เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1029

ตอนที่ 1029

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1029 วิญญาณโชคอึสุนัข

แปลโดย iPAT

‘ตอนนี้ทรัพยากรในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาวได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว’ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจสำคัญ ฟางหยวนจึงสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขาเป็นคนที่จะคำนึงถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก่อนเสมอ ตอนนี้ไม่ว่าอิงอู๋เซี่ยจะตอบสนองอย่างไร ความสูญเสียของฟางหยวนก็จะลดลงอย่างมาก

สถานการณ์ของอิงอู๋เซี่ยกับฟางหยวนสลับกันด้วยวิธีนี้

เป้าหมายของฟางหยวนคือชีวิตนิรันดร์ ร่างกายภาพไม่ต่างจากเสื้อผ้าอาภรณ์สำหรับเขา เขาไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนชุดใหม่ สิ่งที่เขาสนใจมีอยู่สามประการ

หนึ่ง วิญญาณชุดเดิมของเขา

สอง ทรัพยากรในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว

สาม ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไท่เป่ยหยุนเฉิง ไห่ลั่วหลัน จิตวิญญารแผ่นดินหลางหยา และกองกำลังอื่นๆ

ฟางหยวนจ้องมองท้องฟ้าที่มืดมิดขณะที่สายลมทำให้กิ่งต้นสนสั่นไหว

เขาครุ่นคิดกับตนเอง ‘ตอนนี้วิญญาณท่องแดนอมตะควรจะระเบิดตัวเองไปแล้ว ต่อไปก็เป็นวิญญาณดวงอื่นๆ ข้าสงสัยว่าอิงอู๋เซี่ยจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?’

‘มีความหวังเพียงเล็กน้อยที่ข้าจะสามารถนำวิญญาณเหล่านั้นกลับมา ตอนนี้ทรัพยากรทั้งหมดของข้าถูกย้ายไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเรียบร้อยแล้วขณะที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูถูกยึดครองโดยผู้อมตะภาคกลาง สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาวที่อยู่ในถ้ำนรกใต้พิภพ มีเพียงไห่ลั่วหลันและไท่เป่ยหยุนเฉิงที่รู้เรื่องนี้’

ฟางหยวนไตร่ตรอง

ในแง่มุมที่สาม ความสัมพันธ์ระหว่างฟางหยวนกับนิกายคฤหาสน์วิญญาณและนิกายกระเรียนอมตะถูกทำลายลงแล้ว

ความจริงเบื้องหลังการล่มสลายของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงถูกเปิดเผยออกไปแล้ว วังสวรรค์ย่อมต้องติดตามเอาความเรื่องนี้กับฟางหยวน อย่างไรก็ตามอิงอู๋เซี่ยอยู่ในร่างเดิมของฟางหยวน นั่นหมายความว่าเขาอาจพบปัญหาเช่นกัน

ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก

สิ่งที่ฟางหยวนกังวลก็คือไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลัน

เทพธิดาหลี่ซานและนางมารผลาญสวรรค์เสียชีวิตไปแล้ว คุณค่าของไห่ลั่วหลันลดลงอย่างรวดเร็ว แต่นางยังเป็นผู้อมตะที่ครอบครองสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง นอกจากนั้นในชีวิตก่อนหน้านางยังเคยเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณและสิ่งที่ไม่สามารถลืมก็คือโชคและนิสัยที่น่าเกรงขามของนาง

ด้านไท่เป่ยหยุนเฉิง เขามีวิญญาณอมตะเพียงสองดวง แต่พวกมันกลับล้ำค่ามาก

ฟางหยวนเกรงว่าคนทั้งสองจะถูกอิงอู๋เซี่ยหลอกใช้และหันมาสร้างปัญหาให้กับเขา

ด้วยเหตุนี้หลังจากจัดการเรื่องแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว ฟางหยวนจึงพยายามติดต่อไห่ลั่วหลันและไท่เป่ยหยุนเฉิงผ่านสวรรค์สีเหลือง พวกเขาทิ้งเจตจำนงไว้ที่นั่น นี่เป็นการเตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

อย่างไรก็ตามแม้ฟางหยวนจะสามารถติดต่อเจตจำนงของไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงที่อยู่ในสวรรค์สีเหลือง มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถติดต่อคนทั้งสองได้อย่างแท้จริง

เพียงเมื่อไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงเชื่อมต่อสวรรค์สีเหลืองและรับเจตจำนงของพวกเขากลับไป พวกเขาจึงจะได้รับข้อความที่ฟางหยวนทิ้งไว้

เมื่อไม่ได้รับการติดต่อกลับจากพวกเขา สายตาของฟางหยวนยิ่งเผยให้เห็นถึงความกังวล

ฟางหยวนหยุดคาดหวังและหันไปติดต่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

ครั้งนี้เขาได้รับการติดต่อกลับทันที

“เด็กบ้า! เจ้าติดต่อข้าในที่สุด!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากรีดร้องด้วยความตื่นเต้น

ในความเป็นจริงจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารับปากช่วยย้ายทรัพยากรให้กับฟางหยวนเนื่องจากสถานะผู้อาวุโสนอกของฟางหยวนเท่านั้น

แต่เมื่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเห็นภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป โดยเฉพาะวิญญาณสติปัญญา เขาตกใจมาก

เขาไม่คาดหวังว่าทรัพยากรของฟางหยวนจะล้ำค่าถึงเพียงนี้

มันล้ำค่าจนไม่น่าเชื่อ

เมื่อได้ยินคำกล่าวของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ฟางหยวนเผยรอยยิ้มราวกับเห็นลิงกอริลลากำลังกระโดดไปมาด้วยการแสดงออกที่มากเกินจริง

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีต้นกำเนิดจากบรรพชนผมยาว ตอนนี้เขาอยู่ในบุลลิกที่ก้าวร้าวและทะเยอทะยาน

อย่างไรก็ตามเขายังเป็นเพียงจิตวิญญาณแผ่นดินที่ตรงไปตรงมาและสามารถรับมือได้ง่ายกว่าผู้อมตะเผ่ามนุษย์

เมื่อเห็นฟางหยวนยังเงียบ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงไม่สามารถอดทน “ฟางหยวน นิกายหลางหยาให้ความช่วยเหลือเจ้าอย่างมากในครั้งนี้ หากเจ้าสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไป เจ้าจะไม่ทุบศีรษะตนเองให้ตายงั้นหรือ? แล้วเจ้าจะตอบแทนข้าอย่างไร?”

เขาหยุดก่อนกล่าวต่อ “เด็กบ้า! บริจาคสิ่งเหล่านี้ให้กับนิกาย ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าพบกับความสูญเสียอย่างแน่นอน เจ้าเป็นผู้อาวุโสนอกของนิกายหลางหยา ข้าจะมอบแต้มผลงานจำนวนนับไม่ถ้วนให้เจ้า! แต้มผลงานเหล่านี้สามารถแลกเปลี่ยนเคล็ดลับการหลอมรวมและวิญญาณอมตะมากมาย!”

ตั้งแต่ฟางหยวนขอความช่วยเหลือจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เขาก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว ทุกคนที่ได้เห็นภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และวิญญาณสติปัญญา หัวใจของพวกเขาจะต้องสั่นสะท้านขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย กระทั่งจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอาจเป็นคนตรงไปตรงมาและดื้อรั้น แต่เขาไม่ใช่คนโง่

ฟางหยวนตอบอย่างใจเย็น “ข้าเป็นผู้อาวุโสนอกของนิกายหลางหยา สิ่งเหล่านี้เป็นสมบัติของข้า ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านคงไม่คิดที่จะฉกชิงพวกมันไปจากข้าใช่หรือไม่?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหัวเราะก่อนตะโกน “หากข้ารู้เรื่องนี้ก่อน ข้าจะไม่ให้เจ้าเป็นผู้อาวุโสนอกของนิกายหลางหยาและจะยึดสมบัติเหล่านี้เอาไว้โดยตรง! บัดซบ! ข้าพูดความคิดออกไปอีกครั้ง!”

ฟางหยวนหัวเราะ

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทำข้อตกลงกับฟางหยวนเรียบร้อยแล้ว มันสายเกินไปที่เขาจะยกเลิก อย่างน้อยที่สุดในปัจจุบันเขาก็ไม่มีวิธีฝ่าฝืนข้อตกลง

แม้เขาจะต้องการทำลายข้อตกลง เขาก็ยังต้องใช้เวลาเตรียมตัว

เนื่องจากจิตวิญญาณแผ่นดินไม่สามารถโกหก ฟางหยวนจึงทดสอบเพื่อดึงข้อมูลเล็กๆน้อยๆเท่านั้น

ตอนนี้เขาเข้าใจสถานภาพของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาแล้ว

ยิ่งคิดฟางหยวนก็ยิ่งมั่นใจว่ามันดีที่สุดที่จะฝากภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และวิญญาณสติปัญญาไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

ภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปเคยเป็นสมบัติของเทพปีศาจจิตวิญญาณมาก่อน หากวิญญาณท่องแดนอมตะไม่ถูกทำลาย อิงอู๋เซี่ยจะสามารถเดินทางไปยังสถานที่ทั้งสองได้โดยตรง

หากฟางหยวนวางภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปไว้ในมิติช่องว่างของตน มันอาจเป็นการเปิดประตูให้ขโมยเข้าบ้าน

สำหรับวิญญาณสติปัญญา ฟางหยวนไม่สามารถใช้งานมันได้ในช่วงเวลานี้

ตอนนี้เขาอยู่ในร่างใหม่ซึ่งแตกต่างจากร่างเดิมที่เป็นผีดิบอมตะ

ในร่างผีดิบอมตะ ฟางหยวนไม่ต้องกลัวแสงแห่งปัญญา แต่ตอนนี้หากเขาเข้าไปในอาณาเขตของแสงแห่งปัญญา อายุขัยของเขาจะลดลงอย่างรวดเร็ว นี่เป็นราคาที่ฟางหยวนไม่สามารถยอมรับ

ดังนั้นในช่วงเวลานี้มันจะดีที่สุดหากเขาไม่ใช้วิญญาณสติปัญญา

‘ข้าได้รับมิติช่องว่างจักรพรรดิแต่สูญเสียการสนับสนุนจากวิญญาณสติปัญญา มันเป็นผลกำไรที่ได้มาพร้อมกับความสูญเสีย แต่วันหนึ่งข้าจะหาวิธีใช้งานวิญญาณสติปัญญาด้วยร่างมนุษย์ที่มีชีวิต ในช่วงเวลานี้มันจะดีกว่าที่จะให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาปกป้องวิญญาณสติปัญญาให้ข้า’

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ฟางหยวนจึงเปิดปากกล่าว “ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านต้องการให้ข้ามอบสมบัติทั้งสามให้กับนิกาย นั่นย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่เราสามารถสร้างความร่วมมือ ข้าสามารถให้นิกายหลางหยาใช้งานภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และวิญญาณสติปัญญา แต่นิกายต้องดูแลพวกมันให้ข้า หากเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น ท่านจะต้องชดใช้ให้ข้าสิบเท่า แน่นอนว่าท่านสามารถชดเชยด้วยแต้มผลงานบางส่วน”

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตะโกนด้วยความสุข “เด็กน้อย เจ้าช่างมีไหวพริบ ดี นั่นเป็นสิ่งที่เหมาะสม ข้าจะให้เด็กๆของข้าใช้ภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปในการเสริมสร้างและขัดเกลาจิตวิญญาณ นี่จะเป็นตัวช่วยชั้นยอดในการหลอมรวมวิญญาณ วิญญาณสติปัญญาก็เช่นกัน ฮ่าฮ่า มันคือวิญญาณระดับเก้าบนเส้นทางแห่งปัญญา ในอดีตมันเป็นวิญญาณหลักของเทพอมตะกลุ่มดาว ฮ่าฮ่าฮ่า การใช้มันในการอนุมานเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเกินไป”

ฟังจากน้ำเสียงของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ชัดเจนว่าเขารู้วิธีใช้งานมัน ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องเปิดปากถามอย่างช่วยไม่ได้

แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่ใช่คนโง่ เขาหัวเราะเบาๆ “หากเจ้าอยากรู้วิธีใช้งานวิญญาณสติปัญญา เจ้าสามารถใช้แต้มผลงานในการแลกเปลี่ยน!”

ทั้งสองเจรจากันอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะสามารถสร้างข้อตกลงทั้งหมด

ฟางหยวนยังกล่าวถึงทาสอมตะเผ่ามนุษย์วิหคจ้าวจง นี่เป็นความสัมพันธ์ที่ไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันล่วงรู้ ดังนั้นมันจะดีที่สุดหากจ้าวจงและเผ่ามนุษย์วิหคจะย้ายไปอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเป็นการชั่วคราว

สำหรับทาสมนุษย์ขน หลังจากทะเลาะกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ทาสมนุษย์ขนยังเป็นของฟางหยวนแต่เขาต้องยกเลิกสถานะทาส พวกมันจะถือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฟางหยวนในนิกายหลางหยาเท่านั้น

เนื่องจากตัวตนที่แท้จริงของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็คือมนุษย์ขน ดังนั้นเขาจึงมีความรักในเผ่าพันธุ์ของตนและยังต้องการนำเผ่ามนุษย์ขนปกครองโลกอีกด้วย แน่นอนว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาย่อมไม่ปล่อยให้ฟางหยวนกดขี่ชนเผ่าของเขา

มันดีมากแล้วที่เขาอนุญาตให้มนุษย์ขนเหล่านี้อยู่ใต้การบังคับบัญชาของฟางหยวนขณะที่ฟางหยวนก็มีความสุขกับเงื่อนไขนี้

ตราบเท่าที่ฟางหยวนต้องการหลอมรวมวิญญาณ เขายังสามารถใช้งานพวกมันได้ไม่ต่างจากก่อนหน้า

นอกจากนั้นด้วยรากฐานของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา พวกมันยังสามารถยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในที่สุดฟางหยวนก็บอกข้อมูลเกี่ยวกับอิงอู๋เซี่ยและนิกายเงาให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารับรู้อย่างคร่าวๆ

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยานิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนจะสามารถตอบสนอง

“เช่นนั้นเจ้าก็มีวิญญาณกาลเวลาที่เป็นวิญญาณหลักของเทพปีศาจบัวแดง!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากรีดร้อง “เด็กบ้า! โชคของเจ้าช่างบัดซบราวกับอึสุนัข! โอ้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้ามีวิญญาณหลักของเทพอมตะตะวันเดือด วิญญาณโชคอึสุนัข!”

“วิญญาณหลักของเทพอมตะตะวันเดือดไม่ใช่วิญญาณโชคชะตาท้าทายสวรรค์แต่เป็นวิญญาณโชคอึสุนัขงั้นหรือ?”

จิตวิญญาณแผ่นดินเย้ยหยัน “เขาหลอมรวมวิญญาณโชคชะตาท้าทายสวรรค์ในช่วงปีหลังๆของชีวิต ในช่วงแรกของชีวิต วิญญาณโชคอึสุนัขเป็นวิญญาณหลักของเขา ข้าเคยร่วมมือกับเขาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แล้วข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท