํามาใช้เลย
มันทําให้เธอรู้สึกค่อนข้างผิดหวังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้ผีผามีผลต่อมนุษย์โลหะที่ทรงพลังเหล่านี้ เธอจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก
“จริงด้วย มันได้ผล!”
“ใช่แล้ว” จีเย่พยักหน้า
มันคือความจริง มนุษย์โลหะตอบสนองต่อคลื่นเสียงอย่างรุนแรง
แต่เขาก็ยังต้องการเสริมความมั่นใจ
เนื่องจากพลังระดับวิสามัญของผีผาบุษราคัมไม่ใช่การโจมตีด้วยคลื่นเสียงเพียงอย่างเดียว แต่มันยังเป็นการโจมตีทางจิตที่เกิดจากคลื่นเสียง!
เสียงที่จีเยตั้งชื่อว่า “ขโมยวิญญาณ ในทางทฤษฎีจะสามารถทําให้หัวใจของคนธรรมดาเต้นเร็วขึ้นและหัวก็ว่างเปล่าซึ่งทําให้เขาสูญเสียการควบคุมทางจิตใจของเขาไปในช่วงเวลาสั้นๆ
อย่างไรก็ตามยิ่งเป้าหมายมีจิตใจที่แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งต้านทานการโจมตีได้มากขึ้นเท่านั้น และมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยกับพวกเขา
เห็นได้ชัดว่ามนุษย์โลหะตัวนี้สูญเสียการควบคุมเร้วกว่าคนธรรมดา ไม่เพียงแค่มันจะตกลงบนพื้นเท่านั้น แต่แม้กระทั่งแสงสีน้ำเงินรอบตัวมันก็หายไปด้วยเช่นกัน
กล่าวคือ จุดอ่อนของมนุษย์โลหะเหล่านี้คือคลื่นเสียงหรือการโจมตีทางจิต
“เสี่ยวเชี่ยน!”
มันง่ายมากสําหรับเย์ในการทดสอบว่าการโจมตีแบบไหนได้ผล
“ได้เลยท่านหัวหน้า!”
เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนผู้ที่ยืนอยู่ข้างหลังจีเย่ก็ได้พยักหน้า
จากนั้นเธอก็จ้องไปที่มนุษย์โลหะที่ส่องแสงสีน้ำเงินและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง และเธอก็ห้อมล้อมมันด้วยพลังจิตที่มองไม่เห็นของเธอ
เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนได้หลอมรวมพลังจิตของกึ่งผู้บัญชาการของมอนเตอร์ลวงตา พลังการโจมตีทางจิตของเธอนั้นเกือบเท่ากับผู้บัญชาการวีรบุรุษ!
บูม!
ครั้งนี้มนุษย์โลหะที่เธอกําหนดเป้าหมายไม่ล้มลง แต่มันก็บินออกนอกเส้นทางราวกับคนเมาและกระแทกมนุษย์โลหะที่บาดเจ็บสองตัวซึ่งเพิ่งจะลุกขึ้นจากพื้นได้
“จริงด้วย พวกมันมีร่างกายที่ต้านพลังทางกายภาพที่แข็งแกร่ง แต่พลังจิตของพวกมันอ่อนแอมาก!”
จีเย่ดูเหมือนจะเห็นแจ้ง
มนุษย์โลหะเหล่านี้สามารถทนต่อการกระแทก ไฟ และแม้กระทั่งสายฟ้า
อย่างไรก็ตามพวกมันเกือบจะหมดหนทางเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีทางจิต!
สิ่งนี้ไม่ได้กล่าวถึงในข้อมูลในฟอรั่มของดินแดนแห่งมรดกหรือสํานักงานสมาพันธ์
แต่พูดตามตรง มันเป็นเรื่องปกติ
เนื่องจากมนุษย์โลหะนั้นหายากมาก และจากถิ่นฐานของมนุษย์นับแสนแห่ง มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่เจอกับพวกมัน ในทางกลับกันการโจมตีทางจิตก็เป็นความสามารถที่หายากมากสําหรับมนุษย์ และเป็นเรื่องยากที่จะทดสอบ
“แต่ว่า… ฉันสงสัยว่าวิธีการโจมตีแบบอื่นนอกเหนือจากพลังจิตจะได้ผลเหมือนกันมั้ย?”
เมื่อขยับโล่ไม้สีแดงของเขา จีเยก็ป้องกันการโจมตีของมนุษย์โลหะอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า แม้ว่าวันนี้ฝนจะไม่ตก แต่แดดก็ไม่แรงมากเกินไป
“เอาล่ะ ลุยกันเถอะ!”
“กรรร!”
วินาทีต่อมา โทเท็มหนังหมาป่าก็สั่นสะท้านในแขนของเขา และวิญญาณหัวหน้าหมาป่าก็ปรากฏตัวข้างจีเย่พร้อมกับเสียงคํารามเบาๆ
อย่างไรก็ตามภายใต้แสงแดด แม้แต่วิญญาณหัวหน้าหมาปาระดับวิสามัญก็ไม่สามารถหยุดยั้งไม่ได้พลังงานวิญญาณสีดําไม่ให้สลายไป!
ฟิ้วว!
เมื่อเห็นสิ่งนี้ จีเย่ก็สะบัดนิ้ว เปลี่ยนหยดเลือดของเขาให้กลายเป็นหมอกและหลอมรวมเข้ากับร่างกายของวิญญาณหัวหน้าหมาป่า
หลังจากที่เชี่ยวชาญสายเลือดมังกรน้ำ ในที่สุดเขาก็สามารถควบคุมให้เลือดของเขาไหลออกมาได้เองโดยไม่ต้องใช้ดาบงูดําพันนิ้วของเขา
ด้วยเลือดสีแดงในตัวมัน วิญญาณหัวหน้าหมาปาจึงสามารถต้านทานแสงแดดได้ดีมากขึ้น
และพลังงานระดับวิสามัญอันดับ 5 ที่แข็งแกร่งก็ตื่นขึ้นภายในร่างมัน
กรรรร!
มันก็พุ่งใส่มนุษย์โลหะที่โชคร้ายพร้อมกับเสียงคํารามเบาๆซึ่งล้มลงกับพื้นมาหลายครั้งแล้วและในที่สุดก็เพิ่งจะลุกขึ้นได้
หวูดดดด! หวูดดดด! หวูดดดด!
เมื่อสัมผัสได้ถึงการโจมตีของวิญญาณหัวหน้าหมาป่า มนุษย์โลหะที่ได้รับบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ได้ขว้างชิ้นส่วนโลหะสองชิ้นใส่มัน
แต่พวกมันก็พุ่งผ่านวิญญาณหัวหน้าหมาป่าโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ มนุษย์โลหะก็ตื่นตระหนก แสงสีน้ำเงินบนตัวมันก็เปล่งประกายออกมา และมันก็เตรียมพร้อมที่จะบินเพื่อรักษาระยะห่างจากวิญญาณหัวหน้าหมาป่า
เคร๊งงง!
อย่างไรก็ตามพลังของมันก็ถูกกําจัดออกไปทันทีที่มันกําลังจะเคลื่อนที่
เนื่องจากคลื่นเสียงของผีผาบุษราคัมและการโจมตีทางจิตก็โดนมันเกือบจะพร้อมกัน
มนุษย์โลหะบินเร็วมากในทางทฤษฎี แม้แต่วิญญาณหัวหน้าหมาป่าก็ไม่สามารถไล่ตามได้ทัน แต่ในปัจจุบัน พวกมันไม่สามารถเร็วได้กว่าพลังเสียงหรือพลังจิต!
“กรรรร!”
มนุษย์โลหะล้มลงกับพื้น วินาทีต่อมา วิญญาณหัวหน้าหมาปาที่มีสีเลือดก็พุ่งเข้ามาและห่อหุ้ททัรด้วยพลังวิญญาณสีดําจํานวนมาก
ทันใดนั้นมนุษย์โลหะที่โชคร้ายก็เคลื่อนที่ช้าลง
เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา วิญญาณหัวหน้าหมาปาก็ก่อตัวรูปร่างทางกายภาพขึ้นมา ในขณะที่มนุษย์โลหะบนพื้นหยุการเคลื่อนไหว
[สังหารมนุษย์โลหะ (ระดับวิสามัญ….) ค่าประสบการณ์ที่ได้รับ… แต้มเกียรติยศที่ได้รับ…]
จีเย่รู้ดีว่าหากไม่ใช่เพราะพวกเขาอยู่ในภาวะสงคราม เขาคงจะรู้สึกได้ถึงการแจ้งเตือนนั้น
การโจมตีของวิญญาณหัวหน้าหมาป่ามีประสิทธิภาพมากกว่าการโจมตีทางจิตของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนและฉู่หยิน
ท้ายที่สุดทั้งเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนและฉู่หยินก็ไม่สามารถสังหารพวกมันได้โดยตรง
แน่นอนว่าพูดตามตรง มันสังหารมนุษย์โลหะได้อย่างง่ายดายเพราะการโจมตีทางจิตของฉู่หยินและเนียเสี่ยวเชี่ยน
มนุษย์โลหะเหล่านี้ไม่ได้มีวิญญาณที่แข็งแกร่งมากนัก และพวกมันก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีทางวิญญาณได้อย่างสมบูรณ์
พลังระดับวิสามัญอย่างแม่เหล็กไฟฟ้าอาจทําให้สิ่งมีชีวิตวิญญาณได้รับบาดเจ็บ แสงสีน้ำเงินบนตัวมนุษย์โลหะในตอนที่พวกมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงอาจจะทรงพลังเพียงพอที่จะทําลายสิ่งมีชีวิตวิญญาณระดับต่ำได้!
ยิ่งไปกว่านั้นมนุษย์โลหะก็ยังมีโลหะอย่างเงินในร่างกายของพวกมัน โลหะดังกล่าวมีคุณสมบัติในการปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายเพื่อให้สิ่งมีชีวิตวิญญาณระดับสามัญไม่กล้าเข้าใกล้
แน่นอนว่าวิญญาณหัวหน้าหมาปาก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตวิญญาณระดับสามัญ เมื่อกลืนกินปีศาจต้นไม้พันปีและพลังวิญญาณของผู้พิทักษ์ทมิฬในสนามรบแห่งโชคชะตา ระดับวิญญาณของมันก็พุ่งถึงจุดสูงสุดของระดับวิสามัญอันดับ 4 5พร้อมกับความช่วยเหลือของเลือดเพิ่มเติม มันก็เพิ่มมาถึงระดับวิสามัญอันดับ 5
แม้แต่สิ่งมีชีวิตวิญญาณในระดับวิสามัญก็ไม่สามารถทนต่อการกลืนกินของมันได้ นับประสาอะไรกับสิ่งมีชีวิตที่เป็นโลหะซึ่งมีพลังวิญญาณไม่แข็งแกร่ง
ฉ่าา ฉ่าา ฉ่าา!
ในขณะนั้นเอง มนุษย์โลหะที่เหลืออยู่ก็หยุดการโจมตีทันที แต่พวกมันก็หันหลังกลับและบินลึกเข้าไปในอาณาเขตของพวกมัน
เห็นได้ชัดว่าความพ่ายแพ้และความตายของสมาชิกคนหนึ่งทําให้พวกมันตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ และพวกมันก็เลือกที่จะละทิ้งแนวป้องกันแรก
เมื่อเห็นสิ่งนี้ คนของภูเขามังกรคู่ก็ไม่รีบเร่งที่จะไล่ตามพวกมัน
จีเย่เอื้อมมือไปกยิบลูกบอลสีเงินที่มีแสงสีเทาจางๆ ที่วิญญาณหัวหน้าหมาป่านําออกมาจากปากของมัน
[ของเหลวสีเงิน]
[Level: Extraordinary Rank-1]
[ระดับ : วิสามัญอันดับ 1]
[ขั้น : ทั่วไป (เครื่องบูชายัญ)]
[รายละเอียด : เลือดสีเงินเป็นแก่นหลักของมนุษย์โลหะ มันมีความสามารถในการปรับแต่งโลหะและควบคุมพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าขั้นพื้นฐาน เมื่อมันหลอมรวมเข้ากับโลหะ มันจะสามารถเปลี่ยนคุณสมบัติของโลหะบางส่วนและอาจทําให้โลหะบางชนิดเปลี่ยนรูปร่างได้]
“นั่นทรงพลังมาก น่าเสียดายที่มันเป็นเครื่องบูชายัญ!”
เมื่อเห็นรายละเอียด ฉินเยว่หยู่ก็มีสีหน้าประหลาดใจ
“ไอเทมชิ้นแรกที่ดร็อปก็คือเครื่องบูชายัญ บางทีอีกสองสามตัวที่เราสังหารอาจเป็นเครื่องบูชายัญเช่นกัน!”
อู่เฉียวดูประหลาดใจมากยิ่งกว่า
หากสินสงครามนี้ไม่ใช่เครื่องบูชายัญ มันก็จะเป็นวัตถุหายากอย่างแน่นอน
เนื่องจากมันย่อมมีคุณค่าทั้งต่อคนเพียงคนเดียวและถิ่นฐาน
หากใช้ในพิธีกรรมต้อนรับและหลอมรวมกับบุคคลที่ถูกอัญเชิญมาที่นี้ คนคนนั้นอาจจะได้รับความสามารถพิเศษที่คล้ายกับมนุษย์โลหะ นอกจากนี้วัตถุดังกล่าวจะเป็นวัสดุหายากในระดับสูงสุดหากใช้ในการวิจัยและการผลิตโลหะผสมและอาวุธ
“ท่านหัวหน้า ศัตรูของเราหนีไปแล้ว เราจะตามพวกมันไปมั้ย?” หยางจื้อเอ่ยถามด้วยความกระหายในการต่อสู้มากขึ้น
“เราไล่ตามไปได้ แต่รอสักพักหนึ่ง” เมื่อเห็นดวงจันทร์ที่กําลังขึ้น จีเย่ก็กล่าวว่า “หลี่ชิงกลับไปที่ถิ่นฐานและบอกกับผู้อาวุโสให้นําสินสงครามทั้งหมดจากเผ่าวิญญาณมา เราจะเริ่มโจมตีอย่างเป็นทางการหลังจากดวงอาทิตย์ตกดิน!”
ฉู่หยินและเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนเป็นเพียงไม่กี่คนในภูเขามังกรคู่ที่มีความสามารถในการโจมตีทางจิตแต่สมาชิกจํานวนมากก็มีความสามารถในการโจมตีวิญญาณด้วย!
กระบี่วิญญาณเสือในมือของอู่ซงและโทเท็มหนังหมาป่าของจีเย่ก็มีความสามารถดังกล่าว ไม่ต้องกล่าวถึงลุงเก้าและกงซุนเพิ่งนักบวชลัทธิเต๋ทั้งสอง
ที่สําคัญกว่านั้น หลังจากที่สังหารเผ่าวิญญาณครั้งที่ผ่านมา สินสงครามที่พวกเขาได้มานั้นก็มีวัตถุบางอย่างที่มีความสามารถในการโจมตีทางวิญญาณซึ่งพวกเขาเก็บไว้ในถิ่นฐาน
Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน
กล่าวคือตามทฤษฎีแล้ว ภูเขามังกรคู่มีความสามารถในการผลิตปืนแล้ว
แน่นอนว่าในการทําเช่นนั้น พวกเขาอาจต้องรอจนกว่าผู้เล่นกลุ่มที่สองจะออกจากระบบก่อนที่พวกเขาจะจําพิมพ์เขียวของปืนและอุปกรณ์การผลิตได้
ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าผู้อาวุโสเจี้ยวจะเป็นนักวิชาการ แต่เขาก็ยังไม่ทราบความรู้ที่ไม่ใช่ความเชี่ยวชาญของเขา
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังต้องล้มถิ่นฐานของมนุษย์โลหะ ไม่อย่างนั้นเหล็กเหมันต์จํานวนเล็กน้อยที่พวกเขาครอบครองก็จะไม่เพียงพอสําหรับการผลิตอาวุธปืนจํานวนมาก!