ตอนที่ 125 กรีชระเบิดแสงสีน้ำเงิน
บนท้องฟ้า ดวงจันทร์ส่องแสงสว่างไสว!
แม้ว่าจะเป็นเพีนงดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว แต่ด้วยความช่วยเหลือของสิ่งต่างๆ เช่น ไข่มุกเรืองแสง (ตะเกียงพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดเล็ก) ที่พวกเขาแลกเปลี่ยนจากเมืองแห่งมนุษย์ มันมีแสงสว่างเพียงพอสําหรับภูเขามังกรคู่ที่จะต่อสู้ในตอนกลางคืน
“ลุย!”
“เราจะจํากัดมนุษย์โลหะให้หมดในครั้งเดียว!”
หยางจื้อระดับวิสามัญอันดับ 5 นําทีมจากภูเขามังกรคู่เข้าสู้อาณาเขตของมนุษย์โลหะอีกครั้ง จํานวนของพวกเขาเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 50 คน
นอกเหนือจากทหารชนพื้นเมืองอันดับ 7 หรือสูงกว่ามากกว่า 30 คนที่ถือโล่ ส่วนที่เหลือทั้งหมดมีอาวุธระยะไกล
หวูดดด! หวูดดด! หวูดดด!
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในอาณาเขตของมนุษย์โลหะ มนุษย์โลหะเจ็ดหรือแปดตัวที่เปล่งแสงสีน้ำเงินก็คลานออกมาจากรูบนพื้นอีกครั้ง เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว และเริ่มโจมตีพร้อมกับขัดขวางมนุษย์
เคร้งงง!
อย่างไรก็ตามเมื่อเสียงของผีผาและการโจมตีทางจิตล้อมรอบพวกมัน แสงสีน้ำเงินบนร่างมนุษย์โลหะก็หายไปในทันที และมันก็ล้มลงอีกครั้ง ขัดขวางการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงของมัน ประกายไฟเกิดขึ้นเมื่อโลหะขูดกับพื้นและยิ่งสว่างมากกว่าในเวลากลางวัน
กรรรร!
ในความมืดมิดยามราตรี วิญญาณหัวหน้าหมาป่าที่มีดวงตาสีแดงเลือดราวกับเปลวไฟก็ร้องคํารามอย่างเงียบเชียบ ห่อหุ้มร่างกายด้วยพลังวิญญาณ มันกระโจนเข้าใส่มนุษย์โลหะ มันสังหารมนุษย์โลหะตัวแรกในทันทีหลังจากการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น!
ปัก! ปัก! ปัก
ชิ้นส่วนโลหะที่ถูกขว้างโดยมนุษย์โลหะเกือบทั้งหมดถูกป้องกัน
แม้ว่าแสงจันทร์จะไม่เพียงพอสําหรับทหารชนพื้นเมืองระดับสามัญที่จะเห็นวิถีของชิ้นส่วนโลหะ แต่โล่หนากว่า 30 อันที่สร้างมาจากไม้สีแดงที่พวกเขาตัดอย่างรวดเร็วก่อนดวงอาทิตย์ตกดิน ในวันนี้ก็เพียงพอที่จะป้องกันทั้งรูปขบวนต่อสู้ของมนุษย์ในตอนที่พวกเขาก้าวไปข้างหน้า
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ก็เหมือนกับพวกพ้องของพวกมันในตอนบ่าย มนุษย์โลหะก็เริ่มถอยทันที
“อย่าเพิ่งไล่ตามพวกมัน!”
เมื่อได้ยินเสียงนั้น มนุษย์ก็ไม่ได้ไล่ตามพวกมันไป แต่พวกเขากลับวนเวียนอยู่รอบศพมนุษย์โลหะที่ตายไปราวกับว่าพวกมันกําลังรอให้สินสงครามดร็อปออกมาก่อนที่จะเริ่มก่อรูปขบวนอีกครั้ง
หวูดดด! หวูดดด! หวูดดด!
พฤติกรรมของพวกเขาดูเหมือนจะทําให้มนุษย์โลหะโกรธแค้น พวกมันถอยกลับไปแล้ว แต่พวกมันก็หันกลับมาและยิ่งชิ้นส่วนโลหะใส่มนุษย์อีกครั้ง
“เราสามารถไล่ตามพวกมันได้แล้ว!”
เมื่อเห็นแบบนี้ จีเย่และกงซุนเซึ่งก็ได้แลกเปลี่ยนสายตากันก่อนที่พวกเขาจะสั่งกองทัพให้เดินหน้าต่อไป!
เมื่อเห็นว่ามนุษย์กําลังพุ่งเข้ามาหาพวกมัน มนุษย์โลหะก็เลือกที่จะล่าถอยอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าพวกมันจะกระวนกระวายใจอย่างแท้จริงจากพฤติกรรมของมนุษย์ ก่อนหน้านี้ พวกมันไม่ได้บินออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังหันกลับมาในขณะที่พวกมันล่าถอยและรังควานพวกเขาด้วยชิ้นส่วนโลหะ
ยิ่งไปกว่านั้น พอผ่านไปได้ครึ่งทาง มนุษย์โลหะที่มีแสงสีน้ำเงินอีกสองสามตัวก็ออกมาและเข้าร่วมการโจมตี ตอนนี้มีมนุษย์โลหะมากถึง 10 ตัว!
ด้วยโล่ที่ไม่อาจทะลวงผ่านได้ การโจมตีของมนุษย์โลหะจึงไม่สามารถผ่านออกมาได้เลย
ในทางกลับกันมนุษย์โลหะก็เข้ามาใกล้เกินไปเล็กน้อยและตกอยู่ภายใต้การโจมตีของผีผาบุษราคัมของฉ่หยินกับการโจมตีทางจิตของเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน วิญญาณหัวหน้าหมาป่าก็สังหารมัน โดยได้รับวิญญาณแห่งอารยธรรมระดับวิสามัญและบอลของเหลวสีเงิน
กองทัพมนุษย์เดินเข้าไปในถิ่นฐานของมนุษย์โลหะด้วยความคุกคาม
“เฮ้ ดูข้างหน้านั้นสิ!”
เมื่อพวกเขาเดินไปรอบเนินเข้าโลหะขนาดเล็กที่บดบังการมองเห็นของพวกเขา ทุกคนก็ตาเป็นประกาย
เนื่องจากสิ่งที่เข้ามาในการมองเห็นของพวกเขาก็คืออาคารที่วิจิตรตระการตาซึ่งมีความน่าทึ่งเท่ากับงานศิลปะในการประมูล มันอยู่สูงจากพื้นประมาณหนึ่งหรือสองเมตรซึ่งทําจากทอง เงิน ทองแดง และโลหะบริสุทธิ์อื่นๆ
แสงจันทร์สาดส่องบนตัวอาคาร ทําให้เกิดแสงสะท้อนที่มีสีสันและเฉดสีต่างๆ ทําให้พวกเขารู้สึกถึงแสงไฟของเมืองที่วุ่นวายบนโลก
เห็นได้ชัดว่ามนุษย์โลหะได้พัฒนารูปแบบของอารยธรรมไปแล้วบางส่วน!
อย่างไรก็ตามสําหรับมนุษย์ สิ่งแรกที่ดึงดูดความสนใจของพวกเขาก็คือใจกลางของอาคารซึ่งมีแสงสีเงินของพลังแห่งโชคชะตาส่องประกาย
ไม่จําเป็นต้องคิด นั่นคือแกนกลางถิ่นฐานของมนุษย์โลหะ
ฉ่าา! ฉ่าา..
เมื่อถึงที่นั่น มนุษย์โลหะก็ไม่มีทางล่าถอยได้อีกต่อไป แต่พวกมันก็จะไม่ปล่อยให้มนุษย์ก้าวต่อไปได้อีก มนุษย์โลหะมากกว่าหนึ่งโหลหยุดอยู่ด้านหน้าอาคารและพุ่งตรงไปยังมนุษย์เพื่อโจมตีพวกเขา!
“ผู้นําอู่ อู่หยินและกงซุนเชิงพาคน 20 คนและเบี่ยงไปทางขวา แม่ทัพหยาง ลุงเก้าและแม่ทัพหลินนําคน 20 คนเคลื่อนทัพไปทางซ้าย”
“พวกนายทุกคนตามฉันมา เตรียมพร้อมไว้และพร้อมที่จะสนับสนุนคนอื่น!”
แกนกลางถิ่นฐานของมนุษย์โลหะอยู่ตรงหน้าพวกเขา พวกเขาจําเป็นต้องบุกต่อไปอีกประมาณ 200 เมตรเท่านั้น และพวกเขาก็สามารถพุ่งหาศัตรูได้
จีเย่และกงซุนเพิ่งได้แลกเปลี่ยนสายตากันอีกแล้ว จากนั้นกองทัพเผ่ามนุษย์ก็ค่อยๆ เคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ในรูปขบวนที่หนาแน่น
ทันใกนั้นพวกเขาก็แยกตัวกันออกมาเป็นสามทีมและเร่งฝีเท้าของพวกเขา!
เมื่อเห็นการแยกตัวของกองทัพมนุษย์ แสงสีน้ำเงินบนตัวมนุษย์โลหะซึ่งสะดุดตามากในเวลากลางคืนก็เปล่งประกายขึ้นมาในขณะที่พวกมันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง และเลือกที่จะล่าถอยเหมือนกับในตอนบ่าย หลังจากนั้นการโจมตีของพวกมันก็เริ่มวุ่นวายเล็กน้อย
ท้ายที่สุดแล้วพวกมันก็มีกันประมาณ 10 ตัวเท่านั้น แม้ว่าพวกมันจะเป็นระดับวิสามัญทุกตัว แต่การต่อสู้ก่อนหน้านี้ทําให้พลังระดับวิสามัญและ กระสุน” โลหะของพวกมันแทบหมด ไม่มีทางที่พวกมันจะหยุดยั้งกองทัพมนุษย์ทั้งสามทีมได้
หวูดดด! หวูดดด! หวูดดด!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เหล่ามนุษย์โลหะที่เหลือจะต้องออกมา
ในระหว่างการเคลื่อนที่ของกองทัพมนุษย์ หลุมก็ปรากฏขึ้นบนพื้นโลหะซึ่งไม่ได้แสดงสิ่งผิดปกติมาก่อน หลังจากนั้นมนุษย์โลหะกว่า 20 ตัวที่มีแสงสีน้ำเงินก็พุ่งออกมาจากพวกมัน
เห็นได้ชัดว่ามีการคํานวณตําแหน่งของหลุมเหล่านี้ หากมนุษย์เคลื่อนที่ตามทิศทางเดิมของพวกเขา พวกเขาจะถูกโจมตีโดยมนุษย์โลหะจากทุกทิศทางทันทีที่พวกเขาเข้าไปในพื้นที่นี้
อย่างไรก็ตามการแยกตัวของกองทัพทําให้การซุ่มโจมตีของมนุษย์โลหะไร้ผล และพวกมันถูกบังคับให้ต้องแสดงตัว การต่อสู้ครั้วใหญ่ระหว่างสองเผ่าเริ่มต้นขึ้นโดยที่พวกมันถูกล้อมโดยมนุษย์
หวูดดด! หวูดดด! หวูดดด!
ไม่เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ชิ้นส่วนโลหะที่ถูกยิงด้วยความเร็วสูงก็ถูกปกคลุมด้วยแสงสีน้ำเงินที่คล้ายกับที่อยู่บนมนุษย์โลหะ พวกมันดูเหมือนกับกรีชบินสีน้ำเงินและเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าชิ้นส่วนโลหะทั่วไปมาก!
เมื่อจีเย่ยกโล่ไม้สีแดงขึ้นเพื่อป้องกัน “กรีชบินน้ำเงิน” ที่พุ่งเข้าหามาเขา ชิ้นส่วนโลหะสีน้ำเงินเปลี่ยนทิศทางก่อนที่มันจะกระแทกโล่ มันพุ่งผ่านโล่และโจมตีจีเย่โดยตรง
หลังจากนั้นกระแสไฟฟ้าแรงสูงก็ระเบิดบนตัวจีเย่ และเศษโลหะขนาดเล็กที่มีแสงสีน้ำเงินพุ่งไปทุกทิศราวกับกระสุนขนาดเล็ก!
บูมม
นั่นไม่ใช่ “กรีชบิน” แต่มันคือ “กรีชระเบิดแสงสีน้ำเงิน”!
อย่างไรก็ตามจีเย่ไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะแสงสีเหลืองจากประโยชน์ของปฐพีได้ป้องกันเศษโลหะทั้งหมด
“อ่าา!”
แต่ทหารชนพื้นเมืองที่ติดตามเขาก็ยกโล่พร้อมกับส่งเสียงอึดฮัด
เนื่องจาก “กรีชระเบิด” สีน้ำเงินอีกเล่มกระทบกับโล่ที่ยกขึ้นทหารคนนั้น ความเร็วและความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าได้ทะลวงผ่านโล่ระดับสามัญก่อนที่มันจะโจมตีที่ท้องของเขา พลังงานระเบิดได้ทําให้เกราะของทหารชั้นยอดอันดับ 8 แตกสลายเล็กน้อย!
โชคดีที่จีเย่ให้ทุกคนสวมเกราะสองชั้น แม้ว่าทหารชนพื้นเมืองจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไมาเป็นอันตรายถึงชีวิต
“ในที่สุดพวกมันก็แสดงไพ่ของพวกมันแล้ว ผู้อาวุโสเมิ่งพูดถูก!”
เมื่อเห็น “กรีชระเบิดแสงสีน้ำเงิน” ที่พุ่งอยู่รอบสนามรบ จีเย่ดูเหมือนจะครุ่นคิด แต่เขาก็ไม่แปลกใจมากนัก
เนื่องจากการกระทําทั้งหมดที่มนุษย์ได้ทําหลังจากเข้าสู่อาณาเขตของมนุษย์โลหะได้ถูกเสนอโดยผู้อาวุโสเมิ่งซึ่งอยู่ในถิ่นฐานในตอนนี้
เพราะถึงแม้ว่าจีเย่จะไม่ได้รับข้อมูลมากนักเกี่ยวกับมนุษย์โลหะเมื่อเขาออกจากระบบไปก่อนหน้านี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาชี้ให้เห็นโดยเฉพาะคือ
“มนุษย์โลหะสามารถใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้ และพวกมันก็สามารถยิงชิ้นส่วนโลหะออกมาได้เร็วกว่ากระสุนปืนใหญ่ เร็วมากจนแม้แต่คนระดับวิสามัญก็ไม่สามารถต้านทานได้!”
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาทดสอบชิ้นส่วนโลหะในตอนบ่าย ความเร็วของพวกมันนั้นช้ากว่าหน้าไม้ทลายดินสีทองแดง และพวกมันก็ไม่สามารถเจาะทะลวงโล่ไม้สีแดงระดับสามัญได้
สํานักงานสมาพันธ์ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแก่เขาใช่มั้ย?
แต่จีเย่ไม่คิดอย่างนั้น ท้ายที่สุดแล้วข้อมูลจํานวนมากได้รับจากการสูญเสียถิ่นฐานจํานวนมาก
มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น เหล่ามนุษย์โลหะจงใจแสดงจุดอ่อนของพวกมัน!
และประเด็นนั้นได้รับการพิสูจน์หลังจากที่มนุษย์โจมตีอย่างเป็นทางการในคืนนี้
จากระดับอารยธรรมของมนุษย์โลหะ เห็นได้ชัดว่าพวกมันคงไม่ทําผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยการปิดกั้นเส้นทางด้วยสมาชิกเพียงไม่กี่ตัว เมื่อพวกมันรู้ว่ามนุษย์ไม่สามารถหยุดยั้งได้ด้วยวิธีนี้ ท้ายที่สุดแล้วพวกมันก็ล้มเหลวหลายครั้งในตอนบ่าย
ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์โลหะทํานั้นคือกับดัก
พวกมันจงใจแสดงจุดอ่อนเพื่อล่อศัตรูเข้ามา
“รอก่อน นั่นไม่ถูกต้อง นี่ไม่ใช่ “มนุษย์ โลหะ”
ข้างหลังจีเย่ คุณชายบักรีบเปิดใช้งานโล่แสงสีเขียว และทันใดนั้นเขาก็กล่าวด้วยความประหลาดใจ
เนื่องจากมนุษย์โลหะตัวใหม่เหล่านี้มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
พวกมันมาในทุกขนาดและรูปร่าง บางตัวดูเหมือนกับมอเตอร์ไซค์ บางตัวดูเหมือนกับเจ็ตสเกตบอร์ดหรือแม้กระทั่งปลา… เมื่อจีเยู่หันกลับไปมองมนุษย์โลหะที่โจมตีเขา เขาก็เห็นว่ามันมีสี่แขนและดูเหมือนกับมอนเอตร์พงไพรซึ่งถูกสังหารไปแล้ว
“ดูเหมือนว่าพวกมันควรจะถูกเรียกว่า “เผ่าโลหะ” มากกว่า”
หลี่ชิงตระหนักถึงอะไรบางอย่าง
เห็นได้ชัดว่า “มนุษย์” โลหะเหล่านี้ไม่ใช่มนุษย์ พวกมันกลายร่างเป็นแบบนั้นน่าจะด้วยเหตุผลเดียวกับที่พวกมันแสดงจุดอ่อนของพวกมัน พวกมันต้องการใช้ประโยชน์จากนิสัยการคิดของมนุษย์
ตัวอย่างเช่น เมื่อโจมตีมนุษย์ นักยิงปืนที่ยอดเยี่ยมอย่างหลิงเฉินและฉินเยว่หยุต่างก็เคยชินกับการยิงหัวและหน้าอกจนติดเป็นนิสัย
อย่างไรก็ตามอันที่จริงการโจมตีดังกล่าวไม่ได้ผลสําหรับมนุษย์โลหะ มันกลับเป็นเพียงการสิ้นเปลืองกระสุนปืนและอาวุธของมนุษย์เท่านั้น และยังสามารถสร้างโอกาสให้มนุษย์โลหะโจมตีสวนกลับได้อีกด้วย!
ตั้งแต่เริ่มแรกที่พวกมันใช้ร่างมนุษย์ พวกมันก็ได้แสดงจุดอ่อนในการต่อสู้ก่อนที่พวกมันจะล่อศัตรูเข้ามาและซุ่มโจมตีพวกเขาจากทุกทิศทุกทาง
เผ่าโลหะได้วางแผนใหญ่ตั้งแต่เริ่ม และพวกมันก็รอคอยให้มนุษย์ติดเบ็ด
อย่างไรก็ตามมนุษย์โลหะอาจเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงชนิดเดียวในดาวเคราะห์หรือมิติโลหะ พวกมันเชี่ยวชาญในพลังอย่างน่าประทับใจ แต่พวกมันไม่มีประสบการณ์ในการทําสงครามกับบุคคลภายนอก
มนุษย์เข้าใจกลวิธีในการล่อศัตรูโดยแสดงจุดอ่อนมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว ในสังคมปัจจุบัน ใครก็ตามที่อ่านนิยายจะรู้จักมันเป็นอย่างดี