ตอนที่ 137 เทคนิค : การเคลื่อนหิน
(ตอนก่อนผมแปลผิดนะครับ ขอเปลี่ยนจากการสลับตําแหน่งหิน เป็น การเคลื่อนหิน)
“ถึงเวลาเปลี่ยนเวรแล้ว!”
“มนุษย์อินทรีไม่ได้ทําอะไรเลยเมื่อคืนนี้ ฉันรอทั้งคืนเพื่ออะไร ฉันคิดว่าฉันจะได้รับแต้มเกียรติยศบ้าง”
“ในที่สุดฉันก็สามารถไปนอนได้แล้ว สิ่งที่ฉันอยากทําตอนนี้ก็คือนอนบนเตียงของตัวเอง”
ในป้อมปราการ การสนทนาที่คล้ายกันเกิดขึ้นทั่วทุกแหนแห่ง
ทหารจํานวนมากได้ปกป้องถิ่นฐานหรือสถานที่สําคัญภายนอกเป็นเวลาหนึ่งคืน พวกเขาหมดแรงแล้ว แต่มนุษย์อินทรีก็ไม่ได้ทําอะไร
โชคดีที่ป้อมปราการภูเขามังกรคู่มีทหารมากกว่าสองร้อยคน มีบุคลากรมากพอสําหรับเปลี่ยนเวร!
ทหารสองสามคนเพิ่งคุยกันหลังจากกลบมาที่ป้อมปราการจากด้านนอกและพร้อมที่จะนอนพักผ่อน
“อู่เซียงล่ะ? เป็นยังไงบ้าง? นายไม่ได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้กับมนุษย์อินทรี และนายยังบังเอิญล้มลงแลและคอกระแทกหินอีก… เรื่องตลกนั้นทําให้ทุกคนตื่น…”
หนึ่งในทหารนั้นล้อเลียนทหารอีกคนหนึ่ง
“อู่ อู่”
ทหารที่ถูกล้อเลียนนั้นพึมพําบางอย่างที่คลุมเครือ เห็นได้ชัดว่าคอของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
“หยางซี อย่าล้อเขา ไปเอาโคลนสีดําจากเจ้าหน้าที่สนับสนุนมาให้อู่เซียงหน่อย!” ทหารผู้ที่เป็นกัปตันและชั้นยอดอันดับ 7 กล่าวออกมา
“อู่ อู่”
เมื่อหยางซีลุกขึ้น ทหารที่เจ็บคอก็ยืนขึ้นและเปล่งเสียงที่คลุมเครืออีกครั้ง
“นายอยากไปกับเขามั้ย?”
“นั่นไม่จําเป็น เขาแค่จะไปเอายา คุณซูได้เขียนอนุญาตให้เราแล้วไม่ใช่เหรอ?”
กัปตันส่ายหัวของเขา
“อ่าา! ท่านหัวหน้าอยู่ที่นี่!”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที และเขาก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
เป็นเพราะท่านหัวหน้าผู้ลึกลับและน่าเกรงขามที่สุดในสายตาของชาวป้อมปราการภูเขามังกรคู่กําลังเดินมาทางพวกเขา
“นงอิ๋งบอกฉันว่ามีคนในทีมของนายได้รับบาดเจ็บใช่มั้ย?” จีเย่เอ่ยถามกัปตัน
“โอ้ ใช่แล้วครับ… อู่เซียงได้รับบาดเจ็บที่คอโดยไม่ตั้งใจเมื่อคืนนี้และยังพูดไม่ได้ในตอนนี้ ไม่คิดว่าท่านจัสนใจเรื่องนี้เลยครับท่านหัวหน้า”
กัปตันพาจีเยไปหาทหารที่ได้รับบาดเจ็บอย่างตื่นเต้น
เขาไม่ได้อธิบายอย่างละเอียดถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการบาดเจ็บของทหาร ในฐานะกัปตัน เขาต้องช่วยรักษาศักดิ์ศรีของลูกน้อง
“นายคืออู่เซียงงั้นเหรอ?”
จีเย่มองไปที่ทหารที่ได้รับบาดเจ็บ
ชื่อของเขาคืออู่ซง (หมี) แต่เขาเป็นคนผอม
เมื่อเห็นจีเย่ แววตาของทหารคนนี้ก็เปล่งประกาย และเขาก็ชี้ไปที่คอของเขาและทําท่าทางในขณะที่เปล่งเสียงที่คลุมเครือออกมา
“ดูเหมือนว่านายจะได้รับบาดเจ็บสาหัส ให้ฉันรักษาให้นายนะ” จีเย่มองไปที่คอเขาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เป็นเกียรติกับอู่เซียงมากครับ! ท่านหัวหน้าคือผู้ถูกเลือก! มันเป็นเรื่องง่ายสําหรับเขาที่จะรักษาอาการบาดเจ็บของนาย!”
กัปตันในฐานะชั้นยอดอันดับ 7 นั้นเขาได้เห็นจีเย่แสดงความสามารถการรักษา ดังนั้นเขาจึงสังเกตด้วยความกลัวและความตื่นเต้น
ท้ายที่สุดแล้วความสามารถในการรักษาของจีเย่นั้นก็มีพื้นฐานมาจากความสามารถของเขาซึ่งน่าทิ้งยิ่งกว่าวิธีการรักษาแบบทั่วไป สําหรับคนอย่างเขา จีเย่นั้นสามารภช่วยชีวิตพวกเขาได้หากพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในการต่อสู้
“อู่ อู่”
หลังจากได้ยินสิ่งที่จีเย่และกัปตันกล่าว อู่เซียงผู้ที่ถูกระบุว่าเป็นทหารระดับสามัญอันดับ 6 ในหนังสือทะเบียนของซูนงอิ๋งก็ชี้ไปที่คอของเขาและส่ายหัว
“ห้ะ?”
เมื่อจีเย่ยื่นมือไปที่คอซึ่งได้รับบาดเจ็บด้วยรอยยิ้มที่ไม่รีบร้อย สีหน้าของอู่เซียงก็เปลี่ยนไปในที่สุด
เมื่อมือของเขาอยู่ห่างจากคอของอู่เซียงประมาณ 1 ฟุต แสงสีเหลืองที่แสดงถึง การรักษาก็ปรากฏขึ้นออกจากมือของจีเย่!
รูม่านตาของอู่เซียงบีบรัดอย่างรุนแรง
หวูดดด!
เมื่อมือของจีเย่เกือบจะถึงคอของเขา อู่เซียงก็ยื่นมือขวาของเขาทันที ด้วยนิ้วมือที่ปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง เขาคว้ามือที่เปล่งแสงของจีเย่
จีเย่เย้ยหยัน
ทันใดนั้นเขาก็พลิกมือคว่ําและทําให้มันกระแทกกับมือของอู่เซียงที่อยู่ในรูปร่างเหมือนกับกรงเล็บ!
เคร้งง!
เสียงโลหักระทบกับหินดังลั่น
มือของจีเยถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเหลืองที่เกือบจะเป็นรูปธรรม แต่ส่วนหนึ่งของแสงสีเหลืองหายไปราวกับมันถูกกระชากด้วยกรงเล็บของนก
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างแท้จริง
ในทางกลับกัน อู่เซียงดูน่าสังเวชมากขึ้น
เป็นเพราะหมัดของเขาซึ่งเล็กกว่าคนทั่วไปผสานเข้ากับแสงสีเหลืองที่แผ่ไปตามแขนของเขา เขารู้สึกว่าแขนและเสื้อผ้าของเขากลายเป็นหิน!
แม้ว่าเขาจะผสานเข้ากับประโยชน์ของปฐพี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจีเย่ไม่สามารถใช้พลังปฐพีได้อีกต่อไป!
ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากเขานั้นเชี่ยวชาญประโยชน์ของปฐพี ตอนนี้เขาผสานเทคนิคแล้ว เขาจึงสามารถทําลายศัตรูและลดความคล่องตัวของเขาในระหว่างการปะทะกับศัตรูได้
“นาย… ทําอะไรน่ะอู่เซียง?”
สิ่งที่อู่เซียงทํานั้นทําให้กัปตันผู้เป็นทหารชั้นยอดอันดับ 7 นั้นตกตะลึง
“อู่เซียง นายเสียสติไปแล่วเหรอ?”
ดวงตาของหยางซีเบิกกว้างและเขาก็คํารามออกมาเสียงดัง!
ชายคนนั้นที่หยางซีเรียกชื่ออกไปสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่แขนของเขา และเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ชนะในการปะทะกับจีเย่ในตอนนี้
“กรรร!”
อู่เซียงเปล่งเสียงคํารามที่ไม่เหมือนกับมนุษย์ออกมา
ต่อมาแสงสีเขียวก็ปรากฏขึ้นมาบนตัวเขาและกําจัดแสงสีเหลืองที่แสดงถึงพลังปฐพี
จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปบนดาดฟ้า ข้ามกําแพงและออกจากป้อมปราการ
หวูดดด!
อู่เซียงผู้ถูกปกคลุมด้วยแสงสีเขียวนั้นรวดเร็วมาก เขาออกจากป้อมปราการภูเขามังกรคู่ หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีกสิ่งที่เหมือนกับลูกศรก็ถูกยิงออกมาจากธนู
แม้แต่ทหารที่ควบคุมปืนใหญ่ก็ไม่มีเวลาพอที่จะยิงเขา!
“แกจะหนีไปไหน?”
น่าเสียดายที่ศัตรูของเขาคือจีเย่
จีเยก้าวพริบตาไปข้างหน้าซึ่งข้ามไปมากกว่า 10 เมตรในแต่ละก้าว
แม้ว่าอู่เซียงจะถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเขียว แต่เขาก็ไม่เร็วเท่ากับจีเย่
นอกจากนี้จีเย่ยังได้ฟื้นฟูพลังปฐพในตัวเขาแล้วในช่วงคืนที่ผ่านมา มันเพียงพอที่จะสนับสนุนเขาในการต่อสู้สักพักหนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้นการย่นระยะทางก็ไม่ใช่เทคนิคเดียวในศิลปะสายฟ้าห้าธาตุที่เขาเพิ่งได้รับจากการผสาน
หลังจากออกจากป้อมปราการ อู่เซียงก็เคลื่อนที่ไปท่ามกลางโขดหินในขณะที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสีเขียว เขากําลังจะพุ่งเข้าไปในปาหลังโขดหิน
ทันใดนั้นหินที่สูงกว่ามนุษย์ก็เปล่งแสงและสั่นเมื่อเขาเหยียบมัน หินก็เกือบจะโยน “อู่เซียงลงพื้น
แม้ว่าเขาจะกลับมาทรงตัวได้ทันเวลาเพราะความคล่องแคล่วที่ผิดมนุษย์ของเขา แต่จีเย่ก็สามารถตามเขาทันเมื่อเขาถูกทําให้ช้าลง
ในขณะที่เขากําลังวิ่ง อู่เซียงนั้นถูกโจมตีจากหินทุกประเภท
หินบางก้อนพุ่งและตกลงมาอย่างกะทันหันมายังที่ที่เขาอยู่ และบางส่วนก็พังทลายและขวา งทางเขาในขณะที่เขากําลังวิ่ง
มันคือการเคลื่อนหิน!
นั้นเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่จีเย่ได้รับจากศิลปะสายฟ้าห้าธาตุ
กลไกลของมันคล้ายกับกลไกลการย่นระยะทาง ด้วยการควบคุมพลังงานปฐพี่จากระยะไกล ตําแหน่งของวัตถุที่อยู่บนพื้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็อีกเทคนิคนั้นเคลื่อนย้ายตัวเอง ในขณะที่อีกเทคนิคนั้นเคลื่อนย้ายสิ่งของอื่น
“กรร!”
เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ อู่เซียงก็ได้คํารามออกมาและกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า ในขณะที่ร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเขียวโดยหวังว่าจะกระโดดข้ามพื้นที่หินผ่านทางบนฟ้า
อย่างไรก็ตามเทคนิค “การเคลื่อนหิน” ไม่เพียงแค่เคลื่อนย้ายหินบนพื้น แต่ยังสามารถส่งขึ้นไปบนฟ้าได้
หวูดดด! หวูดดด!
หลังจากแสงสีเหลืองเปล่งประกาย หินสองก้อนขนาดเท่ากับหัวก็ถูกพลังงานปฐพีพุ่งขึ้นไปบน ฟ้าราวกับกระสุนปืนใหญ่และกระแทกที่หลัง “อู่เซียง” ที่เพิ่วบินขึ้นไป
เห็นได้ชัดว่าแสงสีเขียวของอู่เซียงไม่แข็งแกร่งเท่ากับแสงสีเหลืองบนตัวจีเย่ ดังนั้นเมื่อเขาถูกกระแทกด้วยหินที่พุ่งออกไปซึ่งได้รับการเสริมพลังจากศิลปะสายฟ้าห้าธาตุ เขาก็อาเจียนเป็นเลือดและล้มลงกับพื้น
หวูดดด! หวูดดด!
ด้วยการย่นระยะทาง จีเย่ก็ตามอู่เซียงทันหลังจากก้าวพริบตาเพียงสองครั้ง
“กรรร!”
เมื่อเผชิญหน้ากับจีเย่ แววตาของอู่เซียงก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมแม้ว่าเลือดจะไหลออกจากปากเขาก็ตาม
หวูดดด!
ต่อมาริ้วแสงสีทองก็พุ่งออกจากมาหน้าผากของอู่เซียงไปทางจีเยผู้ที่กําลังไล่ตามอยู่!
แสงสีทองนั้นราวกับดาบสีทองที่ไม่สามารถทําลายได้!
ต้นไม้สองงต้นที่อยู่ระหว่างทางซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 1 ฟุตก็มีรูบนลําต้นราวกับว่าพวกมันถูกแทงด้วยดาบยาว!
อย่างไรก็ตามไม่มีรูปรากฏบนตัวจีเย่
นั่นเป็นเพราะเมื่อแสงสีทองพุ่งออกจากหน้าผากของอู่เซียง แสงสีเหลืองบนตัวจีเย่ก็เปล่งประกายอีกครั้ง ทําให้เขาสามารถเคลื่อนย้ายในแนวนอนหลบได้